บทนำ ยั่วโมโห

1715 Words
'ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับน้องเถอะ ผมไม่ได้รักน้องในเชิงชู้สาว' เสียงของธันย์ลูกชายคนเดียวของจากัวร์และปาแปงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คนเป็นพ่อแม่ถึงกับคิดหนักที่จะไปพูดกับครอบครัวของทางนั้น หมั้นหมายกันมาตั้งนานไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดอยู่ๆมาพูดแบบนี้คนเป็นพ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน 'แกพูดอะไรแบบนั้นสงสารน้องหน่อยสิ' จากัวร์เอ่ยออกมาอย่างใจเย็นหันไปมองเติมฝันที่เดินเข้ามาได้ยินพอดีในมือยังถือกับข้าวมากมายหลายอย่างติดมือมาด้วย 'แต่ว่าเติมฝันรักเฮียนะ' หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงสั่น เธอพยายามทำดีกับเขามาตลอดและทำทุกอย่างให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ประโยชน์ 'แต่เฮียไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เราสองคนเหมาะที่จะเป็นพี่น้องกันมากกว่า' เขายังยืนยันคำเดิมและคิดมาดีแล้วว่าเราสองคนกลับไปอยู่ในสถานะพี่น้องดีกว่า ตัวเขาจะได้ไม่ต้องเกรงใจครอบครัวทางนั้นและสามารถคุยกับใครก็ได้ไม่ต้องมีพันธะอะไรอีก 'เอางั้นก็ได้เฮียเลือกเองนะ อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังแล้วกัน...' เธอเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณพ่อคุณแม่ของธันย์ หญิงสาววางกับข้าวทั้งหมดลงบนโต๊ะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก่อนจะยิ้มออกมาน้ำตาคลอ 'วันนี้ฝันกลับก่อนนะคะคุณอา ส่วนเรื่องถอนหมั้นฝันจะคุยกับคุณพ่อว่าฝันอยากถอนหมั้นเอง ไม่ต้องกังวลนะคะ' 'โธ่ลูก...' ปาแปงมองเด็กสาวน้ำตาคลอรู้สึกสงสารจับใจที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา 'ไม่ต้องห่วงนะคะฝันโอเคค่ะ ทุกวันนี้เราสองคนก็เหมือนพี่น้องกันมากกว่าคู่หมั้นอยู่แล้ว หลังจากนี้ฝันจะมาที่นี่ในฐานะลูกสาวของเพื่อนนะคะ' 'อาขอโทษนะ' 'ขอโทษทำไมคะเรื่องนี้ไม่มีใครผิดเลยเราบังคับใครไม่ได้หรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องหัวใจ ฝันเคารพการตัดสินใจของเฮียค่ะ' ปัจจุบัน... "ฮืออออออออ" เสียงเล็กร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่นบ้านของคุณอาเอกภพ เติมใจและมาร์ชนั่งเท้าคางมองหญิงสาวร้องไห้เสียใจโดยมีเติมใจน้องสาวฝาแฝดยื่นทิชชู่ให้ "ร้องแล้วได้อะไรอ่ะ ผู้ชายไม่รักก็แค่หาใหม่เอง" "ใช่สิ ฮึก! ก็เฮียมาร์ชรักเติมใจไง แต่เฮียธันย์ไม่รักฝันอ่ะ ฮือออออ" "เอ้าวนมาตรงนี้ทำไมเล่า" เติมใจบ่นออกมาก่อนจะหันไปอ้อนชายคนรัก มาร์ชลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดูสาวตาที่มองมามันมีแต่ความรัก ความหวังดีและความอ่อนโยน เติมฝันเงยหน้าไปเห็นพอดียิ่งทำให้เธอร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม "ฮืออออ ใจร้าย! ทำไมต้องหวานกันต่อหน้าคนอกหักด้วย ทำไมใจร้ายกับน้อง" "โธ่เอ้ยให้เฮียช่วยยังไงล่ะ หาแฟนใหม่ให้ป่ะ" "ไม่เอาฝันลืมเฮียธันย์ยังไม่ได้เลยจะให้มีใครใหม่ได้ยังไง ไม่คุยด้วยแล้วทั้งสองคนเลยใจร้ายที่สุด" หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปขึ้นรถของตัวเอง มาร์ชและเติมใจหันไปมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "เอ้าอะไรของเค้าอ่ะ" "เอาน่าพี่เราเค้าอกหักให้เวลาเค้าหน่อย" "เฮียมาร์ชจะไม่ทำแบบที่เฮียธันย์ทำใช่มั้ยคะ" หญิงสาวหันไปอ้อนชายหนุ่ม มาร์ชส่ายหน้าทันทีเพราะเขารักและมั่งคงกับเธอมากถึงขนาดที่ว่าผู้หญิงที่ไหนเข้ามาก็ไม่เคยไปยุ่งด้วย เขาเก็บความบริสุทธิ์นี้ไว้ให้แม่ของลูกคนเดียวเท่านั้นและเธอเองก็เก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้ให้พ่อของลูกเท่านั้น "ไม่มีทางเพราะเฮียรักหนูคนเดียว" "น่ารักที่สุดหนูก็รักเฮียค่ะ" เติมฝันมาถึงที่บ้านในเวลาต่อมา หญิงสาวขึ้นไปในห้องนอนร้องไห้จนตาบวมแฉะไม่มีใครคอยปลอบใจเลยสักคนเดียว เธอกดข้อความไปหาเพื่อนสนิทระบายทุกอย่างให้ฟังแต่ก็ถูกเพื่อนๆรุมด่า 'ก็บอกให้เลิกตั้งนานแล้วไง ดูก็รู้เฮียธันย์เจ้าชู้จะตายล่าสุดไปจีบน้องปีหนึ่ง นี่ดีนะที่เค้าขอถอนหมั้นแกสักทีเพื่อนของฉันจะได้เจอคนดีๆบ้าง' 'จริงค่ะ เดี๋ยวแนะนำผู้ชายดีๆหล่อๆให้ ดีกว่าเฮียของแกเป็นสิบเท่าโน่น' 'คืนนี้ต้องปาร์ตี้ฉลองความโสดค่ะ แกต้องมานะ' เติมฝันมองหน้าจอโทรศัพท์อ่านข้อความด้วยความเสียใจแต่ก็ต้องมูฟออนและเดินหน้าต่อ เขายอมถอนหมั้นเธอและไปจีบคนอื่นไปทั่วนั่นก็แสดงว่าเขาคงอยากจะจริงจังกับคนอื่นซึ่งคนนั้นมันไม่ใช่เธอ 'อืม ตกลงฉันจะตัดใจและมูฟออนไปข้างหน้า' 'ดีค่ะ เริ่ดค่ะ งั้นเรามาเจอกันวันนี้ร้านประจำนะคะ' 'โอเคเจอกัน' เติมฝันวางโทรศัพท์ลงเดินไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยมองตัวเองในกระจกก่อนจะตัดสินใจว่าจะตัดใจจากเฮียธันย์แบบจริงจังและจะไม่กลับไปหาเขาอีก ถึงจะรู้ว่าเขาเองไม่มีทางกลับมาหาเธอก็เถอะแต่ไม่เป็นไรเธอจะต้องสวยและดีที่สุดจะได้เจอความรักดีๆกับเค้าบ้าง หนึ่งทุ่มตรงหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตามสไตล์ของเธอกำลังเตรียมตัวไปที่ร้านประจำที่เพื่อนๆบอก แต่ก่อนจะได้ออกไปเพื่อนของเธอโทรศัพท์มาเสียก่อน "ว่าไงติงลี่" (แก!เฮียธันย์ของแกอยู่ที่นี่ มากับอีเด็กปีหนึ่งด้วยอ่ะ เราเปลี่ยนร้านดีมั้ย) เติมฝันกำมือแน่นอย่างรู้สึกเจ็บทั้งที่เขาเพิ่งขอถอนหมั้นเธอแต่กลับพาผู้หญิงคนอื่นไปเที่ยวหน้าตาเฉย "นอกจากจะเทฉันยังควงกันให้ฉันเจ็บใจเล่นอีกเหรอ" (แกจะเอาไง) "ฉันจะเอาคืนบ้าง" (ยังไง...) เติมฝันกดวางโทรศัพท์ก่อนจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ในลุคเซ็กซี่ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ ปกติเธอเป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยมากแต่คืนนี้เธอจะต้องสวยกว่าผู้หญิงที่เขาควงทุกคน "ไหนๆเฮียก็เทฝันแล้ว เพราะฉะนั้นฝันไม่จำเป็นต้องแคร์เฮียอีก" เธอมองตัวเองในกระจกก่อนจะเริ่มแต่งหน้าแต่งตัวตามที่คุณแม่สอนมาตลอดอย่าลืมสิว่าเธอเป็นลูกสาวดาราดังนะ ใบหน้าสวยถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอาง ริมฝีปากบางทาลิปสติกสีแดงฉ่ำเข้ากับผิวขาวผ่องเป็นอย่างดี ชุดที่ใส่วันนี้เป็นเกาะอกสีแดงเข้ากับลิปสติก กางเกงขาสั้นสีดำตัดกับเรียวขาสวยจบด้วยส้นสูงห้านิ้วเสริมบุคลิกเป็นอย่างดี หญิงสาวเดินทางมาถึงที่ร้านตลอดทางที่เดินไม่มีใครที่ไม่เหลียวหลังมามองเธอ สวยขนาดนี้ไม่มองให้มันรู้ไปสิ "ฝันๆทางนี้" เธอโบกมือให้เพื่อนยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงโซฟา ติงลี่สะกิดเพื่อนรักให้มองไปยังโต๊ะไม่ไกลมาก เธอเห็นเฮียธันย์กับผู้หญิงคนอื่นก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เชื่อมั่นว่าเพื่อนของเขามองเธอทั้งโต๊ะยกเว้นเขาที่เอาแต่มองผู้หญิงข้างกายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด "ทำไมสวยขนาดนี้อ่ะ" "นั่นสิฉันว่าประชดผู้ชัวร์" "ถ้าเฮียแกเห็นนะบอกเลยนะว่าคลั่งตายแน่นอน แกสวยกว่าผู้หญิงที่เค้าพามาอีก โอ๊ยยยย จะด่าว่าโง่ก็ดูจะแรงไปคิดยังไงทิ้งไอ้ฝันไปคุยผู้หญิงคนนั้น" "ใจร้ายมากเลยเฮียแกอ่ะ" ในโต๊ะของธันย์ตอนนี้กลุ่มเพื่อนของเขาเริ่มสนใจผู้หญิงที่เข้ามาใหม่ ความสวยนั้นกระแทกเตะตาชายทุกคน คนในร้านต่างซุบซิบกันมองไปยังโต๊ะหัวมุมไม่หยุด บางคนก็เริ่มเข้ามาคุยขอชนแก้วมันทำให้กลุ่มเพื่อนของธันย์อยากจะลุกไปทำความรู้จักบ้าง "ไอ้เชี่ยคือสวยมาก" "กูขอกูโสดอยู่ มึงมีน้องน้ำหวานแล้วไง" "อันนั้นกูเล่นๆโว๊ย งั้นต้องแย่งกันแล้วล่ะ" ทุกคนในโต๊ะเริ่มเกิดสงครามแย่งหญิงจนทำให้ธันย์เริ่มรำคาญเงยหน้ามาคุยกับเพื่อนบ้าง "อะไรพวกมึงแย่งผู้หญิงกันอีกละ" "มึงดูนั่นโคตรนางฟ้ามาเกิดชัดๆมึงห้ามมาแย่งกับพวกกูแล้วกันมองได้อย่างเดียว" "จะสวยแค่ไหนกันไม่มีใครสวยเท่าน้องนิ่มของกูละ... เชี่ย!" เขาหันไปมองตามนิ้วชี้ของเพื่อนก่อนจะอ้าปากค้างอย่างตกใจที่ความสวยของเธอกระแทกตาของเขาเป็นอย่างมาก สเปคเลยแหละหุ่นสวยมากอกเป็นอกสะโพกเป็นสะโพก ไหนจะผิวสวยผ่องมันทำให้เขารู้สึกอยากเข้าไปใกล้แต่ความคุ้นเคยมันมีมากกว่า "จ้องขนาดนั้นเกรงใจคนที่มึงพามาด้วย" "ไม่ใช่ๆ กูคุ้นหน้า" เขานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปหาเติมฝันและภาวนาขอให้ไม่ใช่เธอ รับสิๆๆ เขาเงยหน้ามองเธอสลับกับหน้าจอเติมฝันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดตัดสายและเก็บโทรศัพท์ลงตามเดิม มันพอดีกับที่หน้าจอของเขาถูกตัดสายพอดีมันจึงทำให้เขามั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคู่หมั้นที่เขาเพิ่งจะขอถอนหมั้นไป "เติมฝัน! เชี่ยยยยย ใครให้แต่งตัวแบบนั้นวะ" "อย่าบอกนะว่าคู่หมั้นมึงอ่ะไอ้ธันย์" "เออ ผู้หญิงของกู"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD