'ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับน้องเถอะ ผมไม่ได้รักน้องในเชิงชู้สาว'
เสียงของธันย์ลูกชายคนเดียวของจากัวร์และปาแปงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คนเป็นพ่อแม่ถึงกับคิดหนักที่จะไปพูดกับครอบครัวของทางนั้น หมั้นหมายกันมาตั้งนานไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดอยู่ๆมาพูดแบบนี้คนเป็นพ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
'แกพูดอะไรแบบนั้นสงสารน้องหน่อยสิ'
จากัวร์เอ่ยออกมาอย่างใจเย็นหันไปมองเติมฝันที่เดินเข้ามาได้ยินพอดีในมือยังถือกับข้าวมากมายหลายอย่างติดมือมาด้วย
'แต่ว่าเติมฝันรักเฮียนะ'
หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงสั่น เธอพยายามทำดีกับเขามาตลอดและทำทุกอย่างให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ประโยชน์
'แต่เฮียไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เราสองคนเหมาะที่จะเป็นพี่น้องกันมากกว่า'
เขายังยืนยันคำเดิมและคิดมาดีแล้วว่าเราสองคนกลับไปอยู่ในสถานะพี่น้องดีกว่า ตัวเขาจะได้ไม่ต้องเกรงใจครอบครัวทางนั้นและสามารถคุยกับใครก็ได้ไม่ต้องมีพันธะอะไรอีก
'เอางั้นก็ได้เฮียเลือกเองนะ อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังแล้วกัน...'
เธอเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณพ่อคุณแม่ของธันย์ หญิงสาววางกับข้าวทั้งหมดลงบนโต๊ะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก่อนจะยิ้มออกมาน้ำตาคลอ
'วันนี้ฝันกลับก่อนนะคะคุณอา ส่วนเรื่องถอนหมั้นฝันจะคุยกับคุณพ่อว่าฝันอยากถอนหมั้นเอง ไม่ต้องกังวลนะคะ'
'โธ่ลูก...'
ปาแปงมองเด็กสาวน้ำตาคลอรู้สึกสงสารจับใจที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา
'ไม่ต้องห่วงนะคะฝันโอเคค่ะ ทุกวันนี้เราสองคนก็เหมือนพี่น้องกันมากกว่าคู่หมั้นอยู่แล้ว หลังจากนี้ฝันจะมาที่นี่ในฐานะลูกสาวของเพื่อนนะคะ'
'อาขอโทษนะ'
'ขอโทษทำไมคะเรื่องนี้ไม่มีใครผิดเลยเราบังคับใครไม่ได้หรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องหัวใจ ฝันเคารพการตัดสินใจของเฮียค่ะ'
ปัจจุบัน...
"ฮืออออออออ"
เสียงเล็กร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่นบ้านของคุณอาเอกภพ เติมใจและมาร์ชนั่งเท้าคางมองหญิงสาวร้องไห้เสียใจโดยมีเติมใจน้องสาวฝาแฝดยื่นทิชชู่ให้
"ร้องแล้วได้อะไรอ่ะ ผู้ชายไม่รักก็แค่หาใหม่เอง"
"ใช่สิ ฮึก! ก็เฮียมาร์ชรักเติมใจไง แต่เฮียธันย์ไม่รักฝันอ่ะ ฮือออออ"
"เอ้าวนมาตรงนี้ทำไมเล่า"
เติมใจบ่นออกมาก่อนจะหันไปอ้อนชายคนรัก มาร์ชลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดูสาวตาที่มองมามันมีแต่ความรัก ความหวังดีและความอ่อนโยน เติมฝันเงยหน้าไปเห็นพอดียิ่งทำให้เธอร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม
"ฮืออออ ใจร้าย! ทำไมต้องหวานกันต่อหน้าคนอกหักด้วย ทำไมใจร้ายกับน้อง"
"โธ่เอ้ยให้เฮียช่วยยังไงล่ะ หาแฟนใหม่ให้ป่ะ"
"ไม่เอาฝันลืมเฮียธันย์ยังไม่ได้เลยจะให้มีใครใหม่ได้ยังไง ไม่คุยด้วยแล้วทั้งสองคนเลยใจร้ายที่สุด"
หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปขึ้นรถของตัวเอง มาร์ชและเติมใจหันไปมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
"เอ้าอะไรของเค้าอ่ะ"
"เอาน่าพี่เราเค้าอกหักให้เวลาเค้าหน่อย"
"เฮียมาร์ชจะไม่ทำแบบที่เฮียธันย์ทำใช่มั้ยคะ"
หญิงสาวหันไปอ้อนชายหนุ่ม มาร์ชส่ายหน้าทันทีเพราะเขารักและมั่งคงกับเธอมากถึงขนาดที่ว่าผู้หญิงที่ไหนเข้ามาก็ไม่เคยไปยุ่งด้วย เขาเก็บความบริสุทธิ์นี้ไว้ให้แม่ของลูกคนเดียวเท่านั้นและเธอเองก็เก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้ให้พ่อของลูกเท่านั้น
"ไม่มีทางเพราะเฮียรักหนูคนเดียว"
"น่ารักที่สุดหนูก็รักเฮียค่ะ"
เติมฝันมาถึงที่บ้านในเวลาต่อมา หญิงสาวขึ้นไปในห้องนอนร้องไห้จนตาบวมแฉะไม่มีใครคอยปลอบใจเลยสักคนเดียว เธอกดข้อความไปหาเพื่อนสนิทระบายทุกอย่างให้ฟังแต่ก็ถูกเพื่อนๆรุมด่า
'ก็บอกให้เลิกตั้งนานแล้วไง ดูก็รู้เฮียธันย์เจ้าชู้จะตายล่าสุดไปจีบน้องปีหนึ่ง นี่ดีนะที่เค้าขอถอนหมั้นแกสักทีเพื่อนของฉันจะได้เจอคนดีๆบ้าง'
'จริงค่ะ เดี๋ยวแนะนำผู้ชายดีๆหล่อๆให้ ดีกว่าเฮียของแกเป็นสิบเท่าโน่น'
'คืนนี้ต้องปาร์ตี้ฉลองความโสดค่ะ แกต้องมานะ'
เติมฝันมองหน้าจอโทรศัพท์อ่านข้อความด้วยความเสียใจแต่ก็ต้องมูฟออนและเดินหน้าต่อ เขายอมถอนหมั้นเธอและไปจีบคนอื่นไปทั่วนั่นก็แสดงว่าเขาคงอยากจะจริงจังกับคนอื่นซึ่งคนนั้นมันไม่ใช่เธอ
'อืม ตกลงฉันจะตัดใจและมูฟออนไปข้างหน้า'
'ดีค่ะ เริ่ดค่ะ งั้นเรามาเจอกันวันนี้ร้านประจำนะคะ'
'โอเคเจอกัน'
เติมฝันวางโทรศัพท์ลงเดินไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยมองตัวเองในกระจกก่อนจะตัดสินใจว่าจะตัดใจจากเฮียธันย์แบบจริงจังและจะไม่กลับไปหาเขาอีก ถึงจะรู้ว่าเขาเองไม่มีทางกลับมาหาเธอก็เถอะแต่ไม่เป็นไรเธอจะต้องสวยและดีที่สุดจะได้เจอความรักดีๆกับเค้าบ้าง
หนึ่งทุ่มตรงหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตามสไตล์ของเธอกำลังเตรียมตัวไปที่ร้านประจำที่เพื่อนๆบอก แต่ก่อนจะได้ออกไปเพื่อนของเธอโทรศัพท์มาเสียก่อน
"ว่าไงติงลี่"
(แก!เฮียธันย์ของแกอยู่ที่นี่ มากับอีเด็กปีหนึ่งด้วยอ่ะ เราเปลี่ยนร้านดีมั้ย)
เติมฝันกำมือแน่นอย่างรู้สึกเจ็บทั้งที่เขาเพิ่งขอถอนหมั้นเธอแต่กลับพาผู้หญิงคนอื่นไปเที่ยวหน้าตาเฉย
"นอกจากจะเทฉันยังควงกันให้ฉันเจ็บใจเล่นอีกเหรอ"
(แกจะเอาไง)
"ฉันจะเอาคืนบ้าง"
(ยังไง...)
เติมฝันกดวางโทรศัพท์ก่อนจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ในลุคเซ็กซี่ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ ปกติเธอเป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยมากแต่คืนนี้เธอจะต้องสวยกว่าผู้หญิงที่เขาควงทุกคน
"ไหนๆเฮียก็เทฝันแล้ว เพราะฉะนั้นฝันไม่จำเป็นต้องแคร์เฮียอีก"
เธอมองตัวเองในกระจกก่อนจะเริ่มแต่งหน้าแต่งตัวตามที่คุณแม่สอนมาตลอดอย่าลืมสิว่าเธอเป็นลูกสาวดาราดังนะ
ใบหน้าสวยถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอาง ริมฝีปากบางทาลิปสติกสีแดงฉ่ำเข้ากับผิวขาวผ่องเป็นอย่างดี ชุดที่ใส่วันนี้เป็นเกาะอกสีแดงเข้ากับลิปสติก กางเกงขาสั้นสีดำตัดกับเรียวขาสวยจบด้วยส้นสูงห้านิ้วเสริมบุคลิกเป็นอย่างดี
หญิงสาวเดินทางมาถึงที่ร้านตลอดทางที่เดินไม่มีใครที่ไม่เหลียวหลังมามองเธอ สวยขนาดนี้ไม่มองให้มันรู้ไปสิ
"ฝันๆทางนี้"
เธอโบกมือให้เพื่อนยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงโซฟา ติงลี่สะกิดเพื่อนรักให้มองไปยังโต๊ะไม่ไกลมาก เธอเห็นเฮียธันย์กับผู้หญิงคนอื่นก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เชื่อมั่นว่าเพื่อนของเขามองเธอทั้งโต๊ะยกเว้นเขาที่เอาแต่มองผู้หญิงข้างกายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด
"ทำไมสวยขนาดนี้อ่ะ"
"นั่นสิฉันว่าประชดผู้ชัวร์"
"ถ้าเฮียแกเห็นนะบอกเลยนะว่าคลั่งตายแน่นอน แกสวยกว่าผู้หญิงที่เค้าพามาอีก โอ๊ยยยย จะด่าว่าโง่ก็ดูจะแรงไปคิดยังไงทิ้งไอ้ฝันไปคุยผู้หญิงคนนั้น"
"ใจร้ายมากเลยเฮียแกอ่ะ"
ในโต๊ะของธันย์ตอนนี้กลุ่มเพื่อนของเขาเริ่มสนใจผู้หญิงที่เข้ามาใหม่ ความสวยนั้นกระแทกเตะตาชายทุกคน คนในร้านต่างซุบซิบกันมองไปยังโต๊ะหัวมุมไม่หยุด บางคนก็เริ่มเข้ามาคุยขอชนแก้วมันทำให้กลุ่มเพื่อนของธันย์อยากจะลุกไปทำความรู้จักบ้าง
"ไอ้เชี่ยคือสวยมาก"
"กูขอกูโสดอยู่ มึงมีน้องน้ำหวานแล้วไง"
"อันนั้นกูเล่นๆโว๊ย งั้นต้องแย่งกันแล้วล่ะ"
ทุกคนในโต๊ะเริ่มเกิดสงครามแย่งหญิงจนทำให้ธันย์เริ่มรำคาญเงยหน้ามาคุยกับเพื่อนบ้าง
"อะไรพวกมึงแย่งผู้หญิงกันอีกละ"
"มึงดูนั่นโคตรนางฟ้ามาเกิดชัดๆมึงห้ามมาแย่งกับพวกกูแล้วกันมองได้อย่างเดียว"
"จะสวยแค่ไหนกันไม่มีใครสวยเท่าน้องนิ่มของกูละ... เชี่ย!"
เขาหันไปมองตามนิ้วชี้ของเพื่อนก่อนจะอ้าปากค้างอย่างตกใจที่ความสวยของเธอกระแทกตาของเขาเป็นอย่างมาก สเปคเลยแหละหุ่นสวยมากอกเป็นอกสะโพกเป็นสะโพก ไหนจะผิวสวยผ่องมันทำให้เขารู้สึกอยากเข้าไปใกล้แต่ความคุ้นเคยมันมีมากกว่า
"จ้องขนาดนั้นเกรงใจคนที่มึงพามาด้วย"
"ไม่ใช่ๆ กูคุ้นหน้า"
เขานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปหาเติมฝันและภาวนาขอให้ไม่ใช่เธอ รับสิๆๆ เขาเงยหน้ามองเธอสลับกับหน้าจอเติมฝันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดตัดสายและเก็บโทรศัพท์ลงตามเดิม มันพอดีกับที่หน้าจอของเขาถูกตัดสายพอดีมันจึงทำให้เขามั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคู่หมั้นที่เขาเพิ่งจะขอถอนหมั้นไป
"เติมฝัน! เชี่ยยยยย ใครให้แต่งตัวแบบนั้นวะ"
"อย่าบอกนะว่าคู่หมั้นมึงอ่ะไอ้ธันย์"
"เออ ผู้หญิงของกู"