6 มารหัวขน

1788 Words
สองเดือนต่อมา... ฉันยังคงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของพี่กองทัพ อยู่แค่ที่นี่จริง ๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นที่พี่กองทัพบอกจะพาไปร้านสักก็ไม่ได้ไป เพราะจู่ ๆ พี่กองทัพเขาก็เปลี่ยนใจออกไปคนเดียวซะงั้นและเขายังสั่งห้ามฉันไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด ฉันก็เชื่อฟัง พี่กองทัพกลับมานอนที่นี่ทุกคืน เขาทำให้ฉันเผลอใจรักจนได้ รักทั้งที่ไม่ควรจะรัก ทว่าพักหลังเขาดูแปลกไป เขาไม่เรียกร้องเรื่องบนเตียงกลับมาถึงเข้าห้องนอนกอดฉัน เช้าตื่นมาเขาก็ไป ทุกวันนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่มีสิทธิ์ถามและต้องบอกก่อนว่าแม้ฉันกับมิ้มจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของมิ้มสักนิดเพราะฉันคิดอยู่เสมอว่าฉันต่ำต้อยกว่ามิ้มจึงไม่อยากถาม ถ้าเรื่องไหนมิ้มอยากเล่ามิ้มก็จะเล่าให้ฟังเอง ฉันจึงไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของพี่กองทัพ มิ้มยังคงทักไลน์มาหาอยู่บ่อย ๆ ฉันก็ยังคุยกับเธอปกติแม้จะนอนกกผัวเธออยู่ก็ตาม โคตรจะหน้าด้านไร้ยางอาย รู้สึกผิด รู้ว่าบาปแต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้มิ้มรู้เรื่อง กลัวเธอเสียใจที่โดนคนรักและเพื่อนเลว ๆ อย่างฉันหักหลังและตอนนี้มันเลวร้ายมาก เพราะฉันมันไม่สำนึก ไม่รู้จักประมาณตัวเอง ไม่รู้จักเจียมตัวเจียมใจ แยกแยะไม่ออกตกหลุมรักคนรักของเพื่อนเข้าอย่างจัง ก็ไม่ได้อยากให้มันแบบนี้ แต่ด้วยความใกล้ชิด สัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน เขาถึงเนื้อถึงตัวฉันอยู่ตลอด ความสัมพันธ์นี้ทำให้ฉันคิดไปไกล มันทำให้ฉันเผยสันดานเลว ๆ ฉันเลวไม่ต่างจากพี่กองทัพ ฉันไม่สมควรเป็นเพื่อนของมิ้ม แต่ก็นะ ถึงฉันจะรักพี่กองทัพ แต่ว่า ‘ห้ามรักพี่’ ประโยคนี้เขาย้ำกับฉันเป็นประจำย้ำทุกวันจนฉันจำขึ้นใจ แต่หัวใจเจ้ากรรมดันไม่ยอมฟัง ยังดื้อรั้นรักผู้ชายของเพื่อนหัวปักหัวปำทั้งที่รู้ว่าไม่ควรกระทำ จะให้ฉันทำยังไงได้ก็พี่กองทัพเขาชอบทำดี เขาชอบหว่านคำหวานแล้วสุดท้ายก็บอกว่าห้ามรัก แต่ฉันก็ทำไม่ได้ หัวใจมันไม่ฟังฉันเลย ฉันมันผู้หญิงบาป ทว่าตอนนี้มีเรื่องน่าหนักอกหนักใจมากกว่าการรักพี่กองทัพ ประจำเดือนฉันขาดมาสองเดือน เดือนแรกที่ไม่มาฉันคิดว่าอาจจะเคลื่อนเหมือนที่เคยเป็นเพราะบางครั้งประจำเดือนก็ชอบหายไป ฉันจึงเฉยเมยต่อสุขภาพร่างกาย... แต่พอเข้าเดือนที่สอง สมองอันน้อยนิดของฉันเริ่มฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าฉันลืมคุมกำเนิด คือครั้งแรกที่มีอะไรกันพี่กองทัพบอกฉันว่าคืนแรกที่ฉันเป็นของเขา เขาเอาสด ให้ฉันหายากิน แต่ฉันดันลืมและเพิ่งจะมานึกออกเมื่อเข้าเดือนที่สอง แค่ครั้งเดียวที่ไม่ใส่ถุงจะพลาดได้เหรอ คลายความกังวลด้วยการไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ เวลานี้กำลังยืนลุ้นที่ตรวจครรภ์จำนวนห้าอันที่ถูกหยดปัสสาวะลงครบทุกอัน ขอให้เป็นขีดเดียวเถอะ ไม่งั้นฉันซวยแน่ ๆ ผ่านไปห้านาที ลืมตาดูที่ตรวจครรภ์ที่เรียงกันมันขึ้นสองขีดทุกอัน เข่าอ่อนทรุดตัวนั่งกับพื้น มือสั่น หัวใจเต้นแรง คิดหาทางออกดี ๆ ไม่ได้เลย มันมืดแปดด้านไป จะทำไงดี ผู้ชายที่นอนด้วยก็เป็นของเพื่อน หนำซ้ำเขายังบอกห้ามรักเขา เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันทั้งนั้นและตอนนี้เขาก็กำลังจะเบื่อฉันอย่างที่เขาเคยบอกไว้ ที่แน่ใจก็เพราะวันนี้เป็นวันที่สามที่เขาหายไป อย่างไร้วี่แวว ไม่โทรหา กับข้าวที่ฉันตั้งใจทำถูกทิ้งลงถังขยะทุกวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ คงถึงเวลาที่เรื่องพวกนี้มันควรจะจบ ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น พี่กองทัพกลับมาแล้ว ด้วยความดีใจที่จะได้เห็นหน้าเขาที่ห่างหายไปหลายวัน ฉันรีบเช็ดน้ำตาและเปิดประตูห้องน้ำออกไปโดยลืมคิดถึงปัญหาไปชั่วขณะ “เป็นอะไรเบลล์” พี่กองทัพทำท่าตกใจที่เห็นฉันโผเข้ากอด “คิดถึงค่ะ” ฉันพูดอย่างไม่อายเพราะคิดถึงเขาซะมากมายมันล้นอกจนจะตายอยู่แล้ว ฉันโหยหาอ้อมกอดของเขา โหยหารอยยิ้มร้าย ๆ ที่เขาชอบมองฉันแล้วยิ้ม “พี่ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาผละฉันออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ให้ตายเถอะ ฉันเพิ่งนึกออกว่าที่ตรวจครรภ์อยู่ในนั้น แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้น ผู้หญิงสวยแต่งตัวเซ็กซี่หน้าอกใหญ่โตเดินออกจากห้องนอนของพี่กองทัพ เธอมองมาที่ฉันและส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเอ่ยถาม “เฮียล่ะ” เสียงของเธอหวานจับใจ เป็นใครก็คงหลงใหล หัวใจของฉันมันกำลังเต้นแรงผิดปกติ เหมือนมีบางอย่างบีบรัดอย่างแรง ความรู้สึกบ่งบอกว่ากำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง แกร็ก ก่อนที่ฉันจะตอบอะไรออกไปพี่กองทัพเปิดประตูออกมา เขามองหน้าฉันแวบหนึ่งและหันไปส่งยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น ยิ้มอย่างอ่อนโยน “น้องแพรเข้าไปรอเฮียในห้องก่อนนะ เดี๋ยวเฮียคุยกับเพื่อนแป๊บเดียว” พี่กองทัพพูดกับผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางอ่อนโยน น้ำเสียงแบบนี้เขาไม่เคยพูดกับฉันด้วยซ้ำ ใช่สิเขาไม่รักฉัน แล้วฉันจะหวังคำหวานอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นยิ้มก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป จากนั้นเสียงเยือกเย็นชวนขนลุกก็ดังขึ้นพร้อมกับต้นแขนถูกกระชากให้เดินตามเข้ามาในห้องน้ำ “เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันนะเบลล์” พรึบ! ที่ตรวจครรภ์จำนวนห้าอันโยนใส่หน้าฉัน ใบหน้าของพี่กองทัพเคร่งเครียด ดวงตาเขาจ้องฉันเขม็ง มันมีแต่ความขุ่นเคือง ดูก็รู้ว่าเขากำลังหัวเสียกับเด็กที่กำลังจะเกิดมา “นี่อะไรวะเบลล์ พี่ใส่ถุงตลอดทำไมมันเป็นแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ยังไง” “ครั้งนั้นเบลล์ลืมกินยาค่ะ” ฉันก้มหน้ามองพื้นและสารภาพความผิดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเพราะกลัวท่าทีของเขา “โธ่ โว้ย! ลืมเหรอ แล้วทำไมไม่จำวะ” ฉันเห็นปลายเท้าพี่กองทัพกำลังเดินมาทางฉัน จากนั้นมีเสียงดังตุบ เป็นเขาที่ปล่อยหมัดแรง ๆ ไปที่ผนังกำแพงข้าง ๆ ที่ฉันยืนอยู่ มันห่างจากฉันแค่นิดเดียวเอง ฉันไม่กล้าพูดหรือขยับตัวเพราะกลัวท่าทีของเขา ฉันจึงร้องไห้ ก็ฉันมันทำได้แค่นี้ไง ทำได้แค่ร้องไห้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ฉันได้ยินเสียงถอนลมหายใจยาว ๆ ของพี่กองทัพ จากนั้นเขาเปิดประตูห้องน้ำเดินออกไป ฉันไม่รู้จะทำยังไงจึงเช็ดน้ำตาและรีบเดินตามเขา “อะนี่เงินที่ตลอดสองเดือนเบลล์อยู่กับพี่ ฟังนะตอนนี้พี่ได้ผู้หญิงใหม่แล้ว เข้าใจใช่ไหมว่าพี่หมายความว่าอะไร” เขายัดเช็คที่เขียนจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทใส่มือให้ฉัน พร้อมกับคำพูดที่สื่อว่าฉันมันไม่มีค่าอะไรเลย ถึงเวลาที่ควรจบเพราะเขาเบื่อแล้ว “...” มือข้างขวามีเช็คที่เขายัดมาและมองการกระทำของเขา เขากำลังเขียนเช็คอีกใบ จากนั้นก็มองหน้าฉันและยัดเช็คมาที่มือข้างซ้ายพร้อมกับพูดว่า “และนี่ ไปเอาไอ้มารหัวขนในท้องนั่นออกซะ พี่ไม่ต้องการและพี่คิดว่าเบลล์ก็คงไม่ต้องการ” ประโยคนี้ทำเอาฉันล้มทั้งยืน เงยหน้ามองเขาที่ยืนอยู่เหนือหัว สายตาที่เขามองมาที่หน้าท้องของฉันมันแสดงถึงการรังเกียจสิ่งที่อยู่ในท้อง สิ่งที่เรียกว่าลูก จำนวนเงินของเช็คใบที่สองคือห้าแสนบาทสำหรับการฆ่าชีวิตใครคนหนึ่ง ใครคนหนึ่งที่เป็นสายเลือดของเขา ผู้ชายเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ทำไมเลวได้ขนาดนี้ ฉันหลงรักซาตานร้ายคนนี้ได้ยังไง ทำไมฉันโง่ขนาดนี้ รักคนแบบนี้ได้ไง “เลิกทำหน้าอาลัยอาวรณ์พี่สักที พี่ไม่สนใจสายตาแบบนี้ พี่เบื่อเบลล์แล้วเบลล์ไม่มีความหมายอะไรเลย ต่อไปนี้เราจบกันนะ เรื่องของเรามิ้มจะไม่มีทางรู้ เก็บข้าวของเบลล์แล้วไปซะ พูดให้รู้เรื่องพี่ไม่ชอบพูดซ้ำ” เขาไม่แคร์อะไรฉันเลย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นทั้งที่เขาเพิ่งจะบอกให้ฉันไปเอาเด็กออก เมื่อเขาไล่ ก็คงต้องไปไง ให้อยู่เพื่ออะไร “เดี๋ยวค่ะ” ฉันเอ่ยเรียกเขาไว้ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าห้องนอน เขาหันมามองฉันด้วยสายตาขุ่นเคือง “ทำไม มันน้อยไปเหรอ จะเอาอีกเท่าไหร่ล่ะ” พี่กองทัพเดินกลับมาที่เดิมและกำลังจะก้มลงเขียนเช็คอีกรอบ ฉันจึงลุกขึ้นเดินมาหาเขา วางเช็คเงินสดหนึ่งล้านใส่มือเขาไป “เปล่าค่ะ เบลล์แค่จะบอกว่า เบลล์ไม่เอาเงินนี่ ส่วนเงินห้าแสนเบลล์จะเอาไปจัดการมารหัวขนที่พี่บอกและชาตินี้ทั้งชาติเราอย่าได้เจอกันอีกนะคะ ให้เราหมดเวรหมดกรรมกันแค่ตรงนี้ จะไปตายที่ไหนก็ไป” พูดจบฉันเดินออกจากห้องของเขามา ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาสักอย่าง แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้มา มีแค่เช็คห้าแสนบาทที่เขาให้มาจัดการกับเด็กในท้อง ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่ต้องติดต่อกับมิ้มอีกเพราะฉันละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและทรยศหักหลังความไว้ใจที่มิ้มมีให้ มันถูกแล้วที่คนทรยศเพื่อนอย่างฉันโดนกระทำเช่นนี้ จบสิ้นกันกับเรื่องคาว ๆ จากนี้ฉันจะเลิกรักคนเลวคนนั้นให้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD