ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วที่ฉันเก็บนาฬิกาข้อมือเรือนนั้นไว้และไม่รู้จะเอาไปคืนพี่คีตะยังไง เพราะเขาเองก็หายไปจากชีวิตเหมือนคนไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆกันมาก่อน
‘วันไนท์สแตน’ คำที่ฉันไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง วันนี้เจอกับตัวแถมยังมีอะไรกับคนที่แอบรักมาตั้งนาน
“ไปไหมล่ะคืนนี้” ธัญญ่าถามขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มันเพิ่งชวนฉันไปเมื่อตอนสายๆ เพราะปกติคืนวันศุกร์เรามักจะชวนกันเที่ยวตามประสาคนโสดอย่างนี้เสมอ
ฉันเรียนอยู่ปีสองคณะบริหารส่วนยัยธัญญ่าเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีฯ มันเคยฝันว่าอยากเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ของที่นี่แต่ทำไม่ได้เลยเลือกเรียนคณะนี้แทน เพราะไม่อยากไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่นที่ไกลบ้านตัวเอง ทำให้เรายังได้เจอกันบ่อยๆ
ที่จริงเรามีเพื่อนสนิทอีกคนที่ติดคณะเดียวกันกับฉันชื่อ ‘พราว’ แต่มันย้ายกลับไปอยู่บ้านยายที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็หายไปจากชีวิตพวกเราและติดต่อไม่ได้อีกเลย มันคงมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ยอมบอกใคร แม้กระทั่งแฟนที่มันรักมากๆยังไม่มีใครยอมบอกว่าพราวหายไปไหน
“ร้านไหน” ฉันถามเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมอต้นมาด้วยกัน ช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนคนอกหักยังไงก็ไม่รู้ กินเหล้าย้อมใจก็คงจะดีขึ้น
“แกอยากไปร้านไหนล่ะ”
“ไป…” ฉันคิดครู่หนึ่งแล้วจึงถอนหายใจออกมา ไม่รู้ทำไมฉันถึงอยากหาข้ออ้างไปเจอหน้าพี่คีตะอีกครั้งด้วยนะ ถ้าไปร้านเดิมฉันจะเจอเขาอีกหรือเปล่า
“เขาไม่ติดต่อแกมาเลยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่คีตะจะเป็นคนแบบนี้ เห็นเงียบๆฟาดเรียบเหรอวะ” ธัญญ่าพูดแล้วปรายตามามองฉัน “แกลองแกล้งทักไปถามเรื่องนาฬิกาข้อมือดูสิ”
ฉันเล่าให้มันฟังเกือบทุกเรื่อง เพราะธัญญ่าคือที่ระบายที่ดีที่สุดของฉันแล้ว ถึงแม้บางครั้งมันจะซ้ำเติมก็เถอะ ฉันก็ยังรับรู้ได้ถึงความหวังดีของมันทุกครั้ง
“เขาจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไงวะธัญญ่า ฮือ~” ฉันมุดหน้าลงกับฝ่ามือของตัวเอง “ช่างเถอะ ไปเที่ยวดีกว่าจะได้ลืมๆไป นาฬิกาเรือนเป็นแสนยังไม่มาเอาคืน แกคิดว่าเขาอยากจะคุยกับฉันอยู่เหรอ”
ยัยธัญญ่าเป็นคนไปสืบเรื่องราคามาเอง เพราะพี่ชายของมันเองก็บ้านาฬิกาแบรนด์เนมเหมือนกันถึงได้รู้ว่านาฬิกาข้อมือที่พี่คีตะลืมเอาไว้ราคาหลักแสน
“งั้นแกก็เลิกคิดมาก ถ้าผู้ชายเลวๆคนหนึ่งมันไม่สนใจ ทำไมแกต้องมานั่งโง่คิดถึงมันด้วย แค่แอบรักมาห้าหกปีก็เสียเวลามากพอแล้ว คนสวยๆแบบแกหาดีๆกว่าคนนี้ได้เว่ย” มันหันมาต่อว่าฉันก่อนจะพูดต่อ “เอานาฬิกานั่นไปขายดีไหม อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียตัวฟรี”
มันก็เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอกแต่ฉันก็ยังแอบคิดว่าเขาจะกลับมาทวงคืน คราวนี้นอกจากจะไม่ได้ใจแล้วยังได้เป็นโจรอีกต่างหาก
“สรุปไปร้าน…นะ ฉันจะแต่งตัวรอ แกมารับด้วย” ฉันบอกมันแล้วเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อที่จะกลับหอพักของตัวเอง ส่วนธัญญ่าพักอยู่บ้านตัวเองเพราะมหา’ลับอยู่ใกล้บ้านมันมากกว่าฉัน
“ได้ แต่งตัวสวยๆนะ” มันบอกแล้วยิ้มออกมา ถึงมันไม่พูดฉันก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร คงจะบอกให้ฉันไปหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจตัวเองเหมือนทุกครั้ง
ฉันเดินกลับหอเพราะมันไม่ได้ไกลมากนัก ส่วนเวลากลับบ้านก็แค่นั่งรถเมล์กลับแต่ถ้าเดินทางไปกลับบ้านทุกวันต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเพราะไกลและรถติดเลยเลือกที่จะพักอยู่หอพักแทน
อีกอย่างถึงกลับบ้านก็ต้องอยู่คนเดียว เพราะแม่ของฉันเสียตั้งแต่ฉันยังเด็ก พ่อก็มีผู้หญิงคนใหม่ไม่ค่อยกลับมาที่บ้านเท่าไหร่ ส่วนพี่เดย์พี่ชายของฉันก็เรียนอยู่อีกที่ นานๆถึงจะกลับมาที่บ้านที
“เอาฝรั่งหนึ่งกล่อง แล็วก็…” พูดไม่ทันจบประโยคหางตาของฉันก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินมาทางนี้พอดี
เขาสวมเสื้อช็อปของคณะวิศวะกับกางเกงยีนสีเข้ม เดินมาพร้อมกับพี่เธียแฟนเก่าของยัยพราวเพื่อนของฉัน จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่…พี่คีตะ!
“เอาอะไรอีกจ๊ะหนู” ป้าคนขายผลไม้หยิบฝรั่งใส่ในถุงให้ฉันแล้วหนึ่งกล่องแกทำท่ารอฟังเพื่อที่จะหยิบผลไม้ให้ฉันอีกกล่องแถมยังมองหน้าฉันอย่างกดดัน
“เอ่อ แอปเปิลค่ะ” พูดจบฉันก็รีบควัดเงินจ่ายแล้วรับเอาถุงผลไม้มาจากคุณป้าคนขาย แกล้งหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนที่จะเดินผ่านสองคนนั้น
“ดรีม” เสียงใครบางคนเรียกชื่อฉันทำเอารู้สึกสะดุ้งไปทั้งตัว แต่คนที่เรียกฉันไม่ใช่พี่คีตะ เพราะเสียงนี้คือเสียงของพี่เธีย
“คะ” ฉันขานรับแล้วหมุนตัวกลับมองช้าๆ ก็เจอเข้ากับสายตาสองคู่ที่กำลังมองมา
พี่คีตะเองก็มองฉันอยู่ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งเหมือนทุกๆครั้งที่ฉันเจอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย เย็นชายังไงก็อย่่างนั้น
“ติดต่อมาบ้างไหม” พี่เธียเอ่ยถาม มันเป็นคำถามเดิมๆตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา และคำตอบของฉันก็เป็นแบบเดิม
“ไม่ค่ะ” ฉันตอบแล้วกรอกตาไปมองอีกคน และเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากำลังรีบรับสายจากใครบางคนก่อนจะเดินหนีไปคุยอีกทาง
ไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาไม่เคยมองฉันยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม แปลว่าเรื่องคืนนั้นเขาก็คงเลือกที่จะไม่สนใจเช่นกัน
เขาใจร้ายเกินไปหรือเปล่านะ อย่างน้อยก็ควรขอโทษกันสักนิดยังดี ถ้าบอกว่าจำไม่ได้เลยมันก็คงไม่ใช่ นาฬิกาข้อมือราคาแพงขนาดนั้นหายไปจากตัวก็ควรจะรื้อฟื้นความทรงจำได้บ้าง
แต่นี่เขาเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์ในคืนนั้นต่างหาก
****************