“กรี๊ดดด”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของยามค่ำคืนดึกสงัด ร่างบนเตียงผวาผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง เธอแน่ใจว่าเมื่อครู่ได้ยินเสียงคนร้องดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้านหลังนี้ พยายามเงี่ยหูฟังแต่ทุกอย่างกลับเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงใดดังขึ้นมาอีก
หญิงสาวรีบตวัดผ้าห่มที่คลุมร่างออก เมื่อรู้สึกเป็นห่วงใครบางคนขึ้นมา หรือจะเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว เธอรีบก้าวลงจากเตียง สวมรองเท้าแตะได้ก็ซอยเท้าวิ่งไปยังประตู มือเรียวค่อย ๆ แง้มประตูเปิดอย่างเบามือ พลางยื่นหน้าออกไปมอง
“ฮือ....ฮือ” เสียงร้องไห้ดังแว่วมาจากห้องนอนใหญ่
เท้าไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบกระชากประตูปิด ก่อนจะวิ่งตรงไปยังห้องที่เธอได้ยินเสียงคนร้องไห้ดังมา เกิดเรื่องกับน้าสาวของเธอแน่แล้ว
พอไปถึงหน้าห้อง หญิงสาวยกมือขึ้นจะเคาะประตู แต่ก็ชะงักด้วยความลังเล เพราะมันคือห้องส่วนตัวของพลอยขวัญและปฐวีสองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน ถึงแม้จะได้ยินเสียงทะเลาะกัน แต่ถ้าเธอโผล่เข้าไปจะถูกมองว่าเสือกเรื่องของผัวเมียหรือเปล่า
แล้วถ้าน้าสาวของเธอถูกทำร้ายล่ะ...ปิ่นรักคิดถึงหน้าน้าเขยขึ้นมา เขาเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูด และดูดุจนเธอไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นคนลงไม้ลงมือกับผู้หญิง แล้วถ้าเขาอดใจไม่ไหวเผลอลงมือทำร้ายภรรยาล่ะ
ไม่ได้การล่ะ หากพลอยขวัญถูกทำร้ายร่างกาย อย่างน้อยถ้าเธอเข้าไปห้ามก็น่าจะพอช่วยยับยั้งได้ ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจ มือยกขึ้นกำลังจะเคาะลงไป ก็พอดีประตูห้องเปิดออกมา
หญิงสาวชะงัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองจนแหงนตั้งบ่าเพราะร่างสูงใหญ่สูงกว่าเธอเกือบช่วงตัว สายตาคมดุ แข็งกร้าว กำลังจ้องมองเธอราวกับตำหนิ ทำให้ปิ่นรักหน้าซีดลง ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“เอ่อ...น้าวีคะ...กะ...เกิดอะไรขึ้น”
หนุ่มใหญ่เพียงแต่ปรายตามองปิ่นรักและไม่เอ่ยอะไรออกมา จากนั้นก็เดินผ่านหน้าหญิงสาวไปราวกับเธอเป็นอากาศธาตุ แค่นั้นก็ทำให้ปิ่นรักหมดความสนใจกับน้าเขย เธอรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างไม่สนใจมารยาทอีก
“น้าพลอย...น้าพลอยเป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นคะ แล้วนี่ร้องไห้ทำไม”
“ปิ่น... ฮื่อ...ฮื่อ”
พลอยขวัญเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร ปิ่นรักจึงทรุดตัวลงนั่งข้าง และยื่นมือไปกุมมือน้าสาวเอาไว้อย่างปลอบใจ
“น้าพลอย...เอ่อ...ทะเลาะอะไรกันอีกแล้วเหรอคะ” หลายครั้งที่เห็นพลอยขวัญร้องไห้ฟูมฟายเสียใจเพราะสามี ปิ่นรักก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้าสาวถึงไม่ยอมหย่าขาดจากน้าเขยให้มันจบ ๆ ไป ไม่เห็นต้องมาทนอยู่ ในเมื่อน้าของเธอทั้งสาวทั้งสวย จะมีคนใหม่ที่ดีกว่านี้ก็ได้
พอสิ้นเสียงถามของหลานสาว พลอยขวัญก็ฟุบหน้าลงกับหมอนและกรีดร้องโวยวายออกมาเสียงดัง ทำเอาปิ่นรักถึงกับสะดุ้งตกใจทำอะไรไม่ถูก เพราะครั้งนี้พลอยขวัญดูเสียใจและเจ็บปวดมากกว่าทุกครั้ง
“ฮื่อ...ฮื่อ...คุณวีเค้ามีคนใหม่ เค้าไม่รักฉันแล้ว...ปิ่น...คุณวีเค้าไม่รักฉันแล้ว...ฮื่อ...ฮื่อ”
เสียงร้องไห้โหยหวนของพลอยขวัญ ทำให้ปิ่นรักสงสารจับใจ และรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง มือเรียวค่อย ๆ ดึงร่างของน้าสาวเข้ามากอดปลอบ
พลอยขวัญกับปฐวีแต่งงานกันเมื่อห้าปีที่แล้ว ทั้งสองคนดูรักกันมาก ปฐวี น้าเขยของเธอเป็นคนเก่งและขยัน เขาเปิดบริษัทอาหารสำเร็จรูปส่งออก ร่วมลงทุนกับเพื่อนสนิท ซึ่งเมื่อห้าปีก่อนบริษัทเพิ่งเริ่มเปิดตัวไม่นาน ปฐวีจึงทุ่มเทให้กับงานแทบจะกินนอนอยู่ที่บริษัท
ส่วนพลอยขวัญก็ลาออกจากงาน มาเป็นแม่บ้านเต็มตัวคอยดูแลสามี ดูเหมือนจะสุขสบายดี อยากได้อะไรก็ได้ไม่เคยขาด บางครั้งพลอยขวัญช้อปปิ้งวันละเป็นแสน ปฐวีก็ไม่เคยว่าและยังตามใจทุกอย่าง
หลังจากแต่งงานกัน พลอยขวัญก็พาปิ่นรักย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของปฐวีด้วย ปิ่นรักเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทั้งคู่ พลอยขวัญจึงรับเธอมาเลี้ยง และกลายเป็นผู้ปกครองของเธอตั้งแต่นั้นมา
เธอกับน้าสาวสนิทสนมและรักกันดีราวกับพี่น้องคลานตามกันมา ด้วยอายุที่ห่างกันไม่มาก แต่ปิ่นรักก็ให้ความเคารพพลอยขวัญ นับถือเป็นทั้งแม่และพี่สาวอย่างสนิทใจ ยอมรับว่าตอนที่น้าสาวตัดสินใจแต่งงาน เธอรู้สึกไม่ชอบใจ หวงแหน และกลัวน้าสาวจะรักและสนใจคนอื่นมากกว่า
จนวันที่เธอได้เจอหน้าน้าเขยครั้งแรก ถึงแม้จะหน้าตาดีหล่อเข้ม แต่ปิ่นรักไม่กล้ามองหน้าเขาเต็มตาด้วยซ้ำ เพราะแววตาดุดัน และสายตาคมกริบที่มองมาราวกับเครื่องเอ็กซเรย์ทำให้เธออึดอัดและไม่อยากเข้าใกล้ ตอนนั้นภาวนาขอให้น้าสาวเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อพลอยขวัญตกลงแต่งงานกับปฐวี
ปิ่นรักสงสัยจนอยากเอ่ยปากถามน้าสาวหลายครั้งว่าทำไมถึงเลือกแต่งงานกับปฐวี ทั้งที่น้าสาวของเธอเป็นคนสวยมีเสน่ห์ และยังเป็นสาวสังคม คุยเก่ง จะเลือกผู้ชายที่ดีกว่านี้ก็ได้ ส่วนปฐวีเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย ใบหน้าเข้มดุและนิ่งเฉย เดาความคิดยาก ดูยังไงก็ไม่น่าเข้าใกล้ หรือมีเสน่ห์น่าหลงใหลตรงไหน
แต่พอนานวันเข้าเธอก็ได้รู้ว่า ปฐวีเป็นคนชอบทำมากกว่าพูด เด็ดขาดและจริงจัง ทำงานเก่ง กิจการที่ร่วมลงทุนกับเพื่อนก็เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด น้าสาวของเธอก็เลยกลายเป็นคุณนายสุขสบาย อยากได้อะไรก็ได้ บางทีเรื่องนี้น้าสาวก็ฉลาดและมองคนออกมากกว่าเธอ
แต่คราวนี้มันเกิดอะไรขึ้น เรื่องนอกใจอย่างนั้นเหรอ ที่ทำให้คนสองคนที่เคยรักกันมากทะเลาะกันแทบไม่เว้นแต่ละวัน จะบอกว่าทะเลาะกันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเธอไม่เคยได้ยินเสียงปฐวีสักครั้ง มีเพียงเสียงร้องไห้โวยวายของพลอยขวัญคนเดียว
“น้าพลอยแน่ใจเหรอคะ น้าวี...ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น” ปิ่นรักพูดออกมาอย่างที่ใจคิด เธอนึกภาพไม่ออกเลยว่าคนแบบปฐวีจะนอกใจน้าสาว
“แกจะไปรู้อะไร”
เมื่อร้องไห้จนสาแก่ใจ พลอยขวัญก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง มือเรียวขาวยกขึ้นเช็ดน้ำตา ดวงตาแดงก่ำ แต่ก็ไม่ทำให้ความสวยของน้าสาวเธอลดลง กลับยิ่งดูบอบบางน่าทนุถนอม ชุดนอนที่ยับยู่ยี่หลุดลุ่ยพลอยขวัญก็จัดให้เข้าที่เข้าทาง