“ใบเฟิร์น มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ทำไมโทร.มาซะดึกเลย”
“ใบเฟิร์นโทร.มาเตือนตะวันว่าให้ระวังองครักษ์ของท่านชีคอัลมัสด้วย เพราะเขากำลังตามหาตะวันอยู่”
“หึ! คงตามหาตะวันเพราะตะวันตบหน้าท่านชีคจนหน้าหัน”
อาคิราทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความโมโห คราใดที่นึกถึงชีคอัลมัสก็ต้องโกรธจนกัดฟันดังกรอดในทุกครา
“ตะวันระวังตัวด้วยนะ เมื่อสักครู่องครักษ์ของท่านชีคมาถามหาโรงแรมที่ตะวันพักกับใบเฟิร์น แต่ใบเฟิร์นไม่ปริปากบอกเด็ดขาดว่าตะวันพักอยู่ที่ไหน”
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนขายเพื่อน ยิ่งเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายแบบอาคิรา เธอไม่มีทางบอกเด็ดขาดว่าอาคิราพักอยู่ในโรงแรมไหน
“ขอบใจใบเฟิร์นมากที่โทร.มาบอก แต่ใบเฟิร์นไม่ต้องเป็นห่วงนะ โรงแรมในป่าตองมีเป็นร้อยๆ แห่ง ยังไงๆ เขาก็หาตะวันไม่เจอหรอก และพรุ่งนี้ตะวันก็จะกลับกรุงเทพฯ แล้วจ้ะ ที่น่าเสียดายคือไม่ได้เจอใบเฟิร์น ตะวันตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์จัดงานเลี้ยงฉลองโสดให้กับใบเฟิร์นแท้ๆ แต่ก็ดันมีเรื่องซะก่อน”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ได้จัดงานเลี้ยงให้ใบเฟิร์นก็ไม่เป็นไร แต่ตะวันต้องมาวันแต่งงานให้ได้นะ ไม่ยังงั้นใบเฟิร์นโกรธตะวันจริงๆ ด้วย”
“ต้องมาสิ เพราะตะวันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับใบเฟิร์นเอง”
“ตะวันมาพักที่บ้านของใบเฟิร์นก่อนวันงานสักสองวันนะ”
“ได้จ้ะ ตะวันลางานไว้แล้ว และก็เตรียมชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้เรียบร้อยแล้วจ้ะ”
“โอเค...ใบเฟิร์นไม่กวนตะวันแล้ว ถ้ายังไงระวังตัวด้วยนะ ใบเฟิร์นยังกลัวไม่หายเลยตอนที่องครักษ์หน้ายักษ์มาถามหาตะวันที่ผับ”
“จ้ะ ตะวันจะระวังตัวให้มาก ใบเฟิร์นไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ”
“ได้ยินแบบนี้ใบเฟิร์นก็โล่งอก ใบเฟิร์นไม่กวนตะวันแล้วนะ อาทิตย์หน้าเจอกันจ้ะ”
พันธิสารอกระทั่งเพื่อนรักรับคำ ก็กดวางสายพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกเป็นที่สุดที่ได้เตือนให้อาคิราระวังตัวจากอิทธิพลของท่านชีคอัลมัส
หลังจากนั้นก็ก้มลงเก็บการ์ดแต่งงานที่ตกกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นห้องตอนปะทะกับองครักษ์หน้าตาบูดบึ้งที่เธอยังไม่รู้จักชื่อของเขาและไม่อยากรู้ด้วย เพราะเส้นทางชีวิตของเธอกับองครักษ์ที่ยิ้มไม่เป็นคนนี้คงไม่มีทางโคจรมาเจอกันอีก จึงไม่จำเป็นต้องรู้จักให้เสียเวลา
หลังจากรวบรวมเก็บการ์ดแต่งงานมาถืออยู่ในมือแล้ว พันธิสาก็เดินออกจากผับในยามดึกดื่น ซึ่งเธอไม่มีหวาดกลัวที่ต้องขับรถกลับบ้านในเวลาจวนจะตีสาม เพราะถนนหนทางบนเมืองป่าตองไม่เคยร้างราจากแสงไฟและนักท่องราตรีที่ยังคงนั่งดื่มกินเคล้านารีอยู่ตามผับบาร์ที่มีมากมายราวกับดอกเห็ดทั่วทั้งเมืองป่าตอง...
วันสำคัญของชีวิต วันที่จะเปลี่ยนจากชีวิตของการเป็นสาวโสด เป็นหญิงสาวที่มีครอบครัวอย่างสมบูรณ์ วันที่จะเป็นการเริ่มต้นของชีวิตคู่ระหว่างหนุ่มสาวสองคนกำลังจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งวันข้างหน้านี้ พันธิสาก็อยากเซอร์ไพรส์คู่หมั้นหนุ่ม ซึ่งจะเป็นการเซอร์ไพรส์ครั้งสุดท้ายสำหรับคำว่า ‘คู่หมั้น’ เพราะในวันถัดไปเธอกับนักรบจะแต่งงานกัน จะใช้คำว่าสามี ภรรยา แทนคำว่าคู่หมั้น...
ใบหน้าของว่าที่เจ้าสาวระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ดวงตากลมโตเป็นประกายขณะหลุบมองอาหารที่ถืออยู่ในมือ
เย็นวันนี้เธอเข้าครัวทำอาหารโปรดที่คู่หมั้นหนุ่มชอบที่สุดมาเสิร์ฟพร้อมกับไวน์แดงรสนุ่ม มาเสิร์ฟให้กับเขาถึงคอนโด เธอจะเซอรไพรส์คู่หมั้นและจะรับประทานอาหารมื้อค่ำในฐานะคู่หมั้นเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เธอจะทำอาหารและรับประทานอาหารในทุกๆ มื้อกับนักรบในฐานะของสามีภรรยา
เมื่อต้องการมาเซอร์ไพรส์คู่หมั้นหนุ่ม จึงไม่มีการเคาะประตูห้องให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงการมาถึงของเธอ ถึงแม้นักรบจะล็อกห้อง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเธอมีกุญแจห้องของเขาอีกหนึ่งชุด พอไขกุญแจได้แล้วก็ค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา เพราะเกรงว่าคู่หมั้นหนุ่มจะได้ยินเสียงการมาถึงของเธอและจะไม่เซอร์ไพรส์
“คุณรบต้องดีใจและเซอร์ไพรส์แน่ที่เราทำอาหารที่เขาชอบมาให้ทาน”
พันธิสาพึมพำพูดกับตัวเอง ใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข อีกทั้งอยากเห็นเหลือเกินว่าคู่หมั้นหนุ่มจะทำหน้าอย่างไรกับอาหารสุดพิเศษที่เธอนำมาเซอร์ไพรส์เขา
แต่...เท้าเล็กก้าวเดินได้แค่ไม่กี่ก้าวก็มีอันต้องชะงักกึกแทบก้าวเดินต่อไม่ได้ราวกับถูกตอกให้ติดยึดแน่นอยู่กับพื้นห้องก็ไม่ปาน เมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าดังมาจากห้องนอนของคู่หมั้นหนุ่ม
“โอ้ววว...เยส...เบบี้...อ้ารรร์...”
แน่นอนว่าเสียงครางดังลั่นราวกับกำลังทำกิจกรรมบนเตียงอยู่เป็นเสียงของคู่หมั้นของเธอ และเสียงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ยังคงดังมาให้ร่างของพันธิสาตัวสั่นด้วยความโกรธรระคนตกใจเมื่อรู้ว่านักรบ คู่หมั้นของเธอหิ้วผู้หญิงมานอนก่อนจะแต่งงานกับเธอแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น
“อ้ารรรร์ ซี๊ดดด...โอ้ววว...เยส...เยส...”
พันธิสากัดเม้มริมฝีปากไว้แน่น แทบเป็นลมให้ได้กับการถูกคู่หมั้นทรยศ และด้วยอยากเห็นกับตาให้รู้ดำรู้แดงและจะได้ถอนหมั้นโดยไม่ต้องมีข้อกังขา เท้าเล็กที่แทบไม่มีแรงยืนก็ค่อยๆ พาผู้เป็นเจ้าของเดินตรงไปยังห้องนอนของนักรบ
และไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตู เพราะประตูห้องนอนถูกเปิดทิ้งไว้อยู่แล้ว ซึ่งทำให้
พันธิสาเห็นภาพของคนสองคนที่เปลือยกายล่อนจ้อนกำลังนัวเนียพัวพันกันอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่บนเตียงกว้าง
แต่พอเห็นคู่ขาที่นักรบกำลังเล่นเซ็กด้วยอย่างเมามันส์อยู่กับใครบางคนที่เธอคาดไม่ถึงมาก่อน อาหารและไวน์แดงที่ถืออยู่ในมือก็ร่วงตกลงพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกับถูกผีหลอก ร่างบางสั่นสะเทิ้มจะเป็นลมให้ได้ และไม่รู้ตัวว่าหลุดเสียงเรียกคู่หมั้นกับคู่ขาของเขาออกมาได้อย่างไร