สัปดาห์ต่อมา
เป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้ว ที่แก้มหวานตกปกรับคำคบหากับผู้ชายอย่างเฮียเสือ ผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตา และฐานะ แถมยังมีคนรู้จักมากมาย เดินไปทางไหนมีแต่คนรู้จัก วันนี้ก็โดนทักทั้งวัน ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงด้วย แถมมีแต่คนสวยๆทั้งนั้น
“นี่หนู ทำหน้าดีๆดิ”
เพราะแก้มหวานชอบแทนตัวเองว่าหนู เขาเลยติดเรียกแบบนั้น ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆหน้าตึงหนักกว่าเดิมอีก เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่เคยอยู่ในโอวาท ยกเว้นตอนอยู่ใต้ร่าง และตอนอยู่ด้านบน ตอนนั้นแหละ ว่าง่ายขึ้นมาราวกับเป็นคนละคน
“ก็รู้ว่ามีคนมองเยอะ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ก็ไม่รู้ เป็นนายแบบหรือไง คนมองแล้วดีใจเหรอ?”
แก้มหวานบ่นไปตามปะสา เดินไปนั่งเก้าอี้อีกฝั่ง มองผู้ชายอายุมากกว่าตัวเองเกือบสิบปีตาขวาง
ไม่รู้เฮียเสือแกแต่งตัวมาอวดใคร เสื้อแบรนด์เนมเอย กางเกง รองเท้า นาฬิกา รู้จ้าว่ารวย ทรงเสี่ยซะขนาดนี้ เห็นแล้วหงุดหงิด ยิ่งเวลาที่มีผู้หญิงเข้ามาทัก ยิ่งหงุดหงิดหนักจนอยากจะหยุมหัวตาแก่ ที่ทำหน้าระรื่นชอบใจ ลืมไปแล้วมั้งว่าตัวเองมีแฟนแล้ว
“ขี้บ่นจัง”
เสือเดินไปนั่งลงข้างๆเด็กขี้บ่น ยกมือขึ้นวางบนพนักเก้าอี้ด้านหลัง โอบกอดคนตัวเล็กไว้กรายๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเทียวมาหาแก้มหวานบ่อยๆ ทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ เพราะตัวเองก็มีงาน
แม้ธุรกิจขายรถจะค่อนข้างเฉื่อย ขายได้บางเดือนไม่ถึงสิบคัน แต่ดีที่รถราคาสูง กำไรก็เลยสูงไปด้วย ไม่ถือว่าขาดทุน เพราะทุนครึ่งหนึ่งเป็นของไอ้เพลิง เพื่อนที่เป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลจากอิตาลี
เพลิงเป็นลูกครึ่ง ไทย-อิตาลี มีแม่เป็นคนไทย การใช้ชีวิตส่วนใหญ่จึงอยู่ไทยมากกว่า รู้จักกันตอนสมัยเรียนบริหาร สนิทกันพอๆกับพี่ชายของตัวเองและไอ้ไมค์พี่ชายของมี่ ด้วยความที่ไอ้เพลิงมันถูกพ่อวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมาเฟียคุมบ่อน และบริษัทปล่อยเงินกู้ มันเลยเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากเหมือนพวกเขาสามคน
เสือทำงานกับเพลิงมาหลายปีแล้ว แรกๆก็ไม่เอาหรอก กลัวโดนจับ แต่ว่าธุรกิจบางอย่างของมันสามารถหลบเลี่ยงได้ เรียกว่าใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายน่าจะฟังดูดีกว่า เขาทำแบบนั้น เริ่มจากงานเล็กๆ จากนั้นค่อยเริ่มทำงานที่มันใหญ่ขึ้น ตอนนี้ก้าวเข้าไปทำธุรกิจกับมันเต็มตัว เป็นเจ้าพ่อเงินกู้ด้วยกันมาร่วมปีแล้ว
“เฮียเสือ หนูขอตังหน่อยสิ”
แก้มหวานเอ่ยปากขอเงิน คนที่นั่งนิ่งคิดอะไรอยู่อย่างเกรงใจ เพราะเขาเคยบอกว่าถ้าเดือดร้อนก็ขอได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ข้อแลกเปลี่ยนนั้นก็ไม่ใช่อะไรหรอก เรื่องอย่างว่านั่นแหละ เธอจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ นาทีนี้ไม่อยากทำก็ต้องทำแหละ
“เอาไปทำอะไร”
เสือวางเมนูอาหารลง มองคนข้างๆอย่างพิจารณา แก้มหวานไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ ใช้เท่าที่ให้ ถ้าเขาไม่ให้ก็ไม่เคยขอ เป็นผู้หญิงรักศักดิ์ศรีพอสมควร รักนวลสงวนตัวด้วย ตั้งแต่คืนนั้นเขาก็ไม่ได้แตะเธออีกเลย มีข้ออ้างสารพัด เขาก็ไม่ถนัดบังคับ เลยยอมๆไป แม้ร่างกายจะไม่อยากยอมก็เถอะ แต่แล้ววันนี้มันเกิดอะไร? ยัยคนหวงตัวถึงได้มาขอเงิน ทั้งที่รู้ดีว่าเขาพูดอะไรเป็นเงื่อนไขไว้
‘ถ้าขอเงินเมื่อไหร่ จะต้องเอาตัวมาแลก’
“ค่าเทอมค่ะ ยังไม่ได้จ่าย”
แก้มหวานกำมือแน่น เธอนึกว่าพ่อจ่ายค่าเทอมนี้ให้เธอแล้ว แต่เมื่อวานอาจารย์ประจำเอกแจ้งมาให้เธอไปชำระค่าเทอม ไม่อย่างนั้นอาจจะพลาดโอกาสด้านการเรียนหลายๆอย่าง เธอไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น เพราะการเรียน จะเป็นใบเบิกทางให้เธอเดินไปสู่ความสำเร็จ
“เท่าไหร่?”
“ประมาณห้าหมื่นนิดๆ เฮียเอามาห้าหมื่นก็พอ เดี๋ยวที่เหลือหนูออกเอง”
แก้มหวานก้มหน้าลงเมื่อพูดจบ ความจริงเธอด่าเพื่อนสมัยมัธยมไปเยอะเลยนะ เพื่อนเธอสมัยนั้นมีเสี่ยเลี้ยงกันทุกคน ทั้งที่อายุเพียงแค่นั้นเอง แล้วดูเธอตอนนี้ดิ แม่งต่างกันตรงไหนวะ!
ติ๊ง!
“หกหมื่น เอาไว้ซื้อของกินด้วย”
เสร็จธุระเสือก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ เลือกของกินต่อไม่สนใจคนข้างๆอีก แก้มหวานมองตัวเลขในบัญชีเงียบๆ มันมีด้วยเหรอ ผู้ชายที่ขอแล้วก็ให้ทันทีแบบไม่คิดอะไรเลย
“อย่าคิดมาก เสียไปเท่าไหร่ ก็เอาคืนเท่านั้น”
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนข้างๆ ทำใบหน้าสวยแดงก่ำขึ้นมา เงินตั้งห้าหมื่น ไม่อยากคิดถึงตอนเขาเอาคืนเลยแฮะ
เสือนั่งมองคนข้างๆผ่านทางหางตา เมื่ออาหารมาเสริฟก็ยังไม่เลิกมอง ยามที่ริมฝีปากอิ่มอ้าขึ้นงับของกินเข้าไป เขากลืนน้ำลายตามอย่างห้ามไม่ได้ เป็นเด็กที่กินได้เซ็กซี่เหลือเกิน จนอยากจะลากกลับไปคอนโดเสียตอนนี้เลย
“นี่…ขอบ้างสิ”
แก้มหวานขยับจานของกินตัวเองออกห่างอย่างรวดเร็ว ท่าทางเด็กหวงของๆเธอ ทำเอาริมฝีปากหนาขยับยิ้มไม่หยุด เงินไม่ได้จ่ายสักแดงยังกล้าหวง ใช้ไม่ได้เลยเด็กคนนี้ ไม่รู้จักวิธีเอาใจเขาเลยสักอย่าง
“เร็ว! ขอกิน!”
แก้มหวานมองจานข้าวที่ตัวเองตักนั่นตักนี่มาใส่อย่างชั่งใจ มันก็น่ารังเกียจไหม เธอกินไปแล้วอะ ส่วนของเขาก็มี ไม่เห็นเขาแตะอะไรเลย จะมาขอกินทำไมก็ไม่รู้
“หนูกินไปแล้ว มันน่ารังเกียจอะ เฮียก็กินของเฮียสิ”
“ฉันอยากกิน ‘ของเธอ’ ไง”
สรรพนามที่เปลี่ยนไป กับมุมปากที่ขยับยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาแก้มหวานใจสั่น คำว่าอยากกินของเธอ ไม่รู้สื่อความหมายไปในทางที่เธอเข้าใจหรือเปล่า แต่เสือแก่ลามกคนนี้ คงไม่ได้อยากกินอาหารหรอก เขาคงอยากกินเธอ ดูจากสายตาก็รู้
ครืด!
“อ๊ะ หนูให้หมดเลย”
“ฮ่าๆ”
เสือหัวเราะอย่างชอบใจ ตักข้าวในจานใส่ปาก มั่นใจว่าเธอรู้ ที่เขาพูดนั้นหมายถึงอะไร ไม่ได้โกรธที่เธอบ่ายเบี่ยง ออกจะชอบใจด้วยซ้ำที่ยัยตัวเล็กนี่รู้ทันความคิดตัวเอง
หลังจากกินข้าวเสร็จ คนทั้งสองก็มาเดินชื้อของต่อในห้างเดิม เสือตั้งใจพาแก้มหวานมาเลือกซื้อเสื้อผ้า แม้เธอเคยบอกแล้วว่าไม่จำเป็นและไม่อยากได้ แต่เขาคิดว่าเธอควรมี เสื้อผ้าเธอมีแค่ไม่กี่ชุด ใส่ซ้ำวนไปวนมา บอกตรงๆว่าเห็นแล้วเบื่อ มันไม่จรรโลงใจ
“ไปดูเสื้อผ้าร้านนี้กัน”
ลากคนแรงน้อยเข้าไปในร้านได้สำเร็จ หยิบชุดที่คิดว่าเหมาะกับรูปร่างของแก้มหวาน ขึ้นมาทาบทับลงไปบนตัวเธอ แก้มหวานส่ายหน้าปฏิเสธทุกครั้ง เมื่อชุดที่เฮียเสือเลือกให้เธอนั้น มีแต่ชุดแบบที่เธอเคยมี ชุดล่อเสือล่อจระเข้ทั้งหลายให้มารุมทึ้งร่างกายเธอ
“เรื่องมากจังวะ!”
โดนปฏิเสธทุกครั้งมันก็โมโห เขาเป็นมิตรกับผู้หญิงนะ ออกไปทางใจดีกับเพศหญิงโดยเฉพาะ ไม่เคยตะคอกเหมือนที่ทำกับแก้มหวานเลย แต่อยู่กับแก้มหวานแล้ว เธอทำให้เขาดูเป็นผู้ชายแย่ๆ
“ชุดมันโป๊”
แก้มหวานตอบเสียงเบาลงเพราะโดนดุ เมื่อเห็นว่าเธอหงอยลง ก็เริ่มรู้สึกตัวว่าโมโหมากเกินไป เดินไปเลือกชุดใหม่ คราวนี้เลือกเสื้อผ้าธรรมดา เสื้อยืดสีฟ้า ด้านหน้ามีลายดอกไม้เล็กๆ ดูน่ารัก
“อะ! พอใจไหม?”
“อื้อ น่ารักดี”
แก้วหวานรับเสื้อมาถือ เมื่อเห็นว่าเธอยิ้มชอบใจ ก็เดินไปหยิบมาอีกห้าตัว ยื่นให้คนตัวเล็กอีกครั้ง ครั้งนี้เธอรับมันมาถือด้วยความเต็มใจเหมือนตัวแรก
“ชอบแต่งตัวแนวนี้เหรอ? มันดูเด็กอะ”
เสือถามขณะเดินนำไปคิดเงิน แก้มหวานไม่กล้าบอกเหตุผล ว่าทำไมเธอถึงไม่กล้าแต่งตัวแบบที่เขาอยากให้แต่ง เธอกลัวว่าถ้าแต่งตัวแบบนั้น มันอาจจะไปกระตุ้นบางอย่างของพวกผู้ชาย เธออาจจะไม่ปลอดภัย และเจอกับเรื่องราวเหมือนในตอนนั้นอีก
“เฮียไม่ชอบเหรอ?”
“ก็เปล่า แค่เสียดาย”
เสียดายหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยเห็นแก้มหวานแต่งตัวโป๊เลย ชุดนักศึกษาของเธอ ก็เป็นแบบกระโปรงจับจีบยาวถึงหัวเข่า แค่อยากเห็นเธอตอนแต่งชุดแบบนั้นบ้าง แต่ถ้าเธอใส่แล้วมีคนมองด้วยสายตาลามเลีย ก็ไม่อยากให้ใส่