ธุระที่มุกกันยาบอกกับชวัลดนย์และพยายามหาเรื่องปลีกตัวออกมานั้นคือกลับมาสอนคอร์สบุคลิกภาพที่สตูดิโอ มนต์มีนาสอบถามความคืบหน้าเรื่องงานที่มุกกันยาไปคุยกับชวัลดนย์
“วันนี้เป็นยังไงบ้าง โพรไฟล์ของน้อง ๆ ที่เอาไปให้คุณโชแปงดู เขาสนใจมั้ย”
มุกกันยาสั่นหน้าเบา ๆ แกมยิ้ม เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เขาได้เปิดดูแฟ้มประวัติของหญิงสาวที่ส่งให้ดูหรือยัง
“ยังไม่รู้เหมือนกัน เหมือนจะยังไม่ได้เปิดดูนะ แต่เขาบอกว่าเขาเชื่อสายตาแกนะ”
มนต์มีนายิ้ม มองมุกกันยาด้วยสายตาเป็นคำถามกึ่งล้อเลียนจนมุกกันยาถามว่า
“มองหน้าฉันแบบนี้หมายความว่าไง”
“ก็อยากจะรู้ว่าที่บอกว่าเชื่อสายตาน่ะ เชื่อสายตาฉันหรือสายตาแกกันแน่”
“ทำไมพูดแบบนี้จ๊ะ ก็ต้องเชื่อสายตาของแกสิ ก็ฉันบอกว่าแกเป็นคนเลือก”
มุกกันยาบอกปัดเพราะไม่อยากโดนเพื่อนรักจ้องมองด้วยสายตาเหมือนจะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้เธอแบบนี้ ถึงวันนี้ผู้ชายคนนั้นจะพูดออกมาแล้วว่าอยากจะจีบเธอก็เถอะ หญิงสาวจึงตัดบทเปลี่ยนเรื่องพูดเป็นถามมนต์มีนากลับไปว่า
“แล้วแกกับคุณจินเป็นยังไงบ้าง วันนี้มันเดย์ไปกับพ่ออีกเหรอ นี่ฉันถามหน่อยได้มั้ย แกกับคุณจินมีโอกาสกลับไปคบกันเหมือนเดิมปะ”
สีหน้าของมนต์มีนาเปลี่ยนไปแวบหนึ่ง ไม่ถึงกับเศร้าแล้วบอกว่า
“ไม่รู้สิ คงต้องดูไปก่อน อะไร ๆ มันก็ไม่แน่นอนหรอก ตอนนี้สิ่งที่ฉันกับเขาคิดตรงกันก็เพียงแค่เรื่องลูก เรื่องอื่นเขาจะคิดยังไงฉันไม่รู้แล้วก็ไม่สนใจด้วย”
“เอาจริงนะ ฉันว่าถ้าเขาพิสูจน์ได้ว่าเขารักแกรักลูกจริงฉันก็สนับสนุนนะมี่ ฉันอยากเห็นมันเดย์มีครอบครัวที่อบอุ่น มีครบทั้งพ่อและแม่”
“อ้าว แล้วแกคิดว่าตอนนี้ลูกฉันไม่อบอุ่นเหรอไง เห็น ๆ อยู่ว่าแกกับคุณโชแปงก็สปอยล์กันอยู่”
มนต์มีนามองเพื่อนด้วยสายตากึ่งหมั่นไส้ มุกกันยาถอนหายใจพลางพูดว่า
“มันเหมือนกันซะที่ไหน ระหว่างคนอื่นกับพ่อแท้ ๆ คนเราพอโตขึ้นมุมมอง ความคิด อะไร ๆ มันก็ย่อมเปลี่ยนไปตามเวลาและประสบการณ์ ดูเขาก็มีความรับผิดชอบมากเลยนะ ที่แกบอกว่าถึงตารางที่เขาจะได้เจอลูกเขาก็ไปรอรับลูกที่โรงเรียนทุกวัน”
มุกกันยาพูดจากมุมมองที่รู้จักคนมาไม่น้อยสถานการณ์เปลี่ยนคนก็มีสิทธิ์เปลี่ยนตาม บรรดาเพื่อนร่วมอาชีพที่รัก ๆ เลิก ๆ กับคนที่ไม่ได้เรียกว่าสามียังสามวันดีสี่วันเลิก บางคนมีลูกด้วยกันตั้งสองสามคนก็ยังมีปัญหาชีวิต สุดท้ายก็ไม่พ้นกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่เธอมองเห็นว่าจวินไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น ทำไมมนต์มีนาถึงใจแข็งได้นานขนาดนี้
ฝ่ายซอนย่าที่กลับออกมาจากเข้าไปคุยงานกับชวัลดนย์ก็ติดต่อหาชญาพัฒน์ทันทีเพื่อจะแจ้งผล หญิงสาวจึงให้อีกฝ่ายมาพบที่ร้านเสื้อผ้าของเธอซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมือง ด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งของเอเจนซีร่างยักษ์ทำให้ชญาพัฒน์ที่เห็นนิ่วหน้าตาม
“เป็นยังไงบ้างคะพี่ซอนย่า พี่โชแปงตกลงให้พี่ทำโพรเจกต์ด้วยแล้วใช่มั้ย”
ซอนย่าเบ้หน้า กระแทกลมหายใจอย่างแรงแล้วบอก
“ตกลงค่ะ...” เว้นคำพูดไปครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นใหม่ด้วยน้ำเสียงพาลโมโหว่า
“ตกลงทำกับนังกลอยค่ะ”
“อ้าว ทำไมเป็นงั้น ไหนว่าพี่ซอนย่าเก่งนักเก่งหนา คุยงานกับใครก็ไม่มีพลาด” ชญาพัฒน์ใช้น้ำเสียงเชิงดูถูกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำงานพลาด ซอนย่าลอบเบ้หน้าด้วยความไม่ชอบใจพลางคิดในใจว่า ‘พูดจาสุนัขไม่แลแบบนี้ มิน่าล่ะผู้ชายถึงได้ทิ้ง’
“ที่มาพลาด เพราะนังกลอยมันมีหม้อน่ะค่ะ แต่พี่ซอนย่าไม่มีค่ะ สงสัยคุณโชแปงได้ชิมแกงในหม้อนังกลอยแล้วมั้งคะถึงได้ไล่ซอนย่าออกมาทั้งที่ยังไม่ได้นำเสนออะไรเลย”
ชญาพัฒน์ฟังแล้วมีสีหน้าเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม มือกำแน่น ทำท่าเหมือนจะกรีดร้องออกมา หญิงสาวเดือดดาลในใจคิดว่ากำจัดมนต์มีนาออกไปได้แล้วแต่ก็ยังไม่วายจะมีเหมือนมันเข้ามาวุ่นวายกับชวัลดนย์อีกคน
“นี่ฉันกำจัดนังมี่ไปแล้วยังเหลือนังกลอยนี่อีกเหรอ”
หญิงสาวจ้องมองไปทางซอนย่า เหมือนต้องการหาตัวช่วยแล้วพูดว่า
“แล้วพี่ซอนย่ามีวิธีไหนที่จะทำให้นังนั่นออกไปจากชีวิตพี่โชแปงมั้ยคะ”
ซอนย่านิ่วหน้า เพราะไม่รู้ว่าทำไมชญาพัฒน์ถึงได้แสดงท่าทีรังเกียจมุกกันยาขนาดนั้น ทำหน้าใสซื่อถามด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมว่า
“ทำไมน้องชาถึงไม่ชอบนัง เอ้ย ยัยกลอยขนาดนี้ล่ะคะ เอ...มีปัญหากันเรื่องผู้ชายกันเหรอคะ อันนี้พี่ซอนย่าขอโทษนะคะ คือปกติถ้าชะนี เอ๊ย...ผู้หญิงจะเกลียดกันขนาดนี้มันก็มีไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ”
ชญาพัฒน์หายใจแรงด้วยความโกรธ พูดเสียงกระแทกว่า
“กับนังนี่ไม่ใช่เรื่องผู้ชายหรอกค่ะ ที่มีปัญหาเรื่องผู้ชายนั่นคือนังมี่เพื่อนนังกลอยนี่ต่างหาก”
ซอนย่าทำหน้าอ๋อเมื่อได้ยินชื่อมนต์มีนา พริตตีดาวเด่นอีกคนที่ตอนนี้ได้ข่าวว่าวางมือจากวงการไปแล้ว
“อ๋อ มี่ มนต์มีนาน่ะเหรอคะ”
“พี่ซอนย่ารู้จักมั้ยคะ”
ซอนย่าจีบปากจีบคอตอบ
“รู้จักสิคะ ก็บอกแล้วไงว่าซอนย่าน่ะกว้างขวางในวงการพริตตี ตั้งแต่ระดับล่างสุดถึงบนสุดเลยล่ะค่ะ”
“ถ้างั้นพี่ซอนย่าก็รู้แล้วใช่มั้ย ว่าชาไม่ต้องการให้คนพวกนี้มายุ่งกับพี่โชแปง เห็นชัด ๆ แล้วว่านังนั่นต้องการจับพี่โชแปงแน่ ๆ รู้แบบนี้พี่ซอนย่าจะช่วยชากำจัดนังนั่นได้รึเปล่า ถ้าสำเร็จชาจ่ายไม่อั้น”
ซอนย่าตาลุกวาว จีบนิ้วมือทำสัญลักษณ์ว่าตกลงรับงานนี้ สีหน้าซอนย่าบ่งบอกความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจออกมาทันที
“พี่รับงานนี้ด้วยความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งเลยค่ะคุณน้องชาขา”
เอเจนซีสาวประเภทสองปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต ชญาพัฒน์ยิ้มอย่างสมใจที่เรื่องนี้จะมีตัวช่วยอีกคน
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้าาาา ต้มน้ำร้อนรอมาม่าไว้เลอ