“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าเหนื่อยๆ ถ้าทำอะไรเสียมารยาทไป ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
หวังว่าเขาจะไม่ซักไซ้ไล่เรียง ทว่ามอร์แกนก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากฉัน อีกทั้งยังก้าวเข้ามาใกล้แล้วถือวิสาสะยื่นมืออังหน้าผาก
“ไม่สบายหรือเปล่า สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะ”
“มัน...เป็นยังไงคะ” ฉันถามเสียงแผ่ว
“มันแดง...เหมือนมีไข้”
พลันเขาก็หรี่ตาพินิจให้ฉันได้หลบสายตา
ฉันรู้ว่าหน้าฉันร้อนวูบ แต่ไม่คิดว่ามันจะแดงเรื่อด้วย ไปกันใหญ่แล้วยัยรสมาลี เธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วนะ!
สัญชาตญาณบอกให้ฉันรู้ ฉันเลยคิดว่าควรจะต้องออกจากห้องให้เร็วที่สุด พลันก็ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวกลับเลยได้ไหมคะ ถ้ามันดึก ฉันจะเรียกรถยากน่ะค่ะ”
ฉันอ้าง มอร์แกนยอมปล่อย แต่ไม่ยอมให้ไป
“ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวผมไปส่ง”
“แต่คุณต้องทิ้งไมเคิลไว้คนเดียว...”
“ผมจะปลุกไมค์กี้ให้ไปส่งคุณด้วยกัน”
เขาสวนกลับมาทั้งๆ ที่ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยคดีราวกับรู้ว่าฉันกังวลเรื่องอะไร ทว่าฉันไม่ยอมให้เขาปลุกลูกขึ้นมาเพื่อเหตุผลนี้หรอก ฉันไม่อยู่แล้ว
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณพ่อนะคะ แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปส่ง ฉันกลับเองได้จริงๆ ขอตัวนะคะ”
พูดคำว่า ‘ขอตัว’ อีกครั้งด้วยหวังว่าคราวนี้จะได้ไปสักที หากแต่มอร์แกนก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ พอฉันหันไปมอง เขาก็ตีหน้าเข้มจนฉันต้องย่นคิ้ว
“มีอะไรอีกคะ”
“ผมรู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังหนีผม”
“...”
“มีอะไรก็บอกได้ไหมว่าผมไปทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจ คุณถึงได้พยายามหนีผมนัก”
เขาก็ดูออกนี่นาว่าฉันพยายามจะทำอะไร แต่ทำเป็นไม่รู้ในตอนแรกล่ะสินะ งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องบอก
“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ ฉันก็แค่อยากจะกลับบ้าน มันดึกแล้ว”
ฉันอ้าง ทว่าเขาก็ไม่ยอมปล่อยสักที
“ปล่อยฉันด้วยค่ะ แบบนี้มันไม่เหมาะสมนะคะ”
อ้างไปอีกที หวังว่าจะเอาชนะเขาได้ แต่มอร์แกนกลับจับข้อมือฉันแน่นขึ้น พลางว่าเสียงต่ำ
“ผมไม่ชอบเล่นเกมนะโรส”
ฉันสบตาเขาในตอนนี้เลย ขณะที่เขาว่ามาอีก
“คุณกำลังพยายามหนีผมเพราะเห็นว่าผมมีไมค์กี้ใช่ไหม”
แล้วเขาก็พูดมาตรงๆ ฉันอยากจะตอบว่าใช่ แต่ไม่ทันจะได้พูด เขาก็โพล่งออกมาก่อนแล้ว
“เรื่องระหว่างคุณกับผมมันไม่เกี่ยวกับไมค์กี้นะ”
ไม่เกี่ยวหรือ? ใช่ จะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวเพราะมันเป็นเรื่องระหว่างมอร์แกนกับฉัน แต่ว่า...
“แต่ฉันไม่ควรจะแทรกเข้าไปตรงกลาง เหมือนอย่างที่เราทำกันวันนั้น”
ประโยคหลังฉันว่าเสียงเบาเลย ละอายใจมากเมื่อนึกถึงเรื่องวันนั้น รวมถึงการที่ฉันคุยกับเขามาระยะหนึ่งโดยไม่รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้วด้วย
ทว่ามอร์แกนก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาส่งเสียงแผ่วเบาออกมาราวกับว่าเอ็นดูฉันเป็นอย่างมาก
“โธ่ โรส...คุณคิดมากไปแล้ว”
พลันก็ขยับเข้ามาหาฉันมากขึ้น ฉันก้าวถอยหลัง เขาก็ก้าวเข้ามาใกล้กว่าเดิม ทำให้ฉันต้องยกมือขึ้นดันแผงอกเขาเอาไว้
“พอแล้วค่ะ คุณเข้ามาใกล้ฉันมากเกินไปแล้ว”
ฉันบอก แต่ก็ไม่ได้ทำให้มอร์แกนหยุดสักนิด
“ทำไม ผมเคยเข้าใกล้คุณมากกว่านี้มาแล้ว แค่นี้ทำไมจะไม่ได้”
ก็ฉันไม่อยากให้เข้าใกล้ มันถึงทำไม่ได้อย่างไรเล่า!
แต่ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิด ฉันอยากอยู่ใกล้ๆ เขา ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมผู้ชายจากตัวเขา ฉันก็ยิ่งปั่นป่วนมวนท้องไปหมด รวมถึงใจเต้นเร็วแรงขึ้นกว่าเดิมด้วย
ความรู้สึกนี้...เหมือนกับความรู้สึกในวันนั้นเลย
“ผมไม่ยอมให้คุณผลักไสผมหรอกนะ ผมรู้ว่าการที่อยู่ๆ ผมที่หายหัวไปก็กลับมามันทำให้คุณประหลาดใจ หรือไม่ก็โกรธผมจนไม่อยากมองหน้า แต่ผมอยากจะบอกคุณไว้อย่างหนึ่ง...”
“อะ...อะไรคะ”
“ผมคิดถึงคุณ”
ฉันมันบ้าเองที่ถามเขาออกไปอย่างนั้น พอเขาตอบกลับมา ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ไม่รักดี สั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าโหยหาคำพูดนั้นของเขาเหลือเกิน ยิ่งเงยหน้าสบตาเขาด้วยแล้ว ฉันก็รู้ทันทีเลยว่าฉันหนีเขาไปไหนไม่พ้น
สายตาของเขาในตอนนี้มันประกายวาวและคล้ายกับว่าจะสะท้อนภาพฉันเพียงภาพเดียว ฉันจ้องเขานิ่ง ก่อนจะถูกเขาช้อนเข้าที่ปลายคาง
“คุณล่ะ...ไม่คิดถึงผมบ้างเหรอ”
“...”
“ไม่คิดถึงเรื่องของเรา...ไม่คิดอะไรเลยงั้นเหรอ”
เขา...ต้องการคำตอบอย่างไรจากฉันกัน...
สุดแท้จะหยั่งรู้ แต่ฉันก็พอจะเดาได้เมื่อจู่ๆ เขาก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนกระทั่งใบหน้าเราห่างกันเพียงคืบ
“บอกผมสิว่าในหัวของคุณไม่มีเรื่องของผมอยู่ในนั้นเลยแม้แต่เรื่องเดียว”
ฉันปฏิเสธไม่ได้ ในหัวฉันมีแต่เรื่องของเขา ถึงจะทำปั้นปึ่งไม่พอใจหรืออะไรต่อมิอะไรออกไป แต่มันก็เป็นเรื่องของเขา
ทว่าเขาก็ไม่ให้ฉันตอบ เพราะทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็กระซิบแผ่ว
“ในหัวของผมมีแต่เรื่องคุณ...”
หลังจากนั้นก็ประกบริมฝีปากจูบลงมาบนริมฝีปากฉัน ฉันนิ่งงันเหมือนหุ่นปูนปั้นงี่เง่า ยอมให้เขาผละออกไปแล้วคลี่ยิ้ม ก่อนจะจรดจูบลงมาอีกครั้งเมื่อเห็นฉันไม่หนีไปไหน
“ผมชอบจูบคุณนะโรส...ชอบจูบของเรา”
เขาพึมพำเมื่อได้ลิ้มชิมรสของฉันอีกครั้ง ฉันเผยอริมฝีปากเล็กน้อย ตั้งใจจะบอกเขาว่าอย่าทำแบบนี้ มันไม่เหมาะสม แต่แล้วคำพูดทั้งหมดก็ถูกกลืนกินลงไปสิ้นเมื่อเขาแนบริมฝีปากลงมาอีก คราวนี้ไม่ทำเพียงประกบเท่านั้น ยังจะกลืนกินริมฝีปากของฉันทีละน้อยด้วย ยิ่งพอฉันอ้าปากขึ้น เขาก็ชำแรกปลายลิ้นเข้ามาภายใน ตวัดรัดรึงกับปลายลิ้นฉันราวกับว่าจะรวมกันเป็นหนึ่ง