หลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เฮียมีเคสผ่าตัดฉันจะเป็นคนแวะไปหาเฮียแล้วก็นั่งทานข้าวกับเฮียในห้องพักแพทย์ เป็นแบบนี้มาหนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้มหาลัยฉันปิด ฉันจึงว่างเท่ากับว่าตอนนี้ฉันคบกับเฮียมาสองเดือนแล้ว ณ ตอนนี้ พูดได้ว่าฉันมีความสุขที่สุดเพราะน้องชายของฉันเริ่มหายเป็นปกติ และฉันไม่จำเป็นต้องขายตัวให้คนอื่นอีกต่อไป ไหนจะมีแฟนที่น่ารักอย่างเฮียคมอีก
ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงอย่างฉันจะได้รู้จักความรักที่ดีแบบนี้ ขอให้ความสุขอยู่กับผู้หญิงอย่างฉันนาน ๆ เถอะ
ตอนนี้ฉันกำลังรอลิฟต์หลังจากมานั่งทานข้าวกับเฮีย วันนี้เฮียมีผ่าตัดให้คนไข้เหมือนเดิม ฉันจึงเลือกที่จะกลับมารอที่คอนโดเพราะเฮียผ่าตัดแต่ละครั้งก็ประมาณ 5-6 ชั่วโมง แล้วแต่เคสของคนไข้
เมื่อลงมาถึงชั้นล่างของโรงพยาบาลเกิดเสียงดังปึก! แรงกระแทกค่อนข้างแรงทำให้ฉันล้มเลยทีเดียว ฉันชนคนอื่นเข้าให้ ซุ่มซ่ามจริง
“ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ” รีบเอ่ยคำขอโทษพลางช่วยเขาเก็บเอกสารที่ตก ของสำคัญหรือเปล่านะเป็นฉันที่ผิด ฉันเดินไม่ดูทางเอง
“ไม่เป็นระ...” คำพูดขาดหายฉันจึงเงยหน้ามองว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า ทว่าผู้ชายคนนี้กลับพยุงฉันให้ลุกยืนขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันตกใจอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ตกใจเท่าคนตรงหน้าโผเข้ามากอด
“คิดถึงตัวเล็กนะครับในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีก” ตัวเล็ก สรรพนามนี้มีคนเดียวเท่านั้นที่เรียกฉัน ฉันควรรู้สึกยังไงดีล่ะ นี่ผัวคนแรกของฉันเลยนะ
“.....”
“อย่าบอกว่าจำป๋าพงษ์คนนี้ไม่ได้นะครับ” ป๋าพงษ์จูบลงที่หน้าผาก ทำให้ฉันยิ่งทำอะไรไม่ถูกมากกว่าเดิม ไหนจะเสียงรอบ ๆ ข้างของเหล่าพยาบาลและสายตาของบรรดาคนไข้ที่มองมาทางฉันกับป๋าพงษ์อีก
“เฮ้ยเเก แฟนหมอพงษ์เหรอ ฉันไม่เคยเห็นหมอแสดงอาการแบบนี้เลยนะ” เสียงพยาบาลคนหนึ่งที่กำลังสะกิดเพื่อนพยาบาลอีกคนหนึ่งเพื่อสนทนา
“หืม อยากเป็นคนนั้นในอ้อมกอดหมอ”
“หืม...ฟินแทนอะ” เสียงผู้คนมากมายกำลังพูดถึงหมอพงษ์ อย่าบอกนะว่าป๋าก็เป็นหมออะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เท่ากับชีวิตอีโมได้กินคุณหมอถึงสองคนเลยนะ ในความโชคร้ายก็ถือว่ามีความโชคดีซ่อนอยู่
“ยังจะยืนงงอีกนานไหมครับตัวเล็ก” ป๋าพงษ์สะกิดที่แก้ม ฉันจึงละสายตาจากรอบ ๆ ข้างแล้วมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผ่านไปครึ่งปีกว่าที่ไม่ได้เจอกันป๋าพงษ์ยังดูดีเหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะ” ทำตัวไม่ถูก ฉันก็เลยต้องทักป๋าด้วยประโยคนี้
ป๋าพงษ์ส่งรอยยิ้มมาให้ฉันอีกแล้ว
อยากบอกป๋าว่าอย่ายิ้มแบบนี้ได้ไหม ใจฉันมันจะละลาย
“เหมือนครั้งแรกที่เรารู้จักกันเลยนะตัวเล็ก”
“...” ฉันได้แต่ส่งสายตางุนงงปะปนกับอาการเขินจู่ ๆ มันก็เกิดขึ้นเพราะคนตรงหน้าหล่อไม่บันยะบันยัง
“น่ารักเหมือนเดิมเลยนะ ว่างไหมไปคุยกันหน่อยได้หรือเปล่า...คิดถึง” คำว่าคิดถึงป๋าพงษ์กระซิบที่ข้างใบหูของฉันอย่างแผ่วเบา
ให้ตายเถอะ! ขนลุกไปทั้งตัวเลย
“ว่างค่ะ”
“งั้นปะ” ป๋าพงษ์ยื่นมือมาเพื่อให้ฉันจับมือเขา เหมือนครั้งที่เราไปอยู่ที่เกาะด้วยกัน ฉันจึงส่งรอยยิ้มและยื่นมือไปจับมือของป๋าพงษ์
“ฝากเก็บของไปไว้ที่ห้องพักหมอด้วยนะครับพยาบาล”
“ค่ะ” เสียงพยาบาลขานรับพร้อมส่งรอยยิ้มให้ป๋าพงษ์
“น้องชายเป็นยังไงบ้าง” ป๋าพงษ์เอ่ยถามระหว่างที่เราทั้งสองนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ฉันถามเขาว่าเขาเป็นหมอเหรอ คำตอบที่ได้ก็คือ ใช่ เขาเป็นหมอ
“หลังจากวันนั้นที่โมแยกกับป๋า ผ่านไปไม่นานโมก็กลับไปทำอาชีพนั้นอีกค่ะ น้องของโมอาการทรุดลงต้องผ่าตัดอีกครั้งและยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคนที่ซ้อนท้ายรถของน้องชายโมด้วย” ฉันเล่าให้ป๋าฟังเพราะความรู้สึกมันบอกว่าฉันไว้ใจป๋าได้ เขาดูเป็นคนอบอุ่น
“แล้วตอนนี้ล่ะ ตัวเล็กเลิกหรือยัง ถ้ายังป๋าจะช่วยตัวเล็กเอง” ทำไมต้องใจดีกับฉันด้วยนะ ทั้งที่มันควรจะจบไปตั้งนาน ไม่คิดเลยว่าเขาจะเอ่ยทักและแสดงออกว่ารู้จักคนอย่างฉัน
“เฮ้อ...ตอนนี้โมมีสัญญากับเสี่ยคนหนึ่งค่ะ เสี่ยคนนั้นจ่ายให้โมห้าล้านเพื่อให้โมอยู่กับเขาคนเดียวเป็นเวลาสามเดือน” ในเมื่อเปิดใจพูดแล้วก็ต้องเล่าความจริงทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องโกหกครึ่ง ๆ กลาง ๆ
“หมดสัญญาแล้ว เรามาคบกันไหม” เฮ้ย นี่อีโมต้องฝันอยู่แน่ ๆ ทำไมป๋าต้องมาขอคบฉันล่ะ ฉันมันก็แค่ผู้หญิงขายตัวนะ ไม่มีอะไรคู่ควรกับป๋าเลยสักนิด
“ป๋าคะ...คือว่าตอนนี้โมคบกับคนนั้นด้วยค่ะ เขาบอกว่าเขารู้สึกดีกับโม เราเลยลองคบกันค่ะ” เรื่องนี้ก็ไม่ควรโกหก ไม่ควรจะโลภ ถึงฉันจะทำงานอย่างว่าแต่จะไม่โลภเด็ดขาด
“ว้า อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย” ป๋าพงษ์ส่งรอยยิ้มมาให้ฉัน ทว่าแววตาของป๋าดูเศร้าจังหรือฉันจะคิดมากไปเอง คงคิดมากไปเองแหละมั้ง คนรวยแบบป๋าจะมาเศร้าเพราะฉันได้ไง
“....”
“รู้ไหม...วันนั้นที่เราจากกันตัวเล็กเอาหัวใจของป๋าไปด้วยนะ ไม่น่าเชื่อเลยที่คนอย่างป๋าพงษ์จะหลงรักและเพ้อถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าทุกวัน ป๋าคิดเอาไว้นะว่าถ้าได้เจอตัวเล็กอีก ป๋าจะเอาหัวใจของตัวเล็กมาให้ได้ แต่แล้วก็...”
หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากร่างกาย ผู้ชายที่เป็นผัวคนแรกเขากำลังสารภาพรักกับฉัน ผู้หญิงขายตัวที่ไม่มีอะไรดีเลย
“ป๋าคะ ป๋าก็รู้ว่าโมมันเน่าเสียขนาดไหน ป๋ามีอาชีพ มีหน้าที่การงานที่ดี ป๋าอย่ามาสนใจผู้หญิงคนนี้เลยค่ะ” ฉันพูดพร้อมน้ำตาที่มันเอ่อคลอ ไม่รู้ว่าป๋าพูดจริงไหม ทว่าฉันสมเพชชีวิตของตัวเองไม่คิดเลยว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้ได้ แต่มันก็เป็นอาชีพที่ทำให้ครอบครัวฉันสบาย เป็นอาชีพเดียวที่ทำให้น้องชายของฉันรอดได้อย่างหวุดหวิด
“ป๋ารักตัวเล็กที่มีความเป็นตัวของตัวเอง เอาเป็นว่าตั้งแต่นี้ไปเราคือคนรู้จักกันแล้วนะในเมื่อเป็นคนรักไม่ได้...ให้ป๋าเป็นพี่ชายของตัวเล็กได้ไหม” ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้จากป๋าฉันก็ลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งฝั่งเดียวกับป๋าพงษ์ จากนั้นกราบลงที่อกแกร่งของป๋าพงษ์เหมือนที่ฉันเคยทำเมื่อครั้งที่ฉันเคยใช้ชีวิตร่วมกับเขาช่วงสั้น ๆ
“โมต่างหากที่จะต้องขอเป็นน้องสาวของป๋า โมขอบคุณป๋ามากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ที่เอ็นดูโม” น้ำตาของฉันมันไหลออกมามากมาย รู้สึกตื้นตันใจไปหมด
“ดื้อแล้วยังขี้แงอีกนะ” นิ้วชี้เรียวยาวของป๋ายื่นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า จากนั้นเขาก็บีบจมูกของฉันเบา ๆ เราทั้งคู่หยอกล้อกันเหมือนครั้งที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันเป็นเวลาเจ็ดวัน ถึงมันจะเป็นเวลาอันน้อยนิดแต่ไม่มีวันจะเลือนหายไปจากความทรงจำของฉันแน่นอน
เพราะป๋าคือ ‘ผัวคนแรกของฉัน’ ไม่มีใครลืมผู้ชายคนแรกของตัวเองได้หรอก