“โธ่...นึกว่าอะไร เลือก ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวถ้าได้กินแล้วจะร้องว้าววว เพราะมันอร่อยคุ้มราคา ลองสั่งมาดูเดี๋ยวจะหาว่าพี่โม้”
“ไม่ต้องท้าค่ะ ปิ่นสั่งแน่” เธอหัวเราะออกมาเสียงใส เมื่อรุ่นพี่โฆษณาชวนเชื่อให้ลองลิ้มชิมอาหารตามที่เขานำเสนอ
“ดีมาก อย่าทำให้ป๋าเสียใจ”
โต้งยกมือขึ้นยีศีรษะรุ่นน้องและผลักโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู แต่สายตาคนนอกที่กำลังมองมา กลับเห็นว่าพวกเธอใกล้ชิดกันเกินกว่าจะเป็นแค่คนรู้จัก หรือไอ้หนุ่มนั่นจะเป็นคนรักของเธอ
ดวงตาแข็งกร้าว กรามขบแน่นโดยไม่รู้ตัว และยังคงจับจ้องอยู่ที่หนุ่มออฟฟิศกับสาวนักศึกษาคู่นั้นไม่วางตา
เธอเป็นของเขา ไม่มีสิทธิ์จะไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น
ปิ่นรักเดินลงจากรถเมล์ ก่อนจะเรียกมอเตอร์ไซด์วินให้เข้าไปส่งในซอย วันนี้เธอไปยื่นเอกสารและทำเรื่องสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง สมกับความมุ่งมั่นตั้งใจ อดไม่ได้ที่จะรีบกลับบ้านเอามาอวดน้าสาว
อีกเรื่องที่น่ายินดีคือ เธอผ่านการสัมภาษณ์งานแล้ว และรอเรียกตัวให้ไปเริ่มงาน ไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นบริษัทที่เธอกับปลายรุ้งเข้าไปฝึกงาน ไม่รู้ว่าเพราะรุ่นพี่ หรือเพราะพวกเธอผ่านการสัมภาษณ์เอง แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณรุ่นพี่อยู่ดีที่แนะนำงานให้
ขณะเดินตามถนนเข้าบ้าน ปิ่นรักก็ร้องเพลงออกมาอย่างมีความสุข กับความสำเร็จของตัวเอง เรียนจบและก็ได้งานทำด้วยเวลาอันรวดเร็ว ต่อไปนี้เธอก็สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว
หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน กลับเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่ สงสัยยังไม่มีใครกลับมา ในเมื่อพลอยขวัญยังไม่กลับ ปิ่นรักจึงตรงขึ้นห้องจะไปเปลี่ยนชุด และลงมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจรอเวลาน้าสาวกลับ
แต่ยังไม่ทันก้าวขึ้นบันได โทรศัพท์ในมือเธอก็ดังขึ้น ปิ่นรักยกขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครก็ชะงัก ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี จึงปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้นจนหยุดไปเอง แต่ไม่นานมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เธอยืนลังเลอยู่นาน หรือคนที่โทรมาอาจจะมีธุระร้อนก็ได้ จึงตัดสินใจกดรับสาย
‘ทำไมไม่รับโทรศัพท์’
“ปิ่นรับไม่ทันค่ะ พอดีวางไว้ที่ห้องรับแขก” เธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะกลายเป็นคนโกหกพูดจาได้คล่องปากมากขึ้น
‘เอาเอกสารมาให้หน่อย’
“เอกสารไรคะ”
‘สัญญาลูกค้า ฉันลืมไว้บนโต๊ะในห้องทำงาน’
“อ้อ...ค่ะ งั้นเดี๋ยวปิ่นโทรหาน้าพลอยให้เอาไปให้น้าวีนะคะ”
‘ไม่ต้อง!!’
คำปฏิเสธเฉียบขาดของเขา ทำเอาหญิงสาวถึงกับยืนอึ้ง พวกเขาทะเลาะอะไรกันอีก ในเมื่อพลอยขวัญเคยบอกว่าหากเธอยอมช่วย รอยร้าวของสองสามีภรรยาจะกลับมาดีเหมือนเดิม เธอก็ยอมทำแล้ว แต่ทำไมน้ำเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ เหมือนจะไม่ได้ผล
“เอ่อ....ให้คนขับรถวิ่งมาเอาดีมั้ยคะ ปิ่นจะได้ไปหยิบ...”
‘เสียเวลา กว่าจะวิ่งกลับไปกลับมา เธอนั่นแหละเอามา...เดี๋ยวนี้!!’
“แต่...”
‘อย่าเรื่องมาก รีบมา เย็นนี้ฉันต้องไปพบลูกค้า’
“เอ่อ...ค่ะ” ปิ่นรักรับคำเสียงอ่อย
เธอเพิ่งกลับมาบ้านยังไม่ทันนั่งให้หายเหนื่อย ก็ต้องออกไปอีก คำว่า เดี๋ยวนี้ ๆ ราวกับเธอขับรถเป็น สั่งปุ๊บก็เอาไปส่งปั๊บ มันใช่ที่ไหนกัน กว่าจะนั่งรถเมล์ไปถึง ดีไม่ดีอาจจะช้ากว่าให้คนขับรถวิ่งกลับมาเอาเสียอีก
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะปัญหาคือเธอไม่อยากเจอน้าเขย และตอนนี้เธอพยายามหลบหน้าเขาอยู่ หลังจากคืนนั้นที่ศาลากลางสวน ปิ่นรักสัญญากับตัวเองว่า หากพลอยขวัญไม่สั่ง เธอจะไม่ยอมข้องแวะหรือเข้าใกล้น้าเขยอีก
เสียงถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักใจ กำลังดีใจอยู่เชียว ไม่ทันไรก็ต้องมาเคร่งเครียดกับเรื่องของคนอื่น อยากอยู่ห่าง ๆ แต่เหมือนปฐวีจะไม่เข้าใจความต้องการของเธอ คงคิดว่าอยากเข้าหาเขาเสียเต็มประดา
...เฮอะ...มันใช่ที่ไหนกัน
ปิ่นรักกดเบอร์โทรหาพลอยขวัญ แต่อีกฝ่ายกลับปิดเครื่อง หรือบางทีอาจจะแบตเตอรี่หมด เพราะเธอโทรหาหลายครั้งก็ยังรับฝากข้อความเหมือนเดิม หญิงสาวจึงเลือกจะส่งไลน์บอก
Pin : น้าพลอย
Pin : ปิ่นเอาเอกสารไปให้น้าวีที่บริษัทนะคะ
Pin : จะกลับเย็นๆ
Pin : น้าพลอยอยากได้ไรก็ไลน์บอกนะ
Pin : จะรีบไปรีบกลับค่ะ
Pin : มีข่าวดีจะเล่าให้ฟัง
Pin : แล้วเจอกันที่บ้านนะคะ
ส่งไลน์เสร็จปิ่นรักก็ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ส่วนเอกสารเรื่องเรียนของเธอก็เดินเอาขึ้นไปเก็บที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะเข้าไปเอาเอกสารที่ห้องทำงานของปฐวี พอหยิบได้เธอก็เดินลิ่วออกจากห้องโดยไม่คิดสนใจมองอย่างอื่น ถึงแม้ห้องทำงานจะสวยงามใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่อยู่ในความสนใจของเธอ
“สวัสดีค่ะ”
พิมพ์ลักษณ์เงยหน้าขึ้นมอง และคลี่ยิ้มให้สาวนักศึกษาหน้าตาสะสวย รอยยิ้มหวานสดใส คงจะเป็นหลานสาวเจ้านาย เพราะปฐวีแจ้งเธอไว้แล้วว่าจะมีคนที่บ้านเอาเอกสารมาให้
“เอาเอกสารมาให้น้าวี...เอ่อ...คุณปฐวีค่ะ” ปิ่นรักแจ้งจุดประสงค์กับเลขาสาวทันทีที่เธอถึงหน้าห้อง
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ” เลขาสาวเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์ กำลังจะยกขึ้นโทรแจ้งปฐวี แต่ปิ่นรักก็เรียกเธอไว้ก่อน
“ไม่ต้องบอกน้าวีก็ได้ค่ะ ปิ่นฝากคุณเลขาเอาเข้าไปให้หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ปิ่นรักรีบห้ามเลขาสาวทันที ก่อนจะยื่นเอกสารส่งให้ หมดธุระเธอก็จะกลับทันที
แต่พอสบตากับเลขาสาวที่กำลังจ้องมองเธออย่างงงๆ ปิ่นรักก็ส่งยิ้มให้ พลางแอบสำรวจผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า พลอยขวัญเคยบอกว่าเลขาของปฐวีคือคนที่เข้ามาแทรกกลางในครอบครัวของน้าสาว
เลขาสาวหน้าตาโฉบเฉี่ยวดูมีเสน่ห์ไม่น้อย แต่งกายด้วยชุดสูทเรียบร้อย ท่าท่างมั่นใจอย่างผู้หญิงทำงานเก่ง ถึงแม้จะดูดีแต่ในสายตาของปิ่นรัก ผู้หญิงคนนี้ไม่อาจเทียบความงามกับพลอยขวัญได้
“เรียกดิฉันว่าพิมพ์ลักษณ์ก็ได้ค่ะ”
“ค่ะ พี่พิมพ์ลักษณ์ ถ้ายังไงปิ่นฝากเอาเข้าไปให้น้าวีด้วยนะคะ ปิ่นลาล่ะค่ะ”
หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เสร็จ ก็หมุนตัวเดินกลับทางเดิมทันที แล้วเสียงประตูห้องก็เปิดออกมาพอดี
“คุณลักษณ์ ผมขอ...” ปฐวีชะงัก เมื่อมองเห็นแผ่นหลังของใครบางคน กำลังเดินอย่างรีบเร่งตรงไปที่ลิฟท์
“ปิ่นรัก!!”