ถุงส้มถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งเต็มไปด้วยมอนิเตอร์ และภาพจากกล้องวงจรปิดจากหลายมุมในหมู่บ้าน ตอนนี้นอกจากแดนไทแล้ว ยังมีลุงมา ซึ่งเป็นยามเก่าแก่ (แก่จริง ๆ) กำลังนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวไก่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ เป็นผู้ดูแลทางเข้าออกหมู่บ้านแห่งนี้
“กินมั้ย? ลุงซื้อแยกน้ำไว้ให้ถุงหนึ่ง” ว่าแล้วก็ส่งชาม ช้อน และตะเกียบใช้แล้วทิ้งให้ยามหนุ่มคนใหม่ทันที พร้อมเขยิบให้ร่างสูงมานั่งทานได้สะดวก
“ขอบคุณครับลุง” แดนไทรับน้ำใจแต่โดยดี เพราะช่วงนี้มีรายจ่ายเยอะ เลยไม่คิดจะปฏิเสธน้ำใจจากใครสักเท่าไหร่
“ลุงว่าแล้ว เวลาเอ็งไปตรวจตรารอบหมู่บ้านทีไร มักได้ของฝากมาเสมอ” มือเริ่มเหี่ยวตามอายุ เอื้อมไปหยิบส้มลูกใหญ่มาปลอก และเอาเข้าปากทันที “อมเปรี้ยวอมหวาน อร่อยใช้ได้”
ตอนนี้นอกจากก๋วยเตี๋ยวไก่ในชามแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าหญิงสาวในชุดนอนสุดวาบหวิวนั่นเลย ไม่รู้ว่าที่เจ้าหล่อนมองดู จะเป็นเขา หรือแค่ออกมามองดูท้องฟ้ากันแน่ แต่ก็ไม่ผิดเสียหน่อยที่ชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างแดนไทจะหวัง เพราะดูจากดวงตาหวานคู่นั้น ดูอย่างไร ก็มองตนเองอยู่ชัด ๆ (เข้าข้างตัวเองเห็น ๆ)
“ลุงมา เจ้าของโครงการนี้เขาก็อยู่ที่นี่เหรอ?” แดนไทถามขึ้น
“ใช่ จริงด้วย ลุงลืมบอกเอ็งไป ว่าคุณนวลอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ทุกวันหรอกนะ เดือนหนึ่ง จะมาสัก 1 หรือ 2 ครั้ง” ลุงมายังคงเอร็ดอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวไก่ของแกไม่เลิก จนไม่ได้ดูว่าชายหนุ่มข้างกาย ตอนนี้กำลังคิดไปถึงไหนต่อได้แล้ว
“คุณนวลเขา... เป็นคนยังไงครับลุง?”
“เอ็งจะถามไปทำไมวะ?”
“ก็ผมเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน ผมก็ต้องถามสิครับ นั่นเหมือนเจ้านายผมเลยนะ” ชายหนุ่มพยายามตะล่อมล้วงข้อมูลจากชายวัยลุง
“มันก็จริงของเอ็ง ลุงก็ไม่ได้สนิทกับคุณนวลเท่าไหร่ จะพูดอย่างไรดีล่ะ คุณนวลไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่หรอก ในหมู่บ้านนี้ แต่ในความคิดลุง คุณนวลใจดีนะ ตอนปีใหม่ ในทั้งของขวัญ และให้เงินลุงตั้งเยอะ”
“เหรอครับ”
“ใช่ ต่างจากคุณประสิทธิ์ สามีของเธอ รายนั่นน่ะ ขี้งก!” พอพูดถึงเจ้านายอีกคนที่จากไป ลุงยามก็เกิดอาการฮึดฮัดขึ้นมาทันที ยังจำไม่เคยลืม เรื่องที่ตนเองโดนตำหนิเรื่องเล็ก ๆ อย่างเช่น ต้นไม้มันยื่นมาขวางถนนเพราะมีพายุหนัก แต่ตนเองกลับโดนตำหนิ และหักเงินเดือนอันน้อยนิดนั่นอีก
“คุณนวลเธอมีสามีแล้วเหรอ?” เสียงดูเศร้าลงถนัดหู
“มี แต่ตายไปแล้ว เธอเลยต้องมาดูแลธุรกิจสามีของตัวเองนี่ไง เรียกได้ว่าเป็นแม่หม้ายเนื้อหอมเลยก็ว่าได้ ทั้งสวย ทั้งรวย”
“อ่อ~” เหมือนนัยน์ตาหนุ่มกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ก๋วยเตี๋ยวไก่ที่เหลืออยู่ ออกรสมากขึ้นเข้าไปอีก
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง รถยนต์คันหรูสีดำเงาก็วิ่งออกมา หน้าที่ยามประจำป้อมอย่างลุงมาเองก็กดปุ่มเพื่อเปิดที่กั้นออก ก่อนเจ้าของรถจะจอดเทียบ พร้อมลดกระจกทักทายตามปกติ
“พอดีฉันเพิ่งกลับจากภูเก็ตมา นึกถึงแกงส้มฝีมือป้าสาย เลยซื้อมาฝาก” เจ้าหล่อนยื่นกะปิเคยถุงใหญ่ส่งให้คนในป้อมอย่างเป็นกันเอง จนกระทั่งสายตาไปประสบกับยามหนุ่มคนใหม่ ก่อนหน้านี้เห็นไกล ๆ ก็คิดว่าเป็นหนุ่มรูปร่างดีคนหนึ่ง แต่ไม่คิดเลย...
‘หล่อเหลาเอาการอยู่เหมือนกันแฮะ’
“ขอบคุณครับคุณนวล” คนได้โชคลาภปากอย่างลุงมารีบเอื้อมมือไปรับของฝากทันที “เดี๋ยวจะบอกให้มันทำมาให้อีกนะครับ”
“ขอบคุณค่ะลุง จะตั้งตารอนะคะ” สายตาเธอไม่ได้มองลุงยามประจำป้อมเลย แต่มองเลยไปยังหนุ่มอีกคนที่อยู่ด้วยกันต่างหาก “มาใหม่เหรอ?”
“ครับ” ลุงมารีบหันกลับไปดันคนตัวสูงกว่า ให้ออกมาเจอเจ้านายตนเองชัด ๆ “แนะนำตัวสิ”
“สวัสดีครับ ผมแดนไทครับ คุณนวล” พอได้เห็นใกล้ ๆ หญิงสาวยิ่งสวยกว่าที่เห็นครั้งก่อนอีก กลายเป็นว่าตอนนี้ ชายหนุ่มกำลังใจเต้นตุบตับยิ่งกว่าเก่า “ถะ... ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะครับ”
“ได้สิ” คำตอบสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้มและสายตาของหญิงสาว กำลังมองไปที่ชายหนุ่ม มันทำให้เขาหน้าแดงเปล่งขึ้นมาทันที “ไปก่อนนะ”
และแล้วรถยนต์คันหรูก็วิ่งออกไป...
“เฮ้อ~ สวยแฮะ คุณนวลเป็นคนสวยมากเลยนะครับ” ว่าแล้วก็หันไปหาแนวร่วม แต่ดูลุงคู่หูจะสนใจของฝากมากกว่าเสียแล้ว
Errr~
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นลั่นภายในรถยนต์ ทำให้เจ้าของต้องกดรับสายใกล้พวงมาลัยทันที “มีอะไร?”
[มีเอกสารด่วนค่ะ คุณนวลจะเข้ามาที่ออฟฟิศหรือเปล่าคะ?] เสียงใสที่ได้ยิน ทำเอาคนฟังถึงกับเบ้ปาก เกลียดเธอแทบตาย แต่จะไล่ออกก็ไม่ได้
“เข้าสิ ฉันกำลังขับรถอยู่ แค่นี้นะ” ไม่รอให้ปลายสายตอบ เธอกดตัดสายทันที “ฉันจะจัดการอย่างไรกับเธอดีนะ นังฟ้าตัวดี”
เพียงไม่นาน รถยนต์คันหรูก็เข้าเทียบจอดที่ประจำของมัน ก่อนเจ้าของตึกใหญ่จะขึ้นไปด้านบน พร้อมทั้งลูกน้อยรายล้อมรอบกาย เนื่องจากมีงานด่วนเข้ามา
“โครงการนี้มีปัญหาค่ะ เหมือนทางการจะไม่อนุมัติ และต้องการให้แก้หลายอย่าง คุณนวลจะเอาอย่างไรดีคะ?” นังฟ้าตัวดีถามขึ้น นวลฉวีหันไปมองเจ้าหล่อนด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะยื่นกระเป๋าใบแพงให้เธอถือเอาไว้ และหันหลังพร้อมเดินต่อไป
“ไปคุยกันที่ห้อง” เสียงไม่ได้ดังมาก แต่ก็หยุดทุกความชุลมุนที่เกิดขึ้นได้ ร่างระหงด้วยชุดสูทกางเกงขายาวสีดำสนิท เธอชอบใส่เพราะรู้สึกได้ถึงอำนาจ และไม่ต้องการให้ใครมามองว่าเธอไม่ได้เรื่อง แต่สิ่งนั่นมันก็แสดงออกมาด้วยฝีมือการบริหารงานต่อจากสามี ไม่ว่าจะสถานการณ์ย่ำแย่แค่ไหน แต่เจ้าหล่อนก็เอาอยู่
“วางเอกสารและออกไปได้แล้ว” เธอสั่งคนตรงหน้า แม้แต่หางตาก็ยังเหล่มองสาวร่วมห้องเช่นกัน
“เข้าใจแล้วค่ะ” ฟ้าใสเดินออกได้ พร้อมถอนหายใจออกมาตัวโยน “เฮ้อ~ อยากลาออกจัง”
“ทำไมล่ะครับ?” ชายหนุ่มรูปร่างสูงและมีเอกลักษณ์ที่หน้าตาหล่อจัด เป็นคนโปรดของท่านประธานคนใหม่อย่าง ‘สมิทธิ์’ เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาคนเพิ่งถอนหายใจถึงกับหน้าแดงเปล่งออกมา “คุณนวลก็ใจดีออก”
“คุณสมิทธิ์นี่เอง จะเข้าไปหาท่านประธานหรือคะ?” เธอถาม พร้อมเลี่ยงคำตอบที่ชายหนุ่มอยากรู้
“ครับ ท่านประธานโทรมาบอกให้เข้าไป”
‘มาถึงก็เอาเลยเหรอ ร่านชะมัด!’
“อ่อ แบบนี้นี่เอง” ฟ้าใสเดินออกไปทันที เพราะไม่อยากได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากห้องท่านประธานอีก
ชายหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้าไปในห้อง พร้อมของขวัญที่ตนเตรียมเอาไว้ เป็นดอกกุหลาบสีแดงที่เจ้าตัวเตรียมให้หญิงสาวทุกครั้งที่เธอเข้าออฟฟิศ
“คิดถึงจังเลยครับ” มือหนาวางดอกกุหลาบลงบนโต๊ะ ก่อนจะโผเข้ากอดประธานแสนสวยจากด้านหลัง ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืน แถมยังหันกลับมามองหน้าหล่อเคล้าลูกครึ่งอเมริกันเล็กน้อยให้เต็มตา
“ทำไมล่ะ จะไปหาก็ไปได้ไม่ใช่เหรอ?” มือเรียวยกขึ้นมาประคองใบหน้าหล่อ พร้อมลูบไล้มันอย่างเบามือ
“งานยุ่งจะตายนี่ครับ โครงการใหม่มีปัญหาจุกจิกเยอะจะตาย คุณนวลก็น่าจะเห็น” เขางอหน้าลงเล็กน้อย พร้อมโน้มเข้าไปจูบแก้มนิ่มของหญิงสาวเบา ๆ
“อยากคลายเครียดหรือเปล่า?” เป็นการเปิดทางให้อย่างชัดเจน ร่างสาวหยัดเข้าหาร่างแกร่ง เขาช่างปลุกอารมณ์ได้ง่ายเสียจริง เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ อาวุธลำใหญ่ก็ตื่นขึ้นดันเป้ากางเกงจนแน่นหนึบ!
“ได้หรือครับ? ไม่ทำงานก่อนเหรอ?” เขาถามไปอย่างนั้น เพราะดูเหมือนชายหนุ่มอยากจะสนองต่อความต้องการของหญิงสาวทันที
“ไม่ล่ะ อยากคลายเครียดให้ลูกน้องก่อน” มือสาวลูบไล้ที่เป้ากางเกงหนุ่ม อย่างต้องการจะยั่วให้ความอดทนที่มีมันขาดสะบั้น! “หรือไม่อยาก”
“อ่า!!” เจ้าหล่อนเล่นบีบเป้าตุงนั่นจนเต็มมือ รู้สึกเลยว่าตอนนี้เขาอยากจะจัดการเธอมาแค่ไหน “คุณนวล”
“ฉันไม่ไหวแล้วสมิทธิ์ ใส่เข้ามาในตัวฉันทีสิ”