“หนูธาร ทำอะไรอยู่หลาน ช่วยหยิบมีดดายหญ้าให้ยายหน่อยได้ไหม ยายว่าจะดายหญ้าแถวโคนข่าแดงสักหน่อย เผลอไม่ได้เลย ขึ้นเร็วจริง”
“ยายจ๋าไม่ต้องทำแล้ว มากินข้าวกลางวันก่อนดีไหมคะ ธารทำกับข้าวเสร็จหมดแล้ว เดี๋ยวบ่ายค่อยทำต่อก็ได้”ธารธาราร้องตะโกนลงมาจากบ้านไม้สักหลังใหญ่ที่อยู่ห่างจากยายประมาณ 20 เมตร จริงๆเธอเดินมาบอกยายใกล้ๆก็ได้ แต่อยากตะโกน อยากทดสอบดูว่ายายจะได้ยินชัดเจนไหม และยายก็ได้ยินเสียงของเธอจริงๆ
“ก็ได้ๆงั้นเดี๋ยวยายขอไปอาบน้ำก่อนน่ะลูก ตั้งสำรับไว้ได้เลย”
ธารธาราจัดสำรับข้าว วันนี้เธอทำแกงส้มหน่อไม้ดองใส่ปลาทับทิม ปลาช่อนแดดเดียวทอด ผัดฟักทองใส่ไข่ ต้มจืดแฟงใส่น่องไก่ ทุกอย่างเป็นผักที่อยู่ในสวนของยายเธอทั้งนั้น ซื้อแค่ไก่กับปลาเพราะเธอกับยายไม่ฆ่าสัตว์ ทั้งที่เลี้ยงทั้งปลาและไก่
ยายสร้อยสนวัย 68ปี ร่างกายยังแข็งแรงมาก ค่อยๆลุกขึ้นจากม้านั่งตัวเล็ก ยายสร้อยเตรียมดายหญ้ารอบโคนกอข่าแดง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหญิงชราเพื่งทำไป วันนี้เริ่มขึ้นมาอีกแล้ว สวนผักของยายไม่ใช้สารเคมี หลักๆที่ทำก็คือสวนกาแฟ ยายสร้อยสนปลูกกาแฟมาเกือบๆเท่ากับอายุของแก พ่อกับแม่พาทำ และทำเป็นอาชีพ เป็นรายได้หลัก ส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท ทุกคน นอกจากนั้นยังมียางพาราและปาล์มน้ำมัน
ยายสร้อยเดินกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปจากบริเวณสวนประมาณ 20 เมตร การได้ทำงานทำให้ร่างกายแข็งแรง สมัยก่อนบ้านหลังนี้ใต้ถุนสูงมาก เหมือนบ้านตามต่างจังหวัดทั่วไป แต่เพราะด้วยอายุที่มากขึ้น ยายสร้อยสนให้ช่างลดความสูงของบ้านลงมา จากบันได 12 ขั้นเหลือแค่บันได 5 ขั้น พอที่จะให้คนแก่ขึ้น ลง ได้อย่างสบายๆ สำหรับยายสร้อยไม่มีปัญหา แต่หลานยายสร้อยมีปัญหา ธารธาราไม่อยากให้ยายขึ้นลงลำบาก
“กับข้าวน่ากินทุกอย่างเลยนะลูก ขยันทำจริงๆเลย นี่ถ้าหนูธารกลับมาอยู่บ้าน ยายคงเจริญอาหารแน่ๆ”
“ยายรออีกสักหน่อยนะจ๊ะ ธารรอสอนงานน้องใหม่ ไม่เกินสิ้นปีนี้ ธารได้กลับมาอยู่บ้านกับยายแน่นอนเลย”
“ไอ้งานที่หนูธารทำนี่ ถ้ายายรู้ว่ามันหนักแบบนี้ ทำเยอะขนาดนี้ ยายจะไม่ให้หนูธารเรียนเลยนะ แต่มันก็ไม่ทันแล้วใช่ไหมลูก เพราะหนูเรียนจบทำงานแล้ว”
“จ๊ะยาย ก็ธารชอบนี่นา ทำมาตั้งหลายปี แต่เพื่อยาย ธารยอมลาออก”
“นี่ยายไม่ได้บังคับหนูให้ลาออกจากงานใช่ไหมลูก”
“ไม่ๆค่ะยาย ธารเต็มใจ เพราะธารก็เบื่อแล้วเหมือนกัน”
“เบื่อนี่เบื่อคนหรือเบื่องานกันแน่”
“เบื่อคนค่ะยาย เบื่อเถียงกับคน เบื่อช่าง เบื่อเจ้านาย เบื่อลูกค้า เบื่อผู้ชายที่งี่เง่าด้วย ข้อหลังนี่เบื่อมากๆเลยค่ะยาย”
“นี่ดำรงเขายังไม่เลิกตอแยหนูธารอีกเหรอลูก แต่งงานไปแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่ายายจำผิด ว่าเขาแต่งงานแล้ว”ยายสร้อยสนมองหน้าหลานสาวอย่างพิจารณา หลานของแกเป็นคนสวย และสวยมากด้วย
“ดำรงแต่งแล้ว มีลูกแล้ว และเลิกแล้วค่ะยาย ภรรยาเขามีคนใหม่ เพราะทนเขาไม่ได้ ดำรงเจ้าชู้มากถึงมากที่สุด น่ากลัวมาก เพื่อนๆบอกว่าเขามั่ว”
“แล้วหนูธารล่ะ ว่ายังไง เขามั่วจริงอย่างที่คนอื่นพูดไหม”
“มั่วจริงค่ะยาย เขาคบซ้อนไม่เลือกว่าผู้หญิงจะมีแฟนหรือสามีแล้ว”
“เรื่องแบบนี้โทษผู้ชายอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก”
“ก็จริงอย่างที่ยายว่านะคะ ธารนี่ไม่อยากจะเจอหน้าเขาเลย”
"ก็พยายามเลี่ยงๆไว้ล่ะกันลูก"
อากาศยามเที่ยงเย็นสบาย สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง กับข้าวฝีมือหลานรัก ทำให้ยายสร้อยเจริญอาหารจริงๆ บ้านของยายห่างจากภูเขาประมาณเกือบยี่สิบกิโลเมตร ต้นไม้เยอะ ชาวบ้านแถบนี้ทำสวนกาแฟ ผลไม้ ทำสวนผักนิดหน่อย ไม่มีบ้านไหนที่ปลูกกาแฟเยอะเหมือนบ้านยายสร้อย ที่ไหนๆก็มารับกาแฟที่สวน หลังจากที่สามีของยายสร้อยป่วย และจากไปเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ยายสร้อยก็ทำสวนกาแฟเหมือนเดิม แค่จ้างคนมาดูแลช่วย สวนของยายเน้นปุ๋ยอิทรีย์ กาแฟสวนของยายจึงเป็นที่ต้องการของตลาด
สวนของยายไม่ใช้สารเคมีเกือบร้อยเปอร์เซ็น อาศัยหมักปุ๋ยใช้เอง ทำน้ำยาฉีดพ่นเอง ซึ่งจะปลอดภัยทั้งคนปลูก คนเก็บ และคนบริโภค แถมดินก็ดีด้วย ใครๆก็บอกว่ากาแฟสวนยายอร่อยรสชาติดี แค่เฉพาะส่งขายในจังหวัดก็แทบจะไม่พอ
ลูกๆของยายสร้อยไม่สืบทอดอาชีพนี้เลยสักคนเดียว ยายมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชายเป็นนักธุรกิจ แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพฯที่สำคัญลุงของเธอไม่ค่อยว่าง หลายปีกว่าจะได้กลับมาเยี่ยมแม่ เพราะยุ่งกันทั้งครอบครัวกับธุรกิจ มีลูกชาย 1 คน เป็นหมออยู่ที่ต่างประเทศ
ลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง แต่งงานกับนายทหาร อาศัยอยู่ภาคเหนือ มีลูกชาย 1คน เรียนจบสาธารณสุข ทำงานอยู่ที่ภาคเหนือเช่นกัน
และคนสุดท้ายคือแม่ของเธอ แม่ของธารธาราเป็นครูสอนมหาวิทยาลัย แต่งงานกับอาจารย์ด้วยกัน พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อสมัยที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3 พ่อเธอเสียชีวิตได้ 2 ปี แม่เธอก็แต่งงานใหม่กับอาจารย์ ที่สอนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ไม่มีลูกใหม่ ธารธาราเป็นลูกสาวและหลานสาวคนเดียวของยาย
ยายสร้อยแบ่งที่ดินให้ลูกคนละ 20ไร่ ลูกชายคนโตขายคืนให้ยายสร้อย นั่นทำให้ยายช้ำใจหนักมาก ลูกแท้ๆขายที่คืนให้แม่ แต่ความเศร้าก็อยู่กับยายไม่นาน ยายสงสารลูกชายคนโต เห็นว่าจะนำเงินไปต่อยอดธุรกิจ ลุงบอกว่า หลังจากที่โควิดมาเยือน ธุรกิจของลุงเจ้งระนาว ต้องหาเงินทุนมาต่อยอด
ป้าของธารธารา ขายที่ดินให้กับยายเหมือนกัน เหมือนว่าสองคนจะปรึกษากันมาแล้ว เพราะขายพร้อมๆกันเลย ทั้งสองคนอ้างว่า ถ้ายายไม่ซื้อคืนพวกเขาก็จะขายให้กับนักลงทุน แรกเลยลุงกับป้าไม่คิดว่ายายจะซื้อคืนเพราะที่ดิน 40 ไร่ ตามราคาประเมินจากสำนักงานที่ดิน สูงพอสมควร นั่นทำให้ลูกๆรู้ว่ายายมีเงินมากกว่าที่ซื้อที่ดินคืน หลังจากที่ขายที่ให้ยายแล้ว ลุงกับป้ายังวนเวียนมาหยิบยืมเงินยายเป็นประจำ
ยกเว้นแม่ของเธอที่ดิน 20ไร่ แม่โอนให้เป็นชื่อเธอ เพราะตกลงกับพ่อไว้ว่าที่ดินผืนนี้ต้องยกให้ลูกสาวคนเดียว ถ้าไม่ตกเป็นของเธอมีหวัง แม่คงขายเหมือนกัน เพราะดูแล้ว สามีใหม่ของแม่ที่เป็นอาจารย์ลาออกจากมหาวิทยาลัย ไปทำธุรกิจนำเข้าและส่งออก เท่าที่เธอศึกษามาและรู้มา การทำธุรกิจแบบนี้ต้องใช้เงินลงทุนมากพอสมควร และเสี่ยงอีกด้วย แต่เธอพูดอะไรไม่ได้ แม่รักสามีใหม่มาก
ยายเป็นคนอุปการะส่งเสียเธอให้เรียน และเลี้ยงดูมาตั้งแต่พ่อเธอเสีย ยายห่วงกลัวมีปัญหาเรื่องพ่อเลี้ยง ลูกเลี้ยง และก็จริงอย่างที่ยายกลัว ช่วงปิดเทอมเธอไปอยู่กับแม่ พ่อเลี้ยงของเธอเริ่มที่จะรวนลามเธอด้วยสายตาและคำพูด ทำให้ธารธาราไม่ไปอยู่กับแม่อีกเลย และได้ยินข่าวบ่อยๆว่าพ่อเลี้ยงเธอเจ้าชู้มาก ยายสั่งห้ามไม่ให้แม่พาเขามาบ้าน ถ้าหากแม่อยากมาก็ให้มาคนเดียว ยายไม่ต้อนรับสามีใหม่ของแม่ และเหมือนละครมาก แม่เข้าข้างสามีใหม่
ธารธาราไม่สนิทกับครอบครัวลุง และครอบครัวป้า พวกเขาไม่ชอบงานสวน ไม่มีใครรู้ว่ายายยกที่ดินที่ซื้อคืนจากลูกทั้งสองคน ให้กับธารธารา แบ่งเป็นปลูกยางพารายี่สิบไร่ และปลูกปาล์มน้ำมันยี่สิบไร่
ธารธาราเรียนจบและทำงานมาสี่ปีแล้ว ปลายปีนี้เธอลาออก อยากกลับมาดูแลยายเธออยากให้ยายได้พักบ้าง งานสวนทั้งหมดเธอเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก เธอทำเพียงแค่ดูแลผลผลิตให้ดี ส่งลูกค้าได้เท่านั้นก็พอ เพราะยายวางรากฐานเอาไว้แล้ว กาแฟของยายได้ขึ้นห้าง และแทบจะมีพนักงานของบริษัทฯกาแฟชื่อดังมาดูแลให้
“ยายจ๋า ไปกรุงเทพฯกับธารไหม แล้วเดี๋ยวอาทิตย์หน้าค่อยกลับพร้อมกัน ธารมีวันหยุดรวมกัน 4วันเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรดีกว่าลูก หนูธารกลับไปทำงานเถอะ ยายห่วงข่าแดง เพิ่งจะปลูกด้วย อยากเอาใจใส่ให้มากกว่านี้”
“ ทำไมไม่ให้ลุงจวบ กับป้านงค์ดูให้ล่ะคะ”
“ให้คนอื่นดูก็ไม่เหมือนเราดูเองหรอกหลาน อีกอย่างช่วงนี้จวบกับนงค์ต้องช่วยงานหลายอย่าง ต้องดูคนงาน พวกเขาก็เหนื่อย”
“ยายจ๋า ธารถามจริงๆเถอะ ยายก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง แล้วทำไมยายต้องมาทำให้มันเหนื่อย วัยของยายน่าที่จะต้องพักผ่อนได้แล้วนะคะ ธารเป็นห่วงรู้ไหม”
“หนูธาร งานพวกนี้ยายทำมาตั้งแต่เด็ก อีกอย่างคนงานเขาก็อาศัยเรา ถ้าไม่มีสวนของยาย พวกชาวบ้านเขาก็จะไม่มีงานทำนะลูก ยายไม่ได้ลำบากอะไรหรอกหลาน นี่แหละคือการพักผ่อนของยาย เช้าๆได้เดินลงสวน ยายมีความสุข” ยายสร้อยพูดไปยิ้มไป
“ธารยอมแพ้ยายค่ะ รออีกหน่อยนะคะ กลับไปธารจะพยายามสอนงานน้องให้ได้เยอะที่สุด "
“ไม่ต้องกังวลใจอะไรเลยนะหลาน ทำงานของเราให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงยาย ยายจะนอนเร็วนะคืนนี้ อากาศเริ่มเย็นแล้ว”ยายสร้อยสนกระชับเสื้อแขนยาวที่ใส่คลุมทับเสื้อคอกระเช้า
“พรุ่งนี้วันพระใหญ่เราไปวัดกันใช่ไหมคะยาย ”
“ใช่ลูก เตรียมอะไรไปใส่บาตรบ้างล่ะ”
“กลัวยบวดชี แกงเขียวหวานไก่ น้ำพริกผักต้มค่ะยาย เห็นว่าหลวงตาท่าชอบฉันท์น้ำพริก”
“อื่อ...ดีลูกดี ไปๆยายจะไปสวดมนต์แล้ว ก่อนนอนก็ปิดประตูปิดหน้าต่างดีๆนะลูก หรือว่าจะไปนอนที่บ้านโน้น”
“นอนที่นี่ค่ะยาย ธารยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย ไว้อาทิตย์หน้ามาค่อยไปนอนบ้านโน้นค่ะ”
“ดีแล้วลูก แล้วก็อย่านอนดึกล่พ ทำอะไรเสร็จแล้วก็พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำกับข้าวอีก”ยายสร้อยลูบหัวของหลานสาวคนสวยอย่างเมตตา ก่อนที่จะเดินเข้าห้องส่วนตัวเพื่อไปพักผ่อน
ธารธาราเก็บถ้วยจานล้างทำความสะอาด เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารไปวัดพรุ่งนี้ ทุกวันพระใหญ่ยายจะให้เป็นวันหยุดของคนงานทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้ไปวัดทำบุญ ส่วนวันอาทิตย์ก็หยุดปกติอยู่แล้ว คนสวนส่วนมากเป็นต่างชาติ หาคนไทยไม่ค่อยได้ ส่วนมากเข้ากรุงเทพฯหรือไม่ก็ไปทำงานตามจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม ที่อยู่บ้านเฝ้าบ้านก็มีเพียงคนสูงอายุ จังหวัดนีัมีพื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน แถบหมู่บ้านที่ยายอยู่ ส่วนมากจะมีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานท้ังนั้น
คนงานต่างชาติที่มาอาศัยทำงาน ยายปลูกบ้านให้อยู่ภายในสวน เอกสารทุกอย่างพร้อม ยายทำถูกต้องทุกอย่าง สวนยายไม่มีเจ้าหน้าที่มากวน และคนงานต่างชาติอยู่กันอย่างสงบสุข รักและเคารพยายทุกคน พวกเขาคิดว่าถ้าหากไม่ได้ทำงานที่เมืองไทย พวกเขาคงอดตายที่ประเทศของเขาแน่นอน มีบางคนที่พูดไทยชัดมาก
ยายให้คนงานปลูกผักสวนครัวทุกอย่างไว้ทำอาหาร มีผักปลอดสารกินตลอดปี แทบทุกอย่างไม่ต้องไปซื้อให้เปลืองเงิน ปลูกจนกินไม่ทัน หลังๆมายายตั้งกล่องไว้หน้าสวน ใครอยากได้ผักอะไรก็เก็บเอา แล้วหยอดเงินในตู้ที่ยายใส่กุญแจไว้ พอครบเจ็ดวัน ยายจะให้ลุงจวบไปไขนำเงินในกล่องไปซื้อหมูกระทะมาเลี้ยงคนงาน เธอว่ามันน่ารักดี ยายเป็นคนทันสมัย นิสัยโอบอ้อมอารีย์ แต่ลูกๆของยายไม่ได้ยายเลยสักคน
หรืออาจเป็นเพราะทุกคนชินกับการอยู่ในเมืองที่สะดวกสบาย เลยไม่ชอบงานสวน ที่เนื้อตัวเลอะเทอะเปรอะเปื้อนอยู่ตลอดเวลา แต่พวกเขาลืมไปว่า คนเป็นแม่ที่ทำงานสวนพวกนี่แหละ ที่เป็นคนส่งเสียพวกเขาให้ได้เรียนสูงๆและได้ทำงานดีๆได้ไปอยู่ในสถานที่ที่สะดวกสบายอย่างที่พวกเขาชอบ