ทั้งสองเดินลงไปจนถึงสวนด้านหลังบ้านของปู่วิศาล
“ปล่อยมือของมุกได้แล้วมั้งคะพี่มาร์ช” หญิงสาวยิ้มหวาน ธาวินรีบปล่อยมือของเธอ แล้วทำท่าเก้อ ๆ
“พี่มาร์ชไม่เคยมีแฟนหรือคะ จนถึงป่านนี้” มุกเรียงเอ่ยถามพร้อมกับส่งรอยยิ้มของเธอหวานจนจับใจไปให้ชายหนุ่ม
“ใครบอกมุกจ๊ะ”
“คุณปู่ค่ะ”
“ถ้าพี่บอกมุกว่า พี่ยังไม่เคยมีแฟน มุกจะเชื่อพี่ไหม”
ทั้งคู่เดินไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวน มองไปยังสวนดอกไม้ฝีมือการปลูกของเพ็ญเพียร
“ถ้าพี่มาร์ชอยากให้เชื่อ มุกก็จะเชื่อค่ะ แต่พี่มาร์ชออกจะเป็นคนหน้าตาดี ทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ตขนาดนี้” เธอออกปากชมเขาไปตรง ๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของธาวินที่จ้องสบก็ออกอาการเขินเสียเอง
“ตอนที่เรียนหนังสือ พี่คิดแค่ว่าต้องได้เกรดดี ๆ และต้องทำยังไงก็ได้ให้คุณพ่อของพี่ภูมิใจ พี่ดีใจทุกครั้งที่เห็นคุณพ่อยิ้ม แล้วก็เอ่ยปากชมพี่ และพี่ชอบนะที่คุณพ่อเอาเรื่องของพี่ไปอวดให้เพื่อน ๆ ของคุณพ่อฟัง แค่นี้พี่ก็มีความสุขแล้ว”
“พี่มาร์ชเรียนเก่งนี่คะ ไม่ต้องพยายามมากเหมือนมุก” เธอรู้ว่าเขามักติดท็อปของโรงเรียนเสมอ มีชื่อเสียงในโรงเรียนมากพอสมควร และยังเคยเป็นตัวแทนไปประกวดในงานวิชาการต่าง ๆ ทั้งใน และต่างประเทศ
“มุกก็เรียนจบและได้เกียรตินิยมไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้ก็นำหน้าพี่แล้วด้วย”
“มุกทำงานในสายนี้นี่คะ ก็เลยต้องไปให้สุด ๆ วุฒิการศึกษาก็เป็นแค่ใบประกาศให้คนรู้ว่า เรามีคำอะไรนำหน้าแค่นั้นค่ะ”
“มุกเก่งมากแล้วจ้ะ แล้วต่อไปมุกคิดว่าจะเรียนให้จบ ดร. เลยไหม”
“ไม่แล้วพี่มาร์ช แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ การเรียนหนัก ๆ บางครั้งก็ทำให้มุกเครียด”
ทั้งสองนิ่งเงียบ เหมือนกับหมดเรื่องคุย จู่ ๆ ธาวินก็ส่งมือมาจับมือของหญิงสาวแน่น เธอหันหน้าไปมองเขาทันที มุกเรียงได้เจอกับสายตาของธาวินจ้องสบตามาแบบมีนัย หญิงสาวใจเต้นแรงตุ๊บ ๆ
“พี่อยากให้มุกรู้จากปากของพี่ พี่ถามหัวใจตัวเองแล้ว พี่อยากแต่งงานกับมุกนะ นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกกับมุกวันนี้”
มุกเรียงถึงกับตกตะลึง คำสารภาพออกมาตรง ๆ ของเขาเล่นงานให้ร่างกายของเธอมีเลือดเดือดพล่าน ตื่นเต้นจนร่างกายสูบฉีดโลหิตไปทั่วใบหน้า จนใบหน้าของเธอร้อนออกมาผ่าว ๆ ร้อนจนถึงใบหู
ธาวินอมยิ้มที่เห็นอาการกระดากอายของมุกเรียงได้อย่างชัดเจน เขาบีบกระชับมือของเธอให้แน่นกว่าเดิม
“พี่เลยอยากจะมาถามมุกด้วยตัวเองว่า มุกพร้อมที่จะแต่งงานกับพี่ไหม มุกอยากเป็นภรรยาของพี่ไหม” น้ำเสียงที่สุดแสนจะจริงใจ พร้อมกับใบหน้าและสายตาที่มุ่งมั่น
มุกเรียงหัวใจเต้นเร็ว เกิดมายังไม่เคยมีแฟนสักครั้ง หนุ่ม ๆ แทบไม่ได้เฉียดเข้าใกล้เธอ จู่ ๆ พี่มาร์ชมาสารภาพความรู้สึก และขอเธอแบบนี้ หญิงสาวตัวสั่นไปหมดแล้ว มือที่ถูกธาวินกุมอยู่เย็นเฉียบ เขามองหน้าเธอแล้วยิ้ม ๆ เห็นใบหน้าแดงของมุกเรียงแดงระเรื่อ ใบหูทั้งสองข้างของเธอก็ออกสีแดงไปด้วย จากการเป็นคนพูดเก่งคุยจ้อ พอเจอมุกนี้ของธาวิน เธอถึงกับเหวอไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
ธาวินยกนิ้วเชยปลายคางของมุกเรียงที่ก้มหน้ามองต่ำ
“ว่าไง ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยสิครับ” สายตาที่แสนจะอ้อนวอน มุกเรียงพยักหน้าน้อย ๆ แทนคำตอบ ธาวินก็พอจะรู้คำตอบแล้วว่า มุกเรียงยินดีที่จะแต่งงานกับเขา เพียงแต่เขาอยากได้ยินจากปากของหญิงสาวเท่านั้น
“พี่มาร์ชคะ มุกอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์ค่ะ แต่มุกจะพยายามเป็นภรรยาที่ดี แล้วจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มุกยินดีแต่งงานกับพี่ค่ะ” เธอยกมุมปากเป็นรอยยิ้มพิมพ์ใจ
มือแข็งแรงของเขาดึงเธอเข้ามากอด ก่อนที่เขาจะจุมพิตเธอที่กลางหน้าผาก
“พี่ไม่ได้ต้องการคนที่สมบูรณ์พร้อม แต่ในเวลาที่พี่เหนื่อยจากทำงาน กลับมาถึงบ้านแล้วพี่ได้เจอมุกที่คอยให้กำลังใจพี่เสมอแค่นี้ก็พอแล้ว”
มุกเรียงเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าของธาวินก็ฉกลงมาทันที ริมฝีปากหนาได้รูปของเขาก็ปิดปากของเธอเสียสนิท ปลายลิ้นเรียวควานหาความหวานละมุนในโพรงปากของเธออย่างดูดดื่ม เธอรู้สึกอิ่มเอมไปกับรสจูบของเขา เสียงของสองหัวใจที่เต้นดังสอดคล้องประสานเหมือนเป็นหนึ่งเดียว
ตั้งแต่วันนั้น ทั้งคู่ก็ตัวติดกัน นัดเจอกันทุกวัน คุยกันทุกเรื่อง ทำตัวเหมือนคนรักที่กำลังดูใจกันและพร้อมที่จะแต่งงานกันแล้ว
เดือนหนึ่งผ่านไป ณ มหาวิทยาลัยของมุกเรียง
“อาจารย์มุกเรียงคะ มีคนมาขอพบค่ะ” มุกเรียงขยับแว่นตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากกองรายงานของนักศึกษา เธอยังงง ๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาหาเธอถึงที่นี่ นอกจากพี่ชายของเธอเอง ดร. ประมุข นอกจากนั้นก็ไม่เคยมีใคร
“ใครคะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วบอกชื่อมาไหมคะพี่รัตน์” มุกเรียงถามอุไรรัตน์แม่บ้านประจำตึก
“ไม่ค่ะ แค่ถามกับพี่ พี่ก็เลยเดินมาส่ง ตอนนี้เขายืนรออาจารย์มุกอยู่ที่หน้าห้องแล้วค่ะ”
“อ้าวเหรอ” มุกเรียงทิ้งงานลงทันที ก่อนจะหยิบมือถือใส่ลงไปในกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า แล้วเดินออกมาจากห้องทำงานเพื่อจะไปเจอกับเขาคนนั้น
ใบหน้าคมเข้มที่ยังดูดี ถึงแม้อายุจะมากแล้ว มุกเรียงจำสายตาแบบนี้ได้ คิ้วโด่งรับกับจมูกเป็นสันเหมือนกับคุณปู่วิศาล
“มุกเรียง” คุณกมลเรียกชื่อของเธอ
“สวัสดีค่ะคุณลุงกมล” เธอยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวคำทักทาย
คุณกมลรับไหว้มุกเรียงด้วยสีหน้าและแววตาไม่ได้ยินดียินร้ายที่ได้เจอเธอ และออกจะเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ขอเวลาคุยกันสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม มีตรงไหนที่เราสามารถคุยกันได้แบบเงียบ ๆ โดยไม่มีใครพลุกพล่านแถว ๆ นี้บ้าง”
มุกเรียงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเธอจะเจอว่าที่พ่อของสามีในอนาคตในวันนี้โดยที่ไม่ได้นัดหมาย ในใจของมุกเรียงรู้สึกไม่ค่อยดีเลย หน้าตาและท่าทาง รวมถึงลักษณะการมองมันทะแม่ง ๆ อย่างบอกไม่ถูก มุกเรียงหญิงสาวพยักหน้า เอ่ยปากบอกสถานที่ ก่อนที่เธอจะขึ้นไปนั่งบนรถของคุณกมลตามคำเชิญ