Ginx's to meet you :: CHAPTER 6 หายหัวไปไหนของเขา [100%]

2258 Words
เขาหายไปรวมสองวันแล้ว แค่สองวันฉันยุติการติดต่อหาเขาเพราะขนาดคุณจิโทรหาเขาก็ไม่รับสายราวกับปิดเครื่อง แถมคุณจิโทรหาคุณเอียนที่เป็นคนสนิทของเขาก็บอกได้แค่ว่า ‘คุณจิณณ์งานยุ่งมากครับ’ คุณจิได้ฟังก็ถอนหายใจและบอกคุณเอียนว่าถ้าหากคุณจิณณ์จะตามเที่ยวทะเลก็ให้ตามมาได้ที่บ้านพักส่วนตัวของตระกูล ฉันหิ้วกระเป๋าลงบันไดเนื่องจากรถตู้สีดำจอดรอรับอยู่ ฉันสวมเสื้อครอปคล้องคอเป็นทรงไขว้และมัดด้านหลังสีเขียว ห่อหุ้มทรวงอกคัพดีของฉันได้รูปสวยงามมากพร้อมสวมกางเกงยีนส์ชายรุ่ยขาสั้นรัดรูป ผมก็มัดรวบเป็นมวยไว้กลางศีรษะ “โทรหาคุณจิณณ์ได้ไหมคะคุณจิ?” ฉันเอ่ยถามร่างสูงที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวและด้านในเป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงห้าส่วนสีครีม เขาหันมามองฉันพลางส่ายหน้าไปมาส่วนแม่ก็สวมชุดเดรสลายดอกไม้แขนกุดดูสวยมากเลย “ไปกันเถอะค่ะ ถ้าจิณณ์กลับบ้านก็บอกเขาด้วยนะ” “ค่ะคุณท่าน” เราสามคนขึ้นรถตู้เพื่อมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองในเวลาเช้าของวัน ใช้เวลาในการเดินทางชั่วโมงกว่านิดๆ รถก็เลี้ยวเข้ามาจอดด้านในที่กว้างขวางและใหญ่โตสมฐานะของคุณจิ ฉันลงจากรถพลางมองไปรอบๆ บ้านที่มีสวนดอกไม้ข้างทางระหว่างที่รถวิ่งเข้ามา แม่บ้านที่ดูแลที่นี่ก็ออกมาขนของพวกเราเข้าไปในบ้าน ทุกส่วนของบ้านจะเป็นกระจกเกือบทั้งหมดแถมยังมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังบ้านที่ติดกับทะเลเวลานี้แดดกำลังแรงใช้ได้เลยนะ อาจจะเพราะเป็นที่ส่วนตัวก็เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ฉันเปิดประตูกระจกไปยืนตรงขอบสระน้ำมีต้นไม้ผูกชิงช้าต้องบอกเลยนะว่าบรรยากาศดีมาก มีเตาปิ้งย่างครบครัน มีโต๊ะอาหารทั้งข้างนอกและข้างใน แม้จะเป็นบ้านพักชั้นเดียวแต่ก็คือมีห้องส่วนตัวเกือบสี่ห้องเลยล่ะ “เลือกห้องได้เลยนะหนูไนล์” “จริงเหรอคะ” คุณจิพยักหน้ารับฉันก็เลยเลือกห้องที่ติดกับริมทะเลเลย ส่วนห้องของคุณจิกับแม่จะอยู่ตรงโถงทางเดินเข้าไปด้านในเล็กน้อยเป็นมุมที่ส่วนตัวมากๆ เลยล่ะ เอาของใช้ส่วนตัวออกจากกระเป๋าพร้อมกับชุดที่เตรียมมาสำหรับมาทะเลโดยเฉพาะแขวนเข้าตู้ พรุ่งนี้ฉันจะใส่บิกินี่ไปนอนอาบแดดสักหน่อยนะเตรียมมาหลายชุดเลยล่ะ ฉันออกจากห้องมาก็ไม่เห็นใครแล้ว สงสัยจะกลับกันไปก่อนแล้วค่อยมาอีกทีตอนเย็นมั้งให้เดานะ ฉันเดินอ้อมเคาน์เตอร์บาร์เปิดตู้เย็นขนาดนั้นพลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม โน้มตัวไปด้านหน้านบนเคาร์เตอร์บาร์และแอ่นก้นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหายขณะมองออกไปข้างนอกก็ต้องยิ้มออกมาที่เห็นคุณจิกับแม่กำลังกอดเอวพากันเดินเล่นที่ชายทะเล ภาพนี้ฉันอยากเห็นมานานแล้วจริงๆ นะ ภาพที่แม่ยิ้มอย่างมีความสุขและฉันดีใจที่คุณจิเป็นคนทำให้แม่ยิ้มได้ Rrr มือถือดังขึ้นในกระเป๋ากางเกง มองปลายสายรอยยิ้มก็ผุดขึ้นพลางเดินไปนั่งที่โซฟา “มีอะไรคะ?” (“วันนี้ว่างหรือเปล่าครับ ว่าจะชวนไปกินข้าว”) “ขอโทษด้วยนะคะคุณเฑียร์ พอดีฉันมาเที่ยวกับที่บ้านน่ะค่ะน่าจะหลายวัน” (“จริงเหรอครับ”) เขาทำเสียงแผ่วเบา (“แบบนี้ผมก็คิดถึงไนล์แย่เลย”) “ปากหวานนะคะ” ฉันยิ้มพลางนอนกลิ้งไปมาบนโซฟา “อยู่ต่อหน้าไม่เห็นปากหวาน” (“ก็ผมเขินไนล์นี่นา ไม่ได้เจอหน้าก็ต้องปากหวานแบบนี้ล่ะครับ”) “เอาไว้ฉันกลับจากเที่ยว จะโทรหานะคะแล้วค่อยนัดกินข้าวกัน” (“โอเคครับ ผมโทรหาได้นะ”) “แน่นอนสิคะ” นอนคุยกับคุณเฑียร์นานเกือบครึ่งชั่วโมงเขาก็วางสายไป ฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยออกมานั่งแช่เท้าในสระน้ำขณะที่คุณจิกับแม่เดินขึ้นบันไดมา “เป็นไงบ้างคะ ลมทะเลเย็นสบายไหม?” “ดีมากเลย ลูกก็อย่าลืมไปเดินเล่นบ้างนะ” “ค่ะ” “เดี๋ยวเย็นนี้ทำบาร์บีคิวกินกัน สนใจไหมหนูไนล์” “สนใจค่ะ ไนล์ชอบกินบาร์บีคิว” ช่วงค่ำมาถึงตรงสระน้ำเวลานี้เราสามคนกำลังช่วยกันทำบาร์บีคิว มีแค่แม่กับฉันนะที่ทำเพราะคุณจิทำไม่เป็นก็เลยนั่งให้กำลังใจแทนด้วยการดื่มไวน์ไปด้วยและโทรหาคุณจิณณ์เป็นระยะๆ เหมือนเดิมคือเขาไม่เปิดเครื่องไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรหรือเป็นอะไรหรือเปล่า แอบเป็นห่วงเขานิดหน่อยนะ ไม่สิไนล์ จะเป็นห่วงเขาทำไมกันเลิกสนใจสักที! “แม่ดีใจนะที่ไนล์เข้ากับคุณจิณณ์ได้” แม่เอ่ยปากทำให้ฉันเผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ขณะกำลังย่างบาร์บีคิวและอาหารทะเลสดๆ น่ากินทั้งนั้นเลย “อย่างน้อยแม่จะได้ไม่เป็นกังวลเรื่องนี้” “ไนล์บอกแล้วไงคะ จะทำให้แม่สบายใจที่สุด” โน้มใบหน้าจูบแก้มท่านพลางยกจานบาร์บีคิวมาวางบนโต๊ะซึ่งคุณจินั่งไขว่ห้างจิบไวน์มือก็ถือสมาร์ทโฟนแนบข้างใบหู “โทรหาคุณจิณณ์เหรอคะ?” “ใช่ เอียนมันก็ไม่ยอมบอกด้วย จิณณ์คงไม่ให้บอกว่าอยู่ที่ไหน” คุณจิถอนหายใจราวกับเหนื่อยที่จะโทรหาลูกชาย “จริงสิ ก่อนที่จิณณ์จะหายไปเขามีท่าทีอะไรหรือเปล่า?” “ไม่ค่ะ” ฉันนั่งบนโซฟาด้านนอกริมสระตรงข้ามกับคุณจิที่ขมวดคิ้ว “ตอนนั้นคุณจิณณ์ยังดูไนล์อยู่เลยค่ะ แต่นางแบบออกมายืนที่เวทีกันหมดก็ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาที เขาเองก็ไม่น่าจะกลับก่อนเพราะบอกว่าจะรอรับไนล์ด้วย” “งานนั้นมีนางแบบชื่อดังหลายคนไหม?” จู่ๆ คุณจิก็ถามขึ้นมาฉันก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับ นั่นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาแลดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด “หรือว่าจิณณ์มันจะเจอกับ...” “ใครเหรอคะ?” คุณจิเงยหน้ามายิ้มให้กับฉัน “ไม่มีอะไรหรอก” เอาอีกแล้วทำไมจะต้องปิดบังฉันด้วยเนี่ย ยิ่งอยากจะเสือกแบบสุดๆ จะให้ถามออกไปก่อนก็ยังไงอยู่เพราะเพิ่งจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันไม่อยากที่จะถามซักไซ้เรื่องราวชีวิตของคุณจิณณ์สักเท่าไหร่ “ฉันฝากหนูดูแลจิณณ์ด้วยนะ เขาน่ะไม่ค่อยที่จะมีมนุษสัมพันธ์สักเท่าไหร่” นี่ขนาดไม่มีนะ... ยังเอาฉันแทบตายเลย! “บ้านของฉันไม่มีผู้หญิงมานานตั้งแต่แม่ของจิณณ์เสียไป พอมีนารีกับหนูไนล์เข้ามา ฉันเชื่อว่าบ้านจะสดใสมากขึ้นและอาจจะทำให้จิตใจของจิณณ์มันดีขึ้น” “ค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้กับคุณจิที่ยื่นมือไปประคองแม่ให้นั่งลงข้างกัน จากนั้นเราสามคนก็กินอาหารทะเลไปด้วยและพูดคุยแข่งกับเสียงคลื่นทะเลยากค่ำคืนที่สาดซัดเข้ามา ฉันมองแม่และคุณจิที่ทั้งคู่ดูรักกันมากอาจจะเพราะเป็นพ่อหม้ายแม่หม้ายด้วยกันทั้งคู่ ราวกับเติมเต็มให้กันและกันความรักน่ะมันสวยงาม เพียงแต่ว่าฉันดันไปเจอกับความรักที่แย่ซะก่อนมันก็เลยฝังใจไม่อยากรักใครอีกต่อไปแล้วล่ะ “เป็นห่วงคุณจิณณ์นะคะ ปกติเขาเป็นแบบนี้หรือเปล่า?” “อืม เวลาที่จิณณ์มันไปเจอกับ...” คุณจิหันมามองฉันที่พยายามตั้งใจฟังแบบสุดๆ แต่เขาก็ยิ้มให้แม่ “ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น” “อย่างน้อยก็อยากให้คุณจิณณ์มาด้วยนะคะ จะได้มาผ่อนคลายด้วย” “ถ้ามันกลับบ้านแล้วอยากมาที่นี่ก็คงตามมาเองล่ะ” พอปะติดปะต่อคำพูดของคุณจิ ที่แน่ๆ หนึ่งในนางแบบที่ร่วมเดินเวทีเดียวกับฉันจะต้องเป็นแฟนเก่าของเขาแน่ แฟนเก่าที่ทำให้เขากับคุณจิต้องมีปัญหากันด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ฉันรู้สึกว้าวุ่นมาก หลับตาลงพลางหยิบขวดไวน์ของคุณจิเทลงแก้วและยกขึ้นดื่ม พอทีนะไนล์! เลิกใส่ใจเขาได้แล้ว ตกดึกคืนแรกของการมาเที่ยวทะเล ฉันควรทำให้ตัวเองมีความสุขมากว่าไปนึกถึงเขาคนนั้น เพราะแบบนี้พอกินอาหารค่ำกันเรียบร้อยต่างคนก็ต่างพากันแยกไปนอนที่ห้องส่วนตัว ฉันอาบน้ำสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวนอนคุยกับคุณเฑียร์เกือบตีหนึ่งก็วางสายเนื่องจากพรุ่งนี้ฉันคิดแพลนของตัวเองไว้หมดว่าจะทำอะไรบ้าง จึงนอนเพื่อเอาแรงหากแต่ว่าฉันกลับได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง ตอนแรกคิดว่าเป็นแม่ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร กระทั่งเตียงนอนที่นอนอยู่มันยวบตามน้ำหนักของใครสักคน นั่นทำให้ฉันพลิกตัวนอนหงายเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อมองว่าใครแอบเข้ามาในห้อง โคมไฟหัวเตียงถูกเปิดเป็นสีส้มอ่อนนิดๆ พอเห็นว่าร่างใหญ่นั้นไม่ใช่แม่ฉันก็เบิกตากว้าง “กะ... อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากฉันก่อนจะได้ส่งเสียงกรีดร้องให้คุณจิกับแม่รับรู้ “ชู่ว” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ก่อนจะดึงมือตัวเองออกและใช้ริมฝีปากร้อนระอุปิดปากฉันแทนมือ พอรสจูบที่ทาบทับลงมาทำให้รู้ว่าเป็นใคร น้ำตาที่รินไหลเมื่อกี้คิดว่ามีโจรบุกก็ปล่อยให้รินไหลอย่างเสียไม่ได้ “ฉันเอง ไนล์” “หายไปไหนมาคะ?” พอเขาถอนจูบออกก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง แสงไฟสาดส่องใบหน้าหล่อเหลาทำให้หัวใจเต้นถี่รัวเร็วขึ้นพลางยกหลังมือปาดน้ำตา “คิดว่าเป็นโจร” ฉันลุกขึ้นนั่งและผลักร่างสูงจนเซเกือบตกเตียง โกรธ โมโหเขามากที่ทำให้ฉันเป็นห่วงแล้วจู่ๆ ก็มาทำตัวเป็นโจรปล้นสวาทฉันแบบนี้ จึงหวังเดินออกจากห้องไปเรียกพ่อเขาให้มาจัดการ ทว่าฝ่ามือหนาก็คว้าข้อมือฉันไว้ “Hold on” (เดี๋ยวก่อน) “ปล่อยฉันนะ” ดีดดิ้นไปมาจนคุณจิณณ์กระตุกข้อมือฉันให้เซล้มบนตักแกร่ง เขาก็กอดรัดฉันไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน “Calm down Ok?” (ใจเย็นๆ โอเค?) ไม่ต้องมาพูดภาษาอังกฤษกับฉันจะได้ปะ? ได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูดออกไปหรอกนะ สิ่งที่ทำได้คือนั่งนิ่งไม่ขยับไม่ดิ้นและไม่หนี เพราะฉันเหนื่อยแล้วไง “โทษทีที่ไม่ได้รอรับวันนั้น” “...” “แล้วใครไปส่งที่บ้าน” “ผู้ชายค่ะ” “ใคร?” เขาเค้นเสียงแข็งแต่ฉันก็ไม่ตอบ วันนั้นก็คุณเฑียร์ไงที่ไปส่งแต่ไปส่งที่คอนโดไง “ไนล์” “คุณมากกว่า เป็นบ้าอะไรถึงได้หายหัวไปแบบนั้น!” ในที่สุดก็ขึ้นเสียงใส่เขาจนได้ “ไม่รู้หรือไงว่าฉัน...” “ฉันงานยุ่ง” “อย่างน้อยก็รับสายสักหน่อย” “...” “หลังจากนี้ฉันจะไม่พึ่งพาคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันจะไปรับรถของฉันคืน” อย่างน้อยก็ห่วงกันหน่อยไหมอะ ว่าฉันจะกลับยังไงหรือฉันคาดหวังมากเกินไปหรือเปล่า? เราก็แค่พี่น้องปลอมๆ เองนะไม่ได้เป็นอะไรกันเลยแม้แต่นิด “ถ้าเกิดผู้ชายที่มาจีบไม่ไปส่งฉันคงโดนฉุด... อื้อ!” ฝ่ามือหนาบีบปลายคางฉันให้หันไปรับกับรสจูบที่แสนร้อนแรงของคุณจิณณ์ มันรู้สึกโหยหาจูบของเขาซะเหลือเกิน โหยหาจากที่โกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟ กลับโอบแขนกอดลำคอแกร่งเพื่อกดท้ายทอยเขาให้บดขยี้จูบให้รุนแรงกว่านี้ ได้ผลเพราะคุณจิณณ์ก็สอดเรียวลิ้นเข้ามาตวัดดูดกลืนในโพรงปากหอมหวานของฉัน ไม่เว้นแม้แต่ฝ่ามืออีกข้างไม่ปล่อยให้วางกลับบีบเค้นทรวงอกฉันผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางไร้ชุดชั้นในที่สวมใส่ คุณจิณณ์ค่อยๆ ถอนจูบออกในแบบที่ฉันไม่อยากให้เขาถอยเลยสักนิด ดวงตาคมจ้องเขม็งมาจนฉันหลบสายตาคู่นั้นที่สามารถฆ่าฉันให้ตายคามือเขา ถ้าทำได้นะ “ยังไม่หายโกรธ จะลงโทษฉันบนเตียงก็ได้นะ” *-----------------------------------*
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD