ตอนที่ 1 เด็กคนนั้น
ถ้าพูดถึงเว็บที่มีชื่อว่า Onlyfans ปัจจุบันนี้ก็คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จักเว็บดังกล่าว Onlyfans แพลตฟอร์มที่ให้คนทั่วไปสามารถไปสร้างคอนเทนต์ หรือโพสต์เรื่องราวที่อยากจะโพสต์ แต่ความพิเศษของมัน คือ จะมีเฉพาะผู้ที่จ่ายเงินสมัครเป็นรายเดือนเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ โดยค่าสมัครก็แล้วแต่เจ้าของแอ็กเคานต์จะตั้ง หรือจะให้สมัครแบบฟรีก็ทำได้
โดยความพิเศษอีกอย่างของ Onlyfans คือ ไม่ได้ปิดกั้นเนื้อหาทางเพศ จึงเป็นช่องทางให้คนที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการทำเงินได้
ในประเทศไทยเองก็มีคนเริ่มทำแอ็กเคานต์ Onlyfans แบบจริงจังเยอะระดับหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงแอ็กเคานต์ที่มีเนื้อหาหลักเป็นการมีเซ็กซ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ช่องแรก ๆ ที่คนมักจะนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นช่อง ‘onlyblack’
Onlyblack เป็นช่องแรก ๆ ที่เปิด และด้วยคุณภาพของคลิป ไม่ว่าจะเป็นหุ่นสุดเพอร์เฟกต์และลีลาของนักแสดง ความคมชัดของคลิป การมีคลิปหลายมุม มีซับสำหรับภาษาอังกฤษและภาษาจีน ไปจนถึงความหลากหลายของเรื่องราวและสถานที่ถ่ายทำ ทำให้ช่อง onlyblack เติบโตอย่างรวดเร็ว และยังติดท็อปของเว็บ Onlyfans อีกด้วย ซึ่งเจ้าของช่อง onlyblack ก็คือชายหนุ่มผู้มีนามว่า ‘แบล็ก’
แบล็ก เป็นชายหนุ่มอายุ 29 ปี เขาเคยทำอาชีพช่างภาพตั้งแต่สมัยเรียนจนกระทั่งเรียนจบ เมื่อเรียนจบระหว่างที่ทำอาชีพช่างภาพไปด้วย แบล็กก็มักจะมีสัมพันธ์กับนายแบบที่มาถ่ายด้วยบ่อย ๆ แล้วก็มักจะอัดคลิปไว้จนเกิดไอเดียทำกลุ่มคลิปลับ ซึ่งกลุ่มที่ว่าก็ไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมีเว็บ Onlyfans จึงทำให้เกิดช่อง onlyblack ขึ้นมา
แบล็กทำช่อง onlyblack ออกมาในรูปแบบที่มีตนเองเป็นรุกหลัก ๆ ในช่อง แล้วมีการหาน้อง ๆ รับมาร่วมผลงานด้วย โดยให้ค่าตอบแทนตามจำนวนคลิป และยอดทิปในคลิปนั้น ๆ หากคลิปไหนที่มียอดการเข้าถึง และทำให้มีคนซับมาก ก็จะมีการพาน้องคนนั้นมาร่วมงานด้วยอีกบ่อย ๆ
รวม ๆ แล้วในช่อง onlyblack ตอนนี้มีคลิปอยู่เกือบสองร้อยคลิป เป็นยอดที่เยอะมาก ๆ และคุ้มสุด ๆ สำหรับการจ่ายเงินเพียงเดือนละ 270 แล้วจะสามารถย้อนดูคลิปเก่า ๆ ได้ทั้งหมด และด้วยความคุ้มนี้ก็ทำให้คนที่เผลอซับไปติดใจจนแทบไม่มีใครกดเลิกซับ ส่วนคนใหม่ ๆ ก็พากันเข้ามาซับเพิ่มเรื่อย ๆ ทุกเดือน
ในตอนแรกช่อง onlyblack มีทีมงานแค่คนเดียวก็คือตัวของแบล็กเองนี่แหละ แต่เมื่อเวลาผ่านไปช่องเริ่มมีคนติดตามเยอะ แบล็กเองก็ค่อนข้างจริงจังกับการทำคลิป ยังอยากคุมคุณภาพทุกอย่างให้ดี แต่ถ้าทำช้าเหมือนเดิมผู้ติดตามที่มีเยอะขึ้นก็รอไม่ไหว จึงทำให้ต้องหาทีมงานมาเพิ่ม ซึ่งทีมงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง
คนที่หนึ่งคือ ‘แซน’ แซนเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้ากลุ่มตอนมัธยมปลาย แซนทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัว ที่ทำทั้งเป็นแอดมินในทวิตเตอร์ คอยตอบคำถามเกี่ยวกับการสมัครและปัญหาการใช้งาน การดูแลพาร์ตเนอร์ที่ร่วมงานด้วย และการรับงานในกรณีที่มีคนติดต่อมาให้ลงโฆษณาสินค้าในทวิตเตอร์
คนที่สองคือ ‘นิล’ เพื่อนอีกคนที่สนิทกันตั้งแต่มัธยมต้น นิลทำงานเป็นช่างภาพ และตอนนี้กำลังจะลาออกเพราะต้องไปสานต่อธุรกิจของครอบครัว แต่ช่วงนี้นิลก็จะทำหน้าที่ช่วยแบล็กไปก่อนจนกว่าจะหาช่างภาพคนใหม่ได้
และคนสุดท้ายคือ ‘โจ’ เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมต้น โจมาช่วยในส่วนของการตัดต่อ ส่วนในเรื่องของการทำซับ โจจะเป็นคนติดต่อฟรีแลนซ์ให้ทำในส่วนนี้ให้
ส่วนเจ้าของคือแบล็ก เขามีหน้าที่หลักในการเป็นรุกในทุกคลิป คิดคอนเทนต์ และเป็นคนเลือกสรรรับที่จะมาถ่ายงานด้วยด้วยตนเองทุกคน
รับที่เข้ามาร่วมถ่ายคลิปด้วยจะเป็นแอคเค่อที่ดูน่าสนใจแล้วแบล็กให้แซนทักไปหา กับอีกส่วนหนึ่งก็มาจากคนที่ส่งโพรไฟล์มาเองว่าอยากร่วมงานกับแบล็ก ถ้าคนไหนถูกใจก็ลองวิดีโอคอลสัมภาษณ์ดู
“เป็นไงครับคุณแซน รอบนี้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์กี่คน” น้ำเสียงขี้เล่นของโจดังขึ้นทันทีที่เห็นแซนเดินเข้ามาในห้อง ในบรรดาคนที่ส่งโพรไฟล์มา แซนจะเป็นคนคัดเลือกมาให้แบล็กสัมภาษณ์เอง ดู ๆ แล้วจริงจังราวกับแซนเป็นฝ่ายบุลคลกำลังคัดหาคนเข้าทำงานที่บริษัทก็ไม่ปาน
“โคตรเยอะ นับวันก็ยิ่งมีคนเจ๋ง ๆ ทักเข้ามาเยอะ”
“เราจิตใจไม่เข้มแข็งเองรึเปล่า เห็นใครดูน่ารักหน่อยก็ให้ผ่านเข้ารอบหมด” โจยังแซวต่อไม่เลิก ตามประสาหนุ่มอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่ม ต่างจากแบล็กที่แค่ทำหน้านิ่ง ๆ แล้วรับไอแพดในมือแซนไปนั่งเปิดดูแต่ละคนที่ผ่านรอบคัดเลือกมา
“กี่คน”
“สิบสาม” ตัวเลขถือว่ามากถ้าเทียบกับจำนวนคลิปที่ถ่ายต่อสัปดาห์
ปกติแล้วพวกเขาจะถ่ายทำคลิปแค่ประมาณสัปดาห์ละสามถึงสี่คลิป แต่ลงจริง ๆ สัปดาห์ละสองคลิป ส่วนที่ถ่ายเกินก็เพื่อกันเสีย และถ่ายเกินไปไว้สำหรับสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่จะเป็นสัปดาห์พักผ่อน ไม่ทำงาน
“มึงอยากคัดคนไหนออกอีกรึเปล่าแบล็ก ถ้าไม่มีก็จะได้ลองสัมเลย”
“ไม่ต้องคัดแล้วก็ได้ ลองสัมเลย” ด้วยความที่สนิทกันมานาน จึงทำให้แบล็กค่อนข้างเชื่อในสายตาของแซนมาก ๆ ปกติแล้วเขาแทบไม่เคยคัดคนที่แซนเลือกมาออกก่อนสัมภาษณ์
เมื่อแบล็กพร้อม แซนก็เริ่มต่อสายวิดีโอคอลให้คุยกับคนที่สมัครมาเป็นพาร์ตเนอร์ทีละคน การสัมภาษณ์ของแบล็กไม่ได้ยุ่งยากหรือถามคำถามยากเหมือนสัมภาษณ์เข้าทำงาน หลัก ๆ แล้วที่มีการสัมภาษณ์ก็เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าและรูปร่างของพาร์ตเนอร์ว่าถูกใจแบล็กรึเปล่า ถ้าถูกใจก็ผ่าน ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ผ่าน ง่าย ๆ แค่นั้น
สำหรับแบล็กแล้วการถูกใจมันสำคัญ เพราะเขาต้องมีเซ็กซ์กับอีกฝ่าย และถ่ายคลิปด้วย ถ้าได้ทำกับคนที่ถูกใจก็จะทำให้รู้สึกราบรื่น อารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาก็ไม่ได้รู้สึกฝืน
ก่อนจะเริ่มการสัมภาษณ์ แบล็กก็หยิบเอาหน้ากากมาใส่ เป็นหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าทั้งหมดเหลือเพียงส่วนที่เป็นปากไว้
“สวัสดีครับเชิญแนะนำตัวเลย” แล้วการสัมภาษณ์ก็เริ่มต้นขึ้น
ปกติแล้วแบล็กจะวางตัวกับพาร์ตเนอร์ในลักษณะที่ไม่ได้จับต้องยาก แต่ก็ไม่ได้เข้าถึงง่าย เขามักจะพูดคุยเป็นกันเองกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด ในการมีเซ็กซ์จะได้ออกมาแบบไม่เก้อเขิน แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยหรือทำความสนิทสนมกับพาร์ตเนอร์นอกเหนือจากเรื่องงานเพื่อกันปัญหาที่จะตามมา ซึ่งปัญหาที่แบล็กหลีกเลี่ยงมากที่สุดก็คือเรื่องความรัก
เหตุผลอันดับหนึ่งที่เหนือกว่าการที่ผู้สมัครมาร่วมงานมักจะโดนคัดออกยิ่งกว่าการไม่ตรงสเป็กคือการที่อีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่ามาสมัครถ่ายคลิปเพราะต้องการอยากจะสานต่อกับแบล็ก รวมไปถึงพาร์ตเนอร์คนเก่า ๆ ที่แม้จะร่วมงานกันมาอย่างดี มีคนชื่นชอบเยอะ แต่ถ้าเกิดอีกฝ่ายเริ่มล้ำเส้น โอกาสร่วมงานในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะหายไป
ทั้งหมดไม่ใช่เพราะว่าแบล็กไม่เชื่อในความรัก เขาเชื่อในความรัก แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ตอนที่ยังทำอาชีพนี้อยู่ มันคงจะไม่แฟร์กับคนรักที่จะต้องทนเห็นแฟนตัวเองมีเซ็กซ์กับคนอื่น ดังนั้นการรอมีความรักในวันที่เลิกอาชีพนี้แล้วจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
“คนนี้ไม่ผ่านนะ” แบล็กหันไปบอกแซนหลังจากสัมภาษณ์คนที่สิบสองจบ วันนี้สัมภาษณ์มาสิบสองคน เพิ่งมีคนผ่านแค่สามคน
หลัง ๆ มานี้ช่อง onlyblack มีคนที่มีรูปลักษณ์ที่ทำให้แบล็กถูกใจสมัครมาร่วมงานด้วยเยอะก็จริง แต่คนเหล่านั้นก็โดนคัดออกไปเยอะ เพราะยิ่งเขามีชื่อเสียง คนที่หวังอยากจะมาเป็นแฟนของแบล็กก็เยอะขึ้น สุดท้ายก็ต้องมานั่งตัดออกแบบนี้
“โอเค งั้นคนสุดท้าย เราไปกินข้าวกันก่อนค่อยมาคอลนะ”
“หืม ทำไมวะ”
“น้องบอกว่าคอลได้หลังห้าโมง น่าจะติดเรียนที่มหา’ ลัย”
“อื้ม”
แบล็กพยักหน้ารับรู้ จากนั้นทั้งแบล็ก แซน และโจก็ไปกินข้าวกัน ก่อนจะกลับมาใหม่ในตอนเกือบห้าโมงเย็น เพื่อรอคอลกับผู้สมัครมาเป็นพาร์ตเนอร์คนสุดท้าย
เมื่อถึงเวลาแซนก็เริ่มวิดีโอคอลหาน้องคนสุดท้ายทันที ระหว่างที่แซนกำลังพยายามติดต่อ แบล็กก็ก้มลงอ่านชื่อในไอแพดรอ น้องคนสุดท้ายมีชื่อว่า ‘จู’ จากที่เห็นในรูปคือตัวค่อนข้างเล็ก แต่ไม่สามารถบอกสีผิวได้เพราะแสงกับความชัดของกล้องมีน้อยมาก แปลกใจอยู่เหมือนกันที่รูปแบบนี้แซนให้ผ่าน แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าแซนเองก็คงอยากเห็นว่าสรุปน้องหน้าตาเป็นยังไงเลยให้ผ่านมาก่อนละมั้ง
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงสดใสทำแบล็กหันกลับมาโฟกัสที่หน้าจอใหม่อีกครั้ง ผู้สมัครคนสุดท้ายดูกำลังวุ่นวายกับการดันลังกระดาษให้ไม่หล่นทับหัว เพราะพื้นหลังที่ใช้วิดีโอคอลคือโกดังที่มีกระดาษลัง ชุดที่อีกฝ่ายใส่คือชุดที่คาดว่าเป็นยูนิฟอร์มของโรงงานอะไรสักอย่าง แต่ถึงชุดจะเหมือนวัยทำงาน แต่หน้าตาของคนในกล้องก็ดูอ่อนเยาว์จนแบล็กต้องก้มลงอ่านอายุที่กรอกมาในประวัติอีกครั้ง
อายุ 21 ปี แต่หน้าตาเหมือนเด็กม.ปลายเลย
“สวัสดีครับจู” แบล็กกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ใครหลายคนเห็นแล้วมักจะเกิดอาการเขินอาย แต่จูไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ร่างเล็กดูไม่ได้สนใจแบล็กเท่าไร ดวงตากลมเอาแต่มองไปรอบ ๆ เหมือนกลัวคนมาเห็น แถมยังทำท่าทางรีบ ๆ อีก
“ครับคุณแบล็ก จูนะครับ จูทำได้หมดทุกแนวขอแค่ไม่รุนแรงเกินไปนัก จูไม่ถนัดแบบรุนแรงน่ะครับ ส่วนหุ่นจู...”
พูดจบร่างเล็กก็ทำท่าจะถอดเสื้อออกจนแบล็กยังตกใจต้องรีบห้ามเอาไว้
“เดี๋ยว ๆ ใจเย็นนะ” บอกตรง ๆ ว่าเขาเองก็สัมภาษณ์คนมาเยอะ ไม่เคยเจอใครที่รีบและรัวขนาดนี้ นี่มาถึงก็พูด ๆ แล้วก็จะแก้ผ้าเลย แล้วไหนจะท่าทางในการพูดอีก ไม่ได้ดูเชิญชวนให้ถ่ายคลิปด้วยสักนิด เหมือนมาพรีเซนต์งานให้อาจารย์ดูมากกว่า
“คุณแบล็กบอกว่าต้องมีการดูหุ่นก่อนไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้ก็พอจะเห็น” ว่าตัวเล็กมาก เล็กจนไม่เหมาะกับอะไรที่รุนแรงอย่างที่เจ้าตัวบอกแต่แรกจริง ๆ นั่นแหละ
“คือหมายถึงว่าจูไม่ต้องถอดเหรอครับ”
“อื้ม ไม่ต้องถอดก็ได้” พอได้ยินคำว่าไม่ต้องถอดก็ได้จูก็ยอมนั่งสงบลง ทางด้านแซนก็จัดการกากบาททับชื่อของจูทันที ไม่ขอดูหุ่นสำหรับแบล็กก็คือไม่เอานั่นแหละ
“อายุเท่าไร” แบล็กถามต่อในสิ่งที่ประวัติก็มีให้เห็นอยู่แล้ว เขาแค่อยากได้ความมั่นใจ
“ยี่สิบเอ็ดครับ อีกไม่นานก็ยี่สิบสองแล้ว”
“หน้าตาดูเด็กมากเลยนะ”
“อ่าครับ อาจจะเพราะตัวเล็กด้วย แต่ความจริงคืออายุเยอะแล้วครับ ตั้งยี่สิบเอ็ดแน่ะ” จูเน้นย้ำอายุของตนเองด้วยสีหน้าที่ดูภูมิใจสุด ๆ เสี้ยววินาทีแบล็กดันรู้สึกว่าผู้สมัครคนนี้ดูน่าเอ็นดู
“ถ้าถ่ายคลิปชอบแบบไหนเป็นพิเศษ”
“แบบไหนนี่หมายถึงยังไงเหรอครับ”
“ฟีลแบบไหน สถานการณ์แบบไหน หรือท่าแบบไหน พูดเกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่จูชอบในการมีเซ็กซ์”
“เอ่อ...” คำถามของแบล็กทำให้จูชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบตอบออกมา
“จูได้หมดเลยครับ จะที่ไหน ฟีลไหน หรือท่าไหนจูก็ได้หมดเลย แค่อย่ารุนแรงกับจูนัก” คำพูดดูมั่นใจ แต่แบล็กกลับรู้สึกว่าแววตาของจูดูไม่ได้มั่นใจอย่างที่พูด
“แล้วสะดวกถ่ายคลิปช่วงไหน”
“ได้หมดเลยครับ แต่ถ้าเป็นภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าจะดีมาก ๆ เลย”
“สัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเหรอ” อันที่จริงคิวในช่วงนี้เต็มหมดแล้วละ เพราะงานของพวกเขาต้องมีการเตรียมตัว ปกติก็นัดล่วงหน้ากันเป็นเดือน ดูเหมือนเวลาของจูจะไม่ตรงกับพวกเขา
“จูขอโทษนะครับที่ดูเร่ง คือถ่ายหลังจากนี้จูไม่ค่อยว่างเลยครับ เลยอยากได้เป็นเร็ว ๆ นี้ แต่จูสัญญาว่าจูจะตั้งใจถ่ายคลิปนะครับ จูอยากรบกวนให้คุณแบล็กเลือกจู” คนตรงหน้าขอโทษพลางขอร้องอ้อนวอน
แบล็กรู้สึกแปลกใจกับคนตรงหน้าอีกครั้ง ตอนแรกก็ดูรีบ ๆ ลน ๆ แถมยังดูล้น ๆ พอคุยเรื่องเซ็กซ์ก็ดูไม่มั่นใจ แต่พอถามเวลาถ่ายคลิป ก็ดูเร่งรีบอยากจะถ่ายเร็ว ๆ แปลก แปลกจนอยากเจอตัวจริงว่าสรุปจูเป็นคนยังไง แล้วต้องการอะไร
“โอเค งั้นจบการสัมภาษณ์แค่นี้ ยังไงผมจะติดต่อไป”
“จบแล้วเหรอครับ จูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” คราวนี้จูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แบล็กคิดว่าร่างเล็กคงคิดว่าแบล็กจะไม่เอาตนแน่ ๆ ถึงได้ตัดจบง่ายขนาดนั้น
“อื้ม ยังไงรอฟังข่าวนะ สวัสดีจู”
สิ้นสุดคำลาแบล็กก็กดตัดสายไปแล้วก้มลงดูรูปของจูต่อ ขณะที่สองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และแอบดูอยู่ด้วยแต่แรกถึงกับทำหน้าเสียดาย
“น้องโคตรน่ารัก เหมือนตุ๊กตามาก มึงไม่ชอบเหรอวะ”
“เออนั่นดิ ถึงจะดูล้น ๆ แต่กูว่าน่ารัก คนน่าจะชอบกัน”
“ไหน ๆ ก็สัมภาษณ์มาแล้วมึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย อย่างน้อยขอดูหุ่นก็ได้ เผื่อหุ่นน้องจะถูกใจ”
“จริง หรือถ้ามึงไม่มั่นใจลีลาน้อง ทำเป็นคลิปรับมือใหม่ อ่อนประสบการณ์และทำแบบหวาน ๆ ก็ได้นะ”
“มึงสองคนเลิกบ่นได้รึยัง” แบล็กอ่านประวัติของจูเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาหาเพื่อนทั้งสอง โจกับแซนดูเสียดายจูมาก ๆ ผิดกับคนอื่น ๆ ที่อย่างมากก็จะพูดแค่ว่า เสียดายคนนี้นะ คำเดียวสั้น ๆ แต่ไม่เร้าหรือ แต่นี่ร่ายมาซะยืดยาว
“ก็กูเสียดาย น้องว่าที่ดาวคนใหม่ของช่องเลยนะ”
“จริง ถึงจะยังไม่เห็นลีลา แต่กูมั่นใจว่าน้องดี”
“พวกกูพูดขนาดนี้มึงควรเปลี่ยนใจได้แล้วแบล็ก”
“จริง ปกติพวกกูไม่วุ่นวาย แต่คนนี้ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ”
โจกับแซนยังคงร่ายยาว ในขณะที่แบล็กลุกขึ้นแล้วส่งไอแพดคืนแซน ก่อนจะเดินไปที่ปฏิทินงาน แล้วชี้ไปยังตารางของสัปดาห์หน้า ที่เป็นตารางว่างสำหรับการพักผ่อนประจำเดือนนี้
“แซน กูฝากนัดน้องจูมาถ่ายสัปดาห์หน้าให้ด้วย แล้วฝากถามให้แน่ใจว่าสรุปน้องเคยรึเปล่า ถ้าไม่เคยก็บอกว่าไม่เคย กูจะได้เตรียมตัวให้ถูก”
“ยังไงนะ” เป็นแซนที่งง สรุปแล้วเพื่อนเขาจะถ่ายกับน้องจูงั้นเหรอ
“กูจะถ่ายคลิปกับน้องจู”