[ ไทเกอร์ ]
ผมเดินผิวปากเข้ามาในบ้านโดยที่ท่อนบนไม่ได้สวมเสื้อโชว์มัดกล้ามกับรอยสักรูปเสือตรงท้อง
หึ นึกแล้วก็อดที่จะอารมณ์เสียกับยัยนั่นไม่ได้ แถมยังเรียกผมว่าเสืออีกนี่มันเด็กแก่แดดชัดๆ
"อารมณ์ดีอะไรของมึงไอ้เกอร์" เสียงที่เอ่ยขึ้นติดเย็นชานิดๆทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวกลับไปมองยังคนมาใหม่ที่ตามหลังมา
"แค่มีเรื่อสนุกนิดหน่อย มึงมีอะไร..."
"....."
"ยัยมะเขือม่วงก็มาด้วยเหรอ โทษทีฉันไม่ทันเห็น" ผมยกยิ้มใส่เด็กไอ้สิงอย่างกวนๆ ไอ้สิงหรือว่าไอ้สิงโตมันเป็นพี่ชายฝาแฝดของผมเอง แถมมันยังใจดีรับอุปการะเด็กอีก ที่อุปการะนี่ไม่ใช่ไรหรอกมันอยากเก็บไว้กินเองมากกว่า
พี่ชายผมแม่งฉลาด เลี้ยงไว้ตอนนี้พอโตหน่อยก็จับกิน
"ถ้าไม่มาพี่ไทเกอร์คงไม่เห็นหรอกค่ะ" ยัยนั่นตอบเสียงอ่อนด้วยหน้าตาใสซื่อ เด็กพวกนี้แม่งปีนเกรียวกันเก่งฉิบไม่เห็นหัวคนอายุมากกว่ากันแล้วหรือไง
"ทำไมมึงถอดเสื้อเข้าบ้านมาวะ มึงไปไหนมา" ก่อนที่ผมจะได้โต้ตอบเด็กไอ้สิง มันก็รีบถามขึ้นมาก่อน
"ไปดูสินค้าที่โกดังใหม่ไง แต่ซวยนิดหน่อยเจอเด็กกวนทำให้อารมณ์เสีย"
"เด็กอะไรของมึง อย่าบอกว่ามึงไปติดเด็กแถวนั้น" ไอ้สิงหรี่ตามองผมอย่างจับผิด
"อย่าคิดว่ากูเหมือนมึงดิ กูไม่ชอบเด็กแม่งปัญญาอ่อนแถมขี้โวยวายทุกคน"
"พายไม่ได้ปัญญาอ่อนนะคะ จะพูดเหมารวมแบบนี้ไม่ได้ค่ะ" ยัยมะเขื่อม่วงหรือว่ายัยพระพายเด็กไอ้สิงเอ่ยเสียงแข็งมองผมอย่างเอาเรื่อง มันไม่ได้น่ากลัวหรอกแต่มันน่าตีฉิบหาย
"เธอนั่นแหละตัวปัญญาอ่อนเลย"
"พอๆมึงว่าอะไรพายนักหนา" ไอ้สิงถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยใจ ดูดิไอ้พี่เวรเข้าข้างสาวมากกว่าน้องแท้ๆของตัวเอง แม่งน่าน้อยใจไหมล่ะ
"....." ผมไหวไหล่ไม่ตอบแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองเพื่อชำระล้างความซวยออก
ผมเดินลงมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำแบบที่ชอบใส่แล้วตรงไปหาไอ้สิงที่นั่งรออยู่ที่ห้องทำงาน เพื่อคุนเรื่องโกดังใหม่ที่ผมไปตรวจดูมาเมื่อวานแถมยังซวยถูกยัยเด็กนั่นเอารถจักรยานมาชนรถของผมอีก
เมื่อคุยกับไอ้สิงจนเข้าใจแล้วมันก็รีบกลับเพราะกลัวว่าเด็กมันจะงอแง แต่เอาจริงผมว่ายัยนั่นไม่ได้พูดยากหรือดื้อรั้นอะไรมากนัก ผิดกับอีกคนที่ผมเพิ่งเจอมา อย่างกับผีเจาะปากมาพูดเล่นเอาผมแทบกุมขมับเกิดมาไม่เคยเห็นเด็กแบบยัยเต้าหู้ยี้เลยสักคน
เด็กมันปากดีแบบนี้เลยทำให้ผมอยากจะกำราบ...
มันน่าจะฟาดด้วยท่อนใหญ่ๆอวบๆสักทีสองดีเอาให้ดิ้นหนีแทบไม่รอด
[ เต้าหู้ ]
"ตายแล้วววว เต้าหู้ทำไมเปียกแบบนี้ดูสภาพสิ ไปทำอะไรมา" แม่วิ่งมาหาฉันที่เข็นรถจักรยานของตัวเองมาจอดหน้าร้าน แถมในมือแม่ยังถือกระบวยมาอีกฉันละกลัวจับใจว่าแม่จะฟาดฉันด้วยกระบวยในมือนั่น
"แม่~ หมามันไล่ฟัดหนูอ่ะ งื้ออไล่จนตกคูน้ำไม่ต่างจากหมาเลย" ได้ทีฉันรีบฟ้องแล้วทำหน้าหงอยน่าสงสาร
"หมาที่ไหน แถวนั้นมีหมาด้วยเหรอ"
"มีสิแม่ มีทั้งหมาหมู่หมาเดี่ยวเลยนะแถมตัวนี้ใหญ่ยังกับเสือทำหนูตกคูน้ำยังยืนมองได้หน้าตาเฉย มันน่าจะเอาไม้ทุบสักที" ฉันบอกพร้อมกำหมัดแน่นตามอารมณ์โกระของตัวเองที่กำลังปะทุ
"แล้วทำไมไม่เอาไม้ใกล้ๆตีมันล่ะ มันจะได้ไม่กล้า"
"งึก! ไม่เอาหรอกเดี๋ยวหมามันบ้าขึ้นมากัดหนูทำไง"
"เอาเถอะๆไม่เป็นไรก็ดีแล้ว กลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าที่บ้านเลยไปแม่จะอยู่ร้านเอง" แม่เอ่ยบอกพร้อมทำมือไล่ฉัน โชคดีที่ฉันซ่อนเสื้อของพี่เสือเอาไว้ไม่ให้แม่เห็นไม่งั้นฉันได้ถูกแม่ตีแทนตีหมาแน่
วันต่อมา..
โรงเรียนมัธยมโศกเศร้าวิทยา
เฮ้ออ..ฉันลากสังขารของตัวเองมาโรงเรียนโดยที่ตามเนื้อตามตัวยังคงมาพลาสเตอร์ยาแปะเอาไว้
เจ็บปวดเหลือหลาย(ToT)
"เต้าหู้แกไปโดนอะไรมาเนี่ยทำไมแผลเต็มตัวขนาดนี้ล่ะ" ใบปอเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้า ถ้าถามว่าทำไมมีใบปอคนเดียวเป็นเพื่อนสนิทเพราะนอกจากใบปอฉันก็ไม่มีใครคบด้วยแล้วไงล่ะ ฮ่าๆ
"มีปัญหานิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว" ฉันยิ้มกว้างออกมาให้ใบปอหายกังวล
"โอเค ถ้าแกเจ็บตรงไหนก็บอกฉันนะ"
"จ้าๆรู้แล้ว" ว่าจบฉันก็เดินกอดคอใบปอเข้าไปยังอาคารเรียน โรงเรียนนี้ไม่ได้ดังอะไรมากนักเพราะรับนักเรียนแค่ในพื้นที่จึงไม่มีนักเรียนจากที่อื่นมาเดิดเฉิดฉาย ฉันเลยเด่นได้อย่างเต็มที่
ในระหว่างที่จะเดินเข้าห้องเรียนกลับมาอาจารย์เดินสวนมาทำให้ฉันกับใบปอต้องหยุดแล้วยกมือไหว้ตามกฎระเบียบวินัย
แต่ดูเหมือนคนข้างๆอาจารย์จะคุ้นตาฉันแปลกๆ เมื่อฉันเงยหน้ามองเขากลับกระตุกยิ้มแล้วยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉันสองจึ้งด้วยท่าทีกวนๆ
อีห่าราก! นี่มันพี่เสือใช่ไหมทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้
"คุณไทเกอร์จะเดินดูรอบๆอีกหน่อยไหมคะ" อาจารย์บงกชเอ่ยถามร่างสูงข้างที่ยังคงใช้สายตาคมเข้มดุดันมองฉันอยู่
"ผมให้เด็กคนนี้พาไปก็ได้ อาจารย์คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ" พี่เสือชี้มาทางฉันแล้วหันไปถามความเห็นจากอาจารย์บงกชที่ยืนอยู่ข้างๆ
"ดะ ได้ค่ะต้องได้อยู่แล้ว เต้าหู้ช่วยพาคุณไทเกอร์ไปเดินดูรอบๆทีนะ"
"คุณไทเกอร์?"
**** น้องไม่ต้องงง นั่นมันชื่ออีพี่เองลูก