นางแบบแต่ละคนเดินออกมาตามคิวกระทั่งถึงคิวของมุกกันยาที่ออกมาพร้อมกับชุดเครื่องเพชรไพลิน ‘Blue Heart of Sphinx’ ไพลินน้ำงามบนเรือนทองขาวประดับเพชรสไตล์วิกตอเรียน พร้อมต่างหูและแหวนที่สะกดสายตาผู้ชมให้จับจ้องมาที่เธออย่างไม่อาจละสายตาไปทางไหนได้ ไม่สามารถบอกได้ว่าด้วยรูปร่างหน้าตาของนางแบบหรือชุดเครื่องประดับชุดฟินาเลที่อยู่ในมือของเธอกันแน่ที่ดึงดูดสายตาคนในงานเอาไว้ แต่ที่แน่ ๆ สายตาของผู้ชายแท้เกือบทุกคนที่มาร่วมงานคืนนี้ต่างมองและสนใจในตัวของนางแบบมากกว่าชุดอัญมณีในมือของเธอแน่นอน รวมถึงเขาคนนี้ด้วย
ชญาพัฒน์ที่ควงคู่พี่ชายของเธอมาร่วมงานแทนบิดามารดาที่ไปเที่ยวต่างประเทศพอเห็นชุดเครื่องประดับชุดฟินาเลในมือของนางแบบสาวเมื่อครู่ก็เกิดถูกใจ อยากให้พี่ชายประมูลไปเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์คุณหญิงชลาลัยผู้เป็นมารดาที่พลาดงานประมูลนี้จึงหันมาพูดกับพี่ชายว่า
“พี่โชแปงประมูลชุด ‘Blue Heart of Sphinx’ เมื่อกี้ไปให้คุณแม่สิคะ ชาว่าคุณแม่ต้องดีใจมาก ๆ แน่เลย ชาได้ยินว่าคุณแม่บ่นอยากได้เครื่องประดับชุดใหม่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ ชาเห็นชุดนี้สวยมากและไม่มีที่ไหนมาก่อนเลย พี่โชแปงซื้อให้คุณแม่เลยนะคะ”
ชญาพัฒน์ยุพี่ชายให้ร่วมประมูลชุดไพลินที่เป็นไฮไลต์งานคืนนี้กลับไปให้มารดา ส่วนตัวของเธอนั้นยังเป็นยังไม่ค่อยชอบการประโคมเครื่องเพชรเครื่องพลอยแบบนี้สักเท่าไหร่เพราะดูจะไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์สาวหวานซ่อนเปรี้ยวแบบเธอนัก พอพูดกับพี่ชายแล้วเธอก็หันไปยิ้มกับหญิงสาวไฮโซตระกูลดังคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างกัน
‘เพชรไพลิน วิเศษไพบูลย์กุล’ หรือพราว เพื่อนของชญาพัฒน์ที่อยากจะแนะนำให้พี่ชายได้รู้จัก และถ้าจะสานความสัมพันธ์กันในระยะยาวกันได้ก็จะก็ยิ่งดี เพราะเธอนั้นเลือกมาเองแล้วว่าทายาทตระกูลธุรกิจเครื่องดื่มคนนี้เหมาะสมกับพี่ชายเธอทุกตรงอย่างไร้ที่ติ ที่สำคัญก็เข้ากันกับตัวเธอได้ดีเป็นอย่างมากในทุกเรื่อง
ชวันดลย์นั้นทราบอยู่แล้วถึงเจตนาของน้องสาวที่ชวนกึ่งคะยั้นคะยอให้เขามาร่วมงานในค่ำคืนนี้ด้วยเพื่อจะแนะนำเพื่อนผู้หญิงให้กับเขา ซึ่งชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธ เขาดูแลเทกแคร์เพชรไพลินเป็นอย่างดีในฐานะเพื่อนของน้องสาว ส่วนเรื่องอื่นนั้นชายหนุ่มยังไม่ได้มีความรู้สึกอะไรใด ๆ เขาเพิ่งจะเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นก็เมื่อได้เห็นหน้านางแบบคนเมื่อสักครู่ที่เดินถือชุดเครื่องประดับไพลินออกมานั้นต่างหาก
ชวันดลย์ยังติดใจตอนที่มุกกันยานั่งรถกลับมาจากชะอำกับเขาสองคน ในตอนนั้นเธอเอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทางและหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลาเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ เขาพยายามชวนคุยทว่าหญิงสาวก็ตอบเพียงว่า รู้สึกไม่ค่อยสบาย จากนั้นก็หลับตาลงจนเข้าเขตกรุงเทพฯ และเขาต้องถามทางไปคอนโดมิเนียมของเธอ
พิธีกรในงานกำลังกล่าวถึงเครื่องประดับแต่ละชุด จากนั้นบรรดานางแบบก็เดินถือเครื่องประดับชุดที่ตนเองรับผิดชอบออกมายืนอยู่ด้านหน้าเวทีเมื่อเริ่มการประมูล บรรดาผู้เขาร่วมงานจากแวดวงนักธุรกิจสนใจร่วมประมูลเครื่องประดับแต่ละชุดกันอย่างคึกคัก และชุดมรกตก่อนหน้าชุดไพลินที่มุกกันยาเป็นคนนำเสนอนั้นถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึงสามสิบล้านบาท จนมาถึงชุดสุดท้าย ‘Blue Heart of Sphinx’ ซึ่งราคาประมูลเริ่มต้นมีมูลค่าสูงที่สุดในค่ำคืนนี้ ราคาเริ่มต้นยี่สิบล้านบาท นางแบบสาวคนเดิมเดินออกมาด้วยท่วงท่าที่สง่างาม แสงจากสปอตไลต์ดวงใหญ่ส่องมาที่ตัวเธอ มุกกันยารู้ดีว่าทุกสายตารวมถึงตากล้องกำลังจับภาพการเคลื่อนไหวทุกฝีเก้าของเธออยู่ หญิงสาวเดินด้วยท่วงท่าที่สง่างามพร้อมเปิดรอยยิ้มทรงเสน่ห์เพิ่มความงดงามและคุณค่าให้แก่ชุดเครื่องประดับที่เธอกำลังพรีเซนต์อยู่อย่างมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านงานด้านนี้มานับไม่ถ้วนทำให้เธอรู้ถึงการวางตัวให้เหมาะสมในแต่ละประเภทของงานเป็นอย่างดี
ร่างโปร่งบางที่สวมชุดเข้ากับรูปร่างที่มีสัดส่วนเย้ายวนหยุดอยู่ด้านหน้าเวที อวดโฉมชุดเครื่องประดับราคาแพงให้ผู้ชมได้เห็นโดยทั่วกันขณะที่พิธีกรในงานพูดบรรยายและเริ่มราคาประมูลที่ยี่สิบล้านบาท
“สวยมากเลยค่ะพี่โชแปง ยิ่งดูใกล้ ๆ ยิ่งสวย คุณแม่ต้องชอบมากแน่ ๆ พี่โชแปงต้องเอาเครื่องเพชรไพลินชุดนี้มาให้ได้นะคะ”
ชวัลดนย์หันไปสบตากับน้องสาวโดยที่เขาไม่ได้ตอบคำใดออกมา ก่อนจะมีเสียงจากนักธุรกิจวัยกลางคนพูดราคาขึ้นว่า
“ยี่สิบห้าล้านครับ”
“ยี่สิบหกล้านค่ะ” เสียงคุณหญิงด้านข้างชูป้ายในมือและบอกราคาประมูลของตน ราคาประมูลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ บรรดานักธุรกิจเริ่มแข่งขันกันประมูลอย่างดุเดือด ซึ่งเมื่อราคาขยับไปถึงสี่สิบล้านบาทเสียงคนที่ยังสู้ราคาอยู่จะเป็นจากนักธุรกิจชายล้วน ๆ และจากสายตาของคนที่กำลังบอกราคาประมูลกันอยู่นั้น ชวัลดนย์อ่านออกทันทีว่าสิ่งที่พวกเขาอยากจะได้ไม่ใช่เครื่องเพชรไพลินเพียงอย่างเดียวแน่ ๆ
“สี่สิบล้านบาทครั้งที่หนึ่ง สี่สิบล้านบาทครั้งที่สอง...สี่สิบล้านบาทครั้งที่...”
“ห้าสิบล้านบาทครับ”
ที่สุดแล้วชวัลดนย์ที่นั่งเงียบมาตลอดก็ส่งเสียงขึ้นมาส่งผลให้ผู้คนต่างหันไปมองที่เขาเป็นตาเดียว บางคนยิ้มเมื่อได้เห็นว่าคนที่เสนอราคานั้นเป็นใคร นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ตระกูลประกอบธุรกิจหลายอย่างทั้งในและต่างประเทศนี่เอง ชายหนุ่มนั่งแท่นประธานกรรมการบริหารบริษัทนำเข้ารถหรูชั้นนำของประเทศ รวมถึงบริษัทในเครือที่นำเข้าอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ ยังไม่นับรวมธุรกิจอื่น ๆ ของครอบครัว
มุกกันยาหันไปสบตากับดวงตาคู่คมที่จับจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว มีแวววูบไหวในดวงตาคู่สวยเมื่อได้พบเขาในงานคืนนี้
พิธีกรร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะประกาศหาคนที่จะเสนอราคาประมูลเพิ่มอีกครั้ง
“มีใครให้มากกว่าห้าสิบล้านบาทมั้ยครับ...ห้าสิบล้านบาทครั้งที่หนึ่ง...ห้าสิบล้านบาทครั้งที่สอง...ห้าสิบล้านบาทครั้งที่...สามครับ เครื่องเพชรไพลินชุด Blue Heart of Sphinx มีเจ้าของเรียบร้อยแล้วนะครับและราคาที่ประมูลได้คือห้าสิบล้านบาทครับ”
พิธีกรบนเวทีกล่าวต่ออีกว่า
“และแล้วเจ้าของเครื่องประดับเพชรไพลินเลอค่าชุดนี้ก็คือนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่มีดีกรีเป็นหนุ่มโสดในฝันสาว ๆ เมื่อปีที่แล้วและตอนนี้ก็ยังคงเป็นครองตำแหน่งนั้นอยู่ นั่นก็คือคุณชวัลดนย์ วัฒนาวรดล ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเครื่องเพชรชุดนี้ประดับอยู่บนตัวของสุภาพสตรีท่านใดส่วนจะเป็นใครก็ต้องมาคอยดูกันต่อไปนะครับ แต่ตอนนี้เรียนเชิญเจ้าของเครื่องเพชรคนใหม่ขึ้นมารับมอบชุดเครื่องเพชรไพลิน Blue Heart of Sphinx บนเวทีเลยครับ แต่ว่ารับเฉพาะเครื่องเพชรนะครับ ส่วนตัวนางแบบยังอยู่กับเราครับ”
พิธีกรหนุ่มมากความสามารถกล่าวแซวแขกในงาน ชญาพัฒน์นั่งปรบมือยิ้มหน้าบานด้วยเช่นกัน เพราะคนที่มาในงานต่างรู้จักกันหมดทั้งนั้นเมื่อพี่ชายของเธอประมูลเครื่องประดับราคาไม่ธรรมดาได้หญิงสาวก็ย่อมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเสียงปรบมือชื่นชมนั้นด้วย
ช่วงจังหวะหนึ่งที่สายตาของมุกกันยาสบกับดวงตาคมของเขาอีกครั้งโดยไม่ได้เอ่ยวาจาใดออกมาขณะที่เขาขึ้นมารับมอบชุดเครื่องประดับล้ำค่าจากมือเธอไป ก่อนที่มุกกันยาจะเดินกลับเข้าหลังเวทีชวัลดนย์ก็ได้โน้มใบหน้าเข้ามาพูดกับเธอเป็นเสียงกระซิบว่า
“อยากคุยกับคุณนะ ขอคุยด้วยได้มั้ยครับ”
หญิงสาวสบตากับเขาพลางคิดบางอย่างในใจก่อนจะตอบว่า
“วันนี้คงไม่สะดวกมั้งคะ”
“เป็นวันหลังก็ได้ครับ ผมขออนุญาตติดต่อคุณกลับไปนะ”
“...ก็ได้ค่ะ”
เมื่อจบหน้าที่ด้านหน้าเวทีมุกกันยาก็เดินกลับเข้าไปด้านหลังเวที ส่วนชญาพัฒน์และเพชรไพลินที่เห็นว่าชวัลดนย์เหมือนกระซิบอะไรกับนางแบบถือเครื่องประดับชุดที่ประมูลได้ต่างก็สงสัยกับภาพที่เห็น
“พี่ชายของเธอคุยอะไรกับนางแบบคนนั้นน่ะ”
ชญาพัฒน์ที่กำลังทำหน้าที่แม่สื่อแม่ชัก ชักนำคนที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดมาให้พี่ชายหันมาส่ายหน้าบอกกับเพื่อนสาวอย่างไม่ให้อีกฝ่ายคิดอะไรมากว่า
“อย่าคิดมากเลยน่า ก็คงทักทายกันธรรมดาแหละ พี่โชแปงไม่ใฝ่ต่ำไปมองนางแบบพวกนั้นหรอก ถึงจะสวยแต่เชื่อเถอะ ผู้หญิงพวกนี้น่ะมีพวกเสี่ยคอยเลี้ยงดูทั้งนั้น...ฉันว่าเราขึ้นไปถ่ายรูปร่วมกับพี่โชแปงดีกว่า”
ชญาพัฒน์คว้ามือเพชรไพลินเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อถ่ายรูปร่วมกับพี่ชาย เมื่อสิ้นสุดการประมูลเครื่องประดับในวันนี้แล้วยังมีการแสดงจากศิลปินนักร้องชื่อดังให้แขกในงานเพลิดเพลินกันต่ออีกด้วย
หลังจากรับมอบเครื่องเพชรไพลินชุด ‘Blue Heart of Sphinx’ ที่ประมูลได้เรียบร้อยแล้ว ชวัลดนย์ที่ไม่ต้องการจะอยู่ในงานต่อจึงบอกกับน้องสาวว่า
“ชาพี่อยากกลับบ้านแล้วนะ พรุ่งนี้พี่มีประชุมตอนเช้า”
“เหรอคะ เอาไงดี”
น้องสาวหันไปมองหน้าเพชรไพลินอย่างขอความเห็น อีกฝ่ายจึงยิ้มหวานมาทางชวัลดนย์แล้วบอกว่า
“เรากลับกันเลยก็ได้นะจ๊ะชา พรุ่งนี้พราวเองก็ต้องเข้าบริษัทกับคุณพ่อเหมือนกัน คุณพ่อจะให้เราเรียนรู้งานที่บริษัทแล้วน่ะ”
“อืม กลับเลยก็ได้ค่ะพี่โชแปง ยังไงพี่โชแปงก็ต้องขับรถไปส่งพราวที่บ้านด้วยอยู่ดี”
เพราะพี่ชายทำสีหน้าจริงจังชญาพัฒน์จึงไม่อยากขัดใจ ความจริงแล้วตัวเธอเองก็ไม่ค่อยชอบงานเครื่องเพชรเครื่องพลอยแบบนี้สักเท่าใดนัก แต่ที่มาในคืนนี้ก็มีวัตถุประสงค์หลักอย่างอื่น คืออยากให้พี่ชายได้รู้จักกับเพชรไพลินเพื่อนสาวคนล่าสุดของเธอซึ่งมีดีกรีมากกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งเธอคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสมกับพี่ชายของเธออย่างที่สุด
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ เรื่องนี้ก็มาม่าค่า