ตอนที่1 สร้างความเชื่อมั่น

1241 Words
งานแต่งงานเล็ก ๆ ที่ 'กฤษณ์ดนัย' ตั้งใจทำให้กับแฟนสาวที่เขารักมากและทั้งคู่คบหาด้วยมานานถึง 5 ปี บรรยากาศที่แสนอบอุ่นทำเอา 'เอวิกา' ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเพราะความสุข เธอไม่คิดเลยว่าวันนี้สำหรับชีวิตจะเกิดขึ้นจริง ทั้งที่ฐานะของเธอกับเขาช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว จากที่เป็นแฟนกัน ตอนนี้สถานะของเธอและเขากำลังจะแปรเปลี่ยนไปเป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า แม้ว่างานในวันนี้จะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแต่กลับทำให้เธอตื้นตันใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเธอก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักและเขาก็รักเธอมากไม่ต่างกัน นิ้วหัวแม่มือของเจ้าบ่าวปาดเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเจ้าสาวออกให้อย่างเบามือ สองสายตาที่จ้องมองสบประสานต่างมีรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กันและกันแบบนี้เสมอ "ร้องไห้ทำไมอีกเอวี่ เจ้าสาวขี้แยอะไรขนาดนี้นะ" "ก็ดีใจนี่นาพี่กฤษณ์ มันเหมือนฝันเลย ถึงแม้ว่าหลังจากนี้อีกไม่นานเราจะต้องห่างไกลกันก็เถอะ" แค่คิดถึงวันที่คนรักจะต้องจากลาเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ ตามความประสงค์ของครอบครัวเขาที่มีลูกชายเพียงคนเดียว แต่เอวิกาก็เข้าใจและคอยซัพพอร์ตทุกสิ่งที่เขาต้องทำหลังจากนี้ "พี่ไปแค่สองปีเองนะเอวี่ ใจจริงพี่อยากให้เอวี่ไปด้วยกันด้วยซ้ำ" "แค่สองปีแป๊บเดียวเองพี่กฤษณ์ เอวี่รอได้ รอได้เสมอ ดูวันนี้ที่พี่กฤษณ์ทำให้เอวี่สิแค่นี้มันก็เป็นหลักประกันแล้วว่าพี่กฤษณ์รักเอวี่มากจริง ๆ" ฝ่ามือเรียวถูกจับยกขึ้นตรงหน้า กฤษณ์ดนัยบรรจงจูบซับลงแหวนแต่งงานที่เขาเพิ่งสวมใส่ให้เธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ "พี่รักเอวี่นะครับ พี่จะซื่อสัตย์และรักเอวี่ตลอดไปพี่สัญญา เราเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่แค่แฟนอีกต่อไปแล้ว พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เอวี่สบายใจ" กฤษณ์ดนัยยกฝ่ามือข้างซ้ายของตัวเองขึ้น โชว์แหวนแต่งงานที่เธอสวมให้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เอวิกาสวมกอดเจ้าบ่าวและยิ้มมีความสุขกับทุกโมเมนต์ที่มีร่วมกัน "ขอบคุณจริง ๆ นะที่ทำให้เรามีวันนี้ พ่อกับแม่เอวี่มีความสุขมาก อย่างน้อยลูกสาวก็ขายออกแล้วค่ะ" ฮ่า ๆ ๆ ๆ เสียงหัวเราะของบ่าวสาว ภาพของคู่รักที่สวมกอดกัน ทำให้แขกที่มาร่วมงานไม่ถึงร้อยยิ้มมีความสุขตามไม่ต่างกันเลย เห็นจะมีแต่คุณพิมลรัตน์ที่ทำหน้าบึ้งตึงไม่ได้ยินดีปรีดากับงานนี้ที่เกิดขึ้น แต่วันนี้นางกลับต้องจำยอมมาร่วมงานเพื่อให้ลูกชายสบายใจและยอมไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษตามความคิดที่นางวางแพลนเอาไว้ให้ "คุณมล คุณไม่เก็บอาการหน่อยเหรอ มางานมงคลของลูกทั้งทีนะ ดูคุณทำหน้าทำตาเข้าสิ" คุณดิเรกกระซิบกระซาบถามเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้ภรรยาที่แสนเอาแต่ใจของตัวเองอย่างเอือมระอานัก "ฉันไม่ได้อยากมางานแต่งแบบนี้ซะหน่อย ลูกชายคุณตาต่ำซะไม่มี" "เอวิกาออกจะสวย น่ารัก มารยาทดีขนาดนี้ ลูกชายเราตาดีตาถึงต่างหากล่ะผมว่า" "เหอะ!! ไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับลูกชายเราเลยสักอย่าง แค่ความสวย น่ารักมันไม่ได้ยกฐานะหรือชาติตระกูลเราได้หรอกนะคุณดิเรก ฉันภาวนาเหลือเกินว่าถ้าตากฤษณ์มันไปอยู่ที่โน่นมันจะเจอคนใหม่ที่ดีกว่านี้" "เอ๊ะคุณมล พูดอะไรออกมา คิดอะไรแบบนั้น ลูกชายเรามันรักเดียวมั่นคง คุณก็เห็นว่าเด็ก 2 คนนี้เขาคบหากันมานานถึง 5 ปีแล้วนะ ผมว่าคุณควรจะยอมรับกับสิ่งที่ลูกเลือกมากกว่านะคุณพิม แค่เอวิกาฐานะด้อยกว่าเราแล้วไง แต่ไม่ใช่ว่าจะทำให้ลูกเรามีความสุขไม่ได้หรอกนะ คุณต้องการอะไรกับลูกล่ะ เราเลี้ยงเขาได้แค่ตัวแต่ใจเขาเราจะบังคับไม่ได้หรอกคุณมล" "โอ้ย! คุณดิเรกถ้าจะมาพูดแบบนี้คุณกับฉันก็ต้องทะเลาะกันทั้งปีทั้งชาตินั่นแหละ ฉันไม่ชอบ ฉันไม่ปลื้มแม่ลูกสะใภ้คนนี้ คุณจะมาบังคับให้ฉันชอบพอเอวิกามันเป็นไปไม่ได้!" คุณดิเรกถึงกับส่ายหน้าให้กับภรรยาคู่ชีวิตที่ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยแม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม สุดท้ายจึงเลือกเดินเข้าไปหาลูกชายและลูกสะใภ้ป้ายแดง ดีกว่ายืนอยู่เคียงข้างภรรยาที่เอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงชวนให้อารมณ์เสีย °°°°° หลังจากผ่านพ้นงานวิวาห์ไปได้สามวัน กฤษณ์ดนัยจึงพาภรรยาเดินทางมาภายในบ้านหลังใหญ่ของพ่อแม่เพื่อทานอาหารร่วมกับครอบครัว แม้จะเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วแต่เอวิกาก็ยังรู้สึกตัวเกร็งเสมอ เพราะรู้ดีว่ามารดาของกฤษณ์ดนัยไม่ค่อยชอบพอเธอเท่าที่ควรนัก แต่เอวิกาไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย เพราะเธอแต่งงานอยู่กินกับกฤษณ์ดนัยไม่ใช่มารดาของเขา บางเรื่องที่ควรปล่อยผ่านเธอก็อยากทำแบบนั้น เพื่อความสะบายใจของทั้งตัวเองและสามี ไม่ได้อยากมีปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้ เดี๋ยวพาลทำให้คนกลางอย่างกฤษณ์ดนัยลำบากใจกันไปเปล่า ๆ "สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่" เอวิกายิ้มทักทายอย่างน่ารัก คุณดิเรกรับไหว้ลูกสะใภ้และยิ้มให้ ผิดกับคุณพิมลรัตน์ที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าลูกสะใภ้ของบ้านเลย "มาช้าไปสิบนาที ให้ผู้ใหญ่นั่งรอมันเสียมารยาท!" คุณพิมลรัตน์มองค้อนลูกชาย กฤษณ์ดนัยรีบขยับเก้าอี้ให้กับภรรยาสาวได้นั่งลงก่อนและเขาก็รีบนั่งลงตามทันที "รถติดน่ะครับแม่ มาช้านิดเดียวเองทำเป็นบ่นไปได้" "วันนี้มีแต่อาหารที่ตากฤษณ์ชอบทั้งนั้นเลยนะ แม่แกเขาอุตส่าห์เข้าครัวเอง อยากทำให้ลูกชายได้ลิ้มชิมรสชาติก่อนจะลาจากเมืองไทยไปนาน" "โห...เยอะแยะมากเลยครับพ่อ ผมต้องคิดถึงฝีมือแม่แน่ ๆ เลย" กฤษณ์ดนัยยิ้มกว้างเอ่ยเอาใจมารดาที่นั่งเชิดหน้ามองเขาอยู่ "ย่ะ! ฝีมือแม่เหรอจะไปสู้ฝีมือเมียรักของแกได้!" กฤษณ์ดนัยหันไปยิ้มกับเอวิกาก่อนจะจับมือเธอบีบเบา ๆ ไม่อยากให้ภรรยาสาวต้องคิดมากกับอะไรทั้งนั้น แม้เอวิกาจะบอกว่าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ แต่เขาก็อดรู้สึกสงสารเธอไม่ได้เลย "ทานข้าวกันเถอะครับ ผมกับเอวี่หิวมากแล้ว" กฤษณ์ดนัยรีบตักอาหารใส่จานให้พ่อและแม่เพื่อเอาอกเอาใจ ก่อนจะตักให้ภรรยาคนสวยและตัวเองตามลำดับ..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD