27

1165 Words
“คุณไม่พอใจการบริการ หรือไม่พอใจพื้นที่ส่วนไหนของโรงแรม สามารถแจ้งทางเราได้เลยนะคะ แต่ไม่ควรไลฟ์กล่าวหาพนักงาน กล่าวหาสถานที่ของเราโดยไม่มีมูลความจริงแบบนี้ค่ะ” “ไม่มีมูลอะไร” อรุณวดีเถียงคอขึ้นเป็นเอ็นกล้ามเนื้ออย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว “เห็นอยู่เนี่ยว่ายามของคุณกันฉันออกจากโรงแรม ขอเหตุผลหน่อยว่าทำไม ทำไมฉันถึงถูกไล่เหมือนหมาแบบนี้ ทำไมคะ!” อรุณวดีถามด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นและเสียดสี “ถ้าถามถึงเรื่องนั้น เป็นเพราะคุณก่อเสียงดังขึ้นก่อนค่ะ และยังมีท่าทีที่ส่อไปในทางใช้ความรุนแรงอีกด้วย เราเลยต้องให้คุณออกมาจากบริเวณนี้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของแขกท่านอื่น แล้วยังอยากให้คุณได้สงบลงด้วยยังไงละคะ” อรุณวดีเบ้ปากทันทีที่คนตรงหน้าพูดเหตุผลจบลง ตนรู้แล้วว่าตนนั้นผลีผลามวู่วามจนเกินไป แต่จะให้ยอมลงแบบง่ายๆ ก็เห็นจะทำไม่ได้ ดีที่ตนปิดการไลฟ์ลงไปแล้วเมื่อนาทีก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผู้จัดการโรงแรมตัวดีจะพูดแทรกเสียงดัง อย่างกับต้องการให้เสียงแทรกเข้ามาให้คนที่ชมการไลฟ์ของตนได้ยินไปด้วย อรุณวดีเมินหน้าไม่พูดอะไรเป็นการตอบโต้ แล้วเดินตรงไปยังรถของรัฐศาสตร์ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถด้านข้างของโรงแรมแทนเพื่อไม่ให้ใครก็ตามยืนมองมาที่ตนอีกต่อไป รัฐศาสตร์เพิ่งอาบน้ำเสร็จเขาลงมาที่ด้านล่างก็พบกับความวุ่นวายที่เหมือนกับจะเกิดขึ้นก่อนหน้าที่ตอนนี้หายไปแล้ว รัฐศาสตร์ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเมื่อพบว่าเสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ยังคงเป็นคนเดิมที่โทรเข้ามาหาเขา ที่ไม่ได้รับในทีแรกตอนนั้นรัฐศาสตร์กำลังอาบน้ำอยู่ เขาจึงไม่ได้รับสายของอรุณวดี และเมื่อโทรหา 1 ครั้งไม่รับสาย อรุณวดีก็เพียรโทรตามเขาซ้ำๆ อีกเป็นสามสิบกว่าครั้งภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทั้งยังส่งข้อความเร่งให้เขาขนของลงไปที่ด้านล่างอีกด้วย เป็นตายร้ายดีอย่างไร เจ้าหล่อนก็จะไม่พักที่โรงแรมแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว แต่รัฐศาสตร์ก็ไม่ได้เก็บของลากกระเป๋าลงมาตามที่อรุณวดีสั่งการเขาก่อนที่เจ้าหล่อนจะลงมาที่ด้านล่างก่อนหน้า รัฐศาสตร์จำใจต้องกดรับสายในที่สุด “กว่าจะรับได้นะคะ” เสียงเหน็บแนมดังขึ้นทันทีที่เขากำลังยกโทรศัพท์ขึ้นจะแนบหู แล้วเปลี่ยนใจเป็นกดเปิดลำโพงเพื่อสนทนากับอรุณวดี “หนูดีอยู่ที่ไหนเนี่ย” “รออยู่ที่รถค่ะ พี่พีททำเรื่องเช็คเอาท์แล้วก็มาที่รถได้เลยนะคะ หนูดีเหนื่อย อยากกลับแล้วค่ะ” รัฐศาสตร์เงียบไปครู่เดียว ค่อยตอบกลับไปว่า “พี่ยังไม่กลับถ้าหนูดีอยากกลับก็กลับไปก่อนเลย” พร้อมพรตบกระเป๋าไปมา เมื่อคืนนี้เธอนอนไม่พอ วันนี้จึงรู้สึกได้ว่าหัวสมองของเธอคิดอ่านอะไรไม่ครบถ้วนดีเท่าไหร่นัก หลงๆ ลืมๆ ไปเสียหมด และตอนนี้พร้อมพรก็กำลังตามหาโทรศัพท์ของตัวเอง เธอเอาไปวางทิ้งไว้ที่ไหนกันนะ “หาอะไรจ๊ะ” บุหงาถามด้วยท่าทีมีเลศนัย มือสองข้างไพล่ไปทางด้านหลัง เดินตรงเข้ามาหาเธอ พร้อมพรยิ้มแห้งๆ แล้วตอบไปว่า “สงสัยเมยจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องค่ะ” บุหงาคลายมือที่ไพล่หลังออก ชูโทรศัพท์ของเธอขึ้น “พี่เอามาให้แล้ว แต่ไม่ต้องเปิดเครื่องหรอก อยู่แบบนี้แหละดีแล้ว” พร้อมพรไม่ได้ลงไปรับลมทะเลที่ด้านล่าง เธอและบุหงาขึ้นมาที่ห้องของวัชระเศรษฐ์ นั่งรับลมโชยเอื่อยที่ระเบียงห้อง ตรงสระน้ำของเขาตั้งแต่ที่เธอเจออรุณวดีต่อว่าที่ล็อบบี้เมื่อช่วงสายของวัน จนเที่ยง จนบ่ายคล้อยแล้วเธอก็ยังไม่เคลื่อนย้ายตัวเองไปที่ไหน ยังคงนั่งเหม่อลอยตรงนี้ “เราอยู่ตรงนี้ก็ดีเหมือนกันนะเมย ไม่ต้องลงไปเจอสายตาของพวกข้างล่าง” บุหงาบอก พร้อมพรฝืนยิ้ม “ดีก็ดีอยู่หรอกค่ะ แต่เมยเกรงใจบอสนี่คะ” “จะมาเกรงจงเกรงใจอะไร ก็บอสเป็นคนบอกเองให้พวกเราขึ้นมาอยู่บนนี้” บุหงาบอกให้เธอสบายใจ “นี่ก็ผ่านมา 2 วันแล้ว เรามีเวลาพักผ่อนอีกแค่ 2 วัน อย่าคิดอะไรรกหัว กิน ดื่ม เที่ยวให้เต็มที่ดีกว่าแล้วก็กลับไปลุยงานให้บอสต่อ” พร้อมพรยิ้มรับ จะว่าไปแล้วที่ตัดสินใจมา เธอเกรงใจผู้บริหารที่จัดกิจกรรมให้พนักงานไม่เข้าร่วม ตอนที่มาก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องยุ่งยากใจเช่นนี้ การได้พบเจอรัฐศาสตร์ ได้เจออรุณวดีที่นี่ทำให้พร้อมพรรู้สึกแย่ แย่มากๆ พร้อมพรคิดอย่างสับสน เธอนั่งทอดอารมณ์ที่โต๊ะรับลมทะเลไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน จึงเอนตัวลงนอนที่เก้าอี้ริมสระตัวข้างๆ กัน พร้อมพรหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าพระอาทิตย์ที่เบื้องหน้ากำลังคล้อยตัวลงที่ขอบฟ้าพอดิบพอดี ภาพนี้ช่างสวยเหลือเกิน เสียงขยับตัวด้านข้างเรียกความสนใจที่กำลังมองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าให้ไปมองทางนั้นแทน พร้อมพรจึงได้สบตากับวัชระเศรษฐ์เข้า เขาเองกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ชายหาดข้างกันกับเธอ “ผมไม่ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้มานานแล้ว” พร้อมพรยิ้มรับคำพูดของเขาจะหันไปมองที่พระอาทิตย์ตรงหน้าอีกครั้งแล้วพูดขึ้นว่า “เมยก็เหมือนกันค่ะ” “โรแมนติกเนอะ” เสียงของบุหงาดังมาจากทางด้านหลัง ทีแรกเธอก็ไม่ทันได้คิดแต่พอทบทวนคำพูดของบุหงาแล้วก็รู้สึกไปหน้าออกร้อนขึ้นเล็กน้อย “หิวหรือยัง เราสั่งอะไรมากินกันที่ข้างบนนี้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องลงไปข้างล่าง” “มาทะเลทั้งที ไม่ได้เที่ยวทะเลเลย นั่งแต่ที่ระเบียงข้างสระน้ำ” บุหงายังคงบ่นเก่งอย่างเคย พร้อมพรได้ยินแล้วก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า เพราะการที่ตนเองและบุหงาขึ้นมาที่ห้องพักของเจ้านายแบบนี้ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก คงเป็นเพราะเมื่อช่วงสายหลังจากถูกอรุณวดีรุกใส่แบบนั้น ทำให้เธองงๆ มึนและชาหนึบไปทั้งหัวใจและหัวสมอง เลยยอมเดินตามบุหงาและวัชระเศรษฐ์ขึ้นมาบนห้องของเขาเช่นนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD