ตอนที่ 10

2806 Words
“อ้าว สวัสดีค่ะสาวชาวทุ่ง มาออกงานไฮโซเสียด้วยคืนนี้ ดาวล่ะคะ พี่ศศิ” พิมพ์พลอยมองไปบริเวณรอบๆ งานหวังว่าจะได้เจอดาริกา “ทำเป็นไม่รู้จักเพื่อนรักเราหรืออย่างไรกัน ยอมมาเสียที่ไหนล่ะ อ้อนวอนยังไม่ยอมเลย ขับรถมาส่งพี่ ตอนนี้กลับไปรอที่บ้าน เดี๋ยวมารับกลับ” “น่ารักดีจริง ฝากดาวด้วยนะคะ พี่ศศิ” พิมพ์พลอยยิ้มให้ศศิมา “ดาว คือ ดวงใจเลยนะ พลอย พี่จะดูแลให้ดีที่สุด ดาวมาเป็นแสงสว่างในชีวิตพี่ ถ้าไม่มีดาว ชีวิตพี่คงมืดมน ว่าไหม” ศศิมา หัวเราะ เมื่อเห็นคนที่ยืนคุยอยู่ด้วยทำท่ากระอักกระอวลกับคำหวานที่ได้ยิน “น้ำเน่ามากค่ะ พลอยขอตัวก่อนนะคะ หายวุ่นวายจะมาคุยด้วยใหม่” พิมพ์พลอยยิ้มทะเล้นให้ศศิมาที่ถอนใจเบาๆ เมื่อเห็นพระ พายเดินเข้างานมากับหนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกลของเมืองไทย ซึ่งดูเหมือนสาวๆ ทั้งหลายอยากจะได้มีโอกาสเป็นคู่ควงออกงานด้วย “ถอนใจดังขนาดนี้ เจอคู่อริหรือเปล่าคะ” พิมพ์พลอยพูดแซว แต่เมื่อมองตามสายตาของศศิมารอยยิ้มทะเล้นนั้นหายไปในทันที “ไต้ฝุ่นเอ๊ย” ศศิมารำพึงออกมาเบาๆ หันไปมองสบตากับพิมพ์พลอยที่ทำหน้ายุ่งๆ จ้องมองไปยังพระพายกับชายหนุ่มหน้าตาดี ที่ควงกันอย่างออกหน้าออกตา “คนแสนดีของพี่ศศิ เป็นไงล่ะ กลางวันป่วยอย่างโน้นอย่างนี้ กลางคืนเฉิดฉายออกงาน ควงหนุ่มไฮโซนักเรียนนอก” พิมพ์พลอยยิ้มจางๆ ให้ศศิมา “บางทีมันก็จำเป็นนะ เหมือนพี่ไง ไม่ได้อยากมา แต่พ่อกับแม่ขอร้อง” “ไปดีกว่า ว่าไม่ได้ แตะต้องไม่ได้อยู่แล้ว น้องรักของพี่ศศิ ไปล่ะคะ” พิมพ์พลอยแยกตัวไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง พระพายได้รับความสนใจเสมอ โดยเฉพาะคู่ควงคนใหม่ ซึ่งไม่มีใครคิดว่า จะมางานนี้ด้วยกัน เสียงกดชัดเตอร์ของช่างภาพดังไม่หยุด ตั้งแต่สองหนุ่มสาวเดินเข้ามา ศศิมายืนดูอยู่ห่างๆ กำลังคิดว่า หากเป็นตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้น ตรงที่พระพายยืนอยู่ จะรู้สึกอย่างไร ชายหนุ่มคนนี้หรือเปล่าที่ทางครอบครัวหมายมั่นปั้นมือจะให้แต่งงานกัน “จะล้มพับกลางงานไหมล่ะ ไต้ฝุ่น” ศศิมารำพึงออกมาเบาๆ ชัยพรสะกิดแขนพิมพ์พลอย เพราะงานที่กำลังเริ่มขึ้น งานที่รับมาทำแทนนั้น ไม่ได้ยากอะไรมากมาย เพียงแค่จ่อไมโครโฟน สัมภาษณ์เหล่าไฮโซทั้งหลาย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก กับคำถามซ้ำๆ เดิมๆ เรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับราคาแพง รถยนต์คันหรู และธุรกิจร้อยล้านพันล้าน “พร้อมยัง ไฮโซเต็มงาน ไปทำหน้าที่ได้แล้ว ไอ้พลอย” ชัยพรเขกหัว พิมพ์พลอยเบาๆ หลังจากสะกิดแล้วยังคงนั่งเงียบอยู่ “พร้อมนานแล้ว ไปจัดการให้เสร็จๆ เถอะค่ะ คุณช่างภาพ ไม่อยากอยู่งานแบบนี้นานๆ เบื่อ” คำว่า เบื่อ มาพร้อมกับหน้าบูดๆ ที่ ทำเอาชัยพรหัวเราะออกมา “อารมณ์ไม่ดีมาจากไหนวะ มาเหวี่ยงใส่พี่เชื้อ อย่างนี้ไม่ถูกนะเว๊ย” “อ้าว ท้ารบ ตกลงจะทำไหมงานน่ะ พี่ชัย” พิมพ์พลอยพูดเสียงเข้ม “ไปกินรังแตนที่ไหนมา เอ๊ะหรือว่า มีใครไม่สนใจ เลยอารมณ์ไม่ดี” ชัยพรหันกล้องไปทางชายหนุ่มกับหญิงสาว ซึ่งก็คือ พระพาย ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากกองทัพนักข่าวอย่างเนื่องแน่น “ดีนะที่แก่กว่า ไม่งั้น” พิมพ์พลอยพูดจบ ก็รีบเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง ชัยพรยิ้มมองตามนักข่าวฝีมือดีที่เปลี่ยนเป็นคนละคนทันที ยิ้มสวยๆ กับเสียงเจื้อยแจ้ว ซึ่งกำลังถามคำถามกับกลุ่มไฮโซทั้งหลายเริ่มขึ้น ท่าทางดูสนุก สนานและสนิทสนม ชัยพรส่ายหน้า แต่นึกชมเสมอ งานก็คืองาน พิมพ์พลอยไม่เคยทำให้งานเสีย ถึงแม้จะไม่ค่อยมีความสุขนักก็ตาม “ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน แล้วแกทำหน้าไหว้หลังหลอกขนาดนี้ คบไม่ได้นะ” ชัยพรหัวเราะเล็กๆ รีบแบกกล้องเดินตามพิมพ์พลอยไป พระพายมายืนหลบมุม หลังจากชายหนุ่มที่ควงมาถูกผู้ใหญ่รุมล้อม ถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ จึงได้โอกาสปลีกตัวออกมา แต่คงแค่ เพียงชั่วครู่ เพราะอย่างไรเสียคงต้องกลับเข้าไปผจญกับความวุ่นวายในงานอีก เมื่อเหลือบไปเห็นศศิมาเข้า พระพายจึงยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีใจ “พี่ศศิ” เสียงแสดงออกถึงความดีใจ ทำให้ศศิมาเดินยิ้มเข้ามาหา “เสียงดังไปนะ จะดีใจอะไรขนาดนั้น เมื่อกลางวันก็เจอกัน” “โคตรเบื่อ เหนื่อยด้วย ปวดท้องอีกต่างหาก อยากไปนอน” พระพายบ่นพึมพำ ศศิมาเอามือแตะไปที่หน้าผากของพระพาย “ตัวยังอุ่นๆ แล้วมาทำไม” ศศิมาพูดดุ “โดนบังคับมาค่ะ” “โดนบังคับมา เข้างานมายิ้มสวย ควงหนุ่มที่ฮอตที่สุดตอนนี้เนี่ยนะ มาบอกกับพี่ว่า โคตรเบื่อ” ศศิมาอมยิ้ม มองไปรอบๆ ภาวนาขออย่าให้เจอกับพิมพ์พลอยแถวๆ นี้เลย เบื่อที่จะห้ามทัพ “พี่ศศิก็รู้ ว่าเป็นการสร้างภาพ” “คนนี้หรือเปล่า ว่าที่เจ้าบ่าว” ศศิมาถาม พอจะเคยได้ยินข่าวมาบ้าง แต่ไม่มั่นใจนัก เพราะไม่ได้ออกงานสังคมบ่อยๆ “เจอกันไม่กี่ครั้ง ตอนโต ตอนเด็กๆ เคยวิ่งเล่นด้วยกันบ้าง รายนั้นไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก” พระพายบอก “โห รักกันยาวนาน ทำไมพี่ไม่เคยรู้มาก่อน” ศศิมายิ้ม เมื่อได้พูดแหย่พระพายที่กำลังทำหน้าเบื่อโลก “คนหนึ่ง ก็หน้าบูด อีกคน ก็หน้าเบื่อโลกเนอะ” ศศิมาพูดยิ้มๆ เมื่อพระพายมองด้วยความสงสัย “ใครกันคะ อีกคนน่ะ” “ไม่รู้สิ เดี๋ยวก็รู้เองมั้ง ไมค์จ่อปาก เตรียมตอบคำถามให้ดีก็แล้วกัน” “พี่ศศิ เดี๋ยวสิ” พระพายเสียงดังไปหน่อย ทำให้คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมามอง ถึงแม้จะมียืนอยู่เพียงไม่กี่คนก็ตาม พระพายกลับเข้ามาในงาน ยืนพูดคุยกับผู้ใหญ่หลายท่าน ซึ่งท่านเหล่านี้รู้จักกับครอบครัวของเธอดี ชายหนุ่มที่มางานพร้อมกับ พระพายเริ่มเกาะ ติดไม่ห่าง เขาเป็นคนคุยสนุก ไม่ว่าสาวเล็ก สาวใหญ่ ดูจะมีความสุขกับการได้พูดคุยกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่ชื่อ รวิน “ทำไมคืนนี้ ไต้ฝุ่น เงียบจัง” รวินถามกระแซะเข้าใกล้พระพายเข้ามาอีกนิด หลังจากเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มที่เพิ่งสนทนา กันไปเมื่อสักครู่ “จะว่า ฝุ่น พูดมาก อย่างนั้นหรือเปล่าคะ” พระพายถาม “เปล่าครับ เป็นห่วงต่างหาก ไม่สบายหรือเปล่า ไหนดูสิ” รวินทำท่าจะแตะไปที่หน้าผากของพระพาย แต่เจ้าตัวขยับตัวถอย ห่างออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เป็นห่วง” พระพายยิ้มจางๆ ให้รวิน “คิดถึงรู้ไหม” รวินกระซิบบอก และจูบเล็กๆ ไปที่แก้ม “อย่าทำรุ่มร่ามแบบนี้ ฝุ่นขอตัวก่อนนะคะ โน่นสาวๆ กวักมือเรียกแล้ว ฝุ่นขอตัวก่อน” พระพายถอนใจเบาๆ “โธ่เอ๊ย ทำเป็นเล่นตัว ได้แต่งก่อนเถอะ จะทิ้งให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่กับบ้านเลย เล่นตัวดีนัก ไม่ได้สวยนัก สวยหนาอะไรเล๊ย” รวินรำพึงออกมาโดยไม่ได้สนใจใคร ถึงแม้จะมีนักข่าวยืนอยู่ใกล้มากพอที่จะได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา แถมยังหันไปมองด้วยหางตา แสดงท่าทางไม่ได้สนใจอะไรเสียด้วยซ้ำ พิมพ์พลอยได้ยินชัดเจน เข้ามาพอดีตอนที่พระพายโดยจูบเข้าที่แก้ม จนกระทั่งปลีกตัวออกไป แต่การสนทนาระหว่างพระพาย กับผู้ชายรูปงามของใครๆ นั้น พิมพ์พลอยไม่ได้ยิน มาได้ยินเอาตอนหนุ่มที่สาวๆ หลงใหลกันทั่วเมืองพูดจาไม่ดีพาดพิงถึงพระพาย ซึ่ง นั่น ทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกไม่พอใจนัก ทำท่าจะเดินตามรวินไป แต่ชัยพรรั้งตัวไว้ก่อน “ไอ้พลอย หยุดเลย” ชัยพรพูดเสียงเข้ม “ดูปากไอ้ผู้ชายเฮงซวย มันพูดถึงผู้หญิงสิ พี่ชัย น่าต่อยปากแม่งนัก คนอะไรวะ จูบอยู่แป๊บๆ ลับหลังนิดเดียว นินทา พูดจา เสียๆ หายๆ ลับหลังผู้หญิงอย่างนี้ น่าเอาผ้าถุงให้ใส่นะ ไปต่อยปากสักทีคงไม่เป็นไรมั้ง พี่ชัย” “อย่าเชียวนะ มึง มีหวังโดนกันยกทีม ที่โกรธ เพราะเป็นคุณพระพายหรือเปล่า ถ้าเป็นคนอื่น แกจะโกรธแบบนี้ไหม ไอ้พลอย” ชัยพรถาม เพราะสายตาที่พิมพ์พลอยมองตามพระพาย ดูมีแววของความห่วงใยซ่อนตัวอยู่ ไม่เหมือนมองแขกคนอื่นๆ ของงาน แต่อัน ที่จริงก็น่าห่วงอยู่ กับผู้ชายที่พูดหรือคิดอะไรไม่ดีอย่างรวิน ถ้าหากแต่งงานกันขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้จะเป็นอย่างไร “ไม่เกี่ยว ก็มันพูดถึงผู้หญิงไม่ดีนี่ พี่ชัย” พิมพ์พลอยโต้แย้ง แต่ก็กลับ มาถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า เพราะเป็นห่วงจริงๆ อย่าง ที่ชัยพรถามหรือไม่ “ปล่อยมันเถอะ กรรมตามทันแน่นอน ว่าแต่ว่า แกรู้จักคุณพระพายไปเตือนหน่อยก็ดีนะ จะฟังไม่ฟัง ก็เรื่องของเขา เราทำหน้าที่เพื่อนหรือคนรู้จักคนที่หวังดีและเป็นห่วงก็พอ” ชัยพรพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเอาจริงเอาจังมาก “ใช่เรื่องปะวะ พี่ชัย นางคงจะเชื่อหรอกนะ ในเมื่อเป็นว่าที่คู่หมั้นคู่หมาย ควงมาเปิดตัวขนาดนี้” พิมพ์พลอยรู้สึกหงุดหงิด แต่ไม่ รู้เหมือนกันว่าตัวเองนั้นหงุดหงิดเรื่องอะไร หงุดหงิดที่ได้ยินรวินพูดจาไม่ดี หรือหงุดหงิดที่เห็นรวินจูบพระพายกันแน่ “น่าสงสารนะเอ็ง ถ้าแต่งงานกับไอ้บ้านั่นน่ะ อย่างคุณพระพายมีคนอื่นให้เลือกถมเถไป ไอ้นี่มันก็แค่ครอบครัวมีฐานะ หน้าตาดี การศึกษาดี แต่นิสัยไม่ไหวนะ” ชัยพรมองไปทางชายหนุ่มที่มีสาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ไม่ไกลจากตรงที่ยืนอยู่นัก “รีบทำงานของเราให้เสร็จดีกว่า อย่าไปยุ่งเลย เรื่องของชาวบ้านน่ะ อีกอย่างปวดฉี่จะแย่ สัมภาษณ์อีกสองสามคนก็เสร็จ ให้ไว เดี๋ยวฉี่ราดกลางงานนะ พี่ชัย” พิมพ์พลอยยิ้มทะเล้นให้ชัยพรที่ส่ายหน้าและรีบแบกกล้องเดินตามพิมพ์พลอยไปจัดการเรื่องงานให้เสร็จเรียบร้อย พระพายไปยืนหลบมุม ซึ่งมีผู้คนยืนอยู่ไม่มากนัก ยิ้มทักทายบางคนบ้าง แต่หาทางที่จะเลี่ยงพูดคุยด้วย จึงเลือกที่จะเดินเข้าไป บริเวณห้องน้ำ พอเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงคุ้นๆ แต่ไม่ทันได้สังเกต “เกือบไปแล้ว พิมพ์พลอย” เมื่อได้ยินชื่อเท่านั้น พระพายก็ยิ้มออก พอดีกับคนที่เพิ่งพูดเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี “เอ้า” พิมพ์พลอยตกใจเล็กน้อย “บ่นอะไรคนเดียว” พระพายถาม “ไม่ได้บ่น แค่พูดคนเดียวเฉยๆ” “อือ อยากอยู่คนเดียว ถ้าอย่างนั้นฝุ่นขอไปยืนเงียบๆ อยู่ตรงโน้นก่อนไม่กวนดีกว่า” พระพายรู้ว่า การพบกันทุกครั้ง ตัวเธอเองมักจะสร้างความไม่สบายใจให้กับพิมพ์พลอย “หนีใครมาล่ะ แฟนอยู่ข้างนอกนี่” พิมพ์พลอยพูดโดยไม่ได้หันไปมองพระพาย ซึ่งเดินไปอยู่ห่างพอสมควร และกำลังมองไปยังกระจกเงาที่อยู่ตรง หน้า พิมพ์พลอยก็เช่นกัน แต่แอบชำเลืองมองดูอยู่บ้าง “แฟนไม่มี อีกอย่างไม่ต้องหนีใครด้วย แค่เหนื่อยๆ” พระพายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “กลางวันไม่สบาย กลางคืนคอตั้งเป็นนางพญาหงส์ ออกงาน มันก็สมควรที่จะเหนื่อยหรอกนะ” พิมพ์พลอยรู้สึกผิดที่พูด จากวนๆ หลังจากจ้อง มองไปยังกระจกบานที่เห็นเงาสะท้อนของพระพาย “ถ้าบอกว่า ไม่ได้อยากมา พลอยจะเชื่อฝุ่นไหม ฝุ่นรู้คำตอบ อย่างไร เสียพลอยก็ไม่เชื่อ งั้นฝุ่นก็ไม่จำเป็นต้องบอก ต้องอธิบายอะไร” “หน้าซีด นะ” พิมพ์พลอยเดินเข้ามาใกล้ๆ “ไม่เป็นไร” “กลับบ้านไปพักได้แล้ว อ้อไอ้แฟนที่ควงมานะ เลิกคบเหอะ นิสัยแย่มาก ผู้ชายอะไรไม่รู้ ปากหมานมากๆ” พิมพ์พลอยรู้สึกหงุด หงิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพูดถึงรวิน “พี่รวิน” “อือ อยู่ห่างๆ ไว้ก็ดีนะ หรือชอบผู้ชายแค่ หล่อ รวย เท่ห์ เก่ง ฉลาด ก็ตามใจ นิสัยอื่นๆ ช่างมัน เอาไว้แค่ควงแล้วมีคนชื่นชมก็ ตามใจ” พิมพ์พลอยพูดงึมงำ แต่ก็ยืนเผชิญหน้ากับพระพายที่จ้องแบบไม่ลดราวาศอกเช่นกัน “ไม่ต้องแสดงออกว่าเป็นห่วงก็ได้นะ ตรงนี้ พี่ศศิไม่ได้รู้เห็นอะไร เอา ไว้ทำต่อหน้าพี่ศศิก็พอ หรือไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฝุ่นก็ได้” สิ่งที่พระพายพูดทำให้แววตาของพิมพ์พลอยเปลี่ยนไป ดูมีแววกังวลใจ ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนเวลาที่ไม่ค่อยพอใจ เมื่อได้พบกัน “เป็นห่วง ไม่อยากให้เอาชีวิตไปผูกติดกับผู้ชายอย่างนั้น หรือไม่อยาก ให้ห่วง พลอยจะได้ไม่ยุ่งด้วย ใครพูดจาไม่ดีลับหลัง จะได้ไม่ต้องมาบอก หรือมาเตือนอีก อยากให้เป็นอย่างนั้นใช่ไหมล่ะ” พิมพ์พลอยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่กำลังพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ฝุ่นเหนื่อย ฝุ่นไม่อยากทะเลาะด้วย ไม่ต้องมาห่วง ไม่ต้องมาเตือน ถ้าไม่ได้เต็มใจจะทำ ฝุ่นจะอยู่ห่างๆ พลอย” พระพายพูดจบ ทำท่าจะเบี่ยงตัวให้พ้นร่างของพิมพ์พลอยที่ยืนขวางทางอยู่ “ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น” พิมพ์พลอยพูดเสียงเข้ม แต่หัวใจก็หล่นวูบใน ทันที เมื่อคนที่ยืนหน้าซีดอยู่โผเข้ากอด “ฝุ่นเหนื่อยจริงๆ ไม่ได้อยากมางาน” พระพายกอดกระชับพิมพ์พลอยเอาไว้แนบแน่น “กลับบ้านไปนอนได้แล้ว ขับกลับเองได้ใช่ไหม” พิมพ์พลอยถาม ยืนตัวแข็งไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่ออ้อมกอดของพระ พายกระชับแน่นขึ้นเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างของพิมพ์พลอยจึงอ้อมไปโอบเอวของพระพายเอาไว้ “ได้ แต่กอดฝุ่นไว้สักครู่ได้ไหม” พระพายพูดอ้อน พิมพ์พลอยอมยิ้มและกระชับอ้อมกอดขึ้นอีกเล็กน้อย “ไฮโซมาอ้อนแบบนี้ รู้สึกเป็นต่อดีเหมือนกันนะ” พิมพ์พลอยอมยิ้ม “ขอบคุณนะ” สายตาอ่อนโยนของพระพายที่จ้องมองมา หลังจากคลายอ้อมกอดออก ทำให้หัวใจของพิมพ์พลอยรู้สึกปั่นป่วน รู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ และขยับเข้าหาโดยที่พยายามเตือนตัวเอง ภาพของรวินที่จูบไปที่แก้มซึ่งเกือบถูกริมฝีปากของพระพายกลับมาใน ความคิด พิมพ์พลอยถอนใจเล็กน้อยมองสบตาคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง จูบเล็กๆ ทาบทับไปยังจุดเดิมที่รวินจูบพระพายไป เมื่อสักครู่ พิมพ์พลอยขยับริมฝีปากเป็นการย้ำตรงรอยจูบนั้น หวังว่า จูบก่อนหน้าจะจางหายไปจากหัวใจของคนที่กำลังจ้องเขม็งอยู่ตรงหน้า “จ้องทำไม กลับบ้านได้แล้ว” “นั่นสิเนอะ จ้องทำไม” พระพายยิ้ม มองแก้มของพิมพ์พลอยที่แดงระเรื่อขึ้น “ขับรถดีๆ ถึงบ้านแล้วก็” พิมพ์พลอยรู้ดีว่าไม่ควรจะพูดออกไป “โทรศัพท์บอกพลอย ฝุ่นตอบถูกใช่ไหมล่ะ” พระพายอมยิ้ม ทำยักคิ้วล้อเลียนคนที่ยืนยิ้มอายๆ ไม่กล้าสบตาด้วย “อยากโทรฯ ก็โทรฯ” “ฝุ่นกำลังจะกลับ พลอยถึงบ้านแล้วโทรฯ หาฝุ่นดีกว่า นะ” “ไม่ ไม่ชอบรายงานตัว ไปเถอะ กลับไปได้แล้ว จะจ้องอะไรนักหนา” “โทรฯ หาฝุ่นนะ ฝุ่นจะรอ ไปล่ะ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะส่งข้อความมาบอก ฝุ่นรอจริงๆ นะ พลอย” พระพายพูดด้วยน้ำเสียงอ้อน เอามือทาบทับไปที่แก้มของพิมพ์พลอยเบาๆ ก่อนที่จะแยกตัวออกไป “ผู้หญิงนะ ยายพิมพ์พลอย” พิมพ์พลอยรำพึงออกมาเบาๆ หลังจากพระพายไปแล้ว บริเวณแก้ม ซึ่งพระพายเอามือทาบทับไป เมื่อสักครู่ ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ ถึงแม้เจ้าตัวจะไปแล้วก็ตาม พิมพ์พลอยถอนใจ แต่รอยยิ้มกลับไม่ได้จางไปไหนยังคงอยู่บนใบ หน้าและในหัวใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD