“ปล่อยนะ!! ไอ้เถื่อน ” เสียงหวานแว้ดใส่ชายหนุ่มรุ่นน้องที่อุ้มเธอมายังสวนด้านหลังของตึกคณะที่ตอนนี้ไร้ผู้คน
“ปล่อยไปแล้ว ปล่อยในด้วย” ใบหน้ากวนประสาทตอบกลับหญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอยังคงแว้ดเสียง และแสดงสีหน้าบึ้งตึงใส่เขาอยู่
“ไอ้บ้า!!” ใบบัวโกรธจนใบหน้าสวยแดงเถือก เธอไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้มาก่อนในชีวิต ผู้ชายที่ไร้ซึ่งความอ่อนโยนกับผู้หญิงอย่างผู้ชายคนนี้
“ดื้อ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกกับหญิงสาว น้ำเสียงและใบหน้าเรียบเฉยเหมือนผู้ใหญ่กำลังตักเตือนเด็กน้อย
“ฉันรุ่นพี่นายนะ ให้เกียรติกันด้วย”
“เมีย” ใบหน้าหล่อมึนตึง เมื่อได้ยินคำว่ารุ่นน้อยหลุดออกจากปากของหญิงสาวอีกครั้ง
“ใครเมียนาย” คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม เธอเริ่มงุนงงกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่แปลกมากที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ จู่ ๆ ก็มาบอกว่า เธอเป็นเมีย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอโสด และไม่เคยมีพันธะกับใครมาก่อน
“หมามั้ง ได้กันตั้งหลายน้ำ”
“เฮ้อ!! นายต้องการอะไร ว่ามา” เสียงพ่นลมหายใจดังของใบบัวถูกพ่นออกมา เธอพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ เพื่อคุยกับผู้ชายตรงหน้าให้จบ
“เธอต้องรับผิดชอบ” ใบหน้าจริงจังและน้ำเสียงเย็นยะเยือกตอบกลับใบบัว เพียงแค่เห็นสีหน้าและแววตาของชายหนุ่ม หญิงสาวถึงกับลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ฉันต้องรับผิดชอบนายเรื่องอะไร” น้ำเสียงสั่นเทาเริ่มกลัวความบ้าดีเดือดในตัวของผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่เขาอุ้มเธอพาดบ่ามามันทำให้เธอรับรู้ได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แค่ปากดีเท่านั้น
“รับฉันเป็นผัวซะ!!”
“ไม่ ไม่เด็ดขาด นายรู้จักไหม? วันไนต์สแตนด์ และฉันก็ไม่อยากมีพันธะ” ชีวิตของเธอยังไปได้อีกไกล และอีกอย่างตอนนี้เธอใกล้จะเรียนจบปีสี่แล้วด้วย ซึ่งเธอก็ไม่ยอมมีผัวเป็นเด็กมหา’ลัยแน่นอน
“อยากตาย!!”
“นี่นาย!! เป็นบ้ารึไง ก็ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันไม่ถือสาเรื่องนั้น”
“แต่ฉันถือ” ร่างกายของเขาไม่เคยจะเฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน แม้แต่มือก็ไม่เคยสัมผัสและแตะต้อง แต่เธอ!! เธอคนนี้ ทำให้ร่างกายของเขามีมลทิน
“นี่นายจะบ้าเหรอ? ฉันเป็นผู้หญิง ฉันยังไม่คิดอะไรมากเลย”
“ถ้าเกิดเธอท้องขึ้นมา”
“ฉันกินยาคุมฉุกเฉินแล้ว”
“ก็ไม่แน่!!” ใบหน้าที่ดูมั่นอกมั่นใจของเสือ เริ่มทำให้ใบบัวลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก
“ถ้าฉันไม่ท้อง นายจะเลิกยุ่งกับฉันมั้ย”
“ไม่!!”
“อ้าว!! ไอ้เด็กบ้า ฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรกับนายไว้เนี่ย” อาการหงุดหงิดหัวเสียของใบบัวแสดงออกมาชัดเจน เธอเริ่มรู้สึกเครียดเมื่อเจอผู้ชายหน้ามึนเหมือนไอ้เด็กเปรตคนนี้
และตั้งแต่วันนั้นชายหนุ่มคนนี้ก็ดึงตัวเองเข้ามาวนเวียนในชีวิตของเธอทุกวัน แถมกวนประสาทเธอแทบไม่ได้พัก
@ 2 เดือนผ่านไป
“ท้อง!!” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองภายในห้องน้ำคอนโด เนื่องจากประจำเดือนที่ขาดหายไป ทำให้เธอต้องรีบซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจตามคำแนะนำของเพื่อนรักทั้งสอง
หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ ความรู้สึกทุกอย่างตีรวนกันไปหมด มือเล็กลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองเบา ๆ
“ใบบัว เป็นไงบ้าง” เสียงเรียกของเพื่อนรักดังจากหน้าประตูห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเพื่อนรักหายเข้าไปภายในห้องน้ำนาน
ใบบัวเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา ใบหน้าเหม่อลอย เดินถือแท่งตรวจครรภ์ออกมายื่นให้กับเพื่อนรักอย่างติวเตอร์และเฌอที่รอลุ้นไปพร้อมเธอ
“สองขีด!! / ท้องเหรอ” เสียงอุทานเสียงดังของติวเตอร์และเฌอไม่สามารถเรียกสติที่หลุดลอยของใบบัวกลับมาเลยสักนิด ร่างบางเดินไปหย่อนสะโพกลงบนเตียง
“ใบบัว แกโอเคไหม” เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนรัก ทำให้เฌอต้องรีบเดินเข้ามาดูอาการ และถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“ฉันมึน งง จริงเหรอ? ฉันท้องงั้นเหรอ” น้ำเสียงเหม่อลอยของใบบัวพูดออกมาเสียงเบาดั่งคนสติหลุดลอย ขนาดเธอกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว แต่ทำไมทุกอย่างกลับเป็นแบบนี้ไปได้
“ใจเย็นก่อนเว้ย” ติวเตอร์เดินเข้าไปลูบแผ่นหลังบางของใบบัว เพื่อเรียกสติ พวกเธอเข้าใจอาการตกใจของเพื่อนรักเป็นอย่างดี
“เราจะเรียนจบกันแล้วนะเว้ย เรื่องท้องก็เป็นเรื่องน่ายินดี” อีกหนึ่งเดือนพวกเธอทั้งสามก็จะเรียนจบกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องท้องไม่มีปัญหา และแน่นอนว่าครอบครัวของใบบัวมีปัญญาเลี้ยงเด็กคนนี้แน่นอน
“แกควรบอกน้องเสือนะเว้ย อย่างน้อยน้องก็เป็นพ่อเด็ก” ติวเตอร์เอ่ยเตือนสติใบบัวที่นั่งครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่
“แต่นายเสือยังเด็กนะเว้ย ยังปีหนึ่งด้วยซ้ำ” เพียงแค่ได้ยินประโยคของเพื่อน ใบบัวถึงกับหันขวับไปมองหน้าเพื่อนรักทั้งสอง เธอแทบอยากกรี๊ดออกมาด้วยความอัดอั้นในใจ
“แต่ฉันไม่คิดแบบแก ถึงน้องเสือจะอายุน้อยกว่าเรา แต่ความคิดของเขาโตนะ”
“โอ๊ย!! ฉันจะบ้าตาย ทำไมไอ้เถื่อนถึงเป็นพ่อของลูกฉันได้” ว่าที่คุณแม่ร้องโอดโอยออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผู้ชายกวนประสาทแถมยังเถื่อนแบบไอ้เด็กคนนั้น
“เนื้อคู่แกไง”
“คู่เวรคู่กรรมน่ะสิไม่ว่า” น้ำเสียงตัดพ้อของใบบัวเอ่ยบอกกับเพื่อนรัก ใบหน้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิตแสดงออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม
“ยินดีด้วยค่ะ เรียนจบปุ๊บมีลูกเลย” คำพูดติดตลกของติวเตอร์เรียกสายตาอาฆาตจากใบบัวได้เป็นอย่างดี ชีวิตท่องเที่ยวหลังเรียนจบที่เธอวาดฝันเอาไว้เป็นอันต้องดับลง
“เอาไงต่อล่ะทีนี้ ไหนจะพ่อแม่แกอีก”
“พ่อแม่ฉันเข้าใจ ฉันเชื่อแบบนั้น” คำพูดให้กำลังใจตัวเองของใบบัว เธอพยายามเตือนตัวเองแบบนั้น อีกอย่างพ่อและแม่ของเธอไม่ได้หัวโบราณขนาดนั้น
“แกจะบอกหรือไม่บอกพ่อของลูก เอาไงต่อวะ” ติวเตอร์เอ่ยถามเพื่อนรักทันที เพราะเดาใจใบบัวไม่ออกว่า เพื่อนเธอนั้นจะเอายังไงต่อ
เพราะฐานะทางบ้านของใบบัวสามารถเลี้ยงดูลูกที่จะเกิดมาได้สบายหากเธอเลือกจะไม่บอกพ่อของลูก
“ไปลากคอไอ้ตัวดีน่ะสิ!!” แววตาเชือดเฉือนติดอาฆาตเปล่งประกายออกมา เพียงเอ่ยถึงพ่อของลูก ใบบัวกัดฟันกรอดด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก็โกรธอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเธอก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน