บทที่2.สิ่งที่ต้องเลือก..

1523 Words
บอกจบโดมินิคก็เดินกลับไปทางเดิม เพื่อจะไปรับประทานอาหารกลางวันเหมือนกันกับวราพิชชา “ฉันจะไปกินอาหารกลางวันในส่วนบริเวณที่จัดให้พนักงานดีไหม พวกนายเห็นว่าไง เป็นการกระชับความสัมพันธ์กับพนักงาน... ดีเหรอเปล่า” “คงจะไม่ดีมั้งครับ เดี๋ยวจะพนักงานแตกตื่นกันพอดี เจ้านายไม่เคยลงไปที่นั่นเลย เกรงว่าพนักงานจะทำตัวไม่ถูกกันนะครับ” “ทำไม ...ฉันอยากให้ความเป็นกันเองกับพนักงานบ้าง ไม่ดีเหรอไง” โดมินิคแย้งเสียงหลง “ครับ” “ไปได้แล้ว มัวแต่โอ้เอ้ ฉันหิวแล้ว เดี๋ยวก็หมดเวลาพักกันพอดี” โดมินิคก็รีบเดินตรงไปยังบริเวณที่จัดไว้ให้พนักงานรับประทานอาหารทันที โดยไม่ฟังคำทัดทานของแซมหรือว่าการ์ดคนอื่นๆ แซมส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ เจ้านายนึกอยากจะทำอะไรปุบปับก็ทำเลย ตามกันแทบไม่ทัน นี่ก็คงตามไปหาเรื่องวราพิชชาอีกนั่นแหละ ไม่รู้ติดใจอะไรหนักหนา แค่สาวน้อยไม่ตามใจ ไม่รู้ไปพูดอะไรมองหน้ายังไม่ยอมมอง สงสารแต่คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่จะต้องมาพลอยเดือดร้อนไปด้วย คงมีอีกหลายๆ คนที่ต้องโดนผลกระทบ จนกว่าโดมินิคจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ แซมจัดการสั่งงานการ์ดคนอื่นๆ ก่อนจะให้แยกย้ายกันไปพักผ่อน ถ้าให้ตามไปทั้งหมดคงแตกตื่นกันทั้งโรงอาหาร นานๆ ทีที่ผู้บริหารระดับสูงลงไปนั่งรับประทานอาหารด้วย เมื่อมาถึงยังแคนทีนโดมินิคกวาดตามองหาวรพิชชาทันที เมื่อเห็นว่าอยู่บริเวณไหนก็เดินตรงไป “แซมฉันอยากรู้ว่าร้านค้าที่นี่ ขายอาหารแพงไหม รสชาติเป็นอย่างไร ถูกหลักโภชนาการไหม จัดมาซสักหนึ่งชุดนะ ฉันจะรออยู่ที่นี่” โดมินิคเปรยลอยๆ ท่าทางเอางานเอาการ เคร่งเครียดแล้วทรุดตัวลงนั่ง เขานั่งลงใกล้กับที่วราพิชชาและนิสานั่งอยู่ แสร้งวางหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่พนักงานหลายคนที่เห็นต่างชะเง้อมอง คนที่รู้ว่าโดมินิคเป็นใคร มีตำแหน่งอะไรก็สะกิดเพื่อน บอกต่อๆ กันไป แล้วก็รีบจัดการอาหารตรงหน้า รีบแยกย้ายกันไปทำงาน ที่ไม่รู้ก็พากันแอบซุบซิบ โดยเฉพาะพนักงานสาวๆ ต่างทิ้งสายตาทอดสะพานกันเต็มที่ ก็โดมินิคหน้าตาจัดอยู่ในโหมดหน้าตาดีมาก จึงไม่แปลกถ้าสาวๆ จะหันมามองอย่างสนใจ โดมินิควางสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็หันมาทักทายกับวราพิชชา “อ้าว...เธอนั่นเอง มากินข้าวที่นี่หรือ ฉันไม่ยักเห็น วันนี้ฉันอยากทานอาหารร่วมกับพนักงานบ้างน่ะหวังว่าคงไม่ทำให้ใครอึดอัดและลำบากใจนะ” โดมินิคหันมาทักทายวราพิชชาที่กำลังมองมา ด้วยท่วงท่าสบายๆจนวราพิชชาอดหมั่นไส้ไม่ได้ “อุ้ย... “ นิสาเผลอตัวอุทานออกมาอย่างตกใจ “ไม่ค่ะ จะมีก็แต่รู้สึกดีที่ผู้บริหารในระดับสูง ไม่รังเกียจที่จะรับประทานอาหารพื้นๆ ร่วมกับพนักงานค่ะ” วราพิชชาตอบ พร้อมทั้งแดกดันไปในตัว แล้วก็ก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าต่อ ไม่ใส่ใจโดมินิคเท่าที่ควรเป็น “ดี กลัวแต่ว่าใครบางคนจะกินอะไรไม่ลงสิ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่รบกวนใครหรอกนะ” แซมสั่งอาหารมาให้เจ้านายตัวเอง พร้อมกับยืนสำรวมอยู่ข้างๆ เพื่อรอคำสั่งอื่นๆ ที่อาจจะตามมาก่อนอมยิ้ม เมื่อโดมินิคมองอาหารกลางวันของตังเองงงๆ ร้านขายอาหารให้พนักงานมีแต่อาหารธรรมดา แซมเลือกอาหารง่ายๆ ที่เจ้านายจะพอกินได้มาแล้วนะ แซนต์วิชมาให้ก็คิดว่าเจ้านายคงจะกินลงไปได้ โดมินิคชำเลืองมองวราพิชชา หล่อนกำลังกินอะไรอยู่นะ เขาเผลอตัวแบบไม่รู้ตัว เขาลุกไปนั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ที่วราพิชชานั่งอยู่ “แลกกันนะ ฉันกินอันที่เธอกำลังกินดีกว่า อาหารจานนี้ฉันยกให้เธอแล้วกัน” โดมินิคดึงจานข้าวที่วราพิชชากำลังกินค้างอยู่ มากินต่อหน้าตาเฉย วรพิชชาจึงได้แต่มองแบบอึ้งๆ เธอนึกไม่ถึงตาเศรษฐีบ้านี่มาแย่งจานอาหารที่เธอกำลังกินอยู่ไปหน้าตาเฉย แล้วท่าทางเขาชวนปวดหัว เขากินอาการอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนกับว่าไม่เคยลิ้มรสมาก่อน แต่ว่า...เขาคงไม่เคยกินจริงๆ นั่นแหละเพราะคงเคยกินแต่อาหารหรูๆ คงไม่เคยกินข้าวราดแกงข้างทางมาก่อน “นี่เรียกว่าอะไรนะอร่อยดีนะ” โดมินิคเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวที่กำลังกินอยู่พลางถามถึงอาหารที่กินเข้าไป “ต้มจืดฟักกับไก่ คุณคงไม่เคยทานสินะคะ” วราพิชชาตอบเรียบๆ พยายามจะไม่โมโหเมื่อเห็นท่าทางยียวนของโดมินิค “ฉันไม่เคยกินมาก่อนทำยากไหม ไว้ฉันจะให้แม่ครัวที่บ้านทำให้กินอีกสักครั้ง” โดมินิคพยักหน้าเมื่อเข้าใจ เขาส่งยิ้มหวานจ๋อยให้วราพิชชาหวังทำคะแนน จนนิสาที่กำลังมองอยู่ตาพร่าไปกับรอยยิ้มบาดใจแบบนั้น “ไม่ยากค่ะ...กับข้าวพื้นๆ แม่ครัวของคุณคงทำได้” วราพิชชาหลุบเปลือกตาลงปิดกั้นจากรอยยิ้มละลายหัวใจ เธอก้มหน้าลงหลบให้พ้นจากสายตาของโดมินิค ไม่สนใจจะแตะต้องอาหารที่โดมินิคนำมาแลกไว้จนชายหนุ่มเริ่มเดือดปุดๆ วราพิชชาพลิกข้อมือขึ้นดูเวลาจากนาฬิกาเรือนเล็ก แล้วก็จะจัดการเก็บของที่อยู่ตรงหน้าตัวเองจนเรียบร้อย จึงหันมาชวนนิสาเพื่อกลับไปทำงาน เมื่อเห็นใกล้จะหมดเวลาพัก “ขออนุญาตไปทำงานนะคะ หมดเวลาพักแล้ว เชิญคุณทานและคนของคุณตามสบาย” วราพิชชาหันมากล่าวลาตามมารยาทและเตรียมลุกขึ้นจากที่นั่ง “เธออิ่มแล้วเหรอ” “ค่ะ... ไปก่อนนะคะ” วราพิชชาตัดบท รีบชักชวนนิสาเดินออกจากบริเวณที่นั่งทานอาหาร “วรา ...คุณโดมินิคนี่หน้าตาดีมากเลยนะ นิสาจะเป็นลม คนอะไรหล่อเป็นบ้าเลย นี่ถ้าวราไม่บอกก่อนนะว่านิสัยไม่ดี นิสาก็ยังชื่นชมเขาอยู่ดี” นิสากระซิบเบาๆ เมื่อเดินพ้นออกมาจากบริเวณที่นั่งอยู่ “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนิสา เขาอยู่ในสังคมแบบนั้นจะไปว่าเขาก็ไม่ถูก รอบๆ เขามีแต่คนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน วงจรของเขาคงมีแต่การแข่งขัน เขาก็เลยเป็นคนแบบนั้น” วราพิชชาพูดถึงโดมินิคอย่างปลงๆ และคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก คนสองคนที่แตกต่างกันมากเกินไป เหมือนฟ้าที่อยู่สูงสุด กับเหวที่อยู่ต่ำชั้น แค่เวียนมาเจอกันได้ มันก็เหนือความคาดหมาย คงเป็นแค่เพียงครั้งเดียวที่มีโอกาสได้เจอะเจอกัน ลมหายใจแผ่วๆ ที่ปล่อยออกมาจากช่องจมูก หลังจากกลั้นไว้นาน เธอเดินไปตามทางของตัวเอง แยกออกจากทางที่โดมินิคต้องเดิน โดมินิคมองตามด้านหลังของวราพิชาจนหายลับไปจากสายตา เขาหมายมาดอยู่ในใจเงียบๆ ปล่อยให้สาวน้อยนึกลำพองใจไปก่อน หล่อนคงไม่รู้ตัวว่าได้ทำการหยามน้ำหน้าโดมินิคได้สำเร็จ คนต่ำชั้นที่บังอาจปฏิเสธของเสนอของคนอย่างเขาได้ ถ้าปล่อยให้ลอยนวลไปง่ายๆ มันจะเป็นการเสียหน้าเป็นอย่างมาก มุมปากของโดมินิคยกยิ้มขึ้น เมื่อนึกถึงอนาคตที่วราพิชชาจะต้องมาสยบอยู่ในอุ้งมือของตัวเอง วราพิชชาเดินเข้ามาในบริเวณสถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ เมื่อกลับจากที่ทำงาน เธอมองรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ‘อุ้มรัก’ อย่างสนใจ คะเนจากสายตาแล้วก็รู้ว่ารถลักษณะแบบนี้น่าจะราคาแพงมาก นานๆ จะมีคนใจบุญกระเป๋าหนักเข้ามาบริจาคให้สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ พวกเขาคงมีฐานะร่ำรวยมาก ทุกวันนี้ทุกคนในสถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ ช่วยกันหาคนมาบริจาค ทั้งทำของใช้เล็กๆ น้อยๆ ไปฝากตามร้านค้า ทำขนมกินเล่นไปฝากขาย เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งบรรดาเด็กที่โตพอจะทำงานได้ ช่วยกันทำงานรวมทั้งตัว วราพิชชาเองที่นำเงินเดือนมามอบให้ทุกๆ เดือน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายออกไป เนื่องจากเด็กที่ถูกทิ้งมีจำนวนมากขึ้น แต่รายได้ที่รัฐจ่ายให้ยังคงเท่าเดิม ผอ.ชลธิชา ซึ่งเป็นผู้ดูแลจึงพยามทำทุกๆ ทางเพื่อจะไม่ให้สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’แห่งนี้ปิดตัวลง วราพิชชายกมือขึ้นพนมไหว้ศาลพระภูมิ ที่อยู่ในบริเวณบ้าน’อุ้มรัก’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD