“เชิญค่ะ กี่ที่ค่ะ”
คทาวุธกวาดสายตามองไปรอบร้านอาหาร โชคดีที่เป็นร้านไม่ใหญ่นัก เขาใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เห็นคนที่ต้องการเจอ เขาขอเลือกที่นั่งแล้วนั่งโต๊ะใกล้กับปาณิศาทว่าต้นไม้ประดับตั้งอยู่ ทำให้หญิงสาวมองไม่เห็นเขาถนัดนัก
“สั่งอาหารหน่อยค่ะ” ปาณิศาพลิกเมนูไปมาหลายรอบกว่าจะตัดสินใจได้ พนักงานเสิร์ฟเดินมารับออเดอด้วยรอยยิ้ม
“ขอชุดข้าวหน้าปลาไหลย่างค่ะ แล้วก็เกี๊ยวซ่า อ้อ!ขอทาโกะยากิด้วยค่ะ”
“ครับผม รอสักครู่นะครับ” พนักงานทวนออเดออีกรอบแล้วหมุนตัวเดินออกไป
คทาวุธที่นั่งอยู่ใกล้ได้ยินเสียงหวานใสที่คุ้นเคย ใบหน้าที่เคร่งขรึมก็จางลงจนเกือบจะเป็นยิ้ม นี่สั่งกินคนเดียวหรือสั่งมารอใครกันนะ ถ้ากินไม่หมดใครจะมาช่วยกัน
เขานึกถึงช่วงที่ยังคบหากันอยู่ ปาณิศาเป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่กินจุ เธอดูมีความสุขกับการกินแบบไม่กลัวอ้วน แต่น่าแปลกที่เขาไม่เคยเห็นเธออ้วนเลยสักนิด อาจเพราะเธอออกกำลังกายด้วยการวิ่งรอบสนามฟุตบอลเป็นเพื่อนเขาอยู่บ่อยๆ ถึงจะทำความเร็วได้ไม่ทันเขา แต่เธอก็มุ่งมั่นที่จะวิ่งให้ครบรอบสนามฟุตบอล
“รับอะไรดีคะ” พนักงานมารับออเดอจากคทาวุธ เขายังไม่หิวนัก แต่จะไม่สั่งอะไรเลยก็คงน่าประหลาดไปหน่อย
“เอาชุดซูชินี่ก็ได้ครับ” เขาจิ้มๆไปที่เมนูแนะนำของร้าน
“ชุดซูชิรวมนะคะ รับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”
“มีเบียร์ไหมครับ”
“เบียร์สดนะคะ”
“ครับขอเหยือกนึง”
“สักครู่ค่ะ”
“เบียร์มาก่อนเลยนะครับ”
เขาอารมณ์ดีขึ้น พนักงานยิ้มรับแล้วเดินออกไป ไม่นานนักเบียร์สดของเขาก็ถูกยกมาเสิร์ฟ แต่ดูว่ามันมาพร้อมกับอาหารที่ปาณิศาสั่งไว้ เขาจิบเบียร์เย็นฉ่ำพลางมองเธอนั่งกินอาหารไปเงียบๆ ทำไมเธอยังดูเหมือนเดิมที่เคยคบหากันมา หน้าตาที่ไร้เครื่องสำอาง ผมยาวสลวยที่รวบเป็นหางม้าที่เขาเคยแกล้งดึงเล่นบ่อยๆ จมูกเชิดที่เขาบีบเล่นเวลาอยากง้อเธอและริมฝีปากสวยได้รูปนั่นอีก คทาวุธหยุดสายตาที่ริมฝีปากของเธอ เขายังระลึกถึงจูบกล้าๆกลัวๆของเธอในวันรับปริญญาได้ มันเป็นจูบมัดจำที่ไม่มีวันเป็นจริง แม้เขาร้องขอเธอจนหัวใจแทบแตกสลาย
จากที่อารมณ์ดีอยู่เมื่อครู่กลายเป็นขุ่นมัวเพราะคิดถึงสัญญาที่เคยมีให้กัน ทำไมเธอไม่รอเขา ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เธอเองก็สนับสนุนให้เขาไปอเมริกา ผ่านไปแค่ครึ่งปี ก็ได้ข่าวจากเพื่อนว่าเธอแต่งงานกับผู้ชายอายุมากกว่าหลายสิบปี
“มันแค่เรื่องล้อเล่นใช่ไหมแป้ง” คทาวุธยังจำได้ว่าเขาโทรศัพท์ทางไกลมาหาเธอ แม้จะต้องเสียค่าโทรแพงก็ตาม แต่เขาอยากได้ยินจากปากของเธอ
“แป้งขอโทษ...”
“บอกผมว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง” เขาพูดพยายามทำน้ำเสียงเหมือนกับว่าเป็นเรื่องล้อเล่น
“คทาค่ะ...แป้งขอโทษ”
“พูดอะไรมากกว่านี้ได้ไหมแป้ง อะไรก็ได้ ผมจะกลับเมืองไทยตอนนี้เลย”
“คทาลืมแป้งเถอะ แป้งมีคนใหม่แล้ว”
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เขาได้พูดกับเธอ เขารู้จักเธอดีว่าเปล่าประโยชน์ที่จะถามหาเหตุผลอะไรอีก แม้เขาจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จากที่เคยสงสัยเคลือบแคลงกลายเป็นโกรธแค้นที่เธอเป็นฝ่ายไม่รักษาสัญญาที่มีให้กัน ช่วงนั้นเขาถึงกับไม่เป็นอันกินอันนอน ดื่มเหล้าจนคะแนนเรียนตกต่ำ เขาถูกอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปตักเตือน วันนั้นเขาจึงคิดได้ว่า การแก้แค้นที่สาสมที่สุดคือกลับไปเจอเธออีกครั้งด้วยฐานะการงานการเงินที่มั่นคง เธอจะต้องเป็นฝ่ายเสียใจที่ทิ้งเขาไป
เขาทุ่มเทเรื่องเรียนและงานจนแทบไม่มีเวลาไปสืบเสาะว่าปาณิศาเป็นอย่างไร ยามใดที่คิดถึงเธอก็มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป การทำงานอยู่กรุงเทพฯ ทำให้เขาคิดว่าคงไม่ได้เจอเธอง่ายๆนัก สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ เขากลายเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญ แต่ในความเป็นจริง เขาไม่เคยลบภาพเธออกจากใจได้เลย
คทาวุธขมวดคิ้วเมื่อเห็นปาณิศาจัดการอาหารบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยงแล้วเรียกเช็คบิล แสดงว่าเธอมาคนเดียวจริงๆ ไม่ได้มารอใครที่นี่ เขาเห็นเธอลุกขึ้นเดินออกไป ชายหนุ่มรีบเช็คบิลแล้วก้าวยาวๆ เดินตามอยู่ไม่ไกลแต่ไม่ให้เธอรู้ตัว
ปาณิศาอิ่มมากจนคิดว่าตัวเองควรเดินย่อยสักครู่ค่อยกลับโรงแรม ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารก็เช็คดูสถานที่ที่เธอคิดว่าต้องไป ไม่ชอบขับรถในกรุงเทพฯเอาเสียเลย รถเยอะ คนแยะ เธอลังเลอยู่ว่าควรจอดรถไว้ที่พักแล้วเรียกแท็กซี่ดีไหม
ขณะที่เดินดูสินค้าที่วางขายริมทางเท้า ร่างเล็กเซถลาเพราะถูกนักท่องเที่ยวหนุ่มสองคนชนเอา
“Sorry,Are you ok?”
“I'm ok”
กลิ่นเหล้าคลุ้งทำให้ปาณิศาถอยห่าง แต่ก็ยิ้มให้ด้วยเจตนาจะรักษามารยาท ทว่าสองหนุ่มตาสีฟ้ากลับพยายามรั้งให้เธออยู่ ยืนดักหน้าดักหลังทำให้ปาณิศาอยู่ในวงล้อม เธอหมุนตัวหาช่องทางหลบออก ไม่อยากส่งเสียงร้องโวยวายเพราะคิดว่าคนกลุ่มนี้คงแค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น
คนที่เดินตามหลังมาเห็นเข้าก็อดหงุดหงิดไม่ได้ ทำไมไม่ปฏิเสธเสียงแข็งไป หรือว่าอยากไปสนุกกับพวกมัน แต่เห็นเธอหมุนตัวไปมาสีหน้าเคร่งเครียดเขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวยาวๆ แทรกเข้าไปจับไหล่ของหญิงสาวไว้มั่น
“She came to me”
เสียงต่ำทุ้มดังอยู่เหนือศีรษะ มือใหญ่ที่จับไหล่มาแนบชิดแผ่นอกทำให้ปาณิศาแทบลืมหายใจ เธอหันไปมองเจ้าของมือใหญ่ที่ยังคงอบอุ่นก็เห็นใบหน้าที่เฝ้าคิดถึง
“คทา...คทาวุธ”
ชายหนุ่มก้มมองหญิงสาวในวงแขนแล้วส่งยิ้มละมุน แววตาเต็มไปด้วยความรักและคิดถึง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสองคนนั้นล่าถอยไปไม่ต่อแยปาณิศาอีก แต่หญิงสาวไม่รู้ว่าอะไรน่ากลัวกว่ากัน การถูกนักท่องเที่ยวลวนลามหรือการได้เจอเขา คทาวุฒิ ผู้ชายที่เธอทำร้ายจิตใจ สิบปีไม่ได้พบกันเลยสักครั้ง ทำไมต้องมาเจอกันในสภาพนี้
“ฮึ” คทาวุธทำเสียงรำคาญในลำคอ รอยยิ้มหายไปเหลือเพียงใบหน้าเย็นชา ราวกับคนไม่เคยรู้จักรู้ใจกันมาก่อน
“เอ่อ...ขอบ...ขอบคุณค่ะ”
ปาณิศาพูดติดอ่างไปทันที เธอสั่งตัวเองให้ออกจากวงแขนของเขาแต่ทำไม่ได้ ร่างกายเธอแข็งกลายเป็นหินและเท้าก็ไม่ยอมขยับ คทาวุธเห็นสีหน้าของเธอที่หวาดกลัวราวกับเห็นเขาเป็นภูตผีแล้วหงุดหงิด เธอหน้าซีดเหมือนคนจะเป็นลมทำให้เขาไม่อาจผละมือจากไหล่เนียนนั้นได้ เขาประคองแล้วพาเธอก้าวเดิน
“ไปไหน จะไปส่ง”
เขาพูดราบเรียบใบหน้าตึง ปาณิศายากจะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออก ไม่เป็นไรหรอก เขาทำเช่นนี้ก็ถูกแล้วเพราะเธอเป็นคนผิดสัญญาต่อเขา