วันต่อมา
วันนี้ฉันนั่งรถเมย์มามหาวิทยาลัยเพราะสงครามไม่มีเรียน พอเดินเข้ามหาวิทยาลัยก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เหมือนว่าจะถูกสายตาหลายคู่จ้องมอง
ฉันไปทำความผิดอะไรมา!! หรือมีคลิปหลุด!!
ไม่สิ ฉันไม่เคยทำเรื่องอะไรเสื่อมเสียเลยสักนิด ไม่มีทางที่จะมีคลิปหลุดออกมาแน่
“คนนี้หรอแก”
“อือใช่คนนี้แหละ น่าอิจฉาจริงๆเลยนะ”
บทสนทนาที่ผู้หญิงสองคนนั้นกระซิบคุยกันยิ่งทำให้ฉันสงสัยและแปลกใจเอามากๆ มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
ฉันรีบเดินมาที่ห้องเรียน แม้แต่ภายในห้องเรียนก็ยังถูกเพื่อนจ้องมองด้วยแววตาที่แปลกไป ฉันจึงรีบเดินมาหามีนาเพื่อถามเรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“มีนา…”
“แกไม่ยอมบอกฉันเลยนะด้าย” ยังไม่ทันจะพูดอะไรมีนาก็เริ่มเกริ่นขึ้น มันยิ่งทำให้ฉันงงเป็นไก่ตาแตก
“แกพูดเรื่องอะไร ?”
“ไม่ต้องปิดบังแล้ว เขารู้กันทั้งมหาวิทยาลัย ไม่ต้องคิดว่าฉันจะโกรธด้วย ก็แค่นอยที่แกไม่ยอมบอกปล่อยให้เพ้อฝันอยู่ได้” นี่ก็พูดซะยาวเลยไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่งงก็คือฉันนี่แหละ
“แกช่วยอธิบายมาก่อนได้ไหมมีนา”
“ฉันรู้แล้วว่าแกกับสงครามเป็นแฟนกัน ไม่เห็นต้องปิดบังเลยนี่ แกทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่นะด้าย”
“ฮะ!! ฉันกับสงครามเนี่ยนะคบกัน” ฉันอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ ทำให้นักศึกษาทั้งห้องมองกันเป็นตาเดียว
“ก็ใช่นะสิ”
“แกไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ใครบอก”
“เขาพูดกันให้ทั่วมหาลัยแล้วตอนนี้น่ะ”
“แกฟังนะ ฉันกับสงครามไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่คิดจะเอามันมาเป็นแฟนด้วย”
“แกพูดจริงๆ หรอ”
“จริงสิ ฉันไม่คิดสั้นเอาคนแบบนั้นมาเป็นแฟนหรอกนะ แค่เป็นเพื่อนก็ประสาทจะกินแล้ว”
ฉันพยายามคิดว่ามีข่าวเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ก่อนสมองจะคิดประมวลผลถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่สงครามมันอ้างกับผู้หญิงคนนั้นว่าฉันเป็นแฟนของมัน
ต้นเหตุของเรื่องต้องมาจากตรงนี้แน่ๆ!! บ้าที่สุดเลย ตอนนี้ฉันคงโดนผู้หญิงเกือบครึ่งมหาวิทยาลัยเกลียดไปแล้วมั้ง
ไอ้สงครามบ้าหางานมาให้ฉันจริงๆ!!
หลังจากเลิกเรียนฉันรีบกลับห้อง เพื่อจะมาจัดการไอ้เพื่อนรักที่ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขนาดนี้ ดีเท่าไหร่ที่ฉันสามารถกลับมาจากมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัยได้ เกือบจะเจอดักตบไปแล้วไหมล่ะ
ฉันสแกนคีย์กาดเปิดประตูเข้ามาในห้องของสงครามแล้วเห็นเขานั่งดูทีวีอย่างใจเย็น
“ไปแก้ข่าวเลยนะ”
“แก้ข่าวเรื่อง ?” เหมือนเขาก็จะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ดูจากสีหน้าที่งุนงงนั้น
“ก็เรื่องที่นายโกหกผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นแฟนกับฉัน ตอนนี้มีข่าวลือให้ว่อนมหาวิทยาลัยว่าเราสองคนคบกัน ดูสิแค่พูดขนแขนฉันก็ลุกซู่ไปหมด”
“เธอควรดีใจที่มีข่าวแบบนั้นมันไม่ง่ายเลยนะที่จะตกเป็นข่าวกับหนุ่มฮ๊อตอย่างฉัน” ดูเขาจะมั่นอกมั่นใจในความฮ๊อตของตัวเองแต่ถึงยังไงเรื่องนั้นก็เว้นฉันเอาไว้คนหนึ่งเถอะ
“ใครอยากจะเป็นกัน!! รีบไปแก้ข่าวเดี๋ยวนี้เลยนะ แค่เป็นเพื่อนก็ปวดหัวจะแย่”
“เออๆ เดี๋ยวจัดการให้ ไม่ต้องห่วงฉันก็ไม่ได้อยากจะมีข่าวกับผู้หญิงเชยๆ อย่างเธอหรอก โธ่!!” ดูคำพูดมันสิ ไอ้เพื่อนบ้า มาว่าฉันเชยได้ยังไง
“ต่อไปนี้ไม่ต้องเอาฉันไปอ้างอีกแล้วนะ ห้ามเด็ดขาด!!”
“เออ เมื่อวานมันฉุกเฉินจริงๆ”
ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูออกมาจากห้อง
มันเป็นความบังเอิญครั้งที่สองที่ทำให้ฉันได้เจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง คนที่เคยเผลอชนเขา วันนี้เขาสวมใส่ชุดนักศึกษาด้วยแต่คนละมหาวิทยาลัยกับฉัน
พอเจอหน้าเราสองคนก็ยิ้มให้กัน ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนทักก่อน “เจอกันสองครั้งแล้วผมขอถามได้ไหมครับว่าชื่ออะไร ^_^”
แกร็ก!! ยังไม่ทันจะอ้าปากตอบประตูห้องของสงครามก็เปิดออก เขาหยุดนิ่งมองผู้ชายคนนั้นเหมือนกำลังสแกนว่าเป็นคนดีหรือเปล่า
“จีบเธอ ?” พอสแกนด้วยสายตาแล้วเขาก็หันมาถาม จังหวะนี้ฉันอายจนแทบยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปซะ
บ่อยครั้งที่สงครามจะคอยสแกนให้ว่าผู้ชายที่เข้ามาจีบฉันเป็นคนดีหรือเปล่า มันก็แค่ห่วงเพื่อนนั่นแหละแต่นี่เขายังไม่จีบไง !!