PROLOGUE
วิศวะขย้ำรัก
(Engineer'nTaboo)
PROLOGUE
"ยาลดไข้กับยา…เอ่อ! ยาคุมฉุกเฉินค่ะ" เสียงเล็ก ๆ ของเด็กสาวที่สวมแมสก์ดำปิดบังโฉมหน้าเอ่ยเสียงเบากับเภสัชกรชายร้านยาหน้ามหาวิทยาลัย โชคดีแค่ไหนที่ร้านยาแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหอพัก ทำให้เธอสามารถหายากินได้อย่างทันท่วงที
เอิ่ม! จากการค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเธอคิดว่ามันคงทันแหละนะ เมื่อนับเวลาทั้งหมดที่มันเกิดเรื่องไม่คาดฝันนั้นขึ้นมา
"ทั้งหมดเก้าสิบห้าบาทครับ" เภสัชกรที่นำยาใส่ถุงให้เธอเรียบร้อยเอ่ย
"สแกนจ่ายนะคะ" เจ้าของร่างเล็กว่า แล้วจัดแจงสแกนจ่ายค่ายาผ่านคิวอาร์โค้ดที่ติดอยู่บนกระจกกั้น ก่อนจะหันหน้าจอให้เขาดูสลิปการโอน
"ขอบคุณครับ" เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มเอ่ย แล้วยื่นถุงยาให้ เธอจึงรีบรับมาแล้วก้มหน้าก้มตาเดินออกมาทันที
"ป้าคะหนูเอาน้ำขวดหนึ่งนะคะ เงินวางไว้นี่นะคะ" เธอเอ่ยกับป้าร้านขายของชำหลังหยิบเอาน้ำเปล่าออกมาจากตู้ ก่อนจะวางเงินจำนวนสิบบาทไว้บนเคาน์เตอร์
เธอคนนี้มีชื่อว่า 'ซิน' สาวน้อยวัย 19 ปี ผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างเล็กกระปุ๊กกระปิ๊กผิวพรรณขาวจัดเพราะมีเชื้อจีน ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนได้รับการเอ็นดูจากผู้พบเห็นเสมอ แน่นอนว่าความใจดีในสังคมที่หยิบยื่นเกณฑ์นี้ให้กับเธอ เพราะพวกเขาเห็นว่าเธอมีใบหน้าที่ทั้งสวยและน่ารักมาก ๆ ยังไงล่ะ โดยเฉพาะพวกผู้ชายมักจะพูดหยอกสาว ๆ เสมอว่าการที่จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กได้นั้น คือเธอต้องสวย ขาว น่ารัก และน่าทะนุถนอมราวของที่น่าเก็บรักษา แต่ถ้าเธอไม่เข้าเกณฑ์เบื้องต้นเหล่านี้ พวกเธอก็คือ 'ยัยเตี้ยหมาตื่น' ดี ๆ นี่เอง
หลังได้ของที่ต้องการมาแล้ว ซินก็พาตัวเองเดินมานั่งลงที่ม้าหินอ่อนไม่ไกลจากร้านขายยานัก ก่อนจะจัดการแกะยาคุมและยาแก้ปวดลดไข้ใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามอึก ๆ นับจากเมื่อคืนมาถึงตอนนี้ระยะเวลาหลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบไร้เครื่องป้องกันยังไม่ถึง 72 ชั่วโมง การหายากินได้ทันเวลาทำให้เธอค่อยโล่งอกเรื่องการตั้งครรภ์ไปเปราะหนึ่ง ถึงแม้ว่าตอนนี้ส่วนอ่อนไหวที่ถูกใครก็ไม่รู้เปิดบริสุทธิ์จะยังรู้สึกปวดระบมเพราะมันบวมมาก แต่เธอก็ไม่กล้าบอกซื้อยาตัวอื่นกับเภสัชกรชายอยู่ดี จึงเลือกจะลองกินยาแก้ปวดลดไข้ไปก่อน เพราะพรุ่งนี้เธอต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะอีก ถ้าปวดจนมีไข้แล้วไปเข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้ ซินก็กลัวว่าพอเปิดเรียนจะโดนรุ่นพี่เพ่งเล็งเอา
ติ๊ง!
[คุณมี 1 ข้อความใหม่]
เสียงแจ้งเตือนพร้อมแถบสถานะข้อความในแอปพลิเคชันสีเขียวที่แสดงขึ้นมาแวบหนึ่งบนหน้าจอ ทำให้ซินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากแอคเคาน์หนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ แถมรูปโปรไฟล์ยังเป็นสีดำสนิทและใช้ชื่อว่า ['Mr.P'] แน่นอนว่าซินคงจะมองข้ามและบล็อกบุคคลนี้ทิ้งไป หากไม่เห็นเนื้อหาของสิ่งที่อีกฝ่ายส่งมาให้เสียก่อน พระเจ้ามันทำให้เธอมือไม้สั่นไปหมดเลยล่ะ
[Mr.P : คุณมี 1 รูปภาพ]
ร่างเล็กถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อภาพที่อีกฝ่ายส่งมา คือภาพบัตรนักศึกษาของเธอ ที่มีทั้งรูป ชื่อนามสกุล รวมถึงคณะที่เรียนชัดเจน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันถูกส่งมาจากที่ไหน เพราะเธอจำภาพสถานที่ในรูปได้ดี แหงล่ะ! เธอเพิ่งเตลิดออกมาจากที่นั่นตอนฟ้าสางนี่เองจะไปลืมมันลงได้ไง
[SinSin : บัตรนั่นช่วยฝากไว้กับพนักงานได้ไหมคะ เดี๋ยวจะเข้าไปเอาเอง]
หลังกดรับเพื่อน เธอก็ส่งข้อความกลับไป ยังแอคเคาน์ปลายทาง แต่สถานะข้อความกลับไม่ถูกอีกฝ่ายเปิดอ่านนี่สิ
[SinSin : ช่วยฝากไว้ทีนะคะ พอดีต้องใช้จริง ๆ] เธอส่งย้ำไปอีกข้อความ เพราะบัตรนักศึกษาจำเป็นต้องใช้พรุ่งนี้
[Mr.P : คุณมี 1 รูปภาพ]
[Mr.P : อันนี้ ฝากไหม]
ซึ่งครั้งนี้มันถูกอ่านทันที และมีอีกภาพถูกส่งมาพร้อมคำถามสั้น ๆ ทำเอาสาวน้อยแทบน้ำลายฟูมปาก เพราะเธอรีบร้อนออกมา ทำให้คว้าอะไรได้ก็ใส่ ๆ วิ่งหนีออกมาก่อน จนลืมไปเลยว่าตัวเองไม่ได้ใส่บราเซีย โชคดีที่ยังคว้าเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่สวมทับมา ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนแบบนี้แน่
[SinSin : อันนั้นทิ้งเถอะค่ะ ส่วนเสื้อแจ็คเก็ตจะฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ให้นะคะ]
เธอตอบแชทไปอย่างสุภาพ เพราะต้องการของคืน และท่าทางเสื้อตัวนี้จะราคาแพงน่าดู คิดว่าเขาคงต้องอยากได้มันคืนแน่นอน
[Mr.P : ทิ้งไป]
[SinSin : ใช่ค่ะ ทิ้งไปเลยค่ะ ฝากบัตรไว้ก็พอ]
เธอบอกย้ำ เมื่อเห็นว่าเขายังถามกลับมาแบบนั้น ก็ใครมันจะอยากให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ฝากบราเซียลูกไม้สีชมพูหวานขนาดนั้นไว้กับพนักงานล่ะ
[Mr.P : หมายถึงเสื้อ…ทิ้งไป]
ทว่าข้อความที่ตอบกลับมาก็ทำให้ซินต้องตั้งใจอ่านดี ๆ เขาบอกให้ทิ้งเสื้อเขาหรอกเหรอ บ้าน่า! นี่มันเสื้อแบรนด์เนมนะแถมดูแล้วไม่ใช่ของปลอมด้วย ว่าแล้วเธอจึงกดเข้าไปในเว็บไซต์ของแบรนด์ดังกล่าวเพื่อดูราคาของเสื้อที่เขาบอกให้โยนทิ้งราวมันไร้ราคา
"เฮ้ย! ตั้งสี่พันเจ็ด จะให้ทิ้งเลยเหรอ ซักคืนให้ก็ได้นะถ้าจะคิดมากขนาดนั้น เงินตั้งหลายพันน่าเสียดายออก" สาวน้อยงึมงำกับตัวเอง เขาเป็นคนประเภทไหนกันถึงใช้ของทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบนี้
[SinSin : ซักคืนได้นะคะ มันแพงจะตาย จะทิ้งทำไม]
เธอส่งข้อความกลับไป ไม่รู้ว่าตัวเองจะตื้อเอาเสื้อคืนไปหาพระแสงง้าวอะไร
[Mr.P : ก็ได้! ฉันเรียนที่ม.MDLเอามาคืนที่นั่นแล้วกัน]
เมื่อเธอว่าไปแบบนั้นเขาเลยเปลี่ยนใจยอมรับของคืน แต่เขายังเรียนอยู่เหรอ แถมอยู่มหา'ลัยเดียวกับเธอด้วย แล้วไอ้ที่บอกว่าให้เธอเอาไปคืนเขาด้วยตัวเองเนี่ย…มันคงไม่ดีมั้ง
[SinSin : ขอฝากป้อมยามนะคะ ไม่สะดวกจริง ๆ ตกลงตามนี้นะคะ]
ซินตอบกลับไปแค่นั้นพร้อมตัดบทการสนทนาเองเสร็จสรรพ และไม่เห็นว่าเขาจะตอบอะไรเธอกลับมาอีกเช่นกัน นั่นทำให้เธอรีบพาตัวเองกลับไปยังหอพักทันที เพื่อจัดการซักเสื้อนี่ไปคืนเขาพรุ่งนี้
"ว่าแต่…เราต้องทำแบบนี้ให้ใครก็ไม่รู้ที่พลาดไปวันไนท์ด้วยเนี่ยนะ หน้าตาก็จำไม่ได้ คนปกติเขาทำกันแบบนี้ไหมนะ" สุดท้ายก็ต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ดี
แวะคุยกับไรท์
นิยาย “วิศวะขย้ำรัก” ได้พูดถึงเรื่องราวความรักของ “พันไมล์ (แพททริค ลินน์)” และ “เมลิน่า ลินน์ (เมล)” ลูกชายและลูกสาวของ “ภารัณและพะแนง จากเรื่อง เ(ฉ)พาะช่างขังรัก ในซีรี่ส์ MDL STORY” ผู้เป็นทายาทรุ่นต่อมาของตระกูลลินน์ มาเฟียผู้ครองพื้นที่เขต MDL สองพี่น้องที่ถูกเลี้ยงและเติบโตขึ้นมาจากตระกูลที่มีรากฐานมาเฟียอิตาลี ความรักในแบบของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ใครกันที่จะได้ใจพี่น้องคู่นี้ไปครอบครอง
ซึ่งเนื้อหาในเรื่องไรท์ยังคงเขียนถึงช่วงชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ชีวิตพวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับโลกเทา ๆ ของสังคม ช่วงชีวิตที่ยังไม่สามารถตัดสินใจทุกเรื่องได้ด้วยตัวเองอย่างเต็มที่
ช่วงวัยที่มีเพื่อนพ้องพี่น้อง ที่มีทั้งดีและไม่ดี ครอบครัว การเลี้ยงดู รวมถึงเรื่องของความทะยานอยาก ความรัก โลภ โกรธ หลงของคน การหักหลัง ล้างแค้น เพศสภาพ (l***q) การทะเลาะวิวาท สารเสพติด และการมีเซ็กส์ในวัยเรียน รวมถึงการสอดแทรกแง่คิดมุมมอง และทางเลือกในการใช้ชีวิต เป็นต้น
ซึ่งตัวละครและสังคมทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้ เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ไรท์สร้างและแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน
#คลั่งรัก #เด็กวิศวะ #เด็กช่าง #เด็กเฉพาะช่าง #MDLStory #ตัวตึงดึงปฐพี #DarlingRome
*หมายเหตุ เนื้อหามีความยาวหลายเล่มจบ
ขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุน
Darling Rome