“ทำไมวันนี้มึงมาเร็ววะ” เสียงทุ้มของไดมอนด์เอ่ยถามลีที่นั่งอยู่เก้าอี้บริเวณหน้าร้านสัก ด้วยใบหน้าเรียบเฉยกำลังนั่งสูบบุหรี่อย่างใจเย็น
“วันนี้กูว่าง”
“อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะเปิดเทอมแล้ว ช่วงนี้มึงต้องเข้าไปประชุมสโมสรด้วยนะไอ้ลี” คำเตือนของไดมอนด์ที่แฝงไปด้วยคำสั่งเอ่ยบอกกับเพื่อนรักที่มักจะชอบโดดประชุมอยู่เรื่อย แม้ว่าตัวเองจะเป็นถึงเฮดว๊ากและสโมสรของคณะก็ตาม
“กูรู้แล้ว แล้วเมียมึงล่ะ”
“แวะซื้อข้าวร้านข้าง ๆ เดี๋ยวก็มา”
“มีเมียชีวิตเป็นไงบ้างวะ” คำถามของลี ทำให้ไดมอนด์ถึงกับหันไปมองหน้าเพื่อนจนคอแทบเคล็ด ช่วงนี้ดูเหมือนลีจะถามเรื่องนี้บ่อยจนเขาเริ่มสงสัย
“มึงจะมีเมีย”
“กูถาม มีเมียแล้วดีกว่าโสดยังไง”
“ก็ดีกว่าอยู่แล้ว ชีวิตวุ่นวาย ไม่เหงา มีเป้าหมายชีวิตด้วยว่ะ” รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าหล่อของไดมอนด์ มือหนาตบที่ไหล่แกร่งของลีสองครั้ง ก่อนจะยันตัวลุกจากเก้าอี้เข้าไปภายในร้านปล่อยให้เพื่อนรักนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
“แกจะทำหน้าแบบนี้อีกนานแค่ไหน รอยสักก็เล็กนิดเดียว” ใบหน้าจิ้มลิ้มบึ้งตึงตั้งแต่เดินเข้ามาภายในรั้วมหาลัย เนื่องจากอาการไม่พอใจเพื่อนที่ปล่อยให้เธอไปตลาดคนเดียวในวันนั้น
“แกลองเป็นฉันไหม แกจะรู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน”
“ฉันก็ขอโทษแกไปครั้งที่ร้อยแล้ว อีกอย่างลายสักก็ยังสวยแปลกตา แถมแกยังได้สักฟรีอีกต่างหาก” ร่างถึกพยายามโน้มน้าวร่างเล็กให้กลับมาอารมณ์ดี เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้นโซลด่าแคนดี้ไม่เว้นแต่ละวัน
“ฉันเห็นด้วยกับแคนดี้” เสียงแหลมของจินนี่เอ่ยสมทบ เธอมองว่าเป็นลายสักที่สวยแถมยังคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“ฉันว่าลายสักนี้คุ้น ๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นมาจากที่ไหน”
“แคนดี้ ฉันก็คิดแบบแก” ใบหน้าครุ่นคิดของเพื่อนรักทั้งสอง ดวงตาของพวกเธอยังคงจ้องมองไปยังข้อแขนของเพื่อนรักและพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก
“เลิกคิดได้แล้ว” เมื่อเห็นเพื่อนรักทั้งสองนิ่งเงียบไป ร่างเล็กจึงรีบพูดแทรกขึ้น เพื่อดังความคิดของทั้งสอง เพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวคความยืดให้มากความ
“ว่าแต่ช่างสักหล่อไหม” ใบหน้าอยากรู้อยากเห็นของแคนดี้ที่กำลังยื่นหน้าเข้าไปรอคำตอบจากโซลด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“หน้าก็งั้น ๆ หาได้ทั่วไป” ใบหน้าจิ้มลิ้มเอ่ยบอกกับเพื่อนรักทั้งสองท่าทางสบาย เธอกัดขนมปังจนแก้มป่องเป็นซาลาเปา
“ก็คิดว่าจะเหมือนร้านที่มีคนรีวิว ว่าช่างสักหล่อ”
“คนละร้านชัวร์” ใบหน้าที่ดูมั่นอกมั่นใจของโซลตอบเพื่อนรัก ก่อนที่เธอจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ที่หน้าลานคณะ
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก นักศึกษาทุกคนต่างทะยอยกันเข้ามาภายในรั้วมหาลัยไม่ขาดสายรวมไปถึงกลุ่มของโซลเช่นกัน
“คณะแพทย์ศาสตร์ไปทางไหนวะ” เสียงหวานของโซลเอ่ยถามเพื่อนรักทั้งสอง ดวงตากลมโตกวาดมองไปยังบริเวณโดยรอบ
“ป่วยเป็นมะเร็งรึไง ถึงถามหาหมอ”
“นี่แช่ง!!”
“เปล่า”
“ก็จู่ ๆ แกก็ถามหาคณะแพทย์”
“ฉันก็จะหาเป้าหมายไง ฉันอยากมีแฟนเป็นหมอ ฉันชอบผู้ชายอ่อนโยน สะอาดสะอ้าน” ใบหน้าเพ้อฝันของโซลเปล่งประโยคที่ตัวเองคิดออกมาจนหมด
“หมอผีไปก่อนไหม”
“แกคงอยากมีเรื่องกับฉันจริง ๆ สินะ” ดวงตากลมโตปรายตามองร่างถึกของเพื่อนรัก ใบหน้าที่ดูขัดอารมณ์เมื่อถูกเพื่อนรักขัดใจ
“เออ ๆ เดี๋ยวเราก็ได้รับน้องรวม ยังไงก็ต้องเจอ”
“อดใจรอไม่ไหวแล้ว”
“แรดนะแก”
“ธรรมดา” ไหล่บางยกขึ้นข้างเดียว ใบหน้าจิ้มลิ้มเบะปากใส่เพื่อนรักที่พูดกระแนะกระแหนอยู่ข้างหู
“ชอบผู้ชายอบอุ่นไม่เปลี่ยนเลยนะ” จินนี่ที่รู้สเปคผู้ชายของเพื่อนรักถึงกับเอ่ยแซว เพราะสเปคของโซลไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
“ก็แน่นอน ฉันไม่เอาหรอกนะ ผู้ชายดิบ เถื่อน” จู่ ๆ ภาพของช่างสักคนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวของเธอ ผู้ชายที่ดิบเถื่อน คนนั้นไม่ใช่สเปคของเธอแน่นอน ใบหน้าจิ้มลิ้มทำท่าทางขนลุกซู่เพียงแค่นึกถึงหน้าเขา
“คิดอะไรอยู่ย่ะ”ร่างเล็กเหมือนหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนรักที่เอ่ยถามขึ้นเสียงดัง
“เปล่าสักหน่อย”
“ก็คิดว่านึกถึงหน้าผู้ชายในฝันอยู่”
“ยังไม่มีค่ะ” น้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจของโซลเอ่ยบอกกับเพื่อนรัก เพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงโสดที่มีคนคุยเยอะแยะ
“แล้วคนคุยอะ”
“ไม่นับ” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าจิ้มลิ้ม เรื่องความฮอตของโซลทุกคนทราบดีและเพื่อนของเธอก็ไม่เคยขัดศรัทธาที่จะคุยด้วย
“ค่ะ ของฉันต้องวิศวะ”
“เถื่อนไป ไม่ใช่ทางของฉันค่ะ”
“งั้นฉันกับแคนดี้คงต้องจับมือกันแล้วแหละ” แคนดี้กับจินนี่จับมือกันด้วยใบหน้าเพ้อฝันเหมือนตัวเองกำลังได้รับตำแหน่งอะไรบางอย่างด้วยความชื่นมื่น
“เถื่อนไป ไม่ใช่ทางของโซลค่ะ”
“ปีนี้สาวสวยเยอะโคตร” เสียงทุ้มของมาวินพูดดังขึ้นใกล้อาคารวิศวกรรมที่ตอนนี้มีเหลานักศึกษาอยู่ออกันเต็มไปหมด
“แต่กูได้ข่าวว่า คณะบริหารมีคนสวยเยอะมาก”
“งั้นว่าง ๆ เราไปหาไอ้ไดมอนด์กัน” เสียงทุ้มของมาวินและมาร์ชดังขึ้น ข้างหูของลีที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่เงียบ ๆ ไร้ความสนใจสาว ๆ ที่เพื่อนรักพูดถึง
“ไอ้ลี มึงไม่สนใจสาว ๆ เหมือนพวกกูบ้างเหรอ”
“ไร้สาระ”
“ก็ดีเหมือนกัน ตัดคู่แข่งไปคน กูได้ข่าวว่ามีน้องคนหนึ่งคือแบบ”
“ยังไงวะ?”
“ตัวเล็ก เซ็กซี่ ผมสั้น หน้าจิ้มลิ้ม คือสวยมาก” น้ำเสียงตื่นเต้นของมาวินเอ่ยคุยกับมาร์ช ก่อนที่ชายหนุ่มจะยื่นมือถือให้กับเพื่อนดูภาพที่เขาเห็นในเพจมหาลัย
“มองไม่เบื่อเลยว่ะ”
“คณะไหนวะ?”
“น้องโซล บริหาร”
“ไอ้ลี มึงดูคนสวยเร็ว กูต้องรีบไปคณะบริหารแล้ว เดี๋ยวมีคนคาบไปแดกก่อน” มือถือเครื่องหรูของมาวินถูกยื่นไปตรงหน้าของลีแทรกเข้ากลางระหว่างสายตาที่จับจ้องมือถือของตัวเองอยู่
“สวยล่ะสิ” เพียงแค่เห็นรูปของหญิงสาว ร่างสูงถึงกับนิ่งเงียบไป ใบหน้าเรียบเฉยไม่สามารถคาดเดาความคิดของชายหนุ่มได้ เขานั่งนิ่งก่อนจะละความสนใจและผลักมือถือของมาวินให้ห่างออกจากตัวและหันกลับไปเล่นเกมต่อ
“สรุปไม่สวยเหรอวะ?”
“ผู้หญิงคนนี้มีเจ้าของแล้ว”