บทที่ 06 ความคิดของเด็กน้อย

1334 Words
"ปาป๊า!" ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้บริหารแล้วกระแทกเท้าเสียงดังเหมือนเด็กไม่พอใจในของเล่น จนป๊าที่นั่งอยู่บนโซฟาราวกับรอฉันอยู่ก่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตานิ่งๆ ผิดกับนิสัยปกติของท่าน "หนูไม่เข้าใจว่าทำไมป๊าต้องให้หนูทำงานกับตาบ้านั้น เขาหักหน้าหนูกลางประชุมเลยนะ" ฉันรีบฟ้องยกใหญ่ปล่อยตัวลงนั่งข้างผู้เป็นพ่อ "มันคือหน้าที่ของบอร์ดบริหารที่ต้องคอยเตือนสติเรา หนูก็รู้ไม่ใช่เหรอ?" ป๊าบอกฉันอย่างใจเย็น "หนูรู้ค่ะ แต่แบบนี้มันแรงเกินไป งานหนูไม่เคยโดนติเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างเขาก็มาใหม่ ทำไมถึงมาบอกว่างานหนูไม่มีคุณภาพ!" "เพราะคนอื่นเขาเกรงใจป๊า" "…" ฉันเงียบลงทันที ป๊าเข้าข้างเขา! "คนแบบนี้แหละที่ป๊าอยากได้มาทำงานด้วย เขากล้าที่จะติเตือนเรา แล้วสิ่งที่เขาพูดก็คือเรื่องจริง หนูต้องรับฟังและไม่ควรใช้อารมณ์ในที่ประชุมแบบนั้น" "หนูไม่ได้ใช้อารมณ์" "ลิลิน…การบริหารบริษัทไม่ได้ง่ายเหมือนที่ลูกคิด ยิ่งเรามีคู่แข่งทางการค้าเยอะ เราก็ยิ่งต้องอุดช่องโหว่เพื่อไม่ให้บริษัทอื่นมาโจมตีบริษัทเราได้ง่ายๆ คุณฟินซ์เขาทำถูกแล้ว" "แต่หนูไม่ชอบหน้าเขา หนูทำงานกับเขาไม่ได้" "ต่อไปหนูต้องทำงานกับคนอื่นตั้งมากมาย หนูไม่ควรเอาอารมณ์ส่วนตัวมาตัดสินว่าจะไม่ทำงานร่วมกับใครคนไหน" "แต่ป๊า…" ฉันทำเสียงอ้อยอิ่ง เบะปากเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจเมื่อฉันรู้สึกว่าตัวเองเถียงต่อไม่ได้ "คุณฟินซ์ไม่ใช่คนที่ยอมที่จะร่วมงานกับใครก็ได้ ทุกคนต่างต้องการตัวเขาทั้งนั้น ซึ่งเราโชคดีที่ได้สิทธินั้น ถ้าหนูอยากให้ไลอ้อนกรุ๊ปพัฒนาแบบก้าวกระโดด หนูต้องทำงานกับเขา" พูดขนาดนี้แล้วฉันจะกล้าปฏิเสธป๊าได้เหรอ ถ้าเขาเก่งขนาดนั้นจะยอมมาเป็นบอร์ดบริหารให้บริษัทฉันทำไม ว่างนักก็เอาเวลาไปทำงานของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ…ชิ "ก็ได้ค่ะ หนูทำเพื่อไลอ้อนกรุ๊ปก็ได้" สุดท้ายฉันก็ได้แต่บ่นคำพวกนั้นอยู่ในใจแล้วคอตกยอมทำตามที่ป๊าสั่ง ด้วยเหตุผลและความรับผิดชอบที่ฉันไม่สามารถหลีกหนีได้ ใช่ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน ฉันต้องไม่ใช่เด็กน้อยที่เอาแต่ใจไม่ยอมรับผลประโยชน์ของบริษัทตัวเองแบบนั้น "ลูกสาวป๊าเก่งมาก" มือหนาลูบหัวฉันเบาๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ เราคุยกันนอกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงานสักพักฉันก็ถูกอันเชิญจากผู้เป็นพ่อให้ออกไปทำงานต่อ "อีกสิบนาทีจะถึงเวลาคุยเรื่องโปรเจ็คใหญ่ค่ะคุณลิน" พี่ตาลเดินมาบอกฉันที่กำลังนั่งไล่อ่านเอกสารอยู่ในแฟ้ม จนฉันพยักหน้ารับเข้าใจเลขาสาวก็รีบเดินออกไป ผ่านไปสักพัก ก็อก ๆ "เชิญค่ะ" ฉันปิดแฟ้มเอกสารแล้วเอื้อมมือไปรับเอกสารอีกเล่มที่เกี่ยวกับโปรเจ็คที่ฉันได้รับหน้าที่มอบหมายให้ทำ วันนี้ฉันนัดกับหัวหน้าทีมพูดคุยเรื่องโปรเจ็คเพื่อต้องการวางแผนโครงสร้าง ต้องรีบทำงานตามแผนการเพื่อลบล้างคำดูถูกที่บอกว่าฉันทำงานไม่ได้คุณภาพ และพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าคนอย่างฉันไม่ได้อ่อนประสบการณ์และไร้ประสิทธิภาพอย่างที่เขาว่า "คุณ!" ฉันเบิกตากว้างเมื่อคนที่เข้ามาดันไม่ใช่หัวหน้าทีมที่ฉันต้องการจะคุยด้วย แต่เป็นคุณฟินซ์คนที่ฉันเจอเมื่อเช้าในห้องประชุม เขาเดินตรงมานั่งตรงข้ามฉันหน้าตาเฉยโดยไม่รอคำอนุญาตจากฉันเลยสักคำ "คุณมาทำไม?" ฉันเอ่ยถาม "มาทำงาน" เขาตอบสั้นๆ ห้วนๆ "ฉันไม่ได้นัดคุณไว้ ถ้าจะคุยกรุณารอเวลานัดใหม่ วันนี้ฉันไม่ว่าง เชิญคุณออกไปค่ะ" ฉันผายมือไปทางประตูทางออกที่เขาเดินเข้ามา แต่คนตรงข้ามก็นั่งนิ่งๆ ใช้สมาธิอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเจ็คโดยที่ไม่สนใจประโยคเชิญไล่ของฉันแม้แต่น้อย "นี่คุณคะ ฉันไล่ขนาดนี้แล้ว เชิญค่ะ" "เมื่อไหร่จะเริ่มคุยงาน" ไม่คิดจะฟังกันหน่อยหรือไง เขาเงยหน้ามาถามฉันทั้งที่ฉันยังออกปากไล่ไม่หยุด "คุณฟินซ์!" เริ่มหมดความอดทนแล้วนะ! "ฉันได้เป็นที่ปรึกษา ลืม?" "ฉันไม่ได้ลืม แต่คุยกับหัวหน้าทีมไม่จำเป็นต้องมีคุณ ฉันทำของฉันเองได้" "…" เขาตวัดสายตามามองฉันเหมือนเอือมระอา ถึงไม่พูดออกมาแต่แววตาเขากำลังสื่อว่าให้ฉันเงียบปาก ฉันคิดไม่ผิดแน่ๆ "นี่!" ก็อก ๆ อารมณ์ฉันกำลังพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดแต่อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็เหมือนเสียงที่ช่วยเขาไว้ไม่ให้โดนฉันด่า ฉันเก็บฮึบความขุนมัวทั้งหมดไว้ในใจ ก่อนที่จะกัดฟันกรอดแล้วเปล่งออกมาลอดไรฟันให้คนข้างนอกได้ยิน "เชิญค่ะ" สายตาฉันยังมองแต่เขา แต่เป็นการมองที่จะกินเลือดกินเนื้อเอาให้ได้ แม้ว่าอีกคนจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม "คุณลินคะ หัวหน้าทีมที่จะเข้ามาพบวันนี้เกิดอุบัติเหตุมาไม่ได้ค่ะ" "หะ ห้ะ?" ทันทีที่พี่ตาลพูดจบสมองของฉันก็หันไปโฟกัสที่เลขาจนลืมความโกรธเมื่อครู่เสียสนิท "ทางทีมเพื่งจะโทรมาบอกเมื่อครู่ค่ะ" "เรียกอีกทีมมา" คนตัวสูงยืนขึ้นแล้วล้วงมือสั่งเลขาฉันประหนึ่งว่าเป็นคนของตัวเอง "เอ่อ…" พี่ตาลอึกอักแล้วมองมาทางฉัน จนฉันต้องรีบพูดอธิบายแทน "มีแค่ทีมเดียว" "??" คุณฟินซ์มองหน้าฉันนิ่งแต่แววตาเต็มไปด้วยคำถาม ปกติฉันก็ไม่เคยมีทีมสำรองสักหน่อย อุบัติเหตุเช่นนี้ใช่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ ฉันจึงไม่เคยสำรองอะไรไว้...ไม่ใช่เรื่องแปลก "ไม่มีทีมสำรอง" "ทำโปรเจ็คมาได้ยังไงตั้งหนึ่งปี" เขาถอนหายใจแล้วส่ายหัวเบาๆ ใบหน้าที่แสดงออกตอนนี้กำลังแสดงออกว่าเขากำลังดูถูกฉันอีกแล้ว "ถ้ามันขัดตาขัดใจมากก็ไม่ต้องทำ ฉันก็ไม่อยากร่วมงานกับคุณมากหรอก ถ้าป๊าไม่สั่งให้ฉันทำ ฉันไม่มีทำงานร่วมงานคนอย่างคุณแน่" "ความคิดเด็กน้อย" "นี่!…" "ออกไปก่อน ฉันจะคุยกับเจ้านายเธอ" นายฟินซ์ปรายตาไปบอกพี่ตาล ขณะที่พี่ตาลก็ยืนนิ่งไม่ยอมเดินออกไป แน่นอนถ้าไม่ใช่ฉันที่สั่ง เลขาฉันก็ไม่ทำตามหรอก "พี่ตาลออกไปก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลินจัดการเอง" พอฉันพูดจบพี่ตาลก็พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ฉันจึงหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง คราวนี้อยู่กันสองคนแล้ว ค่อยออกปากเถียงกันง่ายหน่อย "กลับไปสิ วันนี้ไม่มีประชุม หมดหน้าที่ของคุณแล้ว" "…" นิ่ง "นี่ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่ เกลียดฉันไม่ชอบฉันก็ไม่ต้องมาอยู่ใกล้ๆ แค่เจอกันเวลางานก็เกินพอแล้ว" "ฉันกลับแน่ถ้าได้ในสิ่งที่ต้องการ" เขาปิดแฟ้มเอกสารลงแล้วลุกขึ้นมายืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงประชันหน้ากับฉัน ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนฉันชะงักไม่ทันตั้งตัว "ต้องการอะไร?" รีบถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อออกห่าง ก่อนที่จะถามถึงความต้องการของเขา เพื่อให้เขาออกไปให้พ้นๆ จากสายตาฉันสักที "เธอ" "อะไร?" "ฉันไม่ได้เรียก แต่ที่ฉันต้องการคือตัวเธอ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD