ตอนที่ 1 กลับมาพบกันตามสัญญา

3543 Words
ภายในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะฉลองยอดขายที่ทะลุเป้า ของบริษัทผลิตน้ำหอมชื่อดัง อัสนี รัตนวิทย์ เดลตัน ผู้บริหารหนุ่ม ลูกครึ่งไทย อังกฤษ ผู้มีความหล่อเหล่าติดอันดับ กำลังเดินเข้ามาในงานเลี้ยง และก็เป็นธรรมดาที่เขาจะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนภายในงานแบบนี้ อัศนีส่งยิ้มทักทาย ให้กับบรรดานักข่าวที่มาทำข่าวในวันนี้ ซึ่งสำหรับอัสนีแล้ว การแสดงแบบนี้เขาไม่ค่อยถนัด เพราะโดยลักษัณะนิสัย เขาเป็นคนไม่สนใจโลกอยู่แล้วแต่เพราะ เป็นงานเพื่อธุรกิจของเขาทำให้เขาต้อง พยายามที่จะปรับตัวในเรื่องนี้ ตั้งแต่เขาเข้ามานั่งแท่นบริหารธุรกิจ และจนถึงปัจจุบันเขาสามารถ ทำได้ดีพาให้บริษัทสามารถสร้างผลกำไร ได้อย่างมาหาศาล และมากว่านั้นยังทำให้บริษัทติดอันดับ ของประเทศด้วย และสามารถบอกได้ว่า นาทีนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก “ตาอัส ทางนี้ลูก “เสียงของคุณหญิง ดุจดาว ที่ตะโกนเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่าน ที่กำลังเดินเข้ามาหาบริเวณที่ท่านยื่นอยู่กับ คุณนารินทร์เพื่อนสนิทรวมถึง หุ้นส่วนคนสำคัญในธุรกิจ น้ำหอม ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เขา “สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับคุณน้า “อัสนี พนมมือไหว้ผู้อาวุโส ซึ่งท่านก็รับไหว้ชายหนุ่มด้วยความเอ็นดู “ไหว้พระเถอะจ๊ะ ยังดูดีและหล่อเหลาเหมือนเดิมนะจ๊ะ” คุณนารินท์เอ่ยชมชายหนุ่มด้วยน้ำเสียง อ่อนโยน “ขอบคุณครับ ถ้าอย่างไงก็ตามสะบายนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวด้านโน้นก่อน” อัสนีบอกผู้อาวุโสทั้งสอง และกำลังจะหันหลังเดิน ไปอีกทาง เพื่อคุยกับนักธุรกิจคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่อีกด้าน “เดี๋ยวตาอัส เดี๋ยว รู้หรือยังว่า น้องกลับมาแล้วนะ “คุณหญิงดุจดาวเอ่ยบอกชายหนุ่มและนั่นทำให้อัสนีหันมาทางผู้อาวุโสทั้งสอง ทันทีมองด้วยสายตาสงสัยว่าท่านหมายถึงอะไร หรือว่าใคร “อะไรนะครับคุณแม่ว่าไงนะครับ” อัสนีเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัยกับประโยคนั้น “แม่บอกว่า น้องกลับมาแล้ว เอ่อ แม่หมายถึง ณดา นะจ๊ะ น้องกลับมาแล้ว “คุณหญิงดุจดาว เอ่ยบอกลูกชาย อัสนีได้แต่ทำท่านึกตาม ณดา ผู้หญิงที่เขาเกือบ ลืมไปแล้ว เพราะหลังจากที่ถูกจับหมั้นกันเมื่อ 4 ปีก่อน แล้วเธอก็ไปเรียนที่ต่างประเทศและก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เรียกได้ว่า เขานั้นจำภาพครั้งล่าสุด แค่ เด็กผู้หญิงอ้วน ๆ ตัวกลม ๆ น่าตาจิ้มลิ่มคนหนึ่งและนิสัยแสบเอาเรื่องของเธอเท่านั้น และอีกอย่างในวันนั้น เขาไม่ชอบเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะการที่โดนผู้ใหญ่บังคับให้หมั้นเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เท่านั้น แต่เขาก็ขัดผู้เป็นแม่ได้ ท่านต้องการให้เขาหมั้นกับเธอ และอีกอย่างคือ ในวันนั้นเขามีโอกาสได้คุยกับเธอ แป้บเดียว และได้รู้ว่าเธอก็ไม่ได้เต็มใจที่จะหมั้นกับเขาแต่ก็ขัดความต้องการของผู้ใหญ่ไม่ได้เช่นกัน แต่เขาก็คิดว่าเป็นโชคดีของเขาที่ตอนนั้นเธอหมั้นกับเขา เพราะอย่างน้อยก็จะคุยกันง่ายเกี่ยวกับการถอนหมั้น ตอนแรกเขาคิดจะคุยกับเธอเรื่องการหมั้นของเธอกับเขา รวมถึงเรื่องการจะถอนหมั้นว่าเมื่อไหร่ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรเพราะเธอก็บินไปเรียนที่ต่างประเทศเลย และนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า เขาเกือบจะลืมเธอไปซะแล้ว แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมาแล้ว ฉะนั้น เรื่องที่เขาอยากพูดก็จะได้พูดแล้วจะได้ไม่ต้องมีเรื่องต้องค้างคากัน ต่างฝ่ายก็จะได้เป็นอิสระซะที และอีกอย่าง ป่านนี้เธอคงจะมีแฟนแล้วก็เป็นได้ หรือไม่ก็คงอ้วนกว่าเดิม แน่เลย ชายหนุ่มได้ยิ้มกับความคิดของตัวเอง ถึงยังไงเขาก็จะต้องคุยเรื่องถอนหมั้นกับเธอแน่ ๆ และคิดว่าเธอคงจะไม่ขัดเช่นกัน อัสนีได้นิ่งคิดก่อนจะตอบรับผู้เป็นแม่ “ครับ” อัสนีตอบรับเสียงเรียบแล้วก็เดินไปคุยกับเพื่อน ๆ และพนักงาน รวมถึงคู่ค้าทางธุรกิจของเขาด้วย ....................................................... “ฮัลโหลคะแม่ ตอนนี้ ณดาอยู่หน้าโรงแรมแล้วคะ กำลังจะเข้าไปคะ” ณดา เอ่ยกับผู้เป็นแม่ทางโทรศัพท์ เพราะเธอเพิ่งจะกลับจากไปเที่ยวกับเพื่อนมา และก็ต้องโดนบังคับให้มางานเลี้ยงฉลอง ยอดขายของบริษัทผลิตน้ำหอมที่ครอบครัวของเธอเป็นหุ่นส่วนอยู่ด้วยตั้งแต่สมัยพ่อเธอยังอยู่นั้นแหละ ณดา พงษ์อรัน สาวสวย ดีกรีนักเรียนนอก บุตสาวคนเดียวของคุณนารินทร์ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ในตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่าเธอ เป็นผู้หญิงที่สวย แถมฉลาด และที่สำคัญกว่านั้นคือความดื้อของเธอจนผู้เป็นแม่ต้องยอม นั่นเอง วันนี้เธอต้องถูกผู้เป็นแม่บังคับให้มางานนี้ ถึงขนาดขู่ตัดแม่ตัดลูกกันเลยที่เดียว และนี่เป็นสาเหตุที่เธอต้องรีบนั่งรถมาโรงแรมหลังจากลงเครื่องและมีเวลาเปลี่ยนชุดแค่แป้บเดียว โดยผู้เป็นแม่มาที่งานก่อนแล้วนั่นเอง “รีบ ๆ หน่อย แม่บอกแล้วว่าให้มาพร้อมกัน “คุณนารินท์ บ่นลูกสาวไปตามสาย “โถ่แม่คะ แค่นี้ก่อนนะคะ ณดากำลังจะเข้าไปคะ” ณดากดวางสายจากผู้เป็นแม่แล้วก็ก้าวเท้าเร็วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจ วันนี้เธอแต่งตัวด้วยชุดแซ็กยาว สีดำ เปิดไหล่ ตัวชุด ปักเลื่อมตรงชายกระโปรง ด้วยความสูง 168 ซม. และรูปร่างที่ผอมเพรียว ยิ่งทำให้เธอดูสง่างาม เมื่อสวมชุดนี้ ผิวขาวเนียน ตัดกับสีของชุดยิ่งดูโดดเด่น ผมที่ปล่อยยาวสยาย บ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าของนั้นดูเรียบสวย เธอแต่งหน้าสวยเฉี่ยวให้เข้ากับชุดดวงตากลมโตคมกริบ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนคนที่ได้สบตาด้วยต้องเหมือนกับตกอยู่ในมนต์สะกดของเธอทั้งนั้น โดยสรุป ณดาเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในคืนนี้แน่ ๆ หญิงสาวรีบเดินเพื่อที่จะตรงเข้าไปในงาน เธอเดินผ่านตรงล๊อปบี้ ที่มีโซฟา เพื่อนั่งพักผ่อน ตั้งไว้ ตรงมุมหนึ่ง เธอกำลังจะเดินผ่านเหมือนไม่มีอะไร แต่แล้วก็ต้องสะดุดกับบทสนทนาของใครบางคน “เอ้ยอะไรนะ คู่หมั้นแกกลับมาแล้วเหรอวะ อัส” ศักดา ที่เป็นทั้งเลขาทั้งเพื่อนสนิทเอ่ยถามชายหนุ่ม “อือ กลับมาแล้ว “อัสนีตอบเสียงเรียบ “แล้วนายเจอหน้าเธอหรือยังวะ แต่อันที่จริง ฉันก็อยากรู้เหมือนกันวะ ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง เอ้ ชื่ออะไรนะ “ศักดา ทำท่านึก “ณดา “อัสนีตอบสั้น ๆ “อือใช่ น้องณดา ฉันจำได้วันที่นายหมั้นกับเธอ ตอนนั้น ดูเธอจะอวบ ๆ ไปหน่อย แต่ก็น่ารักนะ แต่ก็เสียดายเจอกันแค่ครั้งเดียว เอง” ศักดากพูดกับเพื่อนต่อ “ตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน “อัสนีเอ่ยอีกครั้งด้วนน้ำเสียงเย็นชา “เอ้ย น้องเค้าอาจจะสวยมาก ๆ ในตอนนี้ก็ได้ แล้ววันนี้น้องเค้าไม่มาเหรอวะ “ “ไม่มานะดีแล้ว “อัสนีบอกต่อ “ไอ้นี่ ยังไงเค้าก็เป็นคู่หมั้นนายนะ “ศักดาเอ่ยเตือนเพื่อนรัก “ต่อไปจะไม่ใช่แล้ว “ “อะไรนะอัส นายหมายความว่าอะไร” ศักดาเอ่ยถามเพื่อนงง ๆ “ฉันจะคุยกับเธอ ฉันจะถอนหมั้น เพราะวันนั้นเธอบอกฉันว่าเธอก็ไม่อยากหมั้นกับฉันเช่นกัน แต่วันนั้นฉันกับเธอยังไม่มีโอกาสนได้ตกลงกันเท่านั้น และที่ยอมหมั้นก็น่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับฉันคือ ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้เท่านั้นเอง” อัสนีบอกเพื่อนรักถึงความต้องการของเขา “แล้วนายแน่ใจเหรอว่าเธอจะยอมถอนหมั้น นี่มันก็ผ่านมา 4 ปีแล้ว และอีกอย่างถ้าเธอได้เจอกับนาย เธอจะไม่หลงเสน่ห์ หนุ่มเนื้อหอมอย่างนายเหรอ แล้วถ้า สมมุติ สมมุตินะว่าเธอเกิดเห็นนายวันนี้แล้ว ตกหลุมรักคู่หมั้นอย่างนายขึ้นมา จะทำไงวะ “ศักดาถามเพื่อนอีกครั้ง “ไม่มีทาง หรอก และป่านนี้ เธอไม่มีลูกมีผัว มีคนรัก ไปแล้วหรือไงกัน ขี้คร้านจะยินดีถอนหมั้นโดยเร็วนะไม่ว่า “อัสนีเอ่ยต่อ “ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่า เธอต้องสวยขึ้นสิ ถึงมีคนรักและได้แต่งงานนะ “ศักดายังคงพูดต่อ “ไม่รู้สิ แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องถอนหมั้นให้ได้” อัสนีเอ่ยเสียงเข้ม ในขณะที่ทั้งสองหนุ่มกำลังคุยกันอยู่นั้น เจ้าของชื่อได้หยุดชะงัก เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองที่อยู่ในบทสนทนา ตอนแรกคิดว่า แค่ชื่อเหมือน แต่พอหยุดฟังเรื่องราว นั่นมันเธอชัด ๆ ณดาได้แต่ยืนฟังนิ่ง พร้อมด้วยอารมณ์ที่กำลังมาคุกรุ่น เลยที่เดียวแต่เธอก็อยากรู้ว่าพวกเขาจะนินทาเธอไปถึงเมื่อไหร่ เธอจึงได้แต่นิ่งฟังต่อไป “จะดีเหรอวะ ไม่ลองศึกษากันก่อนวะ ผ่านมา 4 ปีแล้ว น้องเค้าอาจจะ.....” ศักดาพูดไม่ทันจบ อัสนีก็สวนขึ้นทันที “จะผ่านไป กี่ปี ก็คงเหมือนเดิมนั่นละน่า ยังไงฉันก็จะต้องหาเวลาไปตกลงกับเธอ ให้ได้ละ” อัสนีเอ่ยบอกศักดาที่เป็นทั้งเลขา และเพื่อน สนิทอีกครั้ง “แล้วนายจะนัดเธอเมื่อไหร่” ศักดาถามต่อ “ไม่ต้อง คุยตอนนี้ก็ได้ ว่ามาเลย” เสียงหวานดังขึ้นทันที ทำให้ ทั้งสองคนหันไปมองตามที่มาของเสียง และนั่น ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องมองตาค้าง กับหญิงสาวตรงหน้า เพราะเธอสวยมาก “เอ่อ คือ ...” ศักดาพูดอะไรไม่ออกได้แต่จ้องหน้า หญิงสาวนิ่ง “คะ ไม่ต้องหาเวลา ฉันอยู่นี้แล้วคุยมาได้เลย “ณดาเอ่ย พร้อมกับหันไปจองหน้าอัสนีนิ่ง ถึงแม้จะผ่านมา แล้ว 4 ปีแล้ว แต่เธอจำเขาได้ดี อัสนีได้แต่ยืนนิ่ง พร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตา เธอเปลี่ยนไปจริง ๆ ทั้งรูปร่าง ที่ไม่อ้วนเหมือนเดิม แถมสูงขึ้น หุ่นดีขึ้น ใบหน้าสวย แต่มีอย่างหนึ่งที่เขาคิดว่าไม่เปลี่ยนคือ สายตาที่แสดงถึงความดื้อและไม่ยอมใครของเธอนั้นยังเหมือนเดิม “ว่าไงคะ คุณอัสนี ตกลงจะคุยว่ายังไง จะถอนหมั้น เมื่อไหร่ ฉันพร้อมเสมอ หรือจะไปคุยกับคุณแม่ของฉันและแม่ของคุณวันนี้เลยก็ได้นะคะ จะได้จบ ๆ ไป “ณดา เอ่ยกับชายหนุ่มเสียงเข้มพร้อมกับส่งสายตาอย่างท้าทาย และรอฟังคำตอบจากเขา ส่วนอัสนีนั้นเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของเธอ แบบนี้ มันกลับทำให้เขา รู้สึกอยากจะแกล้งสาวสวยตรงหน้าจริง ๆ กับท่าทีสวย เชิดของเธอ “คงจะไม่ใช่วันนี้ หรอกนะคนสวย เพราะผมคิดว่าคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ที่จะมาพูดเรื่องนี้กันในวันนี้นะ เอาเป็นว่าเราค่อยนัดกันอีกนะครับ น้องณดา” อัสนีพูดกับเธอและส่งสายตา พราวมาให้เธอ คำตอบของชายหนุ่มทำให้ศักดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต้องหันขวับมองอย่างแปลกใจก่อนจะยกมุมปากขึ้นนิดหนึ่ง เมื่อมองเห็นสายตาของเพื่อนรัก มันไม่เหมือนกับก่อนหน้าที่จะเห็น หญิงสาวตรงหน้านี้เลย “ก็แล้วทำไมต้องรอ ในเมื่อคุณพูดเองว่าต้องการถอนหมั้นให้เร็วที่สุดนี่ แล้วจะรออะไร” ณดาหันมาถามชายหนุ่มทันทีด้วยความไม่พอใจเมื่อนึกถึงคำพูดของเขาเมื่อสักครู่ที่เธอได้ยิน “ก็ผมบอกแล้วว่าไม่ใช่วันนี้ เอาละผมขอตัวก่อนนะ “อัสนีเอ่ยบอกพร้อมกับกำลังหันหลังจะเดินเข้างานไปแต่ ก็ถูกมือบางดึงเอาไว้ซะก่อน นั่นทำให้ ชายหนุ่มหันมามองทันทีเช่นกัน “เดี๋ยวแล้วเมื่อไหร่” ณดาเอ่ยถามเขา แต่อัสนีได้แต่ส่งยิ้มมาให้ “แล้วผมจะนัดคุณไปเอง” “แต่ฉัน......” ณดากำลังจะบอกชายหนุ่มก็พอดีกับที่เสียงโทรศัพท์เครืองจิ๋วของเธอดังขึ้น ซะก่อน เธอจึงกดรับสาย “คะแม่ ณดาอยู่ที่หน้างานแล้ว คะ กำลังจะเข้าไปคะ คะ” หญิงสาวกดวางสายแล้วก็หันมาหาชายหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่ตอนนี้ และนั้นก็ทำให้เธอสงสัยว่าเขาจะยิ้มอะไรกันนักกันหนาแต่พอมองตามสายตาของเขา เธอก็ต้องรับ ปล่อยมือทันที เพราะเธอยืนจับมือของเขาอยู่ แล้วก็หันหลังเดินเข้าไปในงานทันที หลังจากรับสายจากผู้เป็นแม่ อัสนีได้แต่มองตามยิ้ม ๆ และในตอนนี้เขาขอหยุดคิดเรื่องถอนหมั้นไว้ก่อน เพราะเขากำลังมีเรื่องอื่น ที่อยากทำมากกว่าในตอนนี้ “เฮ้ ท่านประธานครับ เกิดอะไรขึ้น ครับ เมื่อก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าจะถอนหมั้นไม่ใช่เหรอครับแล้วไหน เป็นแบบนี้ละครับท่านประธาน” ศักดาเอ่ยแซวเพื่อนรัก “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ เข้าไปในงานกันเถอะ” อัสนี เอ่ยบอกเสียบเรียบแล้วก็เดินตามหญิงสาวเข้าไปในงาน ศักดาจึงได้แต่วิ่งตามหลังไป “ณดา ทางนี้ลูก “คุณนาริน เรียกลูกสาวสุดที่รัก ณดา เดินตรงไปหาผู้เป็นแม่ทันที และช่วงจังหวะในการเดินผ่านของณดา เรียกความสนใจจาก บรรดา หนุ่ม ๆ ในงานเป็นตาเดียว และรวมถึงสาว ๆ ที่ทั้งมองด้วยความชื่นชม และอิจฉา ในความสวยของเธอยิ่งเธอสวมชุดนี้ยิ่งทำให้เธอทั้งสวยและโฉบเฉี่ยว ทำให้คนที่เดินตามหลังมาห่าง ๆ ได้แต่ รู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ “สวัสดีคะ คุณป้า คุณแม่” ณดาพนมมือไหว้ คุณหญิงดุจดาว และผู้เป็นแม่ อย่างนอบน้อม พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ท่านทั้งสอง “ไหว้าพระเถอะลูก แหม ไม่เจอกัน ตั้งนาน หนูณดา ของป้าสวยมากเลยลูก ดูสิทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ มองตามกันตาปรอยเลย” คุณหญิงดุจดาว เอ่ยชมหญิงสาว พร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ “คุณป้า ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ “ณดาเอ่ยชมผู้สูงวัย นั่นยิ่งทำอีกฝ่ายเอ็นดูหญิงสาวมากขึ้นไปอีก “ทำไมมาช้าจังละ ยัยหนูไหนว่า มาถึงหน้างานตั้งนานแล้ว” คุณนาริน เอ่ยถามบุตรสาวด้วยความสงสัย “พอดี เจอคนรู้จักก็เลยคุยกันนิดหน่อยคะ คุณแม่” ณดา เอ่ยบอกผู้เป็นแม่ “หนูณดา เจอ พี่อัสหรือยังจ๊ะ “คุณหญิงดุจดาวเอ่ยถามหญิงสาว “เอ่อ ยังคะ คุณหญิงป้า พอดีณดาเพิ่งจะเข้ามาคะ” ณดาเอ่ยโกหกท่านพร้อมกับ กล่าวขอโทษในใจที่เธอต้องโกหกผู้ใหญ่แบบนี้ “ไม่เป็นไรเดี๋ยวป้าให้เด็กไปตาม พี่เขามาดีกว่า นะ” คุณหญิงดุจดาวเอ่ยกับหญิงสาว “เอ่อ ไม่เป็นไรคะ คุณป้า ไม่ต้องรบกวนเวลาของพี่อัส หรอกคะพี่เขาอาจจะยุ่งคะ เพราะต้องดูแลแขกในงานด้วยนะค่ะ เอาไว้วันหลังก็ได้คะ” ณดาเอ่ยบอกผู้สูงวัย เพราะเธอไม่อยากคุยกับเขาแล้วในตอนนี้ เพราะเท่าที่คุยเมื่อกี้ เธอคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกันดีกว่า “แต่ป้าว่า ให้พี่เขามาดูแล หนูดีกว่านะ “คุณหญิงดุจดาว พยายามที่จะให้ทั้งสองคนได้ทำความคุ้นเคยกัน “เอ่อคุณป้าไม่ต้องไปรบกวนพี่อัสหรอกคะ ไม่เป็นไรจริง ๆ “ณดาพยายามปฏิเสธเสียงหวานเช่นกัน ในขณะสองสาวต่างวัยกำลัง พูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านหลังของหญิงสาวทันที “แต่พี่ ยินดี “เสียงของอัสนีนั้นเอง เขามายืนฟังการสนทนาของทั้งสามคนอยู่ ข้างๆ ได้สักพักแล้ว ทำให้ทั้งสามคนหันมาทางต้นเสียง ทันที คุณหญิงดุจดาวนั้นยิ้ม แก้มปริ ที่ได้ยินลูกชายพูดแบบนั้น ส่วนสาวสวยอ่อนวัยที่สุดนั้นได้แต่ตวัดสายตามาทางชายหนุ่มด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่อีกฝ่ายกลับมองกลับพร้อมกับยักคิ้วให้นิดหนึ่ง อย่างท้าทาย “อ้าว ตาอัส มาพอดีเลยลูก มานี่มา มาทักทายน้องณดา หน่อย ไม่ได้เจอกันตั้ง 4 ปี แหนะ จำกันได้ไหม” คุณหญิงดุจดาว เอ่ยพร้อมกับ ดึงแขนลูกชายให้เดินมายืนข้าง ๆ หญิงสาว “หนูณดา เพิ่งกลับมาได้ สองวัน เอง นะ หนูณดาจ๊ะ จำพี่อัสได้ไหมลูก “คุณหญิงดุจดาว บอกทั้งสองคน “สวัสดีครับ น้องณดา “อัสนีเอ่ยทักหญิงสาว เหมือนกับว่าเพิ่งพบกันครั้งแรก “อ้อคะ สวัสดีคะ” ณดาเอ่ยตอบพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่ม เพราะเขาถือว่าอายุมากว่าเธอหลายปี และอัสนีก็รับไหว้เธอเช่นกัน “ตาอัส เดี๋ยว พาน้องไปเดินดูอาหารและเครื่องดื่มในงานก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่กับน้านารินขอไปทักทายเพื่อน ๆ ทางโน้นก่อน” คุณหญิงดุจดาว พยายามที่จะเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ทำความคุ้นเคยกัน “เอ่อ แต่ แม่คะ คุณป้าคะ ณดา ไม่หิวคะ ขอณดาไปกับคุณแม่กับคุณป้าก็ได้คะ “ณดา เอ่ยบอกผู้สูงวัยทั้งสอง อย่างรวดเร็ว “อยู่กับพี่เขาดีแล้ว ลูก ไปกับแม่กับคุณป้า มีแต่คนแก่ เดี๋ยวจะเซ็งซะปล่าว ๆ นะ ตาอัส น้าฝากน้องด้วยนะ “คุณนารินเอ่ยบอกชายหนุ่ม “ครับ ไม่ต้องห่วงครับคุณน้า ผมจะดูแลน้องณดาอย่างดีครับ” อัสนีบอกผู้สูงวัยทั้งสองท่าน พร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที และทั้งสองท่านก็เดินไปทันที เมื่อเห็นว่าทั้งสองท่านเดินห่างออกไประยะหนึ่งแล้ว ณดาหันมาหาชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง “อะไรของคุณเนี๊ยะ ไหนว่า เราจะยังไม่คุยอะไรกัน ไง แล้วคุณทำแบบนี้หมายความว่าอะไร” ณดาหันมาถามชายหนุ่มทันทีด้วยท่าทางเอาเรื่อง “ก็เราไม่ได้คุยเรื่องนั้นนี้ เราคุยเรื่องอื่น นี่ครับน้องณดา” อัสนีเอ่ยกับหญิงสาวยิ้ม ๆ “บ้า ไม่ต้องมาน่งมาน้อง เลย คุณแม่กับคุณป้าไม่อยู่คุณไม่ต้องมาเล่นละครหรอก “ณดาเอ่ยกับชายหนุ่ม พร้อมกับสะบัดหน้าหนี และกิริยานี้ทำให้ชายหนุ่มเผลอมองแล้วก็ยิ้ม อย่างอารมณ์ดี เพราะรู้สึก ว่ามันน่ารัก แต่เอ๊ะทำไมเขาต้องรู้สึกแบบนั้นด้วย อัสนีได้แต่ตกใจกับความคิดของตัวเอง “ทำไมละ ก็น้องณดาเป็นน้อง เรียกแบบนี้น่ารักดีออก “อัสนียังไม่เลิกพูดจาเย้าแหย่หญิงสาว เพราะเขารู้สึกมีความสุขอย่างไงก็ไม่รู้ ณดา ไม่รู้จะพูดอะไร จึงได้แต่เดินไปทางซุ้มเครื่องดื่มเพื่อที่จะไม่ต้องพูดคุยกับเขา แต่อัสนีก็เร็วเดินตามหญิงสาวทันทีพร้อมกับเดินเคียงข้างเธอไปทั่วงาน เช่นกัน และเมื่อมาหยุดยืนบริหารเคาร์เตอร์เครื่องดื่ม ณดาก็หันมา มองเขาอย่างไม่พอใจ “นี่คุณ จะมาเดินตามฉันทำไม คุณก็ไปดูแลลูกค้าคุณโน้น สิ” ณดาเอ่ยกับชายหนุ่ม “พี่ก็กำลังดูแล ณดาอยู่นี่ไง “อัสนีตอบเสียงทุ้ม “ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการ “ณดาเอ่ยตอบเขาทันที แต่เขาก็ไม่สนใจ ยังคง ตามติดเธอ ทำให้ทุกคนในงานเห็นต่างจับจ้องคนทั้งคู่ เพราะคนหนึ่งคือ ผู้บริหารหนุ่มหล่อ และอีกคนคือสาวสวยที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใคร ทำไมจึงได้มาเดินเคียงข้าง กับอัสนีในคืนนี้ แต่รวม ๆ ดูเหมาะสมกันมาก ทีเดียว “เธอ ดูนั่นสิ ท่านประธานกับผู้หญิงคนนั้น ดูเหมาะสมกันจังเลยนะ” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนหันมามองที่ทั้งคู่เป็นตาเดียว “อือ จริงด้วย สวย หล่อ เหมาะสมกันจังเลย แต่เอ้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน” พนักงานอีกคนเอ่ยสำทับและทุกคนได้แต่สงสัย ว่าเธอคือใครกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD