ตอนที่ 1 เด็กคนนั้น

2806 Words
ตอนที่ 1 เด็กคนนั้น ถ้าพูดถึงเว็บที่มีชื่อว่า Onlyfans ปัจจุบันนี้ก็คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จักเว็บดังกล่าว Onlyfans แพลตฟอร์มที่ให้คนทั่วไปสามารถไปสร้างคอนเทนต์ หรือโพสต์เรื่องราวที่อยากจะโพสต์ แต่ความพิเศษของมัน คือ จะมีเฉพาะผู้ที่จ่ายเงินสมัครเป็นรายเดือนเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ โดยค่าสมัครก็แล้วแต่เจ้าของแอ็กเคานต์จะตั้ง หรือจะให้สมัครแบบฟรีก็ทำได้ โดยความพิเศษอีกอย่างของ Onlyfans คือ ไม่ได้ปิดกั้นเนื้อหาทางเพศ จึงเป็นช่องทางให้คนที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการทำเงินได้ ในประเทศไทยเองก็มีคนเริ่มทำแอ็กเคานต์ Onlyfans แบบจริงจังเยอะระดับหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงแอ็กเคานต์ที่มีเนื้อหาหลักเป็นการมีเซ็กซ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ช่องแรก ๆ ที่คนมักจะนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นช่อง ‘onlyblack’ Onlyblack เป็นช่องแรก ๆ ที่เปิด และด้วยคุณภาพของคลิป ไม่ว่าจะเป็นหุ่นสุดเพอร์เฟกต์และลีลาของนักแสดง ความคมชัดของคลิป การมีคลิปหลายมุม มีซับสำหรับภาษาอังกฤษและภาษาจีน ไปจนถึงความหลากหลายของเรื่องราวและสถานที่ถ่ายทำ ทำให้ช่อง onlyblack เติบโตอย่างรวดเร็ว และยังติดท็อปของเว็บ Onlyfans อีกด้วย ซึ่งเจ้าของช่อง onlyblack ก็คือชายหนุ่มผู้มีนามว่า ‘แบล็ก’ แบล็ก เป็นชายหนุ่มอายุ 29 ปี เขาเคยทำอาชีพช่างภาพตั้งแต่สมัยเรียนจนกระทั่งเรียนจบ เมื่อเรียนจบระหว่างที่ทำอาชีพช่างภาพไปด้วย แบล็กก็มักจะมีสัมพันธ์กับนายแบบที่มาถ่ายด้วยบ่อย ๆ แล้วก็มักจะอัดคลิปไว้จนเกิดไอเดียทำกลุ่มคลิปลับ ซึ่งกลุ่มที่ว่าก็ไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมีเว็บ Onlyfans จึงทำให้เกิดช่อง onlyblack ขึ้นมา แบล็กทำช่อง onlyblack ออกมาในรูปแบบที่มีตนเองเป็นรุกหลัก ๆ ในช่อง แล้วมีการหาน้อง ๆ รับมาร่วมผลงานด้วย โดยให้ค่าตอบแทนตามจำนวนคลิป และยอดทิปในคลิปนั้น ๆ หากคลิปไหนที่มียอดการเข้าถึง และทำให้มีคนซับมาก ก็จะมีการพาน้องคนนั้นมาร่วมงานด้วยอีกบ่อย ๆ รวม ๆ แล้วในช่อง onlyblack ตอนนี้มีคลิปอยู่เกือบสองร้อยคลิป เป็นยอดที่เยอะมาก ๆ และคุ้มสุด ๆ สำหรับการจ่ายเงินเพียงเดือนละ 270 แล้วจะสามารถย้อนดูคลิปเก่า ๆ ได้ทั้งหมด และด้วยความคุ้มนี้ก็ทำให้คนที่เผลอซับไปติดใจจนแทบไม่มีใครกดเลิกซับ ส่วนคนใหม่ ๆ ก็พากันเข้ามาซับเพิ่มเรื่อย ๆ ทุกเดือน ในตอนแรกช่อง onlyblack มีทีมงานแค่คนเดียวก็คือตัวของแบล็กเองนี่แหละ แต่เมื่อเวลาผ่านไปช่องเริ่มมีคนติดตามเยอะ แบล็กเองก็ค่อนข้างจริงจังกับการทำคลิป ยังอยากคุมคุณภาพทุกอย่างให้ดี แต่ถ้าทำช้าเหมือนเดิมผู้ติดตามที่มีเยอะขึ้นก็รอไม่ไหว จึงทำให้ต้องหาทีมงานมาเพิ่ม ซึ่งทีมงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง คนที่หนึ่งคือ ‘แซน’ แซนเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้ากลุ่มตอนมัธยมปลาย แซนทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัว ที่ทำทั้งเป็นแอดมินในทวิตเตอร์ คอยตอบคำถามเกี่ยวกับการสมัครและปัญหาการใช้งาน การดูแลพาร์ตเนอร์ที่ร่วมงานด้วย และการรับงานในกรณีที่มีคนติดต่อมาให้ลงโฆษณาสินค้าในทวิตเตอร์ คนที่สองคือ ‘นิล’ เพื่อนอีกคนที่สนิทกันตั้งแต่มัธยมต้น นิลทำงานเป็นช่างภาพ และตอนนี้กำลังจะลาออกเพราะต้องไปสานต่อธุรกิจของครอบครัว แต่ช่วงนี้นิลก็จะทำหน้าที่ช่วยแบล็กไปก่อนจนกว่าจะหาช่างภาพคนใหม่ได้ และคนสุดท้ายคือ ‘โจ’ เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมต้น โจมาช่วยในส่วนของการตัดต่อ ส่วนในเรื่องของการทำซับ โจจะเป็นคนติดต่อฟรีแลนซ์ให้ทำในส่วนนี้ให้ ส่วนเจ้าของคือแบล็ก เขามีหน้าที่หลักในการเป็นรุกในทุกคลิป คิดคอนเทนต์ และเป็นคนเลือกสรรรับที่จะมาถ่ายงานด้วยด้วยตนเองทุกคน รับที่เข้ามาร่วมถ่ายคลิปด้วยจะเป็นแอคเค่อที่ดูน่าสนใจแล้วแบล็กให้แซนทักไปหา กับอีกส่วนหนึ่งก็มาจากคนที่ส่งโพรไฟล์มาเองว่าอยากร่วมงานกับแบล็ก ถ้าคนไหนถูกใจก็ลองวิดีโอคอลสัมภาษณ์ดู “เป็นไงครับคุณแซน รอบนี้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์กี่คน” น้ำเสียงขี้เล่นของโจดังขึ้นทันทีที่เห็นแซนเดินเข้ามาในห้อง ในบรรดาคนที่ส่งโพรไฟล์มา แซนจะเป็นคนคัดเลือกมาให้แบล็กสัมภาษณ์เอง ดู ๆ แล้วจริงจังราวกับแซนเป็นฝ่ายบุลคลกำลังคัดหาคนเข้าทำงานที่บริษัทก็ไม่ปาน “โคตรเยอะ นับวันก็ยิ่งมีคนเจ๋ง ๆ ทักเข้ามาเยอะ” “เราจิตใจไม่เข้มแข็งเองรึเปล่า เห็นใครดูน่ารักหน่อยก็ให้ผ่านเข้ารอบหมด” โจยังแซวต่อไม่เลิก ตามประสาหนุ่มอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่ม ต่างจากแบล็กที่แค่ทำหน้านิ่ง ๆ แล้วรับไอแพดในมือแซนไปนั่งเปิดดูแต่ละคนที่ผ่านรอบคัดเลือกมา “กี่คน” “สิบสาม” ตัวเลขถือว่ามากถ้าเทียบกับจำนวนคลิปที่ถ่ายต่อสัปดาห์ ปกติแล้วพวกเขาจะถ่ายทำคลิปแค่ประมาณสัปดาห์ละสามถึงสี่คลิป แต่ลงจริง ๆ สัปดาห์ละสองคลิป ส่วนที่ถ่ายเกินก็เพื่อกันเสีย และถ่ายเกินไปไว้สำหรับสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่จะเป็นสัปดาห์พักผ่อน ไม่ทำงาน “มึงอยากคัดคนไหนออกอีกรึเปล่าแบล็ก ถ้าไม่มีก็จะได้ลองสัมเลย” “ไม่ต้องคัดแล้วก็ได้ ลองสัมเลย” ด้วยความที่สนิทกันมานาน จึงทำให้แบล็กค่อนข้างเชื่อในสายตาของแซนมาก ๆ ปกติแล้วเขาแทบไม่เคยคัดคนที่แซนเลือกมาออกก่อนสัมภาษณ์ เมื่อแบล็กพร้อม แซนก็เริ่มต่อสายวิดีโอคอลให้คุยกับคนที่สมัครมาเป็นพาร์ตเนอร์ทีละคน การสัมภาษณ์ของแบล็กไม่ได้ยุ่งยากหรือถามคำถามยากเหมือนสัมภาษณ์เข้าทำงาน หลัก ๆ แล้วที่มีการสัมภาษณ์ก็เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าและรูปร่างของพาร์ตเนอร์ว่าถูกใจแบล็กรึเปล่า ถ้าถูกใจก็ผ่าน ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ผ่าน ง่าย ๆ แค่นั้น สำหรับแบล็กแล้วการถูกใจมันสำคัญ เพราะเขาต้องมีเซ็กซ์กับอีกฝ่าย และถ่ายคลิปด้วย ถ้าได้ทำกับคนที่ถูกใจก็จะทำให้รู้สึกราบรื่น อารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาก็ไม่ได้รู้สึกฝืน ก่อนจะเริ่มการสัมภาษณ์ แบล็กก็หยิบเอาหน้ากากมาใส่ เป็นหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าทั้งหมดเหลือเพียงส่วนที่เป็นปากไว้ “สวัสดีครับเชิญแนะนำตัวเลย” แล้วการสัมภาษณ์ก็เริ่มต้นขึ้น ปกติแล้วแบล็กจะวางตัวกับพาร์ตเนอร์ในลักษณะที่ไม่ได้จับต้องยาก แต่ก็ไม่ได้เข้าถึงง่าย เขามักจะพูดคุยเป็นกันเองกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด ในการมีเซ็กซ์จะได้ออกมาแบบไม่เก้อเขิน แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยหรือทำความสนิทสนมกับพาร์ตเนอร์นอกเหนือจากเรื่องงานเพื่อกันปัญหาที่จะตามมา ซึ่งปัญหาที่แบล็กหลีกเลี่ยงมากที่สุดก็คือเรื่องความรัก เหตุผลอันดับหนึ่งที่เหนือกว่าการที่ผู้สมัครมาร่วมงานมักจะโดนคัดออกยิ่งกว่าการไม่ตรงสเป็กคือการที่อีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่ามาสมัครถ่ายคลิปเพราะต้องการอยากจะสานต่อกับแบล็ก รวมไปถึงพาร์ตเนอร์คนเก่า ๆ ที่แม้จะร่วมงานกันมาอย่างดี มีคนชื่นชอบเยอะ แต่ถ้าเกิดอีกฝ่ายเริ่มล้ำเส้น โอกาสร่วมงานในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะหายไป ทั้งหมดไม่ใช่เพราะว่าแบล็กไม่เชื่อในความรัก เขาเชื่อในความรัก แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ตอนที่ยังทำอาชีพนี้อยู่ มันคงจะไม่แฟร์กับคนรักที่จะต้องทนเห็นแฟนตัวเองมีเซ็กซ์กับคนอื่น ดังนั้นการรอมีความรักในวันที่เลิกอาชีพนี้แล้วจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด “คนนี้ไม่ผ่านนะ” แบล็กหันไปบอกแซนหลังจากสัมภาษณ์คนที่สิบสองจบ วันนี้สัมภาษณ์มาสิบสองคน เพิ่งมีคนผ่านแค่สามคน หลัง ๆ มานี้ช่อง onlyblack มีคนที่มีรูปลักษณ์ที่ทำให้แบล็กถูกใจสมัครมาร่วมงานด้วยเยอะก็จริง แต่คนเหล่านั้นก็โดนคัดออกไปเยอะ เพราะยิ่งเขามีชื่อเสียง คนที่หวังอยากจะมาเป็นแฟนของแบล็กก็เยอะขึ้น สุดท้ายก็ต้องมานั่งตัดออกแบบนี้ “โอเค งั้นคนสุดท้าย เราไปกินข้าวกันก่อนค่อยมาคอลนะ” “หืม ทำไมวะ” “น้องบอกว่าคอลได้หลังห้าโมง น่าจะติดเรียนที่มหา’ ลัย” “อื้ม” แบล็กพยักหน้ารับรู้ จากนั้นทั้งแบล็ก แซน และโจก็ไปกินข้าวกัน ก่อนจะกลับมาใหม่ในตอนเกือบห้าโมงเย็น เพื่อรอคอลกับผู้สมัครมาเป็นพาร์ตเนอร์คนสุดท้าย เมื่อถึงเวลาแซนก็เริ่มวิดีโอคอลหาน้องคนสุดท้ายทันที ระหว่างที่แซนกำลังพยายามติดต่อ แบล็กก็ก้มลงอ่านชื่อในไอแพดรอ น้องคนสุดท้ายมีชื่อว่า ‘จู’ จากที่เห็นในรูปคือตัวค่อนข้างเล็ก แต่ไม่สามารถบอกสีผิวได้เพราะแสงกับความชัดของกล้องมีน้อยมาก แปลกใจอยู่เหมือนกันที่รูปแบบนี้แซนให้ผ่าน แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าแซนเองก็คงอยากเห็นว่าสรุปน้องหน้าตาเป็นยังไงเลยให้ผ่านมาก่อนละมั้ง “สวัสดีครับ” น้ำเสียงสดใสทำแบล็กหันกลับมาโฟกัสที่หน้าจอใหม่อีกครั้ง ผู้สมัครคนสุดท้ายดูกำลังวุ่นวายกับการดันลังกระดาษให้ไม่หล่นทับหัว เพราะพื้นหลังที่ใช้วิดีโอคอลคือโกดังที่มีกระดาษลัง ชุดที่อีกฝ่ายใส่คือชุดที่คาดว่าเป็นยูนิฟอร์มของโรงงานอะไรสักอย่าง แต่ถึงชุดจะเหมือนวัยทำงาน แต่หน้าตาของคนในกล้องก็ดูอ่อนเยาว์จนแบล็กต้องก้มลงอ่านอายุที่กรอกมาในประวัติอีกครั้ง อายุ 21 ปี แต่หน้าตาเหมือนเด็กม.ปลายเลย “สวัสดีครับจู” แบล็กกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ใครหลายคนเห็นแล้วมักจะเกิดอาการเขินอาย แต่จูไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ร่างเล็กดูไม่ได้สนใจแบล็กเท่าไร ดวงตากลมเอาแต่มองไปรอบ ๆ เหมือนกลัวคนมาเห็น แถมยังทำท่าทางรีบ ๆ อีก “ครับคุณแบล็ก จูนะครับ จูทำได้หมดทุกแนวขอแค่ไม่รุนแรงเกินไปนัก จูไม่ถนัดแบบรุนแรงน่ะครับ ส่วนหุ่นจู...” พูดจบร่างเล็กก็ทำท่าจะถอดเสื้อออกจนแบล็กยังตกใจต้องรีบห้ามเอาไว้ “เดี๋ยว ๆ ใจเย็นนะ” บอกตรง ๆ ว่าเขาเองก็สัมภาษณ์คนมาเยอะ ไม่เคยเจอใครที่รีบและรัวขนาดนี้ นี่มาถึงก็พูด ๆ แล้วก็จะแก้ผ้าเลย แล้วไหนจะท่าทางในการพูดอีก ไม่ได้ดูเชิญชวนให้ถ่ายคลิปด้วยสักนิด เหมือนมาพรีเซนต์งานให้อาจารย์ดูมากกว่า “คุณแบล็กบอกว่าต้องมีการดูหุ่นก่อนไม่ใช่เหรอครับ” “ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้ก็พอจะเห็น” ว่าตัวเล็กมาก เล็กจนไม่เหมาะกับอะไรที่รุนแรงอย่างที่เจ้าตัวบอกแต่แรกจริง ๆ นั่นแหละ “คือหมายถึงว่าจูไม่ต้องถอดเหรอครับ” “อื้ม ไม่ต้องถอดก็ได้” พอได้ยินคำว่าไม่ต้องถอดก็ได้จูก็ยอมนั่งสงบลง ทางด้านแซนก็จัดการกากบาททับชื่อของจูทันที ไม่ขอดูหุ่นสำหรับแบล็กก็คือไม่เอานั่นแหละ “อายุเท่าไร” แบล็กถามต่อในสิ่งที่ประวัติก็มีให้เห็นอยู่แล้ว เขาแค่อยากได้ความมั่นใจ “ยี่สิบเอ็ดครับ อีกไม่นานก็ยี่สิบสองแล้ว” “หน้าตาดูเด็กมากเลยนะ” “อ่าครับ อาจจะเพราะตัวเล็กด้วย แต่ความจริงคืออายุเยอะแล้วครับ ตั้งยี่สิบเอ็ดแน่ะ” จูเน้นย้ำอายุของตนเองด้วยสีหน้าที่ดูภูมิใจสุด ๆ เสี้ยววินาทีแบล็กดันรู้สึกว่าผู้สมัครคนนี้ดูน่าเอ็นดู “ถ้าถ่ายคลิปชอบแบบไหนเป็นพิเศษ” “แบบไหนนี่หมายถึงยังไงเหรอครับ” “ฟีลแบบไหน สถานการณ์แบบไหน หรือท่าแบบไหน พูดเกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่จูชอบในการมีเซ็กซ์” “เอ่อ...” คำถามของแบล็กทำให้จูชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบตอบออกมา “จูได้หมดเลยครับ จะที่ไหน ฟีลไหน หรือท่าไหนจูก็ได้หมดเลย แค่อย่ารุนแรงกับจูนัก” คำพูดดูมั่นใจ แต่แบล็กกลับรู้สึกว่าแววตาของจูดูไม่ได้มั่นใจอย่างที่พูด “แล้วสะดวกถ่ายคลิปช่วงไหน” “ได้หมดเลยครับ แต่ถ้าเป็นภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าจะดีมาก ๆ เลย” “สัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเหรอ” อันที่จริงคิวในช่วงนี้เต็มหมดแล้วละ เพราะงานของพวกเขาต้องมีการเตรียมตัว ปกติก็นัดล่วงหน้ากันเป็นเดือน ดูเหมือนเวลาของจูจะไม่ตรงกับพวกเขา “จูขอโทษนะครับที่ดูเร่ง คือถ่ายหลังจากนี้จูไม่ค่อยว่างเลยครับ เลยอยากได้เป็นเร็ว ๆ นี้ แต่จูสัญญาว่าจูจะตั้งใจถ่ายคลิปนะครับ จูอยากรบกวนให้คุณแบล็กเลือกจู” คนตรงหน้าขอโทษพลางขอร้องอ้อนวอน แบล็กรู้สึกแปลกใจกับคนตรงหน้าอีกครั้ง ตอนแรกก็ดูรีบ ๆ ลน ๆ แถมยังดูล้น ๆ พอคุยเรื่องเซ็กซ์ก็ดูไม่มั่นใจ แต่พอถามเวลาถ่ายคลิป ก็ดูเร่งรีบอยากจะถ่ายเร็ว ๆ แปลก แปลกจนอยากเจอตัวจริงว่าสรุปจูเป็นคนยังไง แล้วต้องการอะไร “โอเค งั้นจบการสัมภาษณ์แค่นี้ ยังไงผมจะติดต่อไป” “จบแล้วเหรอครับ จูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” คราวนี้จูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แบล็กคิดว่าร่างเล็กคงคิดว่าแบล็กจะไม่เอาตนแน่ ๆ ถึงได้ตัดจบง่ายขนาดนั้น “อื้ม ยังไงรอฟังข่าวนะ สวัสดีจู” สิ้นสุดคำลาแบล็กก็กดตัดสายไปแล้วก้มลงดูรูปของจูต่อ ขณะที่สองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และแอบดูอยู่ด้วยแต่แรกถึงกับทำหน้าเสียดาย “น้องโคตรน่ารัก เหมือนตุ๊กตามาก มึงไม่ชอบเหรอวะ” “เออนั่นดิ ถึงจะดูล้น ๆ แต่กูว่าน่ารัก คนน่าจะชอบกัน” “ไหน ๆ ก็สัมภาษณ์มาแล้วมึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย อย่างน้อยขอดูหุ่นก็ได้ เผื่อหุ่นน้องจะถูกใจ” “จริง หรือถ้ามึงไม่มั่นใจลีลาน้อง ทำเป็นคลิปรับมือใหม่ อ่อนประสบการณ์และทำแบบหวาน ๆ ก็ได้นะ” “มึงสองคนเลิกบ่นได้รึยัง” แบล็กอ่านประวัติของจูเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาหาเพื่อนทั้งสอง โจกับแซนดูเสียดายจูมาก ๆ ผิดกับคนอื่น ๆ ที่อย่างมากก็จะพูดแค่ว่า เสียดายคนนี้นะ คำเดียวสั้น ๆ แต่ไม่เร้าหรือ แต่นี่ร่ายมาซะยืดยาว “ก็กูเสียดาย น้องว่าที่ดาวคนใหม่ของช่องเลยนะ” “จริง ถึงจะยังไม่เห็นลีลา แต่กูมั่นใจว่าน้องดี” “พวกกูพูดขนาดนี้มึงควรเปลี่ยนใจได้แล้วแบล็ก” “จริง ปกติพวกกูไม่วุ่นวาย แต่คนนี้ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ” โจกับแซนยังคงร่ายยาว ในขณะที่แบล็กลุกขึ้นแล้วส่งไอแพดคืนแซน ก่อนจะเดินไปที่ปฏิทินงาน แล้วชี้ไปยังตารางของสัปดาห์หน้า ที่เป็นตารางว่างสำหรับการพักผ่อนประจำเดือนนี้ “แซน กูฝากนัดน้องจูมาถ่ายสัปดาห์หน้าให้ด้วย แล้วฝากถามให้แน่ใจว่าสรุปน้องเคยรึเปล่า ถ้าไม่เคยก็บอกว่าไม่เคย กูจะได้เตรียมตัวให้ถูก” “ยังไงนะ” เป็นแซนที่งง สรุปแล้วเพื่อนเขาจะถ่ายกับน้องจูงั้นเหรอ “กูจะถ่ายคลิปกับน้องจู”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD