บทที่ 5

1134 Words
“เบื่อพวกผีเจาะปาก ช่างเม้าส์ซะจริงๆ ว่าคุณรบเป็นเกย์ เดี๋ยวคืนวันส่งตัวจะพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าคุณรบไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่พวกเธอเม้าส์ เข้าห้องหอเสร็จแล้วอยากเอาหลักฐาน มาฟาดพวกช่างเม้าส์ซะจริงๆ เอาให้หน้าแตกยับไปเลยที่หาว่าคุณรบของเราเป็นเกย์” พันธิสาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถึงบรรดาช่างเม้าส์ทั้งหลายที่ปรักปรำว่านักรบ คู่หมั้นของเธอมีจิตใจเบี่ยงเบนทางเพศรักชายด้วยกัน แน่นอนว่าในคืนวันแต่งงานอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เธอจะพิสูจน์และสยบคำเม้าส์ของทุกคน พร้อมกับประกาศให้รู้กันทั่วเลยว่าคู่หมั้นของเธอไม่ใช่เกย์ เขาเป็นชายทั้งแท่ง และในค่ำคืนวันนี้ เมื่อถึงเวลานัดหมายที่ท่านชีคอัลมัส อัลซิดส์ คาลาห์ แห่งประเทศ คาลาห์ ได้เดินทางมาถึง พันธิสาก็รอรับท่านชีคอัลมัสอยู่ด้านหน้าผับ ในมือถือพวงมาลัยดอกมะลิรอต้อนรับท่านชีคพร้อมกับเหล่าองครักษ์ที่ได้เดินทางมาอารักขาพระองค์ด้วย ทันทีที่ท่านชีคอัลมัสก้าวลงจากรถยนต์หรูและเดินตรงมาที่ประตูทางเข้าผับโดยมีองครักษ์สองคนคอยขนาบข้างด้วย ก็ย่อตัวยื่นพวงมาลัยให้พระองค์ เอ่ยต้อนรับเสียงสั่นเพราะความน่าเกรงขามของเจ้าแห่งทะเลทรายพระองค์นี้ “เดอะบีชผับยินดีต้อนรับท่านชีคค่ะ” ชีคอัลมัสเอื้อมหยิบพวงมาลัยดอกมะลิหอมชื่นใจมาถือไว้ ก่อนจะถามคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าพระองค์ “ไม่มีคนนอกเข้ามาในผับใช่ไหม” น้ำเสียงห้วนทรงอำนาจที่ถามออกมา กอปรกับดวงตาคมกริบซึ่งจ้องมองเขม็งมายังตัวเธอ ทำเอาพันธิสาหายใจไม่ทั่วท้อง เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักฟังแทบไม่รู้เรื่อง “ค่ะ...ค่ะ...ไม่มีใครเข้ามาแน่นอนค่ะ” ชีคอัลมัสพยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็เอ่ยชมหญิงสาวใบหน้างดงามชวนพิศที่ยืนอยู่ตรงหน้าพระองค์ “ขอบใจมากที่ให้การต้อนรับและทำตามคำขอร้องของเรา ที่ต้องการปิดผับเพื่อความเป็นส่วนตัว” “ค่ะท่านชีค เชิญท่านชีคด้านในผับเลยค่ะ” “อืม...พูดกับเราแบบคนธรรมดาก็ได้ เราไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเราเป็นใคร” น้ำเสียงที่เอ่ยบอกอ่อนลงกว่าในครั้งแรก ไม่มีห้วนขึง ช่วยคลายความหวาดกลัวของพันธิสาลงได้บ้าง และก็ผายมือเชิญท่านชีคอัลมัสกับเหล่าองครักษ์อีกครั้ง “ค่ะ ขอบคุณท่านชีคมากค่ะ ถ้ายังงั้นเชิญด้านในเลยค่ะ” ท่านชีคอัลมัสพยักหน้ารับ และก่อนจะเข้าไปในผับ ก็โบกมือไล่ผู้เป็นเจ้าของผับ “คุณไม่ต้องอยู่ดูแลพวกเรา เชิญพักผ่อนได้ตามสบาย องครักษ์มาริสส์จะดูแลเราเอง” “ค่ะ ท่านชีค” พันธิสาย่อตัวรับคำ จากนั้นก็ขยับก้าวถอยหลังเพื่อเปิดทางให้องครักษ์หน้ายักษ์ยิ้มไม่เป็น ได้เดินตามท่านชีคอัลมัสเข้าไปในผับ และจังหวะที่ร่างใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นได้ก้าวเดินตามท่านชีคเข้าไปนั้น บ่ากว้างขององครักษ์ผู้นี้ก็กระแทกตัวเธอเต็มแรงจนถึงกับผงะเซถลาเกือบล้มลง ดีที่อีกฝ่ายคว้าต้นแขนของเธอจับดึงไว้ซะก่อน “ขอโทษ” คำพูดสั้นๆ แบบมะนาวไม่มีน้ำ ได้หลุดออกมาจากปากขององครักษ์หน้าตายที่เอ่ยขอโทษหลังจากชนพันธิสาเต็มแรงจนหญิงสาวเกือบล้มหากเขาไม่คว้าต้นแขนไว้ซะก่อน และก็รีบปล่อยมือหญิงสาวอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อตก็ไม่ปาน ก่อนจะเดินเข้าไปในผับเพื่ออารักขาเจ้าเหนือหัวของตน ปล่อยให้พันธิสามองตามหลังด้วยแววตางุนงง และเกิดคำถามวิ่งวนอยู่ทั่วหัวว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นตอนที่ถูกองครักษ์ผู้นี้คว้าต้นแขนของเธอไว้ไม่ให้ล้มลง ทำไม! ทำไม! เธอถึงเกิดอาการวูบวาบราวกับถูกไฟช็อตในขณะที่ถูกองครักษ์หน้าตายยิ้มไม่เป็นคนนี้คว้าต้นแขนไว้ แค่เพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีที่มือใหญ่จับต้นแขนไว้ เธอรับรู้ถึงอาการของกระแสไฟที่วิ่งพล่านอยู่ทั่วตัว ซึ่งไม่มีเคยมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้นตอนที่ถูกนักรบผู้เป็นคู่หมั้นโอบกอด และอยากรู้เหลือเกินว่าทำไมเธอต้องเกิดอาการร้อนผะผ่าวทั่วใบหน้า ในยามที่นึกถึงดวงตาคมกริบขององครักษ์ที่ได้จ้องมองเธอในตลอดเวลาที่เธอได้ยืนต้อนรับท่านชีคอัลมัส “เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องหน้าแดงตอนที่ถูกเขามองด้วย” พันธิสาตั้งคำถามกับตัวเอง แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้จึงจำต้องสลัดภาพดวงตาคมกริบขององครักษ์ผู้นี้ออกไปจากความคิดในที่สุด แต่...ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะดวงตาคู่นี้และใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มไม่เป็นได้ตามเข้ามาในห้วงความคิดของเธอในตลอดเวลาทั้งๆ ที่เพิ่งพบหน้ากันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำไป เมื่อชีคอัลมัสสั่งว่าไม่ต้องอยู่ดูแลพระองค์ เพราะพระองค์มีองครักษ์คอยดูแลและต้องการความเป็นส่วนตัวในการเลี้ยงฉลองโสด พันธิสาจึงกลับเข้ามาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหลังผับ และให้แฟร์รี่รวมทั้งพนักงานในผับอีกหลายๆ คนคอยดูแลให้บริการเรื่องเครื่องดื่มกับท่านชีคอัลมัสและองครักษ์ของพระองค์ ขณะนั่งทำงานอยู่นั้น ภาพของใบหน้าคมเข้มติดบึ้งตึงรวมทั้งดวงตาคมกริบขององครักษ์ที่เธอยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามก็ตามมาหลอกหลอนจนต้องวางปากกาลง เพราะถูกภาพขององครักษ์ผู้นั้นรบกวนจนไม่มีสมาธิทำงาน “เป็นอะไรนี่ ทำไมนึกถึงแต่ใบหน้าขององครักษ์คนนั้น” พันธิสาบ่นต่อว่าตัวเอง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตั้งใจจะชงกาแฟดื่มสักแก้ว แต่ไม่ทันได้ชงกาแฟ ก็มีอันต้องตกใจกับเสียงตะโกนเรียกร้องโวยวายของแฟร์รี่ “คุณใบเฟิร์น! คุณใบเฟิร์น! แย่แล้วค่ะ คุณตะวันตบหน้าท่านชีคอัลมัสค่ะ” ถ้วยกาแฟที่ถืออยู่ในมือแทบร่วงตกลงพื้นตอนได้ยินคำโวยวายของแฟร์รี่ ที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องทำงานของเธอ และก็ถามซ้ำเสียงร้อนรนราวกับฟังไม่ชัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD