ตอนที่4ได้น้องสาวคนใหม่

2959 Words
บทที่4ได้น้องสาวคนใหม่ แล้วชุดเกือบ 30 กว่าชุด ไม่รวมชุดใส่นอนทุกตัวสีหวานแหววหมด ส่วนในห้องเก็บของ มีผ้าห่มสีขาวเข้าชุดกับผ้าปู และผ้าม่านสีขาวที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ ข้าให้จิงจิงช่วยแกะผ้าม่านออกมา เปลี่ยนที่นอนเป็นสีขาว เข้าชุดกับผ้าห่มและผ้าม่าน ส่วนเครื่องประทินโฉมบางตัวข้ายกให้พี่จิงจิง เก็บไว้ใช้เพียงไม่กี่ชิ้น “ความจริงพี่จิงจิงควรเลือกชุดพวกนี้ไปใส่ด้วยก็ดีนะเจ้าคะ” ก่อนหน้านั้น ข้าเอาชุดใหม่ ๆ ให้พี่จิงจิง แต่นางไม่รับ บอกว่านางมีชุดมากมายแล้ว ที่ผ่านมาคุณหนูซื้อให้นางมามิน้อย “อย่าเลยเจ้าค่ะ…ชุดสวย ๆ พวกนี้มิเหมาะกับพี่ที่เป็นบ่าวไพร่ นำไปขาย ได้เงินมาซื้อชุดใหม่ให้คุณหนูดีกว่า”นั่นแสดงว่าคุณหนูหลี่เฟยเฟยใส่ใจคนรองข้างมิน้อย อย่าให้ข้ารู้ว่าคนที่คาบข่าวปลอม ๆไปให้ผู้คนข้างนอก แม้จะยัดขี้เถ้าใส่ปากเสียเลย … “สำหรับพี่จิงจิง ข้าถือว่าพี่เป็นคนในครอบครัวไปแล้ว ไม่ว่าผู้อื่นจะมองพี่อย่างไร จำไว้อยู่อย่างหนึ่ง พี่คือคนในครอบครัวของข้า” “ขอบคุณเจ้าค่ะ…คุณหนูจิตใจดีเหมือนนายหญิงมิมีผิด” “พี่จิงจิง ท่านแม่ ท่านพ่อของข้ามีญาติพี่น้องบ้างไหมเจ้าคะ” “พี่เคยได้ยินคุณชายใหญ่พูดถึงท่านลุงของคุณหนู…แต่พี่กับคุณหนูมิเคยเจอท่านเจ้าค่ะ” อย่างน้อยร่างนี้นอกจากพี่ชายยังมีญาติผู้ใหญ่ยังหลงเหลืออยู่สินะ “พี่จิงจิง ข้าจำมิค่อยได้ วันนั้นผู้ใดกันที่มาส่งข่าวให้ ข้าถึงออกไปข้างนอก” “แม่นางสุ่ยปิงเจ้าค่ะ นางบอกว่าได้ยินคนที่ตลาดพูดกันว่าคุณชายเหว่ยจะพาแม่นางลี่มี่ออกไปดูบึงบัว” “พี่ช่วยเล่าประวัติแม่นางสุ่ยปิงให้ข้าฟังหน่อยได้ไหม” “ได้เจ้าค่ะ แม่นางสุ่ยปิงอายุ 18 ปี เป็นหลานสาวท่านป้าฮวา คนเก่าแก่ที่เคยติดตามนายหญิงมา สุ่ยปิงมาอยู่ที่นี่ ยามนั้นคุณหนูอายุ 10 ขวบพอดี เป็นปีที่นายท่านกับนายหญิงจากไป นางชอบตีสนิทกับพ่อบ้านโจว แล้วมักจะตามพ่อบ้านโจวออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ในขณะที่บ่าวคนอื่น ๆ มิได้ออกไปไหน แล้วนางชอบบอกคนอื่นว่าเป็นคนสนิทของพ่อบ้านโจว…ชอบอวดชุดสวย ๆ กับเครื่องประทินโฉม แต่พี่มิชอบขี้หน้านางเท่าไร…ไม่ใช่ว่าพี่อิจฉานางนะเจ้าคะ แค่พี่รู้สึกมิถูกชะตากับนาง” “หึ หึ หึ ข้าเข้าใจ แล้วทำไมพี่ถึงมิชอบหน้านางเล่า” ข้ารู้เอ็นดูพี่จิงจิงยามที่พูดใส่จริตจะก้าน ดูแล้วทำให้ข้าคิดถึงซีรีส์เรื่องหนึ่ง สาวใช้นางนั้นลักษณะคล้ายพี่จิงจิงยามนี้เลย “มิรู้เหมือนกันเจ้าค่ะ นางชอบเสยยิ้มเหมือนรู้อะไรมา แล้วนางชอบมาวุ่นวายสอบถามที่เรือนคุณหนู เอาเป็นว่านางชอบยุ่งเรื่องของทุกคนเจ้าค่ะ” พอข้าได้ฟังแบบนี้ ก็เริ่มคิดว่าข่าวที่ออกไป ที่แท้มีนกสองหัวอยู่ในจวน ข้าจะรอจับตาดูนางต่อไปละกัน…เรื่องนี้ข้าจะใจร้อนมิได้… “อ้อ…มีอีกเรื่องหนึ่ง พี่จิงจิงช่วยบอกข้ามาตามตรงเถอะ ว่าข้าเป็นอย่างที่ชาวบ้านเล่าขวัญกันหรือเปล่า” “หืมมม……… คุณหนูเป็นคนบอกพี่เองมิใช่หรือ ว่าไม่ให้พี่สนใจเสียงนกเสียงกาพวกนั้น คริ คริ คริ” จิงจิงเห็นคุณหนูคนงามทำหน้าเลิกลั่ก ดูแล้วน่าเอ็นดูยิ่งนัก “ก็ใช่ แต่ข้ากำลังจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ก็อยากถามพี่อย่างไรเล่า” แก้ตัวไปเรื่อยแหละ ก็นางมิมีความทรงจำนี่นา “ในสายตาพี่ คุณหนูเป็นเช่นนี้มานานแล้ว อาจเป็นเพราะคุณชายใหญ่วานให้คุณหนูรับผิดชอบทุกอย่างในจวนกระมังเจ้าค่ะ ยามที่เห็นต้นหญ้าหรือใบไม้ร่วงหรือฝุ่นเกาะที่ใด คุณหนูก็จะเรียกบ่าวไพร่ที่รับผิดชอบมาถาม ผู้ใดรับผิดชอบเวร แล้วให้มาทำงานให้สมกับเบี้ยที่จ่ายไป ในจวนมิมีบ่าวไพร่คนไหนเอือมระคุณหนูเลย…ทุกคนรู้ว่าที่คุณหนูเคร่งกฎระเบียงเพราะอยากให้คุณชายใหญ่เห็นว่าคุณหนูทำได้… พี่เองก็อยากรู้คนปล่อยข่าวเหมือนกัน แต่คุณหนูบอกว่ามิต้องสนใจ… ส่วนเรื่องคุณหนูร้ายกาจ อันเกินความเป็นจริงอยู่มากโข คุณหนูกลัวว่าบ่าวไพร่จะไม่ฟัง เลยทำหน้าเหวี่ยง ๆ พยายามจะไม่คุยเล่นกับใคร ทั้งหมดนี้คุณหนูอยากทำหน้าที่ได้รับมอบจากคุณชายใหญ่ให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ…แต่มีอยู่อย่างหนึ่งคือ พี่เสียดายยิ่งนัก ที่คุณหนูของพี่มิมีสหาย…” มิมีสหายหรือ…นั่นสิ หลี่เฟยเฟยทำไมถึงมิมีสหาย… “ก็คุณหนูเคยบอกพี่ว่ามิจำเป็นต้องมีสหาย พอคุณหนูอายุครบ 15 ปีคุณชายเหลียงเหว่ยก็จะมาหมั้นคุณหนู ถึงเวลานั้นคุณหนูก็ต้องเตรียมตัวเรียนรู้การเป็นเจ้าสาวและการเป็นฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ มีเวลาคุณหนูก็ไปเยี่ยมฮูหญิงเหลียงซิง มารดาคุณชายเหลียงเหว่ย…นอกนั้นคุณหนูมิสนใจหรือคุยกับใคร… อ่อ…มีท่านป้าหยู่ที่คุณหนูชอบไปอุดหนุนขนมนางบ่อย ๆ เพราะคุณหนูสงสารนาง แล้วขนมที่ซื้อมาคุณหนูนำไปแจกจ่ายให้เด็ก ๆ ที่อยู่ชานเมืองกับพี่เจ้าค่ะ” เมื่อนางได้ฟังที่จิงจิงเล่ามาแล้ว ที่หลี่เฟยเฟยมีความคิดเช่นนี้ อาจเอาคำพูดมารดามาเป็นที่ตั้งของความสุข แต่อนิจจาทุกอย่างมันมิได้มาตามที่ใจเราปรารถนา แม้กระทั่งความรัก… ร้านค้าหลี่เฟย ภายในร้านมีเข้าของเครื่องใช่จิปาถะ คุณชายหลี่ฟานกำลังตรวจสินค้ากับจงอุ้ยและถังอ้าย ทั้งสองคนเป็นฝาแฝดติดตามคุณชายน้อยมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ที่ยามนั้นบิดามารดามาขายพวกเขากับนายท่านหรือบิดาคุณชายหลี่ฟาน นายท่านให้เงินบิดามารดาแล้วให้พวกเขาสองพี่น้องมาทำงานเล็ก ๆ น้อย คอยตามติดคุณชายหลี่ฟาน เมื่อคุณชายหลี่ฟานเติบใหญ่ นายท่านจ้างซือฝูมาสอนหนังสือที่จวน พวกเขาสองพี่น้องได้เรียนหนังสือด้วย ทำให้อ่านออกเขียนได้ ยามนี้พวกเขาอายุ 17 ปีเท่าคุณชาย อีกทั้งกลายเป็นมือซ้ายมือขวาให้คุณชายแล้วช่วยงานคุณชายได้มิน้อย “คุณชายขอรับ เรื่องที่ให้ข้าน้อยไปสืบมา มิเคยมีผู้ใดเห็นชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตคุณหนูเลยขอรับ” ถังอ้ายเดินมาหาและรายงานเรื่องที่เขาไปทำมา “มิเป็นไร ข้าแค่ยากเลี้ยงข้าวขอบคุณเขา…ในเมื่อเขามิอยากให้พวกเราทราบตัวตนเขา ก็มิต้องตามหาแล้ว” “แต่คุณชายขอรับ…ถ้าพวกเราหาคุณชายที่ใส่หน้ากากเจอ จะได้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นเป็นอุบัติเหตุจริงหรือเปล่านะขอรับ” คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถังอ้ายกับจงอุ้ยไปสอบถามผู้คนที่ไปดูบึงบัวมาแล้ว มิมีผู้ใดสังเกตเห็นยามที่คุณหนูตกลงไป “ช่างเถอะอาถัง อาจง ในเมื่อน้องสาวข้าปลอดภัยแล้ว เรื่องนั้นปล่อยไปก่อน เจ้าอย่าลืม แค้นนี้ 10 ปี ข้าจะมิมีวันลืม” หลี่ฟานพูดแบบนั้น เพราะยามนี้ขอเพียงให้น้องสาวฟื้นขึ้นมา เรื่องอื่นค่อยว่ากัน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ มาเล่าให้ฟังว่าเหลียงเหว่ยยืนเฉย ๆยามที่น้องสาวตกน้ำ นี่ถ้าเหลียงเหว่ยแจ้งผู้อื่นให้มาตามเขาด้วยม้าเร็วที่ร้าน เขาจะรีบไป แต่เหลียงเหว่ยกลับไม่ทำอันใดแล้วยังหนีกลับมาก่อน มันย้ำเตือนว่าที่ผ่านมาเขามองเหลียงเหว่ยมิได้ผิดไปจากที่คิดไว้ คนอย่างนั้นไม่คู่ควรกับน้องสาวเขาสักนิด แล้วเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องมีคนใครคนหนึ่งคนหนึ่งแกล้งน้องสาว… ทุกวันนี้ที่คบกับเหลียงเหว่ย เพราะน้องสาวชื่นชอบบุรุษผู้นั้น ภายในใจเขาต้องอดทนขนาดไหนที่เห็นคนที่รักถูกเมิน มิสนใจ แต่ต้องอดทนเพราะรู้ว่าน้องสาวรักบุรุษผู้นั้นมาก ถึงกับมิคบสหายแล้วเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้เหลียงเหว่ย ชายหนุ่มไม่เคยทำตัวสนิทกับเหลียงเหว่ยเลย สัญชาตญาณบุรุษด้วยกัน แค่มองหน้าก็รู้ว่าคนแบบนี้ เป็นคนอย่างไร… ภายในใจหลี่ฟาน ภาวนาขอให้มีเหตุการณ์ที่ทำให้น้องสาวตาสว่างหรือเลิกรักบุรุษผู้นั้น ถ้าจะให้พูดกับน้องตามตรง เขาก็ทำไม่ได้ แค่เห็นน้ำตาน้องสาวเขาก็ยอมนางทุกอย่างแล้ว ก็พวกเรามีกันแค่สองพี่น้องนี่นา ท่านลุงที่เป็นพี่ชายของท่านพ่ออยู่เมืองหลวงแคว้นต่งไห่ นาน ๆ จะพบกัน “อาถังพรุ่งนี้จะมีสินค้ามาลง แล้วนำรายการที่ข้าเขียนวันนี้ให้เถ้าแก่ไป๋ซำด้วย ส่วนตั๋วเงินข้าจะให้อาจงนำมาให้เจ้าพรุ่งนี้”ถังอ้ายนอนที่ร้านกับบ่าวอีกคน จงอุ้ยนอนที่จวน ส่วนคนงานที่ไปกลับบ้าน มี 3 คน “ขอรับ แล้วพรุ่งนี้คุณชายจะมิเข้าร้านหรือ” “ข้ามีธุระ…จะเข้ามาช่วงบ่าย” เขาอยากอยู่เฝ้าน้องสาว ยามที่น้องฟื้น หลี่ฟานอยากให้นางเห็นเขาเป็นคนแรก ว่าเขาเป็นห่วงนางขนาดไหน หากรู้ไม่ว่าน้องสาวฟื้นแล้ว โดยที่วิญญาณที่อยู่ในร่างมิใช่น้องสาวเขา… “คุณชายใหญ่กลับมาสักทีขอรับ” พ่อบ้านโจวเดินออกมาต้อนรับเขาด้วยท่าทางชื่นมื่นกว่าทุกวัน พวกเขายังอยู่บนม้าคนละตัวกับจงอุ้ย “เกิดอันใดขึ้นพ่อบ้านโจว” หลี่ฟานลงจากหลังม้า จากนั้นปล่อยให้จงอุ้ยนำม้าไปเก็บที่คอก “คุณชายใหญ่…คุณหนูฟื้นแล้วขอรับ ที่สำคัญคุณหนูดื่มยาจนหมดถ้วย” พ่อบ้านโจวอยู่ที่นี่มานานแล้ว เมื่อเสาหลักได้จากไป คุณชายใหญ่กลายเป็นเสาหลักของครอบครัว ได้รับความเมตตาจากญาตฝ่ายพ่อ ไม่นานคุณชายใหญ่ขึ้นมาเป็นเสาหลักของบ้าน นายท่านกับนายหญิงคงหมดห่วง “เช่นนั้นหรือ ขอบคุณท่านพ่อ ท่านแม่ พ่อบ้านโจวขอบคุณมาก” หลี่ฟานรีบไปที่เรือนของน้องสาว ซึ่งอยู่ถัดจากเรือนของเขาไป “เฟยเอ๋อร์น้องพี่…เจ้าฟื้นแล้วเหตุใดมิให้บ่าวไพร่ไปแจ้งพี่เล่า” นางกำลังช่วยจิงจิงพับชุดที่รื้อออกมาทั้งหมดเพื่อจะนำไปขายพรุ่งนี้ อยู่ ๆ เหมือนมีลมพัดมาเร็วมาก แล้วมีคนมานั่งลูบศีรษะนางทะนุถนอม นี่อ่า……นี่พี่ชายข้าหรือ ที่ข้าทราบเพราะจมูกโด่งกับดวงตาของคนตรงหน้าคล้ายร่างนี้อยู่หลายส่วน “พี่ใหญ่…คือ…ข้ามิอยากรบกวนการทำงานของพี่ใหญ่เจ้าค่ะ” พี่ชายท่านหน้าตาดียิ่ง ทำให้ข้าคิดถึงซีรีส์ที่ได้ดูมา คนตรงหน้ายามนี่คือพี่เซียวจ้านชัด ๆ พระเจ้า!!! “เฟยเอ๋อร์ เจ้าแก้มแดง มิสบายหรือเปล่า จิงจิง เก็บผ้าเข้าตู้ให้หมด น้องพี่ไปนั่งพักเถอะ ที่เหลือพี่จะช่วยจิงจิงเก็บผ้าพวกนี้เอง” ระหว่างนั้นพี่ใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อระดับพระเอกยกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากข้า “ตัวไม่ร้อนนี่ เจ้ามีอาการที่ใด บอกพี่มาเถอะ หรือพี่จะให้อาจงไปตามท่านหมอมาตรวจเจ้า” ข้าเชื่อแล้วว่าท่านเป็นน้องชายที่รักน้องสาวยิ่งนักคุณชายหลี่ฟาน ที่แก้มข้าแดง เพราะท่านเหมือนพระเอกที่ข้าเคยดูต่างหากเล่า…อ่าข้าจะพยายามทำท่องไว้ ว่านี่คือพี่ชายของข้า ที่สำคัญท่านเป็นทาสน้องสาวจริง ๆด้วย… “ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วงนข้า…ข้าหายแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ แล้วชุดพวกนี้ข้าให้พี่จิงจิงนำไปขายเจ้าค่ะ” “หืมมมม…มิใช่ว่าเป็นชุดที่เจ้าชอบหรือเฟยเอ๋อร์ ถ้าเจ้าอยากได้เงินเหตุใดมิบอกพี่เล่า เจ้าก็รู้ พี่ทำงานทุกวันนี้เพื่อหาเงินให้น้องสาวคนเดียวของพี่ได้ใช้จ่าย มิต้องเอาไปขายหรอกเก็บไว้ใส่วันหน้าก็ยังได้” จิงจิงนั่งดูพี่ชายที่ตามเอาใจน้องสาวทุกอย่าง เป็นภาพที่นางคุ้นเคย คุณชายใหญ่รักน้องมาก ตามใจคุณหนูทุกอย่าง เป็นเช่นนี้ตลอดมาแล้วนางเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ก็คุณหนูน่ารักน่าเอ็นดูยิ่ง ๆ ขึ้นนี่นา “พี่ใหญ่ ท่านเป็นพี่ชายที่ดียิ่ง… น้องดีใจที่ได้เกิดมาเป็นน้องสาวพี่ใหญ่ ที่ผ่านมาน้องทำตัวไม่น่ารัก เอาแต่ใจ ไม่เคยฟังที่พี่ใหญ่กล่าวตักเตือน…ยามเมื่อความตายเกือบพลาดเอาชีวิตน้องไปแล้วนั้น… ทำให้น้องคิดได้ ว่าชีวิตคนเราสั้นนัก เหตุใดเรามิควรมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราและคนที่รักเราล่ะ… การวิ่งตามความรักจากผู้ที่มิได้เห็นค่าความรักของเรามันเหนื่อยมิน้อย…น้องขอโทษนะเจ้าคะที่ทำให้พี่ใหญ่ลำบากใจตลอดมา…ต่อไปนี้น้องจะเป็นนายร้ายหลี่เฟยเฟยคนใหม่ ที่รักตัวเอง รักครอบครัวเท่านั้นเจ้าค่ะ” หลี่ฟานสบตาน้องสาวที่เพิ่งฟื้นไข้ เขามิคิดว่าว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากน้องสาว แล้วนี่เขาเพิ่งสังเกตเห็น หลังจากฟื้นไข้นางงดงามยิ่งขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดวงตาดำขลับมีความหนักแน่น เด็ดขาด เหมือนมีมนต์ดึงดูดและแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น มิหลงเหลือหญิงสาวอรชรอ้อมแอ้มคนเดิม เขากลัวว่าน้องสาวจะปรับตัวไม่ทัน จึงจับมือบอบบางมากุมไว้ “เฟยเอ๋อร์ ในที่สุดน้องสาวพี่ก็โตเป็นผู้ใหญ่เสียที แล้วฟังที่พี่พูดบ้าง ที่ผ่านมาเจ้าจะทำตัวอย่างไร พี่ใหญ่คนนี้ไม่เคยหนักใจสักนิด พี่ยินดีที่จะอยู่ข้างเจ้าตลอดเวลา การที่น้องสาวพี่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง พี่ว่ามันยากมิน้อย เจ้าค่อย ๆ เปลี่ยนก็ได้ พี่อยู่ข้างเจ้าเสมอ… พี่ดีใจที่เจ้าไม่ถลำลึกไปกว่านี้ พี่อยากให้เจ้าหันกลับรักตัวเองให้มาก ๆ มิต้องทำเผื่อคิดเผื่อผู้อื่น ในสายตาพี่ เจ้าเป็นนางฟ้าตัวน้อยของพี่ เจ้ามิได้เป็นอย่างที่เขาลือกัน…ผู้อื่นจะว่าเจ้าร้ายก็ช่าง ขอเพียงเจ้าอย่าได้ใส่ใจนำมาเก็บให้เป็นขยะเล่า” พี่ชาย ท่านแสนดีเกินไปแล้ว แถมยังหล่อเหลาอีก ข้าควรจะคัดเลือกสาว ๆ ที่เข้ามาหาพี่ใหญ่แล้วกระมัง “โอ้ยยย…พี่ใหญ่ ข้าเจ็บนะเจ้าคะ” หลี่ฟานเห็นแววตาน้องสาว เขาพอจะเดาออก ว่านางคิดว่าเขาชอบบุรุษด้วยกัน เพราะที่ผ่านมาเขามิเคยมีข่าวกับแม่นางคนใด “เจ้าคิดเรื่องมิดีใช่ไหม” ข้าตกใจ นี่พี่ชาย ท่านมีวิชาอ่านความคิดผู้อื่นได้ด้วยหรือ ตายแล้ว เช่นนั้นก็รู้สิว่าข้ามิใช่หลี่เฟยเฟยตัวจริง ข้าควรทำอย่างไรดี………… “พี่ใหญ่ ข้าแค่คิดว่าจะหาสตรีนางใดที่งดงามเท่าพี่ใหญ่ มิมีสตรีใดอยากได้สามีที่งดงามกว่าพวกนางหรอกนะเจ้าคะ” “หึ หึ หึ แล้วไป… พี่นึกว่าจะ…ช่างเถอะ” น้องสาวเขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เมื่อก่อนจะชอบให้เขากับอาจงเป็นคนรักกัน แต่มาวันนี้ นางจะหาสตรีให้เขา…แปลก แต่เขาชอบ… “เช่นนั้น พรุ่งนี้น้องกับพี่จิงจิงจะไปตัดชุดใหม่นะเจ้าคะ” “ได้ ชุดเก่าเอาไปเผาทิ้งให้หมดเลย” “พี่ใหญ่อย่านะเจ้าคะ…น้องกับพี่จิงจิงจะนำไปขาย แล้วนำเงินที่ได้มาซื้อชุดใหม่อย่างไรเล่า” “เฟยเอ๋อร์ เจ้าจะลำบากไยเล่า อย่าลืมว่าพี่มีเงินให้เจ้าถลุงเล่นได้ตลอดชีวิต” พี่ใหญ่ เพราะท่านเป็นแบบนี้สินะ…หลี่เฟยเฟยคนเก่าถึงมีชุดเต็มตู้ “พี่ใหญ่ ฟังนะเจ้าคะ ในเมื่อน้องจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ต้องเริ่มจากการมิใช้เงินมือเติบก่อน ต่อไปพี่ใหญ่ห้ามตามใจน้อง ถ้าน้องทำไม่ถูกพี่ใหญ่ต้องมาเตือน มิเช่นนั้น น้องจะถือว่าพี่ใหญ่มิได้รักน้องจริง ๆ” ไฉนกลับตาลปัตรเล่า “โอ้วๆๆๆ ไม่ ๆ พี่รักเจ้าที่สุด…ได้…ต่อไปนี้พี่จะช่วยน้องสาวพี่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่นนั้นพรุ่งนี้พี่จะไปส่งพวกเจ้าที่ตลาดพร้อมชุดกองนั้น แล้วพาเจ้าไปสั่งตัดชุดใหม่ด้วย ดีไหม” “ขอบคุณเจ้าค่ะ…พี่ใหญ่ใจดีที่สุด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD