ณ กองถ่ายละคร
“ชื่อเจษฎางั้นเหรอ”
เสียงหวานพึมพำชื่อของชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่ใต้ภาพถ่ายบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ก่อนที่คิ้วโค้งงามจะเลิกขึ้นสูง เมื่อพบว่าเป็นคนที่เธอเคยพบเจอเมื่อเดือนก่อนในต่างแดน
‘อะไรจะบังเอิญขนาดนี้’
สาวน้อยเจ้าของใบหน้างดงามราวเทพธิดาในนวนิยายไทย หัวใจสั่นไหวขณะนึกถึงเทพบุตรคนดังกล่าว จู่ๆก็เกิดอยากทราบรายละเอียดของงานเพิ่มเติม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยให้ความสนใจกับงานไหนเป็นพิเศษ เพราะมีผู้จัดการหนุ่มล่ำบึกที่มีนามว่าคเชนทร์คอยดูแลให้อยู่แล้ว
พรชดา ดวงดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิงไทยที่กำลังเป็นที่โด่งดัง แถมยังเป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคใหม่ในตอนนี้ เพราะนอกจากเธอจะมีรูปร่างหน้าตาที่สวยโดดเด่นสะดุดตาใครๆแล้ว ยังมีความสามารถรอบด้านทั้ง ร้อง เล่น เต้น รำ ฝีมือการแสดงก็ไม่เป็นรองใคร เรียกได้ว่าเธอนั้นเข้ามาวงการบันเทิงมาได้ด้วยความสามารถล้วนๆ ไม่มีการใช้เส้นสายหรืออำนาจเงินจากตระกูลที่แสนจะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองไทยแต่อย่างใด
ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปตามตัวอักษรอย่างช้าๆ เพื่ออ่านคำบรรยายใต้ภาพเพิ่มเติม
‘เจษ หรือ เจษฎา นายแพทย์หนุ่มหล่อไฟแรง เจ้าของโรงพยาบาลเจนาไทน์ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ปัจจุบันนอกจากจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการผ่าตัดหัวใจแล้ว ยังนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ของโรงพยาบาลเจนาไทน์อีกด้วย เรียกได้ว่า หล่อ รวย เก่ง จนสาวๆทั่วประเทศยกให้เป็นสามีแห่งชาติไปเป็นที่เรียบร้อย’
“ให้ตายสิ! ฉันละอยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนให้สามคำนี้กับเขา คนอย่างคุณหมอเจษฎา แค่ หล่อ รวย เก่ง ไม่พอ ต้องแถมคำว่ามีเสน่ห์ดึงดูดขั้นรุนแรงให้อีกคำถึงจะสมบูรณ์”
พรชดาถือวิสาสะแต่งเติมส่วนที่ยังรู้สึกว่าเนื้อข่าวยังมีความบกพร่องในใจ พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนไปถ่ายทำละครที่ต่างแดนและได้บังเอิญเจอกับนายแพทย์หนุ่มคนดังกล่าว
ตอนนั้นเธอสะดุดขาตัวเองล้มจนได้รับบาดเจ็บแต่แล้วก็มีหนุ่มหล่อใจดีมาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมเรียกรถโรงพยาบาลให้ ตั้งแต่วันนั้นกระทั่งมาถึงวันนี้เวลาก็ได้ล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว แต่ความประทับใจแรกพบที่มียังคงตราตรึงแน่นอยู่ในใจไม่เลือนหายไปไหน
“แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าพรหมลิขิต ใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อทั้งพระเอกตัวท๊อปของวงการบันเทิง ทั้งนายแบบหล่อล่ำมาก็มากมาย แต่กลับไม่เคยมีใครทำให้ใจสั่นได้ กระทั่งได้พบกับคุณหมอ”
พรชดาระบายยิ้มอ่อน ดวงตาคู่สวยจับจ้องอยู่ที่ภาพใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรนิ่ง แม้จะเห็นผ่านหน้าจอโทรศัพท์แต่เสน่ห์ของเขาก็รุนแรงมากพอที่จะทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอสั่นไหวได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเวลาที่ได้เจอตัวจริงของเขา ว่าหัวใจของเธอจะเต้นแรงขนาดไหน
หญิงสาวยังคงจำนัยน์ตาหวานซ่อนคมผ่านกรอบแว่นนั้นได้ดี เพราะความรีบร้อนไปกองถ่ายหลังจากหนีผู้จัดการมาแอบช้อปจนเพลินทำให้ต้องสะดุดล้มจนหน้าขมำ ยังดีที่ถลาเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแรงของเขาโดยไม่ตั้งใจเลยทำให้ร่างบางระหงไม่ล้มลงไปกองกับพื้น
วินาทีแรกที่ได้สัมผัสอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวบวกกับกลิ่นกายของบุรุษเพศที่หอมดึงดูดอย่างเป็นธรรมชาติ หัวใจดวงน้อยก็สั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การได้สบตากับเขาตอนนั้น พรชดารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน!
ราวกับว่าที่ตรงนั้นมีแค่เธอและเขา เธอรู้สึกล่องลอยเหมือนคนละเมอขณะที่เขาพาเธอมานั่งลงบนเก้าอี้พร้อมจัดการอะไรบางอย่างกับเท้าของเธอด้วยเวลาที่ไม่กี่นาที จากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มคุยโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะหันมาบอกอะไรบางอย่างกับเธอสองสามคำแล้วเดินจากไป
ร่างสูงโปร่งที่เดินข้ามถนนจากไปยังคงตราตรึงและไม่เคยลบเลือนไปจากหัวใจดวงน้อยไปได้
“คุณหมอจะจำชดาได้หรือเปล่านะ”
พรชดาพึมพำกับภาพถ่ายของนายแพทย์หนุ่มด้วยความรู้สึกคลั่งไคล้ในตัวอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็แอบรู้สึกใจหายลึกๆเมื่อคิดไปว่าหากได้เจอกันอีกครั้งจะไม่ได้รับการทักทายจากเขา เนื่องจากช่วงเวลาสั้นๆนั้นเขาอาจจะจำเธอไม่ได้นั่นเอง
“ถ้าความรักในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ ชดาก็ขอเก็บคุณหมอไปเพ้อต่อในฝันแล้วกันนะคะ”
ความเป็นจริงกับความฝันมันต่างกัน หากการหาความสุขใส่ใจในแบบฉบับของเธอไม่เดือดร้อนใครก็คงไม่ผิด พรชดาได้แต่บอกกับตัวเองในใจ
……………………………………