"ชักช้าจริงๆ ฉันไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมาเสียเวลากับเด็กใจแตกอย่างเธอนะ" ตรัยคุณเอ่ยอย่างหงุดหงิดขณะยืนกอดอกพิงรถยนต์คันหรู
"แล้วใครให้มามิทราบ ยูมิก็บอกแล้วว่าจะมาเอง อยากจุ้นตามมาทำไม"
"ก็ฉันไม่ไว้ใจเด็กใจแตกอย่างเธอไง ขึ้นรถ" ตรัยคุณบอกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
"คำก็ใจแตก สองคำก็ใจแตก ไอ้ผู้ใหญ่ปากมอม" ยลดาว่า แต่อีกฝ่ายไม่ได้ยิน
"ชิ!!!" เมื่อเข้ามาในรถเด็กสาวก็สะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มทันที ตรัยคุณตีหน้ายักษ์ใส่ ไม่พอใจเช่นกัน ก่อนจะขับรถกลับคอนโดมิเนียมหรูริมทะเล
"รออยู่ตรงนี้แหละ รอคุณแทนกับพายลงมาก่อนว่าจะเอายังไงกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ" บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยบอกเมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียม เขาให้เด็กสาวรออยู่ตรงบริเวณสระว่ายน้ำของคอนโดมิเนียม
"ยูมิไม่ได้แก่แดดนะ อย่ามาว่ายูมิ" ยลดาพูดด้วยอารมณ์ที่เริ่มโมโห ตอนแรกก็ว่าเธอเป็นเด็กใจแตก ตอนนี้ยังจะมาว่าเธอเป็นเด็กแก่แดดอีก
"ถ้างั้นก็คงเป็นเด็กใจแตกหนีออกจากบ้าน" ตรัยคุณยังคงพูดว่าเด็กสาว โดยไม่รู้เลยว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยเพียงใด
"ยูมิไม่ได้เป็นเด็กใจแตกด้วย ไอ้ผู้ใหญ่ปากเสีย"
"แล้วเด็กดีๆ ที่ไหนเขาหนีออกจากบ้านมาอยู่ที่แบบนั้นคนเดียวกัน ถ้าไม่ได้ใจแตกหนีออกจากบ้าน"
"อย่ามาว่ายูมินะ" ยลดาเริ่มน้ำตาคลอเมื่อได้ฟังคำพูดร้ายกาจของตรัยคุณ
"อย่ามาทำเป็นบีบน้ำตา ฉันไม่สงสารเธอหรอก พายน่ะใจอ่อนเกินไปที่ไว้ใจเด็กอย่างเธอ" ตรัยคุณว่าก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป ไม่อยากเห็นน้ำตาของคนตรงหน้า
"ทำไมต้องว่ายูมิด้วย ยูมิก็ไม่ได้อยากให้ตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้หรอก ยูมิไม่ได้อยากเป็นภาระใคร ยูมิแค่ไม่มีที่ไป พี่พายเป็นที่พึ่งสุดท้ายของยูมิจริงๆ นะ" ยลดาพรั่งพรูออกมาก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าตัวเอง น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
ตรัยคุณที่เดินมาหยุดยืนอยู่มุมหนึ่ง หันไปมองร่างเล็กที่นั่งทรุดตัวร้องไห้
"หรือว่าจะพูดแรงไปวะ" ตรัยคุณพึมพำกับตัวเอง แต่จากที่เขาเห็นสายตาของยัยเด็กนั่นที่มองมายังเจ้านายหนุ่มของเขา ก็ไม่อาจทำให้เขาไว้ใจในตัวของเธอได้ อีกทั้งยังไม่รู้ที่มาที่ไปที่แน่ชัดด้วยแล้ว จะให้เขาไว้ใจได้อย่างไร ถึงพรพระพายจะบอกว่ารู้จักเด็กสาวมานานแล้วก็ตาม แต่เท่าที่เขาเคยสืบประวิติของพรพระพาย ไม่มีเด็กคนนี้อยู่ในชีวิตของว่าที่ภรรยาแทนไท หรือว่าต้องสืบให้ลึกลงไปอีก ตรัยคุณครุ่นคิดอย่างหนัก แต่เขาก็คิดว่ามันคงไม่ยากเกินไปก็ในเมื่อเด็กสาวอาศัยอยู่ข้างบ้านพ่อแม่ของพรพระพาย
"เอ้า! ขึ้นรถสิ จะรอให้ใครเปิดประตูอัญเชิญเข้าไป" บอดี้การ์ดหนุ่มว่าเมื่อยลดาไม่ยอมขึ้นรถสักที ทั้งที่เจ้านายของเขาขึ้นไปนั่งในรถกันหมดแล้ว
"แล้วจะให้ยูมินั่งตรงไหนล่ะ" เด็กสาวถามด้วยความสงสัย เพราะยังคงทำตัวไม่ถูก
"ก็ข้างหน้าไง สมองน้อยหรือไงถึงคิดไม่ได้" ตรัยคุณว่า ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปประจำที่นั่งคนขับ
"ผู้ชายอะไรปากจัดชะมัด สงสัยใกล้วัยทอง แบร่!" ยลดาค่อนแคะคนปากร้าย ก่อนจะรีบเปิดประตูหน้ารถเข้าไปนั่งข้างหน้าคู่กับตรัยคุณ
ระหว่างทางที่รถเคลื่อนตัวอยู่บนท้องถนน ยลดามักจะหันไปมองสามคนพ่อแม่ลูกที่คุยเล่นหยอกล้อกันด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารัก พ่อหล่ออย่างกับโอปป้า ลูกชายก็น่ารัก แม่ก็สวย
โดยที่แทนไทนั่งอยู่ฝั่งคนขับแล้วเด็กชายตัวน้อยนั่งตรงกลาง ถัดมาก็คือพรพระพาย ทำให้สายตาที่เด็กสาวมองเหมือนกำลังนั่งมอง แทนไทมากกว่า
"นี่! จะมองอะไรนักหนา มาช่วยฉันมองทางสิ"
"ชิ!" ยลดาหันมามองค้อนตนที่ทำหน้าที่ขับรถ แล้วก็นั่งหน้าบึ้งมองตรงไปข้างหน้า โดยไม่ปริปากพูดอะไรอีกเลยจนถึงบ้านของแทนไท
"โห! หลังใหญ่จัง" เมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามาในบริเวนบ้าน ยลดาก็ตื่นตาตื่นใจความหรูหรากว้างใหญ่อันรโหฐานของบ้านแทนไท
"หึ" ตรัยคุณทำเสียงเย้ยหยันในลำคอ แค่เห็นบ้านของคุณแทนไทต้องทำตาโตขนาดนี้เลยเหรอ คงไม่คิดจะจับเจ้านายของเขาจริงๆ ใช่ไหม เหมือนอย่างที่เขามองเธอแต่แรก
ทันทีที่รถจอด ผู้ชายชุดดำรีบมาเปิดประตูให้กับเจ้านายของพวกเขา
"ลงสิ! ไม่มีใครเขามาเปิดประตูให้เธอหรอก" ตรัยคุณว่า
"ไม่ต้องมีใครมาเปิดให้ยูมิหรอก ยูมิเปิดเองได้" เด็กสาวยอกย้อน
ยลดาเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามหลังพรพระพายไปติดๆ เธอรู้สึกประหม่ากับสถานที่ใหม่ และผู้คนรอบข้าง ผู้ชายชุดดำหลายสิบคนที่ยืนอยู่โดยรอบบริเวณบ้าน อย่างกับในหนังพวกเจ้าพ่อมาเฟีย จึงทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา แต่เพราะมีพรพระพายอยู่ข้างๆ เธอจึงลดความกลัวไปได้มาก
"ย่าทิพย์ฮับ ย่าทิพย์ไม่ไปทะเยกับอาชิ หนุกมากเยยฮับ" เด็กชายตัวน้อยวิ่งหาผู้เป็นย่าทันทีที่ลงจากรถ บอกเล่าความสนุกสนานในสถานที่ที่พึ่งจากมา
"จริงเหรอคะ ถ้าย่าทิพย์ไม่ติดว่าต้องเตรียมงานทางนี้ย่าทิพย์คงได้ไปสนุกกับอาชิแล้ว"
"ไว้ให้พ่อแทนพาไปอีก ย่าทิพย์ไปกับอาชินะฮับ" ยลดามองย่าหลานพูดคุยกันอย่างน่ารักด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่สายตาของคุณทิพวรรณจะเหลือบมองมาทางเธอ
"ตกลงค่ะ แล้วนี้ไปพาเด็กที่ไหนมา" คุณทิพวรรณเอ่ยตอบหลานชาย แล้วถามเมื่อเห็นหน้าแป้นแร้นของเด็กสาว
"เป็นเด็กที่อยู่ข้างบ้านพายน่ะครับ จะมาอยู่กับเราที่นี้" แทนไทตอบ
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อยูมิค่ะ" ยลดายกมือไหว้คุณทิพวรรณอย่าง นอบน้อม
"ไปไงมาไงถึงจะมาอยู่ที่นี้ล่ะ" คุณทิพวรรณเอ่ยถามอีก
"เราเข้าไปคุยในบ้านกันดีกว่าครับ" แทนไทว่า
พรพระพายเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณทิพวรรณฟัง แล้วเรื่องที่เธออยากจะส่งเสียให้ยลดาได้เรียนต่อ เด็กสาวยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจที่จะได้เรียนต่อ
"ก็อยู่ที่นี่ไป คอยช่วยงานป้าแช่ม พอเปิดเทอมก็ไปเรียน ถือว่าเอาบุญช่วยเด็กตกทุกข์ได้ยาก" คุณทิพวรรณเห็นด้วยกับว่าที่ลูกสะใภ้
"ขอบคุณค่ะ ยูมิขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เมตตายูมิ ยูมิจะช่วยงานทุกอย่างเลยค่ะ" ยลดาเอ่ยอย่างตื้นตันใจ ซาบซึ่งในความมีเมตตาของทุกคน
"แล้วจะให้พักที่ไหนล่ะพาย" คุณทิพวรรณเอ่ยถาม
"พายก็ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ"
"ให้นอนกับป้าก็ได้" ป้าแช่มพูดขึ้น
"ถ้างั้นก็ตามนั้น ยูมิก็ตามป้าแช่มเอาของไปเก็บนะ แล้วก็คอยช่วยงานป้าแช่ม" คุณทิพวรรณบอกด้วยน้ำเสียงใจดี
"ค่ะ" ยลดายิ้มหน้าบานที่ได้อยู่ที่นี่ ที่นี่มีแต่คนใจดีกับเธอ
เด็กสาวเดินตามป้าแช่มไป ซึ่งเป็นห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างของบ้านหลังนี้
"ขอบคุณป้าแช่มมากเลยนะคะที่ให้ยูมิมานอนด้วย" เด็กสาวยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
"ถือว่าช่วยๆ กัน ฟังเรื่องของยูมิแล้วป้าก็สงสาร อายุแค่สิบเจ็ดต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ มาอยู่ที่นี่ เริ่มต้นชีวิตใหม่นะลูก" ป้าแช่มพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ เวทนาในโชคชะตาของเด็กสาว
"ค่ะ ถ้าป้าแช่มจะให้ยูมิทำอะไร บอกยูมิได้เลยนะคะ" ยลดาบอกพลางยิ้มให้ป้าแช่ม
"จ้า วันนี้ก็พักผ่อนก่อน เดินทางมาเหนื่อยๆ ป้าไปเตรียมอาหารเย็นให้คุณๆ เขาก่อน"
"ยูมิไม่เหนื่อย ให้ยูมิไปช่วยป้าแช่มนะคะ ยูมิชอบทำอาหารแต่ยูมิทำไม่เก่ง"
"ตามใจ แล้วของมีมาแค่นี้เหรอ"
"ใช่ค่ะ มีแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด แล้วก็หมาน้อย" เด็กสาวชูกระปุก ออมสินหมาน้อยสีขาวให้ป้าแช่มดู
"งั้นเราไปเตรียมอาหารกันเถอะ" ป้าแช่มบอก แล้วก็เดินออกจากห้องเพื่อเข้าครัว โดยมีแม่บ้านสองคนกำลังยืนล้างผัก อีกคนก็แกะกุ้ง
"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ยูมิช่วยบ้างคะ" ยลดาเอ่ยทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทุกคนก็ยิ้มตอบกลับเธอ
"แป้นให้ยูมิแกะกุ้ง แล้วแป้นไปเตรียมเครื่องสำหรับหล่นเต้าเจี้ยว คุณทิพย์อยากทาน" ป้าแช่มบอก แป้นก็ไปล้างมือแล้วเตรียมของที่ป้าแช่มสั่งทันที
"แล้วกุ้งจะทำอะไรเหรอคะ" ยลดาถามตามประสาคนช่างพูด ขณะที่มือก็แกะกุ้งไปด้วย
"จะทำกุ้งชุบแป้งทอดให้คุณอาชิ แล้วป้าว่าจะทำต้มยำปลากระพง แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรอีกสักอย่างดี"
"ต้มยำปลากระพง กุ้งชุบแป้งทอด หลนเต้าเจี้ยว แล้วอะไรอีกอย่างดีนะ" เด็กสาวครุ่นคิด เมื่อมองไปยังตะกร้าผักก็เห็นถั่วลันเตา
"ถั่วลันเตาผัดกุ้งดีไหมคะ" ยลดาเสนอความคิด
"ก็ดีนะ ของโปรดตาเดย์ด้วย งั้นเอาตามนี้แล้วกัน" ป้าแช่มเห็นด้วย อีกทั้งยังเป็นของโปรดหลานชาย
ยลดาช่วยป้าแช่มทำอาหาร เธอก็คอยสังเกตวิธีการทำ อันไหนไม่เข้าใจก็ถามป้าแช่ม เธอชอบทำอาหาร แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ
"ป้าแช่มทำขนมอะไรเป็นบ้างคะ ยูมิอยากหัดทำขนม" ยลดาเอ่ยถามขณะที่นั่งดูป้าแช่มทำอาหาร
"ก็ได้หลายอย่างนะ ทั้งขนมไทย เค้ก คุกกี้ พุดดิ้ง"
"วันหลังป้าแช่มสอนยูมิทำบ้างสิคะ"
"ได้สิ แล้วป้าจะสอนให้ เริ่มจากวันนี้เลยไหม สาคูเปียกข้าวโพด ขนมหวานของมื้อนี้"
"ทำค่ะ ป้าแช่มใจดีจัง" เด็กสาวยิ้มให้ป้าแช่มจนตาหยี ความสดใสของเธอเรียกรอยยิ้มให้กับคนแก่อย่างป้าแช่ม และแม่บ้านที่ช่วยงานในครัว