EPISODE 05 เริ่มรู้จัก

1210 Words
“ขึ้นให้หน่อย” นิคมพูดหลังจากที่เราทั้งคู่เล้าโลมกันอยู่นาน เขาพาฉันมาที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ก้าวขาเข้ามาในห้อง เอื้อมมือปิดประตูเราทั้งคู่ก็เริ่มเล้าโลมกันอย่างหนักหน่วง จนมาถึงตอนนี้ฉันขึ้นคร่อมร่างหนาของชายตรงหน้า มือกำแท่งความเป็นชายของเขาไว้ ค่อย ๆ ดันตัวลงให้ร่องสาวตรงกับดุ้นเอ็นที่เส้นเลือดกำลังเต้นตุบ ๆ เมื่อสอดใส่ขยับจนได้ที่ฉันก็ขยับสะโพกช้า ๆ เพื่อให้ร่างกายได้เคยชินกับดุ้นที่เอ็นค่อนข้างใหญ่ จากนั้นก็ค่อย ๆ เร่งจังหวะบิดบ้างควงบ้าง สองมือบีบคลึงที่เต้าอวบอิ่มไว้ด้วย “อ่าส์ เสียวโคตรว่ะ ซี๊ด...” นิคมเปล่งเสียงครางในขณะที่มือทั้งสองข้างของเขาจับที่สะโพกผายของฉัน เพียงไม่นานเขาก็เปลี่ยนเป็นคนคุมเกมเองโดยที่ฉันอยู่ในท่าคลานเข่าโก่งก้นงามงอน นิคมสอดใส่เข้ามาในร่องคับแคบดันเข้าดึงออกช้า ๆ สองสามครั้งจากนั้นขยับสะโพกเข้าออกไม่ยั้ง “อืม...เสียวมากค่ะ อ๊ะ” “ซี๊ด อย่าขมิบแรงดิ มันเสียว อืม อั้นไม่ไหวแล้ว” นิคมครางกระเส่าไม่ต่างจากฉัน เมื่อเราทั้งคู่เริ่มจะแตะจุดสุดยอด นิคมจับสะโพกฉันไว้แน่นแล้วเขาก็สับสะโพกรัว ๆ “อ๊าส์” เป็นเสียงครางของเราทั้งสองที่เพิ่งจะไปแตะสวรรค์มาพร้อมกัน เอาจริง ๆ นอกจากป๋าพงษ์ก็มีนิคมคนนี้ที่ทำให้ฉันถึงจุดสุดยอดและฟินสุด ๆ มันแบบได้อารมณ์อะ “เสียวดีไหม” นิคมถามขณะที่เขาใช้จมูกสูดดมตามแผ่นหลังขาวเนียวแล้วค่อย ๆ ขยับขึ้นมาหอมแก้ม “เสียวค่ะ” ฉันพลิกตัวนอนหงาย สบตากับดวงตาคมเข้มและยิ้มให้เขา นิคมยิ้มตอบก่อนจะก้มลงมาประกบจูบที่กลีบปาก “ฉันถูกใจเธอมากนะ เลิกทำอาชีพนี้ซะ ฉันจะดูแลเธอเอง” นิคมพูดกับฉันเหมือนกับแขกคนอื่น ๆ อีกแล้ว เฮ้อ เบื่อกับประโยคแบบนี้นะ คือแค่ลองครั้งเดียวจะถูกใจอะไรใช่ไหม เหมือนพูดเล่นไปอย่างนั้น เอาตามตรงนะถ้าฉันทำจริง ๆ จะจ่ายได้สักเท่าไหร่กันเชียว คิดว่าฉันทำอาชีพนี้เพราะอยากได้อยากใช้ของแพง ๆ แค่นั้นเองเหรอ ความจำเป็นของคนเรามันไม่เหมือนนะ “ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีภาระที่จำเป็นต้องใช้เงิน” ฉันพูดความจริงแต่เขาจะเชื่อไหมก็อีกเรื่องหรือจะคิดเป็นอย่างอื่นมันก็เรื่องของเขา ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน “สามเดือน เธอมาอยู่กับฉันแล้วห้ามไปนอนกับคนอื่นเด็ดขาด” “ฉันบอกแล้วไงคะว่าจำเป็นต้องใช้เงิน” “ห้าล้าน แลกกับสามเดือนนี้เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว ฉันพูดจริง ทำจริง” “...” เฮ้ยเอาจริงดิ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ห้าล้านเชียวเหรอ มันมากมายเพียงพอต่อการใช้หนี้และการดำรงชีวิตอยู่ของครอบครัวฉันเลยนะ ถ้าได้เงินก้อนนี้มาจริง ๆ ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ว่าสามเดือนมันนานนะ ฉันต้องเจอเขาทุกวัน จะมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะไม่แพ้ความชิดใกล้ ว่ากันว่าความรู้สึกมักเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยสิ ทว่าหากได้เงินก้อนนี้มาฉันก็ไม่ต้องกลับมาทำอาชีพนี้อีก สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ ไม่ต้องทำอะไรที่ฝืนความรู้สึก ฉันคิดอยู่นานพอสมควรแล้วสุดท้ายก็ได้คำตอบ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ต้องเลือกแบบฉัน เอาวะ คิดซะว่าแค่สามเดือน ดีกว่าต้องขายตัวให้คนนั้นคนนี้ไปเรื่อยเลือกลูกค้าไม่ได้ อย่างน้อยถ้าตอบตกลงฉันก็นอนกับเขาแค่คนเดียว หลังจากสามเดือนนี้ผ่านไปชีวิตของฉันคงกลับไปเป็นปกติ เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดา หวังว่าหัวใจของฉันจะไม่อ่อนไหวไปกับความใกล้ชิดและความหล่อไม่บันยะบันยังนะ “ตกลงค่ะ ฉันรับข้อเสนอ แต่คุณต้องโอนเงินให้ฉันก่อนนะคะ” เมื่อฉันตอบตกลง ใบหน้านิคมผลิยิ้ม เขาลุกขึ้นจากเตียง เดินหายไปครู่หนึ่งแล้วกลับมาพร้อมเอกสารบางอย่าง “เซ็นซะ นี่คือข้อตกลงของฉัน เธอต้องทำตามทุกข้อ เราถึงจะอยู่ด้วยกันได้” นิคมยื่นเอกสารมาให้ฉัน เนื้อหาคร่าว ๆ ในเอกสารเขียนว่า 1. เวลาออกข้างนอกอย่าทำเหมือนรู้จัก (ถ้าผู้ว่าจ้างไม่อยากรู้จัก) 2. อย่ามีใครอื่นระหว่างที่อยู่ในสัญญา 3. ห้ามรัก อย่าแสดงอาการหึงหวงผู้ว่าจ้าง 4. ผู้ว่าจ้างสั่งอะไรต้องทำตาม 5. หลังจากหมดสัญญาทั้งคู่คือคนแปลกหน้า ยังมีอีกหลาย ๆ ข้อ ในเอกสารแผ่นนี้ “ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ” หลังจากอ่านคร่าว ๆ ฉันจึงเกิดความสงสัยเพราะดูแล้วมันวุ่นวาย จะต้องมาเซ็นอะไรแบบนี้ทำไม หมดสัญญาก็แยกย้าย แค่นั้นก็จบ “เพราะที่ผ่านมามันเคยเกิดขึ้นแล้วไง ฉันไม่อยากวุ่นวายทีหลัง” เขาตอบพลางนั่งลงข้างฉันด้วยท่าทางสบาย ๆ “...” ถ้าฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขา มองเขาเหมือนลูกค้าคนอื่น ๆ ก็คงไม่มีอะไรที่จะวุ่นวาย เซ็นไปก็คงไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็เลยเซ็นชื่อตัวเองลงในเอกสารแผ่นนั้นเพราะตั้งใจและตั้งมั่นว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับเขา เมื่อเซ็นเรียบร้อยจึงยื่นคืนให้เขา “ตั้งแต่วันนี้จนครบสามเดือนชีวิตเธอจะเป็นของฉัน นับจากนี้เรียกฉันว่า ‘เฮียคม’ เข้าใจไหม” มือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายของฉันและบีบมือลงแรง ๆ ที่หน้าอกอวบอิ่ม “เข้าใจค่ะ” หวังว่าฉันคงตัดสินใจถูกนะที่เซ็นสัญญายอมเป็นของเขาคนเดียวตลอดสามเดือนนี้ และหวังว่าเขาจะใจดีกับฉันเหมือนที่ป๋าพงษ์เคยดีด้วย “สามเดือนนี้ โมต้องย้ายมาอยู่ที่คอนโดนี้กับเฮียนะครับ” เขาก้มลงมาพูดข้างใบหูและแลบลิ้นเลียรอบใบหูของฉัน เขาคงไม่ใช่พวกคนรวยโรคจิตใช่ไหม “ค่ะ โมขอตัวไปเก็บของที่หอก่อนนะคะ” ในเมื่อฉันต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็ต้องไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่หอสิ “ไม่ต้อง!” จู่ ๆ เขาก็ตะคอกด้วยน้ำเสียงเกี้ยวกราด สีหน้าโมโหขึ้นมาทันที “แต่ว่าโมต้องใช้…” “ทิ้งไปให้หมด ฉันจะซื้อให้เธอใหม่ ฉันไม่อยากเห็นข้าวของที่คนอื่นซื้อให้เธอ ฉันรังเกียจ” ใบหน้าเขาขึงขังน่ากลัวที่สุด ใจฉันเริ่มเต้นแรงเพราะความกลัว เขารังเกียจฉัน คำนี้วนเวียนอยู่ในหัวสมอง “ค่ะ” ฉันตอบเขาไปได้เพียงเเค่นั้น เพราะเซ็นสัญญาไปแล้วฉันต้องเชื่อฟังเขา ไม่มีสิทธิ์ต่อรอง สามเดือนนี้ฉันคงมีชีวิตรอดกลับไปนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD