ชวัลดนย์เงียบไปสองวันจึงได้ติดต่อมาหามุกกันยาโดยการโทรศัพท์มาหา เบอร์ติดต่อของเธอนั้นชายหนุ่มสามารถสอบถามจากมนต์มีนาได้ตลอดเวลาเมื่อเขาอ้างว่าอยากจะคุยกับมุกกันยาเรื่องงาน มนต์มีนาไม่ลังเลที่จะให้เบอร์ส่วนตัวของเพื่อนกับชายหนุ่มเพราะคิดว่าชวัลดนย์เป็นคนดีและไว้ใจได้คนหนึ่งอีกทั้งยังคอยช่วยเหลือเธอกับลูกมาตลอด การที่ชวัลดนย์ต้องการติดต่อกับมุกกันยาเพื่อคุยเรื่องงานนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรและมนต์มีนาเองก็เคยแนะนำมุกกันยาไว้กับเขาอยู่แล้ว
เมื่อหญิงสาวรับสายก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มเอ่ยทักทายขึ้นก่อน
“สวัสดีครับ ผมเองนะ คุณสะดวกคุยรึเปล่า”
เวลาที่โทร. มาเพิ่งสองทุ่ม และเขาก็สอบถามคิวงานของเธอกับมนต์มีนามาล่วงหน้าแล้ว คิดว่าเวลานี้อีกฝ่ายน่าจะกำลังว่างอยู่
“สวัสดีค่ะ สะดวกคุยค่ะ คุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉันก็พูดมาได้เลย”
“เอ่อ...ผมอยากจะคุยเรื่องงานกับคุณน่ะครับ พอดีผมมีโพรเจกใหม่เกี่ยวกับรถ อยากจะหาพรีเซนเตอร์ที่ไม่ใช่พวกดาราหรือเซเลบที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว คุณมี่แนะนำผมให้ลองมาปรึกษาคุณดู ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีวันว่างที่ออกมานั่งดื่มกาแฟหรือทานขนมคุยงานกันมั้ยครับ”
มุกกันยาที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่เลิกคิ้วขึ้น ที่เขาพูดมานี่คืออยากจะคุยกับเธอแบบต่อหน้ามากกว่าเป็นการคุยงานผ่านทางโทรศัพท์สินะ หญิงสาวใช้เวลาครุ่นคิดกับตัวเองในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนจะตอบรับเขาไปว่า
“ก็สะดวกค่ะ เป็นพรุ่งนี้เลยก็ได้ ตอนเที่ยงคุณว่างรึเปล่า”
“ว่างครับ ถ้าเป็นตอนเที่ยงผมขออนุญาตเลี้ยงมื้อเที่ยงคุณเลยได้มั้ยครับ คุณมีร้านอาหารที่ชอบเป็นพิเศษมั้ยบอกผมมาได้เลย”
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ กลับมา บอกว่า “ไม่มีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมมีร้านอาหารอร่อย ๆ อยากจะพาคุณไปลองทานดู คุณสนใจมั้ยครับ”
ชายหนุ่มบอกชื่อร้านร้านหรูมีระดับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรมชื่อดัง มุกกันยาได้ยินชื่อร้านนี้บ่อยแต่เธอก็ยังไม่เคยไปลองชิมอาหารดูสักครั้ง เมื่อเขาเสนอมาก็ไม่เสียหายอะไรที่จะไป เธอจึงตอบตกลง ชวัลดนย์ตอบกลับมาว่า
“คุณจะให้ผมไปรับคุณมั้ย ผมสะดวกนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองดีกว่า แล้วเจอกันที่ร้านนะคะ”
“ครับ แล้วเจอกัน”
หลังวางสายมุกกันยาก็ทอดถอนลมหายใจออกมา แล้วนั่งคิดเกี่ยวกับตัวของชายหนุ่มกับตัวเอง ถ้าตัดอคติในเรื่องที่ว่าเขาเป็นพี่ชายของชญาพัฒน์ที่เคยตบหน้าเพื่อนรักของเธออย่างมนต์มีนาออกไปจากที่รู้จักและมีโอกาสได้อยู่กับเขาตอนที่พามันเดย์ออกไปเที่ยว เธอก็คิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง เวลาอยู่กับมันเดย์ก็ดูเป็นคนอบอุ่น สายตาที่มองมันเดย์ก็ดูเป็นคนที่รักเด็กจริง ๆ ประกอบกับที่มนต์มีนาก็พูดถึงเขาในแง่ดีให้เธอฟังเสมอ เมื่อพิจารณากับตัวเองแล้วมุกกันยาจึงอยากจะตัดเรื่องที่เธอมีความคิดไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขาออกไปจากใจ ผู้ชายในคืนนั้นไม่มีทางเป็นเขาอย่างแน่นอน
วันต่อมามุกกันยาขับรถมายังสถานที่ที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ก่อนจะขึ้นลิฟต์มายังร้านอาหารที่อยู่ชั้นบนสุดของตัวตึก มีบริกรมาให้การต้อนรับพร้อมกับเชื้อเชิญเธอไปยังโต๊ะที่มีชายหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อทั้งสองพบหน้ากันก็ยิ้มทักทายตามมารยาทโดยที่ต่างฝ่ายต่างมองการแต่งตัวและชื่นชมกันอยู่ภายในใจ
ชวัลดนย์แต่งกายด้วยชุดสูทสีเข้มในมาดนักธุรกิจของเขาอยู่แล้ว ส่วนตัวเธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีดำปาดไหล่เข้ารูป ทำผมลอนเป็นคลื่นปล่อยสยายเป็นธรรมชาติ แต่งหน้าเน้นแบบสวยและแพงเนื่องจากว่าพอคุยธุระกับเขาจบมุกกันยาจะไปสอนคลาสพัฒนาบุคลิกภาพที่สตูดิโอต่อจึงแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการแบบเรียบแต่หรูเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่บรรดาสาว ๆ ที่มาเรียน
“มานานแล้วเหรอคะ”
“ไม่นานเท่าไหร่ครับ คุณอยากทานอะไรสั่งได้เลยไม่ต้องเกรงใจมื้อนี้ผมเลี้ยงเต็มที่”
มุกกันยายิ้มบาง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติออกมา ไม่ได้เคลือบแฝงจริตมารยาแต่ด้วยความสวยและบุคลิกภาพที่ดีของเธอทำให้เพิ่มเสน่ห์ในตัวหญิงสาวยิ่งขึ้น
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันคงทานไม่เยอะหรอกค่ะ”
มุกกันยาสั่งสลัดแซมอนอาโวคาโดและน้ำแร่ส่วนชวัลดนย์สั่งสเต็กเนื้อวากิวและไวน์แดง
ขณะที่รออาหารที่สั่งไปมาเสิร์ฟมุกกันยาก็เริ่มเป็นฝ่ายถามเขาถึงเรื่องงานขึ้นมาว่า
“เรื่องงานที่คุณต้องการให้ฉันช่วยคืองานอะไรเหรอคะ”
“อ้อ...อืม”
ชายหนุ่มสบตากับดวงตาคู่สวยแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า
“ผมมีโพรเจกที่จะทำการแข่งรถด้วยน่ะครับ จึงอยากให้คุณกลอยช่วยแนะนำพริตตีที่คุณดูแล้วว่าเหมาะสมจะทำหน้าที่ต่าง ๆ ภายในงานให้ผมหน่อย คือถ้าจะหาผ่านเอเจนซีอย่างที่เคยทำมาผมก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ คุณมี่แนะนำว่าให้ผมปรึกษาคุณดู เผื่อคุณสนใจรับงานด้วย ผมก็เลย...อยากเสนองานนี้ให้คุณ”
มุกกันยายิ้มพร้อมกับพยักหน้าเป็นความหมายว่าเธอเข้าใจคอนเซ็ปต์งานที่เขาพูด โดยส่วนตัวของเธอเคยผ่านงานแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนจนตอนนี้อายุมากขึ้นเธอก็อยากปลีกตัวออกไปทำงานด้านอื่นที่ตนเองมีความสนใจ เช่นตอนนี้ที่เปิดสตูดิโอสอนเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพ แต่ก็ยังมีรับงานอิเวนต์รถหรูที่เป็นงานใหญ่ ๆ อยู่บ้าง และการที่เธอทำงานในวงการนี้มากว่าสิบปีแน่นอนว่าเธอย่อมมีคอนเน็กชันหลายทางและประสบการณ์ทำงานที่อัดแน่น
ทั้งคู่คุยกันไปพลางพร้อมกับรับประทานอาหาร มุกกันยารู้สึกสนใจงานที่ชวัลดนย์เสนอมาให้ การพูดคุยเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งมีผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาหาทั้งคู่โดยที่ไม่ได้เชื้อเชิญ หนึ่งในสองคนนั้นคือชญาพัฒน์น้องสาวของชวัลดนย์ที่บังเอิญชวนเพชรไพลินมารับประทานอาหารที่นี่เช่นกัน
“พี่โชแปงมากับใครคะ”
เพราะเห็นว่าพี่ชายมานั่งรับประทานอาหารกับผู้หญิงที่ตนเองไม่รู้จักมาก่อน และเชื่อด้วยสายตาว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพี่ชายคงไม่ใช่คนในสังคมระดับเดียวกันกับพวกเธอแน่ ชญาพัฒน์จึงใช้สีหน้าและแววตาที่ไม่ได้ให้เกียรติผู้หญิงที่กำลังนั่งรับประทานอาหารกับพี่ชาย อีกทั้งเพชรไพลินคนที่ชญาพัฒน์หมายมั่นให้กับพี่ชายของเธอก็มาด้วยจึงออกตัวกีดกันผู้หญิงทุกคนที่อยากจะเข้าหาพี่ชาย
ชญาพัฒน์ใช้สายตามองมุกกันยาที่นั่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรออกมาตั้งแต่ทรงผมการแต่งหน้าแต่งตัวแอบรู้สึกอิจฉาความสวยที่ลงตัวไปเสียทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้ รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน วินาทีต่อมาเธอก็นึกออกว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน...นี่มันนางแบบเครื่องเพชรเมื่อคืนนั้นนี่ พอรู้แบบนี้อคติที่มีอยู่ในใจก็กระตุ้นฤทธิ์ของเธอออกมา
“อ๋อ มิน่าถึงได้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้น ๆ นี่นางแบบถือเครื่องเพชรในงานคืนนั้นนี่นา ไม่ทราบว่าพี่โชแปงทำไมถึงได้มานั่งอยู่ที่นี่กับผู้หญิงคนนี้ได้คะ หรือว่า...” เหยียดปากพร้อมกับแววตาดูถูกมองมาที่มุกกันยาก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“...มานั่งตกลงเรื่องค่าตัวกันอยู่”
^
^
^
*** ใครสงสารชีชาในเรื่องนั้น มารู้จักนางในเรื่องนี้กันจ้ะ บอกเลอมันส์