“...” มนต์มีนาพยักใบหน้ารับคำเบาๆ หน้าหวานใสแดงจัดมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกร้อนวูบ!! ใบหน้าเห่อร้อนเพราะอุณหภูมิในร่างกายแทบจะเดือดกลายเป็นไอ
“หืมม์...หมายความว่าไงอะมีนา พี่ไม่เข้าใจ”คาร์โลวเอ่ยย้ำอีกครั้ง อยากได้ยินเสียงหวานๆ เอ่ยบอกความในใจให้ชัดเจน
“ค่ะ...พี่ชาร์ล...”
“ค่ะไรอะ...ขอชัดๆ พี่ไม่อยากเข้าใจผิด”
“พี่ชาร์ลบ้า...ทำเป็นไม่เข้าใจ มีนากลับบ้านดีกว่า วันนี้มีนาไม่ย้อนกลับมาที่หาดอีกแล้วนะคะ” หญิงสาวตอบเสียงสะบัด ใบหน้าหวานใสงอง้ำ รีบสะบัดใบหน้าหนี เมื่อเอียงอายเกินกว่าจะทนมองนัยน์ตาหวานฉ่ำของพี่ชายที่กำลังขอเปลี่ยนแปลงสถานะของตัวเอง เป็นคน ‘พิเศษ’
“มีนา...เดี๋ยวก่อนซิ...แหมทำเป็นใจน้อยไปได้ พี่แค่ล้อเล่นน่า พี่พอจะรู้หรอกนะว่ามีนาหมายถึงอะไร ก็ในเมื่อหัวใจเราสองคนตรงกันนี่นา”เขาเอื้อมมือคว้าเรียวแขนผอมบางของมนต์มีนาไว้ ออกแรงยื้อไว้สุดกำลังเมื่อสาวน้อยกำลังจะเดินหนีจากไปอย่างแสนงอน
“ปล่อยค่ะ...” หล่อนขอร้องเสียงอ่อนเบา ใบหน้าหวานซับสีเลือดแดงก่ำจนจรดใบหู
“พี่ล้อเล่นครับ...พี่ขอโทษ พี่มีของอยากให้มีนาน่ะ ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากมาย แต่มันเป็นของสำคัญที่พี่อยากให้มีนาด้วยตัวเอง ของเก่าโบราณของคุณยายพี่นะครับ”คาร์โลวละล่ำละลักกล่าวแก้ เมื่อสาวน้อยดึงดันจะหนีกลับ เพราะเอียงอายชายหนุ่มรูปงามที่หยอกเหย้า
“ค่ะ...แต่มีนาต้องกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ ได้ไหมคะ”มนต์มีนาวอนขอเสียงอ่อย ก่อนจะค่อยๆ แกะผ่ามือใหญ่ที่กุมเรียวแขนของตัวเองออกช้าๆ
“พี่กวนใจมีนาหรือไงครับ ทำไมถึงอยากหนีพี่ไปจังเลย” ชายหนุ่มตัดพ้อเสียงอ่อนเศร้า ใบหน้าคมสลดลงเพราะรู้สึกน้อยใจ
“เปล่าค่ะ...พี่ชาร์ลไม่ได้รบกวนมีนาเลยค่ะ!! มีนามีพี่ชาร์ลเป็นเพื่อนคุยทำให้หายคิดถึงคุณพ่อไปได้ตั้งเยอะ มีนาซิคะเป็นฝ่ายกวนพี่ชาร์ล อุตส่าห์หนีมาพักตั้งไกลยังมาเจอเด็กซนๆ แบบมีนาคอยกวนใจอีก”
“แน่นะ...มีนาไม่ได้พูดให้พี่สบายใจใช่ไหม? พี่ไม่เห็นมีนากวนใจพี่เลย พี่ซิต้องขอบคุณมีนาที่ไม่เบื่อพี่ไปเสียก่อน คนไม่สมประกอบแบบพี่ใครจะอยากมาหา”
“เฮ้อ...มีนาจะอธิบายให้พี่ชาร์ลเข้าใจได้ยังไงดีนะนี่” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกๆ เมื่อยิ่งพูดอะไรออกไป พี่ชายก็ยิ่งเข้าใจผิดเพี้ยน
“อะ...รับของที่พี่ให้เสียซิ แค่นี้พี่ก็พอจะทำใจได้แล้ว” คาร์โลวถือโอกาสยื่นแหวนวงน้อยให้มนต์มีนา เมื่อสาวน้อยทำท่าทอดถอนใจ เพราะความหนักใจที่ไม่สามารถอธิบายให้พี่ชายคนสำคัญเข้าใจได้
มนต์มีนามองแหวนสีทองเปล่งปลั่งในมือพี่ชายคนสำคัญอย่างตื่นตะลึง ใบหน้าหวานใสซับสีเลือดแดงจัด เสก้มใบหน้าหลบอย่างเอียงอายเมื่อเผลอตัวเผลอใจสบนัยน์ตาของคาร์โลวที่เปล่งประกายระยิบระยับ
“เอ่อ...”
“รับไปเถอะน่า เก็บดีๆ ล่ะหัวใจพี่ทั้งดวงเลยนะนี่” คาร์โลวเอื้อมมือคว้าผ่ามือเรียวของมนต์มีนาไว้ จับสวมแหวนวงน้อยบนนิ้วนางข้างซ้ายให้อย่างฉับไว จนสาวน้อยตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่มองพี่ชายอย่างตื่นตะลึง “ตอนนี้ใส่นิ้วข้างนี้ไปก่อนนะจ้ะ รอให้มีนาโตกว่านี้ซักหน่อยพี่จะเปลี่ยนใหม่ย้ายไปอยู่อีกนิ้วหนึ่ง”
“ค่ะ...”
“มีนาเป็นคนแรกเลยนะ ที่พี่คิดจะมีอนาคตข้างหน้าร่วมกัน พี่เป็นคนตรงๆ มีอะไรก็บอกกันตรงๆ อย่าปิดบังกัน ในเมื่อตอนนี้สถานะเราสองคนเปลี่ยนไปจากเดิม พี่ไม่ชอบคนหลอกลวง เพราะไม่อาจทำใจได้ถ้าถูกหักหลังจากคนที่เรารักและไว้ใจ”
“ค่ะ...”
“พี่ให้สัญญาด้วยเกรียติที่มีเลย ว่าพี่จะดูแลปกป้องมีนาด้วยตัวเองสุดกำลัง” คาร์โลวยืดอก ให้สัญญาอย่างหนักแน่น ตั้งมั่นว่าจะทำอย่างที่เอ่ยไว้สุดกำลัง เมื่ออนาคตข้างหน้าคงต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมาย โดยเฉพาะคุณพิไลพรรณมารดาตัวเอง
“พี่พิอย่าโกรธวิไลนะคะ ถ้าวิไลบอกอะไรบางอย่างกับพี่”สายโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศ ส่งตรงไปถึงคุณพิไลพรรณในเช้าวันหนึ่ง
“มีเรื่องอะไรวิไล? อย่ามาโยกโย้...จะเล่าอะไรก็เล่ามา!! หรือว่าตาคาร์โลวก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ พี่ละอ่อนใจกับลูกชายคนนี้เสียจริงๆ ขยันสร้างเรื่องไม่หยุดไม่หย่อน แค่คิดก็เหนื่อยใจแทบเพลีย” สาวใหญ่เอ่ยถึงคาร์โลวลูกชายอย่างอ่อนใจ เมื่อรู้สึกหนักใจกับปัญหาที่ชายหนุ่มขยันสร้างเป็นประจำ
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะพี่พิ แต่ก็เกี่ยวข้องโดยตรง ถึงคาร์โลวจะไม่ได้เป็นคนก่อปัญหานั้นก็เถอะ!! วิไลคงแค่กลัวไปก่อนล่วงหน้า ได้แต่ภาวนาว่ามันคงไม่ได้เป็นอย่างที่กลัว” คุณวิไลทอดถอนลมหายใจรำพึงออกมาอย่างกังวล
“กลัวอะไรเหรอวิไล?...คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงอีกล่ะซิ!! ลูกสาวบ้านไหน? ท่าทางเป็นอย่างไรบ้าง พอจะจัดการได้ไหมล่ะ หรือว่าต้องให้พี่ลงมือเอง” คุณพิไลพรรณซักถามละเอียดยิบ เมื่อเรื่องที่บุตรชายก่อไว้มีแค่ไม่กี่เรื่อง ถ้าไม่ชกต่อยมีเรื่องกับเพื่อน ก็เรื่องผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันเพราะหวังเงินทอง
“พี่พิมันไม่เหมือนเคยสิคะ แต่วิไลคงกลัวไปก่อนมั้งคะ เพราะเด็กนั่นไม่ได้เหมือนเด็กใจแตกทั่วๆ ไปที่เข้ามาก้อร่อก้อติกหลานชาย ดูเหมือนจะแค่พูดคุยกันเฉยๆ วิไลคงกังวลไปเอง”
“อย่างนั้นหรือ? แต่ถ้าไม่ชอบมาพากลยังไง วิไลรีบบอกพี่เลยนะ เดี๋ยวตาคาร์โลวสร้างเรื่องอีก เด็กนั่นยังเด็กเกินไป มีเรื่องขึ้นมาเรามีแต่เสียกับเสีย” คุณพิไลพรรณกำชับน้องสาวเสียงหนักแน่น แม้จะเป็นแค่ญาติห่างๆ แต่ก็สนิทสนมกันดี
“ค่ะ...วิไลบอกพี่พิให้รู้ล่วงหน้าไว้ก่อน จะได้หาทางรับมือทันถ้ามันเกิดเหตุการณ์อย่างที่เรากลัวจริงๆ เด็กนั่นอาจจะมาเหนือเมฆกว่าที่เราคิดก็ได้ วิไลเลยต้องบอกให้พี่พิหาวิธีป้องกัน”
“อืมม์...เดี๋ยวพี่เคลียร์งานทางนี้ก่อน อย่างที่รู้นั่นล่ะพี่กำลังจะเปิดสายการบินใหม่ในเมืองไทย ทางนี้เลยวุ่นวายน่าดู พี่จะรีบไปดูท่าทีเด็กนั่นก่อน แต่คงอีกซักประมาณ3-4อาทิตย์ มันคงจะไม่สายเกินไปนะ”
“ค่ะ...วิไลจะพยายามสอดส่องดูแลคาร์โลวไม่ให้ก่อเรื่องไปเสียก่อน พี่พิทำงานตามสบายเลย ถ้ามันเลวร้ายจริงๆ วิไลจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว”
คุณพิไลพรรณเอนลำตัวพิงพนักเก้าอี้ ปลายนิ้วเคลือบสีสันสดใสของยาทาเล็บราคาแพง หมุนปากกาในมือเล่นอย่างครุ่นคิด ดวงตาเฉียบคมมองเหม่อไปเบื้องหน้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า เมื่อนึกถึงบุตรชายเพียงคนเดียว คาร์โลว คัสล์ซัน ในวัยเด็กคาร์โลวเกิดมาท่ามกลางความรักของพ่อแม่และญาติสนิท เมื่อคุณพิไลพรรณแต่งงานกับมหาเศรษฐีหนุ่ม เกเกอร์ลี่ คัสล์ซัน เจ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่ ‘คัสล์ซันแอร์ไลน์’ ของสวีเดน บุตรชายเพียงคนเดียวถูกตามใจจนเคยตัวเพราะทุกคนต่างรุมรักรุมเอาใจ กลายเป็นเด็กกร้าวร้าวจนคุณพิไลพรรณต้องส่งไปดัดนิสัยกับครอบครัวสัตญาณุเศรษ (คุณตาคุณยาย) คาร์โลวจึงผูกพันกับญาติผู้ใหญ่ทางเมืองไทยมากกว่าทางฝั่งสวีเดนคาร์โลวรักและนับถือคุณตาคุณยายมากที่สุด ในช่วงเวลาที่อยู่กับพ่อและแม่ของเธอคาร์โลวปฏิบัติตัวดี จนคุณพิไลพรรณคลายความเป็นกังวล เด็กหนุ่มวัยไม่ถึง20ปีแต่มีทรัพย์สมบัติมหาศาลเป็นสินทรัพย์ ทำให้ผู้หญิงที่เข้าหาคาร์โลวแต่ละคนดูน่ากลัว คุณพิไลพรรณจึงต้องป้องกันอย่างดี เพื่อจะได้ทำให้อนาคตของลูกชายสดใสรุ่งโรจน์ ไม่ต้องมาตกต่ำเพราะผู้หญิงรักสบายหวังรวยทางลัด และหวังทรัพย์สินเงินทองเป็นของแถม
“คุณแม่คะ พิจะทำไงดีถ้าคาร์โลวไปคว้าผู้หญิงไม่ดีมาทำเมีย พิคงอกแตกตาย” คุณพิไลพรรณรำพึงรำพันอย่างทดท้อ หวั่นกลัวอนาคตแทนบุตรชาย
“ลิซ่า...ตรวจดูตารางงานให้ฉันหน่อยสิ? มีเรื่องเร่งด่วนอะไรไหม ฉันจะเดินทางกลับเมืองไทยเร็วๆ นี้” นางกดอินเตอร์คอมสั่งงานเลขาฯ คู่ใจ ให้ตรวจดูตารางการทำงานเพื่อจะหาเวลาว่างปลีกตัวไปดูบุตรชายที่เมืองไทยด้วยความเป็นห่วง วัยหนุ่มเลือดร้อนยิ่งเป็นคาร์โลวด้วยแล้ว หลังจากคุณตาคุณยายสิ้นไป คาร์โลวแทบจะไม่ยอมฟังใคร ถ้าหาเหตุผลไปคัดค้านเขาไม่ได้ ชายหนุ่มมาดมั่นและเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ด้วยถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เป็นไม้แก่เกินจะดัดได้