เล่ห์รักพันธะร้าย | 1

1900 Words
“พ่อคะแม่คะ จะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าน้องเทียร์ยื่นทุนขอไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ” เสียงหวานของเทียร์ลูกสาวคนเล็กของบ้านกลิ่นดินเอ่ยปากถามคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองทันที “น้องเทียร์ทำไมถึงอยากไปเรียนต่างประเทศล่ะ” คนเป็นแม่อยากรู้เหตุผลเพราะมันจะมีสักกี่เหตุผลที่ทำให้ลูกสาวคนเล็กถึงอยากจากบ้านไกลไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา “น้องเทียร์ชอบประเทศอิตาลีค่ะ” คำตอบของลูกสาวไม่ได้เป็นเหตุผลที่ดีให้คนเป็นพ่อและคนเป็นแม่เลยแต่ทั้งสองคนก็ไม่สามารถขัดอะไรเพราะมันคือความชอบของลูกสาว “ความจริงน้องเทียร์ไม่ต้องขอทุนก็ได้นะลูก ใช้เงินพ่อไปเรียนได้สบายๆเลย” คนเป็นพ่อพูดขึ้นเพราะการเงินทางบ้านไม่ได้มีปัญหาพร้อมซัพพอร์ตลูกๆเสมอ “น้องเทียร์อยากไปด้วยความสามารถของตัวเองค่ะ ตอนนี้ก็รอแค่ประกาศผลเท่านั้น” เพราะก่อนที่เทียร์จะบอกกับคุณพ่อคุณแม่ เธอยื่นการสมัครขอทุนและสอบไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ผลการสอบออกมา “แล้วน้องเทียร์จะมาถามทำไมในเมื่อหนูสอบไปแล้ว” คนเป็นแม่ถามขึ้นเพราะใจจริงเธอไม่อยากให้ลูกสาวคนเล็กจากบ้านไปเรียนไกลๆ “พ่อกับแม่อนุญาตนะคะ น้องเทียร์อยากไปจริงๆ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าน้องเทียร์ชอบอิตาลีมากแค่ไหน” แน่นอนว่าคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่รู้ดีว่าลูกสาวคนเล็กหลงรักและคลั่งไคล้ประเทศอิตาลีมาก “พ่อกับแม่ไม่ห้าม ถ้าน้องเทียร์อยากไปจริงๆแล้วไม่ติดทุนขึ้นมาก็ใช้ทุนพ่อไปเลยโอเคไหม” คนเป็นพ่อพูดขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อเป็นความฝันและความชอบของลูกสาวก็มีแต่จะสนับสนุนไม่ปิดกลั้น ถึงแม้ความจริงในใจจะไม่อยากให้ลูกสาวห่างบ้านจากไปไกลๆก็เถอะ “ขอบคุณมากๆนะคะ คราวนี้ก็เหลืออีกสองคนคือพี่ทรอสกับพี่เทรย์” เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่เป็นกังวลเพราะพี่ชายทั้งสองคนของเธอหวงเธอมากแค่ไหนเธอรู้ดีและการที่เธอจะไปเรียนต่างประเทศมันไม่ง่ายเลยถ้าพี่ชายไม่อนุญาต “ถ้าพ่อกับแม่อนุญาต สองคนนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามหนูหรอกน้องเทียร์” คนเป็นแม่พูดขึ้นเพราะยังไงเธอก็ไม่ปิดโอกาสของลูกสาวอยู่แล้ว ถึงมันจะไกลแต่มันเป็นสิ่งที่ลูกสาวชื่นชอบ เธอก็พร้อมจะสนับสนุน “ช่วยคุยกับพี่ๆด้วยนะคะ น้องเทียร์กลัวจะไม่ได้ไปก็เพราะสองคนนี้” เพราะพี่ๆทั้งสองคนก็แทบจะถือสิทธิ์ขาดในชีวิตของเทียร์ อาจจะเป็นเพราะเทียร์เป็นลูกสาวคนเดียวและน้องสาวคนเล็ก พี่ๆทั้งสองคนเลยรักและหวงเธอมากเป็นพิเศษ “สบายมากคนสวยของแม่ ว่าแต่มันจะประกาศผลตอนไหนล่ะ” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้ง “อีกสามวันค่ะ” คำตอบของเทียร์ทำทุกคนลุ้นไปตามๆกันเพราะสามวันไม่นานแล้ว ยิ่งใกล้วันก็ยิ่งตื่นเต้น เทียร์รู้ดีว่าครอบครัวของเธอมีเงินมากพอที่สามารถส่งเธอไปเรียนอิตาลีได้โดยไม่ต้องขอทุน แต่เทียร์ไม่ต้องการแบบนั้นเพราะค่าใช้จ่ายมันคงเยอะมาก เทียร์จึงอยากใช้ความสามารถของตัวเองในการพาตัวเองไปเรียนต่อที่อิตาลีให้ได้ “แต่น้องเทียร์ อิตาลีนี่มันไม่มีพวกมาเฟียอะไรใช่ไหมลูก” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้งเพราะเธอก็เคยดูหนังมาหลายเรื่อง เขาว่ากันว่ามาเฟียอิตาลีมันโหด ฆ่าไม่เว้นไม่ว่าจะใคร “น้องเทียร์ว่าคงไม่น่าจะมีนะแม่ สมัยนี้แล้ว” เทียร์ตอบกลับไปตามตรงเพราะมาเฟียอะไรคงไม่มีอีกแล้ว ถ้าจะมีก็คงเป็นพวกผู้มีอิทธิพลที่อยู่มานานก็เท่านั้นเหมือนกับเมืองไทยในปัจจุบันที่มีแต่คนมีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมายทำอะไรก็ไม่ผิด “แต่หนังที่แม่ดูหากเกี่ยวกับอิตาลีก็คงไม่พ้นมาเฟีย” คนเป็นแม่ที่คอหนังสุดๆก็ยังคงพูดขึ้นต่อ “เราไม่รู้หรอกว่ามีหรือไม่มีแต่น้องเทียร์พยายามอย่าไปยุ่งกับสิ่งพวกนี้นะลูก” คนเป็นพ่อพูดขึ้นเพราะเขาเองก็ใช่ว่าไม่มีอิทธิพลหรืออะไรเลย เรื่องข่าวคาวมาเฟียอิตาลีก็พอจะเคยได้ยินอยู่บ้างแต่ไม่ได้รู้ลึกอะไร “น้องเทียร์ไม่เข้าไปยุ่งกับด้านมืดพวกนี้อยู่แล้ว น้องเทียร์แค่ไปเรียนเอาความรู้เก็บเกี่ยวความชอบและประสบการณ์ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง” “ฮ่าๆ เราก็คุยกันไปแล้วแต่ความจริงยังไม่รู้ผลเลยนะ” คนเป็นแม่พูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ทุกคนคุยกันไปไกลแล้วแต่ความจริงผลการสอบของลูกสาวคนเล็กเป็นยังไงยังไม่รู้เลยแต่ก็นั่นแหละ ถึงไม่ผ่านทางบ้านก็พร้อมจะสนับสนุน “ยังไงก็ผ่านเพราะน้องเทียร์ของพ่อเก่ง” แน่นอนว่าเทียร์ยิ้มกว้างกับคำชมของคุณพ่อ “แม่ก็มั่นใจว่าน้องเทียร์ทำได้ ไว้รู้ผลก็มาบอกพ่อกับแม่นะน้องเทียร์” “น้องเทียร์จะรีบมาบอกพ่อกับแม่เลยค่ะ” เพราะต่อให้เทียร์มั่นใจว่าตัวเองทำข้อสอบได้แต่ในข้อที่เธอตอบเธอก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่ามันจะเป็นคำตอบที่ถูกสักกี่เปอร์เซ็นต์เพราะทุกอย่างมันผิดพลาดกันได้ บางทีคำตอบที่เธอมั่นใจและตอบไปอาจจะไม่ใช่ข้อที่ถูกเสมอไปก็ได้ สามวันผ่านไป “กรี๊ด !” เสียงกรี๊ดของเทียร์ดังลงมาจากชั้นบนของบ้าน ทำเอาทุกคนในบ้านถึงกลับต้องรีบวิ่งมายังห้องนอนของเทียร์ “พะ…พ่อแม่ เทียร์ได้ทุน เทียนได้ทุนไปอิตาลี” เทียร์พูดด้วยท่าทางลนลานเพราะตอนนี้ความฝันของเธอมันเป็นจริงแล้ว “อะไรนะ !” แต่แล้วก็มีอีกสองเสียงที่ดังขึ้นมานั่นคือเสียงพี่ชายของเทียร์นั่นเอง “อ่านสิ” เทียร์พูดขึ้นพร้อมหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ราคาแพงให้กับพี่ชายทั้งสองคนดู ตอนนี้หน้าจอปรากฎข้อความทำเอาคนที่เห็นก็ต่างดีใจผิดกับสองคนที่เป็นพี่ชาย “คุณผ่านการคัดเลือกการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน” “สำเร็จสักที อิตาลีที่ฉันใฝ่ฝัน” เทียร์พูดกับตัวเองเบาๆเพราะมันไม่ง่ายเลยกับการที่เธอใช้เวลาไปติวและเรียนเสริมเกี่ยวกับภาษาอิตาลี ทุกอย่างมันท้าทายให้เทียร์ทำให้ได้เพราะที่ผ่านมาเทียร์เรียนวิทย์คณิตในระดับชั้นมัธยม ส่วนมหาลัยก็คนละสายการเรียน เทียร์ต้องเรียนเสริมด้านภาษาและมาสอบเอาเอง ซึ่งตอนนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว “อะไรกันน้องเทียร์” เสียงของพี่ชายคนโตของบ้านดังขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เทียร์ได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่อิตาลีจนจบปีสี่” เทียร์พูดขึ้นทันทีเพราะคุณพ่อกับคุณแม่บอกกับเธอไว้เองว่าพี่ๆทั้งสองคนไม่สามารถขัดอะไรได้ “พ่อกับแม่จะให้น้องเทียร์ไปหรอ อิตาลีนะไม่ใช่กรุงเทพ” พี่ชายคนรองพูดขึ้นเพราะมันไกลมาก การเดินทางก็ต้องใช้เวลา หากเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ให้ไปสิ ในเมื่อมันเป็นความฝันของน้อง เราก็ไม่ควรขัด” คำพูดของคนเป็นแม่ทำเทียร์ยิ้มกว้าง “อะไรกัน แล้วพวกพี่มารู้ทีหลังแบบนี้หรอ แล้วเรื่องเรียนที่นี่จะยังไง แล้วน้องเทียร์จะไปอยู่ยังไง อยู่กับใคร” พี่ชายคนโตอย่างทรอสรัวคำถามใส่น้องสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะมันคือครั้งแรกที่น้องสาวจะจากบ้านไปไกล “เทียร์จะไปเริ่มเรียนปีหนึ่งใหม่ที่อิตาลี ส่วนเรื่องเรียนที่นี่จะถูกโอนย้ายไปที่อิตาลี เรื่องที่อยู่เทียร์อยู่คนเดียว คงหาเช่าอพาร์ทเมนท์ใกล้ๆมหาลัย” เทียร์ตอบกลับไปตามตรงเพราะที่เธอคิดมีแค่นี้เพราะเทียร์เองก็ยังไม่ได้วางแผนอะไรแต่หลังจากนี้คงต้องเริ่มวางแผนแล้ว “น้องเทียร์ไม่เคยอยู่คนเดียว จะไปอยู่ที่อิตาลีคนเดียวได้ยังไง” พี่ชายคนรองถามขึ้นอีกครั้ง “อย่าเวอร์นะพี่เทรย์ ตอนนี้น้องเทียร์ก็อยู่หอคนเดียว” เพราะพวกพี่ๆทำกับว่าเทียร์เป็นเด็กน้อยสามขวบทั้งๆที่ความจริงอายุของเทียร์ก็สิบเก้าจะเข้ายี่สิบอยู่แล้ว “ไม่รู้ๆพี่ไม่อนุญาต” พี่ชายคนรองอย่างเทรย์พูดขึ้นอีกครั้ง “พี่ก็ไม่อนุญาต ไปไกลถึงอิตาลีหรอไม่เอาหรอก” พี่ชายคนโตรีบพูดขึ้นเพื่อเป็นกำลังเสริมทำเอาใบหน้าสวยของน้องสาวอย่างเทียร์เศร้าลง “มันเป็นความฝันน้องเทียร์นะ อีกอย่างน้องเทียร์ก็โตแล้ว อายุสิบเก้าแล้วนะพี่ทรอสพี่เทรย์” “สิบเก้าอะไรกัน สามขวบเท่านั้น” ทรอสพูดขึ้นเพราะน้องสาวของเขายังเป็นเด็กน้อยผมสั้นอยู่เลย มาสิบเก้าอะไรกันไม่มีหรอก “พี่เห็นด้วยกับไอ้ทรอส น้องเทียร์พึ่งจะสามขวบไปอยู่อิตาลีคนเดียวไม่ได้แน่ๆ” “พ่อกับแม่ช่วยพูดเลยเพราะยังไงน้องเทียร์ก็จะไป” เทียร์หันหน้าไปหาคนเป็นแม่ทันทีเพราะตอนนี้เริ่มปวดหัวกับพี่ชายทั้งสองคนแล้ว “พ่อกับแม่คุยกันแล้วว่าจะให้น้องไป เราเป็นครอบครัวมีหน้าที่ซัพพอร์ตน้อง จะมาห้ามน้องแบบนี้มันได้ที่ไหนกันล่ะ โตๆกันแล้วคิดบ้างสิ” คนเป็นพ่อพูดขึ้นเพราะยังไงลูกสาวคนเล็กอย่างน้องเทียร์ก็ต้องได้ไปต่างประเทศ “แต่อิตาลีมันเถื่อน น้องเทียร์ไปประเทศอื่นได้ไหม” พี่ชายคนโตอย่างทรอสพูดขึ้นเพราะรู้ดีว่าประเทศอิตาลีที่น้องสาวจะไปมันเป็นยังไง ถึงจะไม่ได้รู้แจ่มแจ้งแน่ชัดแต่ก็พอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร เบื้องหน้ากับเบื้องหลังของประเทศนี้มันต่างกันสิ้นเชิง “ทำไมวะไอ้ทรอส อิตาลีมันมีอะไร” พี่ชายคนรองถามขึ้นเพราะอิตาลีก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหนึ่งที่สวยงามแต่ที่เขาไม่อยากให้น้องสาวไปนั่นเพราะไกลเกินไป “เฮ้อ ! เอาเป็นว่าคิดใหม่ก็ดีนะน้องเทียร์” “ไม่คิดใหม่แล้วเพราะยังไงน้องเทียร์ก็ยืนยันจะไปอิตาลี” ❤️ ตอนแรกน้ำจิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD