“แล้วงานวาดวันนี้เสร็จแล้วเหรอคะ?” บ่ายเบี่ยงประเด็นจนพี่สองอมยิ้ม
“เรียบร้อย รอจัดแสดงวันงาน”
“พี่สองวาดกี่รูปเหรอคะ?”
“รูปวันนี้ที่เสร็จเป็นรูปที่สาม” มีสามผลงานสินะที่จะโชว์ อยากเห็นอีกสองผลงานจัง วันงานฉันจะไปคณะพี่สองให้ได้เลยต้องปลีกตัวเองออกจากคณะไปเดินเตร็ดเตร่บ้าง “ตอนเที่ยงพี่มารับ”
“พรุ่งนี้พี่สองไม่มีเรียนเหรอคะ”
“ไม่มี” พรุ่งนี้ก็เริ่มเตรียมงานมหาลัยแล้วด้วยสินะ ส่วนฉันก็ไม่มีเหมือนกันที่ต้องอยู่คณะก็เพราะงานโมเดลล้วนๆ “พี่กลับก่อน ต้องกลับไปวาดรูปต่อ”
“ค่ะ” ร่างสูงลุกขึ้นตามด้วยฉันที่ถือถุงหิ้วเดินไปส่งเขาที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่สวมหมวกกันน็อกและขับออกจากมหาลัยไป ส่วนฉันก็กระโดดโลดเต้นและพาตัวเองมาถึงคลาสเรียนก็เห็นยัยเกี๊ยวนอนหลับตีพุง คือกินเสร็จก็นอนเลยเหรอยัยเพื่อนคนนี้! ขี้เกียจซะจริง ฉันหยิบเครื่องดื่มชูกำลังขึ้นมาดื่มและหยิบมือถือมาดูข้อความที่พี่สองส่งมาก็ทำให้รอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้า ตั้งแต่เจอกับเขาฉันยิ้มบ่อยมากแค่ไหนกันนะ รับรู้แค่ว่าพี่สองทำให้ฉันยิ้มได้และฉันก็ทำให้เขายิ้มได้ก็แล้วกัน
Sxng :: กินอะไรหรือยังครับ หิวหรือเปล่า?
Sxng :: พี่ซื้อของกินไปให้ อยู่กับเกี๊ยวใช่ไหม
ถึงพี่สองจะไม่ใช่ผู้ชายที่โรแมนติกอย่างผู้ชายคนอื่นทั่วๆ ไปเขาทำกัน หากแต่ว่าเขาก็ใส่ใจและดูจริงจังดีนะ เสียดายทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้ทิ้งเขาไป แค่เพียงเพราะเขาโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองชอบมากเกินไปงั้นเหรอ? หรือเป็นเพราะว่าเขาโลกส่วนตัวสูงจนทำให้เธอคนนั้นไม่พอใจที่เขาโฟกัสแค่รูปภาพ หากแต่ว่าสำหรับฉันแล้ว... พี่สองดูหล่อ ดูมีเสน์ห์และดูน่าค้นหาทุกครั้งเวลาที่วาดรูปเลยล่ะ
เมื่อคืนฉันอยู่ทำโมเดลจนถึงตีสามนิดๆ และสุดท้ายก็เผลอหลับไป จังหวะนั้นเกี๊ยวก็ตื่นมาทำโมเดลของตัวเอง ทำให้ตอนนี้เราสองคนตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวัน เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาฉันก็แต่งหน้าด้วยนะเนื่องจากพี่สองจะมารับตอนเที่ยงก็เลยไม่อยากปล่อยให้ตัวเองโทรมเหมือนซอมบี้ก็เลยแต่งหน้าเบาๆ พอ พื้นฐานหน้าของฉันคือสวยเริ่ดอยู่แล้วไง ไม่จำเป็นต้องแต่งอะไรเยอะแยะ
“แกจะไปไหนต่ออะ?” ฉันเดินกอดคอเกี๊ยวออกจากคณะซึ่งตอนนี้หน้าคณะกำลังจัดเตรียมงานมหาลัยอีกสองวันข้างหน้า “ฉันอยากกลับบ้านไปนอนต่อ”
“เดี๋ยวพี่สองมารับ”
“อิจฉาคนมีแฟน”
“ก็หาดิ เฮียไนท์ไง”
“แกเลิกชงฉันกับหมอนั่นสักที ฉันโคตรจะไม่ชอบผู้ชายประเภทเขาเลยด้วยซ้ำ” พูดถึงเฮียไนท์ก็อารมณ์เสียทันทีเพื่อนฉัน เกี๊ยวถอนหายใจพลางมองไปหาฟินน์ที่กำลังยืนสั่งรุ่นน้องให้ช่วยกันตกแต่งซุ้มขายน้ำกับแพนเค้ก “ฉันว่าไปช่วยฟินน์ดีกว่า เป็นดาวคณะทั้งทีไม่ได้ช่วยเดือนเลย”
“ดี งั้นฉันไปเดตกับพี่สอง”
“เชอะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว วันนี้ขอไปผ่อนคลายสมองสักหน่อย” ยัยเกี๊ยวเบ้ปากใส่ราวกับหมั่นไส้
“ไอ้โดมหายหัวไปเลยนะ เรื่องแกคบกับพี่สองยังไม่ถึงหูมันแน่”
“ถ้าถึงมันคงมาหาฉันยันที่แล้วล่ะ” สงสัยจะหลงอีจีจี้อยู่ก็เลยไม่รู้ความเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับฉัน หึ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร รู้ช้าหรือรู้เร็วยังไงสักวันมันก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ ฉันกระตุกยิ้มมุมปากให้เกี๊ยวที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาฟินน์คุยกันสักพักฟินน์ก็เงยหน้าสบตากับฉัน เหมือนกำลังจะพูดอะไรรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ก็ถูกขั้นเราสองคนซะก่อน พี่สองสวมกางเกงยีนส์สีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวสไตล์ของเขานั่นแหละ ถอดหมวกกันน็อกออกพลางกวาดสายตามองหาฉันเรียกทุกสายตาของเด็กคณะสถาปัตย์ให้โฟกัสไปที่เขาจะตาค้าง
“อยากกินอะไร?”
“เคลียร์แล้วแต่พี่สองเลยค่ะ” เดินมาหยุดตรงหน้าเขาที่ส่งหมวกกันน็อกมาให้ฉันสวม ก่อนจะกระโดดขึ้นซ้อนท้ายและกอดเอวสอบไว้หลวมๆ จากนั้นพี่สองก็ไม่รีรอที่จะขับพาฉันออกจากคณะโดยโบกมือบ๊ายบายยัยเกี๊ยวที่ฉีกยิ้มกว้าง ซึ่งก่อนจะถึงประตูมหาลัยก็ต้องผ่านทุกคณะเลยใช่ปะ มันคงเป็นโชคดีของฉันนะที่ดันเห็นแก๊งอีจีจี้ยืนเม้าท์กันอยู่หน้าคณะพอดิบพอดี แยมเป็นคนสะกิดให้อีจีจี้หันมามองฉันกับพี่สอง อีจีจี้ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แหงสิ ใครบ้างจะไม่รู้จักพี่สองเด็กศิลป์กับเคลียร์เด็กถาปัตย์ล่ะ ดังนั้นอีจีจี้มันรู้ได้ทันทีว่าฉันซ้อนท้ายใครอยู่จังหวะที่พี่สองขับรถผ่าน ฉันก็แสยะยิ้มให้มันพลางเบ้ปากอย่างสมเพชที่ฉันเลิกกับไอ้โดมแล้วมาเจอกับช้างเผือกที่สูงส่งจนไอ้โดมเทียบแทบจะไม่ติด
มาถึงห้างสรรพสินค้าในเวลาต่อมา พี่สองกับฉันก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้นโซนอาหาร ระหว่างนั้นพี่สองดูเหมือนจะอึดอัดไม่น้อยที่มีสายตาของผู้หญิงที่เดินผ่านมองเขาตาไม่กระพริบ มือซ้ายล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ ส่วนมือขวาของเขาก็กำแบอยู่แบบนั้นราวกับไม่ชินกับสถานที่ที่คนเยอะ ฉันขยับมายืนด้านขวาและจับมือเขาสอดประสานกับนิ้วมือของตัวเองจนใบหน้าหล่อเหลาหันมามองฉัน เหงื่อเต็มมือเลยแหะ
“จับมือเคลียร์นะคะ พี่สองจะได้ไม่อึดอัด” เขาพยักหน้าเบาๆ จากนั้นเราสองคนก็เลือกมากินชาบูกัน เพราะอยากหาร้านเงียบๆ ให้พี่สองไม่ต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ เมื่อสั่งอาหารเป็นแบบชุดฉันก็มองพนักงานหญิงที่เทชาเย็นให้ก่อนและเอาหม้อน้ำชาบูมามาวางให้ “ความจริงพี่สองน่าจะไปที่เงียบๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไร พี่อยากมาที่นี่แบบนี้บ้าง”
“อ๋อ”
“มีเคลียร์อยู่ด้วย พี่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดแล้ว” คำตอบของเขาทำให้ฉันยิ้มคนเดียวพลางจิบชาเย็นที่ออกรสขมเล็กน้อย หากแต่ว่าดันหวานเพราะคำพูดที่สอง เขาน่ะพูดไม่คิดอะไรหรอกแต่คนฟังมันคิดไง “อีกอย่างพี่จะมาซื้อพู่กันด้วย”
“อ๋อ งั้นกินเสร็จเราไปซื้อกันนะคะ”
“อืม”
ฉันกับพี่สองนั่งกินชาบูด้วยกันและแน่นอนว่าเขาก็พูดน้อยเหมือนเดิมนั่นแหละ หากแต่ว่าพอพูดน้อยก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่หรือเหงาเลยนะ เพราะพี่สองจะคีบของที่ต้มสุกมาใส่จานให้ แถมก่อนจะลงมือกินพี่สองก็เอาทิชชูเปียกมาให้ฉันเช็ด แกะซองตะเกียบให้แบบว่าเป็นการกระทำที่ดูไม่มีอะไร แต่สำหรับฉันมันโคตรจะอบอุ่นเลยเว้ย! เนี่ย เขาดีขนาดนี้ เทกแคร์ขนาดนี้แค่เป็นผู้ชายที่โฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองชอบมากเกินไป ใช่ว่าเขาจะไม่ใส่ใจคนรอบข้างนะ เขาสนใจและคอยมองอยู่ตลอดว่าฉันชอบหรือไม่ชอบอะไร พี่สองสังเกตฉันตลอดว่าฉันไม่ชอบกินเห็ดแต่ชอบกินหมูเด้งหมัก พอหมดเขาก็สั่งมาเพิ่มให้แถมตอนหมดก็ถามว่าอิ่มหรือยังพี่จะไม่ได้สั่งให้ อยากกินของหวานอะไรไหมพี่ไปตักให้...
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อผู้ชายโลกส่วนตัวสูงคนนี้แค่ไม่ชอบคนที่จุกจิกกับเขา ไม่ชอบให้ใครกดดันและอย่าได้คิดลองใจเพราะเขาจะไม่ตามและปล่อยไปเงียบๆ แน่ ก่อนจะจีบเขาฉันก็อ่านข้อมูลพวกนี้มาหมด พอมาเจอกับตัวเองก็คือพี่สองแค่ไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย ชอบที่จะอยู่คนเดียวและโฟกัสแค่งานวาดรูป เขาเป็นผู้ฟังที่ดีมากเลยนะให้คำแนะนำฉัน ให้กำลังใจฉันรวมไปถึงแอบมีความโรแมนติกนิดๆ แต่น่ารักเป็นบ้า!
“เคลียร์ขอไปดูของตรงนั้นแปบนะคะ”
“ได้” เมื่อกินชาบูเสร็จฉันกับพี่สองก็เข้าร้านอุปกรณ์วาดเขียน พี่สองซื้อพู่กันใหม่ยกชุดเห็นบอกว่าที่อยู่ในห้องบานหมดและขนแปรงล่วงเรียบร้อย หากแต่ว่าตอนนี้ฉันให้พี่สองยืนรอตรงราวบันไดกั้นเพื่อไปดูหนังชั้นบน รีบปลีกตัวเองออกมาที่ร้านขายอุปกรณ์อีกครั้งเพราะฉันเห็นผ่านๆ ว่ามีสีออกคอลเลกชั่นใหม่ทั้งหมด มาถึงฉันก็เลือกชุดสีน้ำมันที่มีทั้งหมด 46 เฉดสีเป็นกล่องมีหูหิ้วซึ่งฉันเองก็สังเกตว่าพี่สองมักวาดรูปด้วยสีน้ำมันบ่อยมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นของขวัญที่ฉันอยากมอบให้กับเขา ผู้ชายแบบเขาคงไม่อยากได้อะไรนอกซะจากสี กระดาษวาดภาพหรือไม่พู่กัน ตรงใจเขาสุดก็คงจะเป็นของพวกนี้ล่ะนะ
ได้ของมาตามที่ต้องการฉันกะว่าจะให้พี่สองตอนกลับ เดินกลับมาหาเขาที่คงจะรอนานอยู่เนื่องจากใช้เวลาไปกลับยี่สิบนาที พอมาถึงเห็นพี่สองยืนหันหลังและคุยกับ... ผู้หญิงคนหนึ่ง
“ใคร?”
[70%]
*--------------------------------------------------*