ย้อนกลับไป 1 ปีที่ผ่านมา
น้ำเปลี่ยนนิสัย เมื่อดื่มเข้าไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ มีผลต่อระบบการทำงานของประสาทและสมอง ทำให้ระบบการควบคุมลดน้อยถอยลงไป จนอาจเกิดเรื่องราววุ่นวายตามมา
และน้ำเมาที่ว่า ก็ทำให้คนที่ดื่มเข้าไป เพราะหวังจะให้ฤทธิ์ของมัน ช่วยบรรเทาความเศร้าเสียใจ ความเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจ ที่ถูกคนรักหักหลัง
ทั้งที่ตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา ไม่มีวี่แววการนอกใจให้เห็น ทุกสิ่งทุกอย่างถูกปฏิบัติให้เห็นเป็นมาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ทว่าคลื่นใต้น้ำ ก็ผุดขึ้นมากลางทะเลลูกใหญ่ ซัดสาดความจริงที่ว่า แฟนสาวที่รักกันมานาน นอกใจไปกับเพื่อนสนิทจนถึงขั้นตั้งครรภ์
แต่ก็ยังนับว่าเธอยังมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่บ้าง ที่กล้าเข้ามาบอกความจริงให้ทราบ ไม่ใช่มัดมือชก ให้เขารับเด็กในท้องเป็นลูก โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าไม่ใช่ลูกของตน
“อึก...ทำได้ยังไงปาน ปานทำแบบนี้กับเราได้ยังไง” เสียงเศร้าพร่ำถึงสิ่งที่คนรักกระทำ หลังจากแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ วิสกี้แก้วแล้วแก้วเล่าถูกสาดเข้าใส่ลำคอดั่งน้ำเปล่า
ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา บัดนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ส่วนนัยน์ตาก็แดงช้ำไม่ต่างกัน ไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทว่ามาจากการกลั้นของเหลวบางอย่างไม่ให้ไหลออกมา
นางสุจีรายืนมองบุตรชายคนโตวัยสามสิบสาม ที่ผิดหวังจากความรักด้วยความสงสาร เพราะก่อนที่บุตรชายจะรู้ความจริงไม่นาน บุตรชายได้เข้ามาคุยกับนางเรื่องงานแต่งงาน
ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลับพังทลายลง ไม่เป็นดั่งฝันที่วาดไว้ คนเป็นแม่อย่างนาง ก็ได้แต่เคียงข้างและคอยเฝ้ามองดูห่างๆ อย่างที่ทำในตอนนี้
“ปาน ปาน ไม้คิดถึงปาน...อึก...คิดถึง” คนเมายังคงพร่ำเพ้อ ใบหน้าซบลงบนเคาน์เตอร์บาร์ภายในบ้าน
“หนูขวัญ ช่วยฉันพยุงตาไม้ขึ้นไปนอนบนห้องทีนะ”
“ค่ะคุณป้า”
ผู้หญิงสองคนช่วยกันหิ้วปีกคนเมา ที่รูปร่างสูงใหญ่ขึ้นบันไดบ้านอย่างทุลักทุเล กว่าจะประคองกันขึ้นมาได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่ไม่น้อย
“เห้อ ตัวหนักเหมือนกันนะเนี่ย” นางสุจีราพึมพำออกมา หลังจากวางลูกชายลงบนเตียงนอน
“คุณป้าไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวขวัญดูแลคุณไม้ต่อเองค่ะ” เพียงขวัญขันอาสา เพราะตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ไปแล้ว อยากให้นางสุจีราได้พักผ่อน
“ถ้าอย่างนั้นป้าฝากด้วยนะลูก”
“ค่ะ”
เมื่อนางสุจีราเดินออกจากห้องไป เพียงขวัญก็หันมาสนใจคนที่นอนแผ่หลาบนเตียงกว้าง เริ่มจากถอดถุงเท้าให้ จากนั้นก็ขยับร่างกำยำขึ้นไปหนุนนอนบนหมอน
กะละมังและผ้าขนหนูชุบน้ำ ถูกนำมาวางบนหัวเตียงนอน หญิงสาวบรรจงใช้ผ้าเปียกเช็ดใบหน้าคนไร้สติ พลางคิดว่าทำไมผู้หญิงคนนั้น ถึงใจร้ายได้ถึงขนาดนี้นะ
รเมศก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร หน้าที่การงาน ฐานะทางสังคม รวมไปถึงการศึกษาก็ดีเด่น ไม่ได้ด้อยกว่าผู้ชายคนไหน ทำไมถึงยังนอกใจไปมีคนอื่นได้
“อือ...” คนเมาร้องคราง มือหนายกขึ้นปัดป่ายมือของเพียงขวัญออก เมื่อความเย็นจากผ้าไปรบกวนการนอนของตัวเองเข้า
“เดี๋ยวขวัญเช็ดตัวให้ค่ะ คุณไม้อยู่เฉยๆ นะคะ”
เสียงหวานหูดังแว่วเข้าสู่โสตประสาท เปลือกตาที่หนักอึ้งจนลืมแทบไม่ขึ้น ปรือขึ้นมองเจ้าของเสียงหวาน เรียวปากหยักแย้มรอยยิ้มดีใจ มือหนาคว้าหมับเข้าที่มือหญิงสาว ดึงเพียงขวัญเข้าหา
“คุณไม้ ปล่อยก่อนค่ะ” พยายามสะบัดมือออกจากการจับของชายหนุ่ม แต่คนเมากลับส่ายหน้าไปมา
“ไม่ ไม้ไม่ปล่อยหรอก เดี๋ยวปานก็ทิ้งไม้ไปอีก”
“ไม่ใช่นะคะ นี่ขวัญเองค่ะ ไม่ใช่คุณปาน คุณไม้ปล่อยนะคะ...ว้าย!” เสียงหวีดร้องดังพร้อมกับร่างบาง ที่ถูกรวบรัดกระชากลงไปให้นอนทาบทับร่างกำยำ เพียงขวัญหน้าตาตื่นตกใจ หัวใจเต้นแรงระส่ำ พยายามขืนตัวออกห่าง
“คุณไม้! นี่ขวัญเอง เพียงขวัญไงคะ ไม่ใช่คุณปาน คุณไม้!!” มือบางพยายามเขย่าตัวให้อีกคนได้สติ
แต่คนเมากลับไม่คิดจะฟัง นอกจากจะไม่ปล่อยแล้ว ยังพลิกร่างบางลงนอนใต้ร่างและขึ้นคร่อมไว้
“ไม้จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหน มันมาแย่งปานไปจากไม้แน่” พูดจบเรียวปากหยักก็ประกบลงบนกลีบปากอิ่มด้วยความเร็วและแรง ตามแรงอารมณ์ที่ทั้งโกรธแค้นและโหยหา
คนถูกบดจูบเพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงที่เขารัก พยายามสะบัดใบหน้าหนี ดิ้นขลุกขลักทุบตีคนตัวโตเป็นพัลวัน แต่มือบางกลับถูกรวบไว้เหนือศีรษะ ตรึงไว้ไม่ให้เธอดิ้นหนีหรือผลักไส
“อื้อ...อ่อย” เสียงหวานร้องครางประท้วงสุดกำลัง
คนเมายิ่งเห็นคนใต้ร่างขัดขืนไม่เต็มใจ ก็ยิ่งเพิ่มระดับความเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังคิดว่าแฟนสาวรังเกียจสัมผัสจากตนเสียด้วยซ้ำ
“คุณไม้ หยุดก่อน ขวัญไม่ใช่คุณปานนะ” เพียงขวัญพยายามเรียกสติ เมื่อชายหนุ่มผละริมฝีปากซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าหวาน
เมื่อกลิ่นฟีโรโมนของร่างกายอีกคน กระตุ้นเลือดลมในกายให้พลุ่งพล่าน นำพาคนทั้งสองเข้าสู่วังวนของแรงปรารถนา แม้เพียงขวัญพยายามขัดขืน หรือเอ่ยเรียกสติเช่นไร คนเมาก็ไม่คิดจะสนใจ
“ไม้รักปานนะ อย่าทิ้งไม้ไปไหนอีกเลยนะ ไม้พร้อมจะให้อภัยปานทุกอย่าง กลับมาอยู่ด้วยกันนะปาน”
หยาดน้ำตาคนฟังรินไหลออกทางหางตา นอนร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของรเมศ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจบลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่รเมศคิดว่าเพียงขวัญคือคนรักของเขา
งานมงคลสมรสบุตรชายคนโตของคุณหญิงสุจีรา ถูกจัดขึ้นรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด หลังจากที่ชายหนุ่มเลิกรากับแฟนสาวไปได้ไม่นาน
แขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ต่างชื่นชมในความสวยหล่อของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทว่าภายใต้การชื่นชม ก็แฝงไปด้วยความอยากรู้ ว่าเจ้าสาวคือใคร และคนทั้งสองไปคบหากันตั้งแต่เมื่อไหร่
เจ้าสาวท้องก่อนแต่งหรือไม่ ถึงได้แต่งงานกะทันหันเช่นนี้ แต่ใครเลยจะกล้าเอ่ยปากถาม ได้แต่พูดคุยซุบซิบกันสนุกปาก
เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเดินเคียงข้างรับแขกที่มาร่วมงาน ใบหน้าของคนทั้งสองยิ้มแย้มรับคำชื่นชมและคำอวยพร
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ ว่าภายใต้รอยยิ้มสดใสของคนทั้งสองนั้น ภายในใจกำลังสับสนวุ่นวายขนาดไหน
“คุณไม้จะดื่มน้ำไหมคะ เดี๋ยวขวัญไปเอามาให้” หลังจากรับแขกเสร็จ ทั้งสองจึงได้หยุดพัก เพียงขวัญหันมาถามคนที่ยืนเคียงข้าง
“ไม่เป็นไรครับ”
แม้จะไม่ได้ใช้คำพูดที่รุนแรง หรือแสดงความรังเกียจเธอ ทว่าใบหน้าของรเมศและน้ำเสียงที่เอ่ยออกมา ก็เฉยชาจนเพียงขวัญทำตัวไม่ถูก
เพียงขวัญไม่รู้เลย ว่าคุณหญิงสุจีราเอ่ยเช่นไรกับรเมศ ชายหนุ่มจึงยอมตกลงแต่งงานกับเธอ
หลังจากที่เหตุการณ์คืนนั้นจบลง ด้วยความอ่อนเพลีย ทำให้เพียงขวัญนอนหลับสนิทจนถึงเช้า คุณหญิงสุจีราที่ขึ้นมาดูบุตรชายที่ห้องนอน จึงเปิดประตูเข้ามาพบเธอและรเมศ นอนอยู่บนเตียงด้วยกัน
วินาทีที่รเมศรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเพียงไม่นานความตกใจ ก็ถูกฉาบไว้ด้วยความเรียบเฉย ยามที่ทอดสายตามองมายังเธอ
คุณหญิงสุจีราบอกให้เธอออกจากห้องมา เพื่อจะได้พูดคุยกับบุตรชาย เมื่อคุยเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่คุณหญิงนำมาแจ้งแก่เธอก็คือ
“ป้าจะให้ไม้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น หนูกับไม้ต้องแต่งงานกัน”
และหลังจากนั้น ทุกอย่างก็เกิดขึ้นราวกับเนรมิตได้ โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์คัดค้าน
และที่สำคัญหลังจากวันที่เกิดเรื่อง รเมศก็ไม่กลับไปนอนค้างที่บ้านอีกเลย
แม้แต่วันลองชุดแต่งงาน ชายหนุ่มก็ไม่มา การ์ดแต่งงานและของชำร่วย เป็นเพียงขวัญและครอบครัวของรเมศที่ช่วยกันจัดการ รเมศมาอีกครั้งก็คือเช้าวันงาน
“ไม้ แม่อยากให้ไม้ดูแลน้องให้ดี หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนัก แม่ฝากน้องด้วยนะลูก” รเมศเพียงแค่ไหว้รับในสิ่งที่มารดาเอ่ยบอก ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด
นางสุจีราจึงหันไปหาเพียงขวัญ มือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลา ลูบศีรษะลูกของเพื่อนรัก ที่ฝากฝังให้นางดูแล ชีวิตของสองแม่ลูกน่าสงสารนัก อาภัพด้วยกันทั้งคู่ นางจึงอยากให้ลูกชายดูแลเพียงขวัญต่อจากนาง
“ป้าขอให้หนูมีความสุขนะลูก ป้าเชื่อว่าน้าตัดสินใจไม่ผิด ค่อยๆ ประคับประคองจับมือกันเดินนะลูก”
“ค่ะคุณป้า”
“ม่านดีใจด้วยนะพี่ไม้ ขวัญก็รีบๆ มีหลานมาให้ม่านเลี้ยงนะ” รเมศและเพียงขวัญหันมองหน้ากันในทันที กับประโยคของม่านรวีน้องสาวของรเมศ
“ไปได้แล้วม่าน ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนเถอะ ว่างๆ ก็พากันไปเยี่ยมแม่บ้างล่ะ”
“ครับคุณแม่ เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”
“ไม่ต้องโบราณเขาถือ ห้ามเจ้าบ่าวเจ้าสาวออกจากห้องหอ เดี๋ยวแม่ปิดบ้านให้เอง ไปม่าน”
“ม่านไปก่อนนะคะพี่ไม้ ไปนะขวัญ”
“ค่ะ”
เมื่อประตูห้องนอนที่ใช้เป็นห้องหอปิดลง รเมศก็ขยับตัวลุกขึ้นยืน ตามด้วยเพียงขวัญ ความเงียบงันโรยตัวอยู่โดยรอบ กลายเป็นความกดดันในทันที
“ผมให้คนเตรียมห้องนอนให้ขวัญแล้วนะ อยู่ทางด้านซ้ายมือ เครื่องนอนทุกอย่างมีพร้อมในนั้น รวมทั้งเสื้อผ้าขวัญด้วย ผมให้คนย้ายเอาไปไว้ในห้องนั้นเรียบร้อยแล้ว ผมขอตัวอาบน้ำก่อน”
เพียงขวัญมองตามแผ่นหลังกว้างที่หายเข้าไปในห้องน้ำ ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ สมองกำลังประมวลคำพูดของชายหนุ่มที่กล่าวออกมา ก่อนเรียวปากจะเหยียดยิ้มเยาะเย้ยให้ตัวเอง
จากนั้นจึงเดินออกจากห้องหอ ที่คุณหญิงสุจีราเพิ่งเอ่ยบอก ว่าห้ามออกจากห้องหอโดยเด็ดขาด แต่ตอนนี้เธอและรเมศ กำลังแยกห้องนอนตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน
เลิศไปเลยล่ะ ชีวิตคู่ต่อจากนี้ คงสนุกสนานน่าดูสินะ