Ep.6 : ความสับสนของเด็ก ๆ

2298 Words
มาริสา Say :: "พี่เข้าไปส่งในบ้าน" ผู้ชายคนนั้น ที่อุ้มฉันอยู่พยายามจะเข้าไปส่งฉันในบ้าน แต่ฉันไม่อยากให้เขามาเหยียบในบ้านฉัน ฉันไม่อยากให้ม้ากับอี้รู้ว่าฉันไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีก แล้วฉันก็ไม่อยากยุ่งกับผู้ชายคนนี้อีก "กลับไปได้แล้ว อย่ามาเหยียบที่นี่อีก ฉันไม่มีทางยกลูกให้พวกคุณ แม้แต่จะให้ลูกเรียกว่าพ่อยังไม่ควรเลย" จะหาว่าฉันงี่เง่าก็ได้ แต่วันที่เขาทิ้งฉันไป เขาเองก็ไม่ได้มีเยื่อใยอะไร และเลือดเย็นกว่านี้มาก "แล้วเธอไปคบกับไอ้อชิ ลูกต้องเรียกมันว่าพ่อด้วยปะ!!!" "สิทธิ์ของฉัน ฉันจะให้ลูกเรียกอะไรใครก็ได้ คุณไม่มีสิทธิ์อะไร สิทธิ์เดียวที่คุณจะได้ คือ การรู้สึกผิดซะ ที่วันนั้นนั้นคุณทิ้งเด็กน่ารักแบบนี้ไป" พอพูดจบ ฉันก็จูงมือของขวัญเดินเข้าบ้านเลย โอ้ยยยยย เจ็บ ๆ เจ็บมาก แค่เหยียบแก้วทำไมมันถึงได้ทรมานแบบนี้ การกลับมาผิดเวลาและบาดเจ็บของฉันทำให้ อาม้ากับอาอี้วิ่งออกมาดูฉันด้วยความตกใจ "หม่าม้า ขาเดี้ยงค่ะอาม่า เจ็บจังเลย" ลูกสาวฉันกำลังทำท่าขนลุก เหมือนกับตัวเองเจ็บมาก ลูกจ๋าม้าที่เจ็บหนูไม่ได้เป็นอะไรเลย หนูเดินเล่นกินเค้ก กินขนม หนูอยู่อย่างมีสุขกินอิ่มจนพุงกาง แต่ม้านี่เลือดสาด ม้ามองหน้าฉัน แล้วมองหน้ารถคันหรูที่ตอนนี้มันอยู่ที่บริษัท "ใครมาส่ง" "ปะ....อื้ออออ" ฉันรีบเอามือปิดปากลูกเอาไวั "บอสค่ะ หนูเอาของขวัญไปทำการบ้านและเตรียมตัวนอนก่อนนะคะ กลับมาดึกเชียว" ฉันจูงมือของขวัญขึ้นเหล่าเต๊งทันที ฉันไม่อยากให้ม้ารู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น ยิ่งเขาจะมาเอาของขวัญไปจากเรายิ่งไม่อยากให้ม้ารู้เลย ฉันเพิ่งสังเกต ว่ากระเป๋าของลูกฉัน อยู่ที่บ้านหลังนั้น เพราะฉันคว้าแค่ตัวลูกมา!!! โอ้ยยยย นี่มันอะไรอีกเนี่ยยยยยย โอ้ยยยยย ย้ายโรงเรียนยังไงก็ต้องย้ายโรงเรียนเดี๋ยวนี้ ฉันมองไปที่ใบปลิว โรงเรียนเอกชน ที่เป็นโรงเรียนชื่อดัง และไม่ได้ดูอบอุ่นเหมือนที่เก่า เพราะเขาดูเคร่งครัดมาก แต่เขาดังมากเรื่องวิชาการ แถมค่าเทอมแพงหูฉี่ "ม้าจะทำทุกอย่าง ให้ของขวัญได้สิ่งที่ดีที่สุด" สายชล Say :: ผมกลับมาถึงบ้าน เจ้าอัณณ์ก็อาละวาดอีกแล้ว ผมไม่ตีลูกคงจะไม่ได้แล้วมั้ง!!!! อุตส่าห์ซื้อเค้กกลับมาฝาก ก็คงไม่ต้องกินมันแล้ว ผมเดินไปหาอัณณ์ตอนนี้เริ่มปาของใส่พี่เลี้ยงอีกแล้ว ยิ่งผมมาเขาก็ยิ่งปาของใส่พี่เลี้ยงหนักขึ้น จนผมต้องเดินไปจับมือเขาเอาไว้ "ทำแบบนี้อีกทำไม" "พ่อไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมายุ่งกับอัณณ์ เพี๊ยะ!!!!" ผมตีเข้าที่ก้นของอัณณ์อย่างแรงหลายที ยิ่งตีเขาก็ยิ่งร้อง ผมจะไม่ทนให้ลูกนิสัยเสียแบบนี้แล้ว แค่ทำงานผมก็เหนื่อยแล้วต้องมาเจอเขาเป็นแบบนี้อีก ผมต้องการ ให้เขาเป็นเด็กดี มันยากมากนักหรือไง!!!! "พ่อไม่รักอัณณ์ อัณณ์เกลียดพ่อ!!!!" ลูกชายผมวิ่งหนีผมออกจากห้องไปเลย พวกพี่เลี้ยงพยายามจะวิ่งตาม "ไม่ต้องตาม!!!!" ผมตะโกนลั่นเสียงดังด้วยความโมโห จนพี่เลี้ยงต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ทำตามที่ผมสั่งแต่โดยดี ลูกชายคนเดียว แต่ผมต้องใช้พี่เลี้ยง ถึง 3 คน นิสัยแบบนี้จะเป็นพี่คนได้ยังไง!!!!! จะดูแลน้องได้ยังไง!!!! อยู่ในที่ไร้คนตามใจ อยู่คนเดียวทบทวนความผิดซะ ผมเดินกลับมาที่ห้องทำงาน ก็เช็คเมลล์ของไอ้พล ที่ส่งยอดของเราในทริปเรือสำราญ ถึงได้รู้ว่าเรายอดนำห่างจาก Love Travel แค่นิดเดียว เซียงเซียง จะทำยังไง ฉันถึงจะซื้อตัวมาทำงานในบริษัทของฉันได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเปิดเข้ามาก่อนที่ผมจะอนุญาตซะอีก แม่ผมสินะ ผมมองคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบน้อยลายการ์ตูนสีชมพู "ตีลูกเหรอ” "อัณณ์เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงนะ" ผมเองไม่เคยคิดอยากจะตีลูกเลย เมื่อก่อนเขาน่ารักกว่านี้มาก ทำไมโตแล้วเป็นแบบนี้ไปได้ ผมควรจะทำยังไงดี "เจ้าอัณณ์ อาจจะต้องมีแม่นะ อาจจะต้องการคนสอน ให้ความรัก และอบรมสั่งสอน" แม่พูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมไม่อยากจะทำมันด้วย เพราะผมไม่อยากอยู่เพื่อรอครีมอีกแล้ว "ครีมแต่งงานไปแล้ว ผมเองก็อยากจะมูฟออนจากเธอสักที ผมไม่รู้ซ้ำว่าเธออยู่ไหน ผมจะไม่ตามหาเธออีกแล้ว" "หนูเซียงเซียงไง" "เอาให้เธอไม่เอาน้ำสาดเราเหมือนขี้หน้าบ้านก่อน แต่ว่า...." ผมนึกไปถึงเรื่องราววันนี้ที่เกิดขึ้น ตอนที่เราวิ่งวนอยู่ในตลาดเพื่อหาเค้กให้ลูก มันดู เหมือนกับว่าผมได้สัมผัสคำว่าครอบครัวอีกครั้ง ผู้หญิงอะไร เหยียบแก้วจนเลือดสาดไม่ร้องสักแอะ แถมด่าไม่หยุด "แม่ว่าเธอมีความเป็นแม่สูงนะ ตอนนี้ได้แต่รอผล DNA ว่าเด็กของขวัญนั่นลูกแกไหม แต่แม่ว่าใช่ DNA มันอยู่บนใบหน้าแล้ว" "แม่ไปเอาผล DNA มาจากไหน" "ฉันก็จ่ายตังจ้างครูพี่เลี้ยงไง คนที่จะหวีผมให้น้องของขวัญทุกวัน ฉันบอกไปว่า น้องของขวัญอาจจะเป็นหลานของฉันที่ผลัดพรากจากกันไป เขาเลยยอมช่วย แกควรจะชั่วแบบฉัน อย่าเป็นคนดีเหมือนพ่อแก เดี๋ยวหมาคาบไปกิน" แม่ผมตบไหล่ผมเบา ๆ ไม่ใช่ผมคิดไม่ถึงนะสิ่งที่แม่ทำ แต่ผมชั่วไม่พอที่จะไปยัดเงินเอาผมเด็กมา ที่ถ้าเขาหยิบมาผิดผลตรวจก็จะเคลื่อนทันที "ผมคิดว่าเธอใช่ลูกของผม แบบไม่ต้องตรวจ DNA เลย เซียงเซียงไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นหรอก ตอนที่เราคุยกัน เธอเป็นแค่เด็กเรียนคนหนึ่ง ที่ผมพาเธอไปเจอโลกใหม่ แล้วก็ทำลายมัน ช่างเถอะแม่ แม่ไปนอนเถอะ" เพราะถ้านับอายุ กับเรื่องตอนนั้น "นอนอะไร ฉันเอานี่มาให้ อันนี้คือกระเป๋าเรียนของน้องของขวัญ มีโอกาสให้แกได้ไปเจอลูกอีก 1 ครั้งแล้ว" แม่ส่งกระเป๋านักเรียนสีชมพูหวานมาให้ผม แล้วเดินออกจากห้องไป ให้ผมได้กลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง เฮ้อออออ ถ้าอัณณ์มีแม่ ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้ เซียงเซียงเองก็ดูเป็นคนที่เลี้ยงเด็กได้ดี เพราะเธอก็ดูเข้าใจลูก แถมตอนนี้น่ารักขึ้นเป็นกอง คนอะไรไม่รู้ ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก แม้จะปากจัดไปหน่อย หึ ไม่หน่อยอะ ปากยัยนี่ไม่ไหวเลย หลังจากที่อารมณ์เย็นแล้ว ผมก็เดินไปหาอัณณ์ในห้องที่เขาคิดว่าเป็นเซฟโซน ซึ่งตอนนี้เขาหลับที่ห้องของเล่นเรียบร้อยแล้ว ผมเปลี่ยนพี่เลี้ยงมาเป็นสิบคนแล้ว ไม่มีคนไหนทนอยู่กับเขาได้เลย แบบนี้เขาจะแย่เอานะ ผมอุ้มเด็กชายตัวน้อย กลับไปนอนที่ห้องของเขาเหมือนเดิม จัดการห่มผ้า ปิดไฟ ให้เขาได้นอนสบายที่สุด ก่อนที่จะออกจากห้องของเขามา "หรืออัณณ์จะต้องมีแม่จริง ๆ" เช้าวันต่อมา "เค้กนี้พ่อซื้อให้เมื่อคืน...." "ผมจะไปโรงเรียนแล้ว" อัณณ์หยิบกระเป๋านักเรียน แล้วเดินไปขึ้นรถทันที หลังจากกินข้าวเสร็จ ไม่ยอมกินเค้กของผมด้วยซ้ำ "งั้นพ่อไปส่ง" ผมขับรถไปส่งลูกชายที่โรงเรียน โดยไม่ลืมเอากระเป๋าของของขวัญและรองเท้าของเซียงเซียงที่ลืมไว้ไปด้วย อัณณ์ที่นั่งรถมาด้วยกันนั้น เงียบมาตลอดทางเลย ไม่พูดไม่จา แม้ผมจะชวนคุยอัณณ์ก็ไม่ยอมคุย แบบนี้ก็คงจะดีกว่าโวยวายล่ะนะ เมื่อมาถึงที่โรงเรียน ผมก็ไปส่งอัณณ์ที่ห้องเรียนก่อนจะถือกระเป๋าไปให้ของขวัญด้วย "น้องของขวัญวันนี้ยังมาไม่ถึงเลยค่ะ คุณครูรับฝากให้นะคะ" "ครับ งั้นแจ้งน้องที ว่าป๊าเอากระเป๋ามาให้" ผมส่งกระเป๋านักเรียนให้คุณครู แล้วไปทำงานต่อทันที @พักกลางวันที่โรงเรียน "นี่นะป๊าเอากระเป๋ามาให้ พาไปกิงเค้กด้วย" ของขวัญคุยจ้อกับกลุ่มเพื่อน ที่คนเป็นพ่อนั้นเอากระเป๋าที่ลืมเอาไว้มาให้อย่างอารมณ์ดี "อู้ววววว แล้วทำไมของขวัญไม่อยู่กับป๊าล่ะ" คำถามที่ทำเอาเด็กน้อยชะงัก เพราะตัวเองเข้าใจแค่ว่าป๊าของเธอทิ้งไป แต่ไม่เข้าใจว่าตอนนี้ป๊าเธอกลับมาแล้ว ทำไมเธอถึงยังไม่ได้อยู่กับคนเป็นพ่ออีก "ไม่รู้" ของขวัญไม่สามารถตอบคำถามของเพื่อน ๆ ได้ "ไม่รู้ได้ยังไง เราเองก็อยู่กับพ่อและแม่ครบเลย พ่อกับแม่รักเราม้ากมาก ของเธอไม่อยู่ด้วยกัน ไม่รักกันเหรอ" เด็กน้อยจินจิน ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยอย่างไร้เดียงสา แต่มันเหมือนตั้งคำถามให้ของขวัญเป็นอย่างมาก "ก็เราไม่รู้อะ!!! ป๊า รักเรา ม้ารักเรานะ!!!!" ของขวัญที่สับสนเกิดผลักเพื่อน ๆ แล้ววิ่งหนีออกไป ด้วยความสับสน จนไปเจอกับพี่อัณณ์ที่คอยปกป้องเธอมาตลอด แต่วันนี้พี่อัณณ์กลับผลักเธอออกไป จนล้มลงไปกับพื้น สร้างความตกใจ ให้เธอเป็นอย่างมาก พี่อัณณ์ไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ กลับเดินไปกับเพื่อน ๆ หัวเราะกันสนุกสนาน ทำให้ตัวเด็กหญิงที่ตอนนี้กำลังสับสน เริ่มที่จะเบะออกมา ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น "แง้!!!!~* ฮื่ออออ ทำไม ใคร ๆ ก็ทิ้งของขวัญ ฮื่ออออ" เสียงร้องไห้จ้า ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ทำให้อัณณ์ที่เดินผ่านไปแล้วชะงักเท้า แต่การที่พ่อไปสนใจแต่ของขวัญ ก็ทำให้อัณณ์เองไม่เข้าใจและไม่ชอบใจเหมือนกัน แต่เห็นน้องร้องไห้ ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารในใจ "ไปเล่นบอลกันเถอะ ไม่ต้องสนใจหรอก" "อื้อ" อัณณ์ตอบรับเพื่อน ๆ แต่ตอนนี้ของขวัญก็ยังร้องไห้จ้าไม่หยุด ทำให้อัณณ์ต้องเดินกลับเข้ามาหาน้อง "ทำไมพี่อัณณ์โกรธของขวัญ ทำไมพี่อัณณ์พี่อัณณ์ไม่รักของขวัญ ทำไมป๊ารักแต่พี่อัณณ์ ทำไมเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน" คำถามของของขวัญ ทำให้อัณณ์ได้แต่กลั้นน้ำตา เพราะเขารู้ตัวดีว่าพ่อไม่ได้รักเขาสักนิด เลยได้แต่กอดน้องเอาไว้ด้วยความไม่เข้าใจ แต่น้าเซียงเซียงเคยบอกไว้ว่าอัณณ์นั้น ต้องดูแลน้อง หลังเลิกเรียน "ฉันต้องการ ย้ายโรงเรียนลูก ด้วยเหตุผลถูกคุกคามค่ะ ผ.อ." มาริสามาคุยกับผู้อำนวยการของโรงเรียนลูกสาว ที่ลูกสาวของตัวเองถูกคุกคาม "ให้จบเทอมก่อนดีไหมคะ เรื่องใหญ่เลยหรือคะ ย้ายที่อยู่หรือคะ" "ค่ะ ฉันรู้สึกว่าลูกสาวไม่ปลอดภัย จากพ่อของเขาค่ะ" มาริสาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "น้องของขวัญโอเคไหมคะ ให้ทางเราถามเด็กก่อน การย้ายโรงเรียนกระทันหัน ส่งผลต่อเด็ก เธอจะเสียสังคมที่เธอเพิ่งจะสร้าง เด็กจะเข้ากับคนอื่นยาก น้องเพิ่งย้ายเข้ามาตอน อนุบาล 2 น้องจะต้องสร้างสังคมใหม่อีกกี่ปีคะ ถ้าเธอเข้ากับเพื่อนใหม่ไม่ได้" ผู้อำนวยการโรงเรียนพยายามพูดถึงข้อเสีย ทำให้มาริสาได้แต่ช่างใจ เพราะลูกสาวเธอดูมีความสุขกับการ เรียนที่นี่มาก ๆ "แต่..." "คิดทบทวนและคุยกับตัวเด็กก่อนนะคะ ถ้าน้องโอเค ผ.อ. จะให้ย้ายโรงเรียนแบบไม่มีข้อแม้พร้อมทำใบส่งตัวให้ แต่อยากให้คิดดี ๆนะคะ" หลังจากการถูกปฏิเสธของผู้อำนวยการ ทำให้มาริสาได้แต่คิดตาม แล้วเดินออกมาจากห้องอย่างคนที่หมดหวัง ระหว่างทางที่กำลังเดินจากตึกธุรการ กลับเห็นลูกสาวของตัวเองเล่นกับอัณณ์อย่างสนุกสนาน ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ความสุขของลูก กับความสบายใจของเธอ อันไหนมันสำคัญกว่ากันนะ อีกด้าน สายสนทนา [ชล ป้าทำตามที่ชลขอแล้วนะ ไม่รู้คุณแม่ของน้องของขวัญจะกลับไปคิดนานแค่ไหน ตอนนี้เพิ่งจะออกจากห้องไป] "ขอบคุณนะครับป้า" [ไม่เป็นไร บอกแม่มานั่งคุยเล่นกับป้าบ้าง] "ครับ ผมจะบอกให้" จบการสนทนา "เธอไม่มีทางหนีจากฉันได้หรอกเซียงเซียง" สายชลที่กำลังจะไปรับลูกคลี่ยิ้มออกมา เพราะตอนนี้เขาจะได้ไปเจอเธอแน่ ๆ "ชั่วครับ" "หึ คนดี หมาจะคาบไปแดกรู้ไหม แกบอกฉันชั่ว แกไปเจอน้อง ๆ ฉัน ฉันนี่ดูเป็นคนดีเลยจะบอกให้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD