ปุณณ์ติดกระดุมเสื้อทุกเม็ดที่หลุดลุ่ยอยู่ให้เรียบร้อยพร้อมกับส่องกระจกเพื่อตรวจสอบร่างกายตนเองจนแน่ใจแล้วว่าดูดี แล้วเดินออกจากห้องวีไอพีด้วยความรู้สึกที่ยังคั่งค้างอยู่ เขาติดใจในทุกรสสัมผัสของหญิงสาวเมื่อคืนเป็นอย่างมาก มากเสียจนอยากจะพบเธออีกครั้ง
แม่นางฟ้าคนนั้นของเขาไม่ใช่คนเร่าร้อนเจนโลกอย่างสาวที่เขาเคยเลี้ยงดู ทว่าทุกสัมผัสกลับติดตรึงอยู่ในห้วงคำนึง เขาชอบเนื้อนิ่มที่ได้ลูบไล้ กลิ่นหอมที่ติดอยู่บนปลายจมูกยังซ่านหวานไม่จางหาย ไม่มีคู่นอนคนไหนให้สัมผัสรักที่ตรึงใจเท่ากับเธอเลยสักคน
จากความคิดถึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดงุ่นง่าน แวบหนึ่งของความคิดปุณณ์กังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอเธออีกแล้ว จึงไม่รอช้ารีบตรงปรี่กลับไปที่โต๊ะของตนเองเมื่อคืนทันที ขณะนี้เป็นเวลาตีสี่ ภายในผับมีเพียงพนักงานทำความสะอาดเท่านั้นที่เดินกันขวักไขว่ ส่วนเหล่าลูกค้าและเจ้าเพื่อนตัวดีทั้งสองได้หายหัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มือหนากดที่หน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องหรูเพื่อติดต่อผู้ช่วยส่วนตัวกับบอดีการ์ดที่เขาให้รออยู่ข้างนอก “วาทิต”
(ครับเจ้านาย) ปลายสายตอบกลับมา
“ออกตามหาผู้หญิงให้ฉันหน่อย เธอมาที่ผับนี้แล้วมีอะไรกับฉัน ฉันอยากเจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ช่วยส่งคนตามหาให้ที”
ทุกคำที่ออกจากปากปุณณ์นั้นเป็นดั่งประกาศิต วาทิตรับคำอย่างแข็งขัน (ได้ครับ แล้วรูปพรรณสันฐาณของผู้หญิงคนนั้นล่ะครับ หน้าตาเธอเป็นยังไงครับเจ้านาย)
ปุณณ์นิ่งไปทันทีที่เจอคำถามนั้น พลันนึกขึ้นได้ว่าตนเองจดจำใบหน้าของหญิงสาวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะแสงไฟที่ส่องสลัวและความมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาไม่อาจจดจำสิ่งสำคัญอย่างใบหน้าของเธอได้เลย
“แค่นี้ก่อนนะ ฉันจะติดต่อไปอีกที” คนเป็นนายพูดจบก็กดตัดสาย ปล่อยให้วาทิตที่รอคำสั่งอยู่ต้องงุนงง
…
ห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยของ @Kro Pub มีขนาดกว้างขวาง จอภาพด้านในนั้นปรากฏทุกซอกทุกมุมของผับอย่างไม่มีจุดไหนเป็นจุดลับสายตา ปุณณ์ยืนกอดอกอยู่ข้างหลังชายคนหนึ่งที่บอกว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมกล้องวงจรปิด เพื่อรอให้เขากดเปิดภาพย้อนหลังให้ดูว่าตัวเองพาใครเข้าไปในห้อง
อย่างน้อย ๆ คุณภาพของกล้องที่คมชัดขนาดนี้จะต้องทำให้เขาได้เห็นใบหน้าหรือไม่ก็รูปร่างของแม่นางฟ้าที่ทิ้งเงินไว้ให้เขาสามพันอย่างแน่นอน
“เฮ้ยไอ้ปุณณ์ ถึงขั้นต้องเปิดกล้องดูเลยเหรอวะ” หัสดินทร์ที่ตามมาทีหลังเอ่ยขึ้นด้วยความสนใจ “คนนี้เด็ดขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก็ไม่เชิง ฉันแค่ถูกใจ” ผู้ร้ายปากแข็งตอบไม่ตรงกับใจ
“ถูกใจแบบไหนกันวะ ถึงขั้นมาขอเปิดกล้องเพื่อดูหน้าเขาเนี่ย แล้วเมื่อคืนเมาหนักเลยดิ จำอะไรได้บ้างล่ะ เผื่อฉันจะได้ช่วยด้วยอีกแรง”
ปุณณ์พยายามนึก แต่แล้วก็ส่ายหน้า สิ่งเดียวที่จำได้คือรสชาติอันหอมหวานไปทุกส่วนและเสียงครางกระเส่าที่ปลุกเร้าอารมณ์เขาได้อย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้มาก่อน ร่างกายของเธอรับกับเขาได้อย่างลงตัว
จริงสิ หอมหวาน
“…เหมือนจะเป็นดอกไม้อะไรสักอย่าง” ปุณณ์พึมพำออกมาอย่างลืมตัว
“ดอกไม้อะไร รอยสักเหรอ” หัสดินทร์ถามพลางขมวดคิ้ว
“กลิ่นน้ำหอมต่างหาก กลิ่นมะลิผสมกับกุหลาบ หอมมาก”
“ติดจมูกขนาดนั้นเชียว กลิ่นแบบน้ำหอมแบรนด์ไหนล่ะ”
“Chanel No.5 คิดว่าใช่แน่นอน ฉันสูดดมมาทั้งคืน” ปุณณ์ตอบอย่างมั่นใจ เขาไปชอปน้ำหอมที่ฝรั่งเศสทุกปีเพื่อซื้อให้น้องสาวที่ชอบสะสมน้ำหอม จึงจำกลิ่นนี้ได้
“มีเบาะแสแค่นี้จะหาเจอได้ยังไงวะ รอเดี๋ยวนะ” หัสดินทร์ว่าก่อนจะหันไปเร่งเร้าให้ลูกน้องของตนเองรีบเปิดไฟล์วิดีโอให้ไวกว่าเดิม “ไอ้เด็กใหม่นี่ก็ชักช้าจริง ๆ ไหน มันติดขัดอะไรตรงไหน”
เด็กหนุ่มดันแว่นของตัวเองขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ่อ…คือ…”
“อย่ามัวอ้ำอึ้งสิ ไม่เห็นหรือไงว่าเพื่อนฉันรีบ” หัสดินทร์มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจกับการทำงานอันเชื่องช้าของลูกน้องตนเท่าไรนัก
“คือ…ไฟล์วิดีโอของเมื่อคืนทั้งหมด…ถูกลบไปแล้วครับบอส” ลูกน้องตอบด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะรีบควักเอาธนบัตรปึกเบ้อเริ่มที่คำนวณด้วยตาแล้วก็รู้ว่าไม่ต่ำกว่าร้อยใบแน่นอนออกมาวาง
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะลบนะครับ! ผมนั่งทำงานอยู่ดี ๆ ก็มีใครไม่รู้ ท่าทางน่ากลัวมาก เดินเข้ามาขู่ให้ผมจัดการลบไฟล์วิดีโอจากกล้องวงจรปิดของคืนนี้ทั้งหมดออก พวกเขาบอกว่าถ้าผมทำตามคำสั่งจะให้เงินก้อนโต แต่ถ้าไม่เขาจะยิงผมแล้วลบเอง ผมกลัวก็เลยยอมลบแล้วรับเงินมาครับบอส! ผมไม่ได้เห็นแก่เงินจริง ๆ นะ!” เด็กแว่นคนนั้นให้การทุกอย่างหมดเปลือกด้วยสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้
“แล้วไม่กลัวฉันฆ่าแกบ้างหรือไงวะ ทำอะไรไม่ปรึกษาแบบนี้ เวรเอ๊ย” หัสดินทร์เอ็ดลูกน้องอย่างหัวเสียแล้วหันไปขอโทษเพื่อน “โทษทีนะเว้ยไอ้ปุณณ์ ไอ้หมอนี่มันเป็นเด็กใหม่ ปกติถ้ามีเรื่องข่มขู่ให้ลบไฟล์อะไรแบบนี้จะมีปุ่มให้กดสำรองไฟล์ แล้วก็เรียกขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ”
“ไม่เป็นไร” ปุณณ์ส่ายหัว สายตาว่างเปล่า “อย่างน้อยก็ทำให้ฉันได้รู้ว่าสาวคนนี้ที่ฉันอยากเจอคงจะมีฐานะพอตัว ถึงขั้นส่งคนมาข่มขู่ให้ลบไฟล์ได้ภายในเวลารวดเร็วแบบนี้ ดูท่าว่าคงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่ฉันคิดไว้”
เขาเบนสายตาจากหน้าจอที่ว่างเปล่ามองลงไปยังธนบัตรที่วางอยู่ปึกใหญ่แล้วแค่นยิ้มออกมาจนหัสดินทร์ต้องถามขึ้นด้วยความสงสัย
…