หนังสือพิมพ์ นิตยสารหรือรายการโทรทัศน์เคยสัมภาษณ์เขาหลายครั้ง แต่สิ่งที่คนอื่นรับรู้มันไม่ได้สักครึ่งจากชีวิตจริง เขาเป็นเด็กเร่ร่อนหลังจากพ่อตายแม่ก็ติดสุราอย่างหนักและเพิ่มดีกรีด้วยเฮโรอีน เมื่อข้าวของในบ้านถูกแปรเป็นเงินเพื่อซื้อยาเสพติดจนหมดเกลี้ยง แม่ก็ขายตัวเองเพื่อแลกยาเหล่านั้น ผู้ชายที่แม่พาเข้าบ้านเห็นเขาเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่งที่พร้อมจะลงมือทำร้ายได้ทุกเมื่อ เขาอายุเพียง 10 ขวบ ก็ตัดสินใจหนีออกมาใช้ชีวิตข้างถนน เขาเคยอยู่สถานสงเคราะห์และถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์แต่มันก็ไม่ได้ดีกว่าที่เคยเป็นอยู่นัก การออกมาใช้ชีวิตเร่รอนเป็นทางเลือกของเขาจนเมื่อได้พบหญิงชราที่อยู่ลำพังกับแมว 7-8 ตัว
มันเริ่มจากที่แมวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถมายังซอกตึกที่เขาซุกตัวหลบความหนาวที่ทำเอามือของเขาซีดเซียวและสั่นระริก หญิงชราตะโกนโหวกเหวกอย่างตกใจทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและคว้าตัวแมวสีเหลืองทองตัวนั้นไว้ได้
“โอ้ว!ขอบใจจริงๆ ถ้าไม่ได้เธอช่วยไว้ฉันต้องแย่แน่ๆ เจ้าตัวนี้มันถูกคนใจร้ายไล่ตีมาเป็นแผลที่ขาหลัง มันก็เลยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ง่ายๆ”
เด็กชายได้แต่มองไม่ได้สนใจเรื่องที่หญิงชราเล่าให้ฟังนัก แต่เผลอคิดไปว่าแมวตัวนี้ช่างเหมือนเขาแตกต่างที่เขาไม่มีใครเป็นห่วงเป็นใย
“ตายจริง! มือของเธอเย็นมากเลย มันเขียวไปหมดแล้วนี่!”
หญิงชราแปลกหน้าดึงมือของเขามาดูด้วยสีหน้าตกใจ นางจูงมือข้างหนึ่งของเด็กชายในขณะที่เด็กน้อยก็ยังอุ้มแมวไว้แนบอก เดินข้ามถนนมายังบ้านเก่าๆ หลังหนึ่งที่มีแมวอยู่หลายตัวนอนขดตัวกลมอยู่หน้าเตาผิง
“มานี่ก่อนซิ มานั่งข้างๆ กัน” หญิงชราหยิบเบาะอันหนึ่งมาวางให้เขานั่งหน้าเตาผิง “ฉันมีซุปฟักทองอยู่ในครัว มันคงพอช่วยให้เธออุ่นท้องขึ้นมาได้”
เด็กชายนั่งลงบนเบาะนุ่มความอบอุ่นจากเตาผิงทำให้เขาผ่อนคลายและเผลอคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน เขาวางแมวตัวนั้นไว้บนตักและมันไม่ขยับตัวไปไหน ไม่กี่นาทีต่อมาชามซุปฟักทองก็ถูกยื่นส่งให้ เขารับมากินอย่างหิวโหยจนเกือบสำลัก
หญิงชรายื่นมือไปจะลูบศีรษะ แต่เด็กชายผวาและเบี่ยงตัวหนี “เด็กน้อย...เธอคงลำบากมามากเลยทีเดียวนะ”
เด็กชายไม่ตอบหลบสายตาเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินซุปฟักทองในถ้วย ในใจของเขาคิดเพียงว่าจะได้รีบออกไปหาที่ซุกหัวนอนก่อนที่จะโดนใครแย่งอีก
“ฉันเองก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร แต่ถ้าเธอไม่มีที่ไป จะอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะ”
คราวนี้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นจ้องมอง แม่หญิงชราจะยิ้มให้แต่เขาก็ยังระแวงเธออยู่
“ฉันชื่อวิทอเรีย แบล็ค” หญิงชราแนะนำตัว “เธออยากให้ฉันเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ”
“การ์เร็ต” เขาเอ่ยห้วนๆ ออกจากบ้านมาหลายปีเขาไม่ได้ลืมนามสกุลตัวเองแต่ไม่อยากจดจำ อดีตของตัวเอง
“เอาล่ะการ์เร็ต คืนนี้เธอนอนกับลูกๆ ของฉันไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เด็กชายพยักหน้า เขากวาดสายตามองบ้านที่ค่อนข้างซอมซ่อและแมวอีกหลายตัว เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าจะคิดเรื่องอื่นจึงได้แต่ล้มตัวลงนอนหน้าเตาผิง เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจถูกเพราะหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็น ‘การ์เร็ต แบล็ค’ เด็กชายที่วิทอเรียคอยสอนให้อ่านหนังสือ และสอนให้เขากลายเป็นผู้เป็นคนอย่างที่เป็นทุกวันนี้
นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นชีวิตอของ ‘การ์เร็ต แบล็ค’ CEO หนุ่มที่เคยได้รับรางวัลหนุ่มโสดในฝันของสาวๆ จากแมกกาซีนยอดนิยม แต่เบื้องหลังรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์เปี่ยมด้วยเล่ห์กลที่เมื่อใดก็ตามเขาหมายปอง ‘เหยื่อ’ ชิ้นไหนแล้วก็ไม่มีทางพลาด
แล้วชายหนุ่มก็คิดถึงหญิงสาวแปลกหน้าที่เขายังไม่รู้จัก ไม่นานหรอก เขาจะทำให้เธอสยบต้องทำทุกอย่างที่เขาต้องการ เพราะเขาคือ การ์เร็ต แบล็ค อะไรที่อยากได้ก็ต้องได้!.
......
“น่ารักจังเลยคะการ์เร็ต”
ชายหนุ่มตื่นจากความทรงจำ ร่างเย้ายวนโผเข้ากอดเต็มแรงแต่เขาก็แข็งแกร่งพอที่จะรับร่างเธอไว้โดยไม่เซไปด้านหลัง หญิงสาววัยสามสิบสามยิ้มหวานแววตาไม่เร้นซ่อนความปรารถนา เรือนร่างในชุดเดรสสีเขียวมรกตรัดรูปเน้นเรือนร่างโดยคอเสื้อที่ปาดกว้างอวดอกคู่สวยชวนลิ้มลอง
“ผมไม่คิดว่านั่นเป็นคำชมสำหรับผู้ชายนะ” เขายิ้มที่มุมปากรัดร่างเนียมเข้ามาแนบกระชับกับร่างแกร่งของตน “ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะชอบห้องนี้”
“วิเศษค่ะ ฉันชอบมาก มาแต่ละครั้งคุณเลือกที่พักให้ฉันไม่ซ้ำกัน ทำให้ฉันประทับใจมาก” เอริก้าเงยหน้ามอง เธอเลียริมปากตัวเองเหมือนหิวกระหายอย่างไม่รู้ตัว “คุณอยากได้คำชมแบบไหนละคะ”
ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนเสือดำจ้องมองเหยื่อแสนโอชะ เหยื่อที่ติดกับดักสวาทมิอาจสลัดได้หลุดเลยสักราย
“คุณพร้อมที่จะเป็นรางวัลของผมหรือยังล่ะ” ไม่ต้องรอคำตอบจากอีกฝ่ายมือใหญ่เลื่อนลูบไล้แผ่นหลังแล้วรูดซิปลงแล้วปลดมันให้ลงไปกองอยู่กับพื้น
“คุณถือสิทธิ์อะไรมาถอดชุดของฉัน”
พูดทั้งที่น้ำเสียงแหบพร่าด้วยสัมผัสไอร้อนจากฝ่ามือของเขา เพียงชุดสีเขียวหลุดลงก็เปิดเปลือกทรวงอกที่ไร้สิ่งใดห่อหุ้ม มีเพียงกางเกงชั้นในลูกไม้สีดำอีกชิ้นที่ปกปิดเรือนร่างของหญิงสาวผมหยักศกสีทองสลวย
“ผมเป็นคนซื้อก็มีสิทธิ์ที่จะถอดมัน” เขาใช้สองมือประคองทรวงอกที่อวดความสวยงามตรงหน้า บีบเค้นจนหญิงสาวต้องซูดปากด้วยความเสียวซ่าน เข่าของเขาแทรกหว่างขาให้แยกออกเพียงบดเบียดกลีบดอกไม้ที่เริ่มผลิตน้ำหวานออกมา แค่เพียงเริ่มต้นเธอก็สั่นสะท้านไม่อาจต้านทานเขาได้อีก
“ผมหิวขอผมกินก่อนนะ” เขากระซิบที่ริมหูอย่างคนเอาแต่ใจ ดันร่างที่อ่อนละทวยไปที่โต๊ะอาหาร กดร่างเธอให้นอนหงายเพื่อที่ได้ก้มลงชิมเนื้อนุ่มตรงหน้าได้สะดวก
“โอ้ว! การ์เร็ต!”