ไม่กี่นาทีต่อมากุ๊กไก่ก็นั่งเผชิญหน้ากับผู้ชายแปลกหน้าที่เคยเป็นคนคุ้นเคยที่สุดคนหนึ่งของเธอ
"นายคืออชิจริง ๆ เหรอ"
ชายหนุ่มยกกาแฟขึ้นดื่มแล้วพยักหน้า
"แน่นอนสิ จำไม่ได้จริง ๆ เหรอ"
กุ๊กไก่ส่ายหน้า และพูดตามตรง
"แต่ก่อนนายไม่ใช่แบบนี้นี่"
นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาขั้นเทพของเขาแล้ว กุ๊กไก่ยังเผลอมองรูปร่างสูงโปร่งที่พอเหมาะพอเจาะ เมื่อก่อนเธอรู้ว่าเขาเป็นคนสูง แต่เพราะเขาเจ้าเนื้อจึงดูแตกต่างจากตอนนี้เป็นอย่างยิ่งและหลายปีที่ไม่ได้เจอกันผู้ชายคนนี้กลับสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
กุ๊กไก่เคลื่อนสายตาอย่างช้า ๆ มองไปจนถึงริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของเขา จู่ ๆ เธอก็รู้สึกร้อนขึ้นมา
วันนี้อชิสวมเสื้อยืดสีขาว ทำให้กุ๊กไก่อยากสาดน้ำสักแก้วใส่เขาเพื่อมองดูว่าข้างในนั้นจะมีซิกแพคแน่น ๆ หรือว่าจะเป็นก้อนไขมันหนากันแน่ กระทั่งเธอเลื่อนสายตาลงต่ำและหยุดสายตาที่ตรงนั้นอย่างลืมตัว
คิดอย่างเป็นจริงเป็นจังว่าในเมื่อเขาผอมลง ตรงนั้นมันจะหดลงด้วยหรือเปล่า?
อชิกระแอม
"มองพอหรือยัง ถ้าจะมองกันขนาดนี้เธอขอให้ฉันถอดเสื้อผ้าให้ดูเลยดีกว่า"
กุ๊กไก่พยายามระงับอารณ์ทั้งหมดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแต่ยังเผลอเลียริมฝีปากไม่ได้ เธอยังเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
"ก็ไม่มีอะไรน่ามองสักเท่าไหร่นี่"
เพื่อไม่ให้ตัวเองขายหน้ากุ๊กไก่จึงรีบพูดขึ้นเธอยังหันหน้าออกไปดูนอกร้านอีกด้วย
อชิยักไหล่ท่าทางดูดีเป็นอย่างยิ่ง กุ๊กไก่จึงเอาแต่คิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรกิริยาท่าทางล้วนน่ามองจนสามารถดึงสายตาของเธอได้เป็นอย่างดี
"บอกไม่มีอะไรน่ามอง แต่เห็นจ้องเป้าฉันแทบจะทะลุ"
กุ๊กไก่สะอึก แต่คนอย่างเธอมีหรือจะยอมแพ้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำก็ผ่านมาแล้ว เธอเอียงคอมองเขากุ๊กไก่จำได้ว่าอชิคนนี้แต่ก่อนขี้อายขนาดไหน และเธอก็ยังไม่ลืมความเจ็บช้ำที่เขาปฏิเสธเธอในวันนั้น
เป็นรักแรกของฉันนับว่าเป็นวาสนาแท้ ๆ แต่กลับปฏิเสธฉันได้ยังไง แน่ล่ะ ฉันอยากจะเอาคืน
เธอหัวเราะออกมาแล้วบอกเขาว่า
"ก็ตรงนั้นน่ะ ฉันแค่สงสัยว่ามันจะหดเหมือนร่างกายของนายหรือเปล่า"
อชิมองเธอด้วยสายตาค่อนข้างเย็นชา
"เธออยากรู้จริง ๆ เหรอ"
คราวนี้กุ๊กไก่ยักไหล่
"ก็นิดหน่อย"
คำพูดว่านิดหน่อยนั้นช่างตรงข้ามกับความอยากรู้อยากเห็นที่มีมากมายเกินบรรยายในใจเธอเหลือเกิน
อชิหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางประหลาดของคนที่บอกว่านิดหน่อย แต่สายตาคู่หวานนั้นกลับจ้องมาที่เป้ากางเกงของเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้
เขาขยับมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ ของเธอ แล้วฉวยมือเรียวของกุ๊กไก่ทันที กุ๊กไก่ตกใจพยายามที่จะดึงมือของตัวเองหนี แต่อชิกลับพูดว่า
"ไหนบอกอยากรู้ไงล่ะ แค่ฉันจับมือก็กลัวแล้วเหรอ"
กุ๊กไก่ถลึงตาใส่เขา
"ฉันจะกลัวอะไรนาย คนอย่างนายมีอะไรน่ากลัวกัน"
แล้วเธอก็ปล่อยให้เขาจับมือของเธอ อชิแบบมือเรียวของกุ๊กไก่เบา ๆ
"ถ้าไม่กลัว"
คำพูดติดอยู่ที่ริมฝีปากของเขา กระทั่งเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้เธอ
"อยากจับดูมั๊ยล่ะ"
กุ๊กไก่สำลักจนไอออกมา เธอมองไปรอบ ๆ ร้านอย่างระแวงกลัวจะไม่ใครอยู่แล้วได้ยินเรื่องที่พวกเขาคุยกัน เพราะวันนี้เกิดเรื่องเธอจึงให้พนักงานกลับไปก่อนแล้วในร้านจึงไม่มีใครนอกจากพวกเขาสองคน
ถึงจะไม่ได้เจอกันนานหลายปี แต่กุ๊กไก่กับสามารถต่อติดความรู้สึกสนิทสนมกับอชิได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีกุ๊กไก่ไม่มีทางยอมรับความรู้สึกนี้เป็นอันขาด
เธอยังโกรธที่เขาทำให้เธอขายหน้าในตอนนั้น
"ว่าไงล่ะ ไม่กล้าแล้วเหรอ"
กุ๊กไก่มองเขาแล้วหัวเราะเสียงดัง
"อชิฉันไม่คิดว่านายจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาท้าทายโดยเฉพาะคนขี้ขลาดอย่างนายคิดยังไงมาท้าฉันแบบนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะกล้าจับมันจริง ๆ เหรอ"
อชิยิ้มเธอรู้ว่าเขากำลังยิ้มยั่วเธอ
"เธอไม่กล้าหรอก ฉันรู้ดีแต่ก่อนก็ทำเป็นอวดดีแต่ก็เป็นคนที่ขี้ขลาดคนหนึ่ง"
กุ๊กไก่เชิดหน้าขึ้น แค่นเสียงเย็นออกมา
"ฉันเปลี่ยนไปแล้ว"
กุ๊กไก่สะบัดมือของอชิออกแล้วขยับมือว่องไวไปที่เป้ากางเกงของเขาเธอคลำอยู่ชั่วครู่ และเธอก็ไม่สามารถสัมผัสอะไรได้ นั่นทำให้กุ๊กไก่เปล่งเสียงหัวเราะขบขันออกมา
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายนี่มันเล็กเหมือนใจของนายจริง ๆ ยังมีหน้ามาท้าทายฉันอีก"
กุ๊กไก่หดมือของตัวเองกลับมาวางไว้บนโต๊ะ ในขณะที่ใบหน้าของอชิเปลี่ยนเป็นสีแดง
"ผู้หญิงลามก"
กุ๊กไก่ทำท่าล้อเลียน
"ใครให้นายมาท้าทายฉันก่อนล่ะ เล็กแบบนี้อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลาเลย"
"นั่นมันเพราะเธอจับไม่ถูกที่และเธอจับเร็วเกินไปเลยไม่ทันเจอ"
"โอ๊ย ยังจะแก้ตัวอีกยอมรับเถอะว่าเล็กฉันรับรองว่าจะไม่บอกใครหรอก"
กุ๊กไก่ยังหัวเราะไม่หยุด อชิสูดหายใจเข้าลึก คิดจะจับมือของเธอแล้วยัดเข้าไปสัมผัสท่อนเนื้อของตัวเองอีกครั้ง หรือไม่ก็ถอดกางเกงโชว์เธอซะเลย
แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าตัวเองชักจะเหมือนคนโรคจิตแล้ว ตั้งแต่มานั่งกับเธอเกือบครึ่งชั่วโมงมานี้นอกจากเรื่องรูปร่างน่าตาของเขาที่เปลี่ยนไป พวกเขาทั้งสองคนยังเอาแต่หมกมุ่นเรื่องขนาดอวัยเพศของเขาจนลืมไปว่าพวกเขาเพิ่งเจอกันแท้ ๆ
มีเรื่องมากมายที่สมควรพูดแบบนี้ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องนี้กับยัยลามกนี่
กุ๊กไก่เช็ดน้ำตาที่ไหลเพราะขบขัน ดูนาฬิกาก็เห็นว่าต้องกลับบ้านแล้วเธอจึงลุกขึ้นบอกเขาว่า
"เอาล่ะ ก็ดีใจนะที่เจอนายแต่ฉันต้องกลับแล้วยังมีธุระอีก"
อชิลุกขึ้น
"อืม ฉันด้วย"
กุ๊กไก่ไม่ได้ถามถึงเบอร์มือถือของเขา ไม่คิดจะติดต่อเขาอีก เจอกันด้วยความบังเอิญครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว คนที่เคยทิ้งเธอไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนของเธออีกต่อไป
จนกระทั่งกุ๊กไก่เห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบหนึ่งวางอยู่ใกล้ประตูทางเข้า เธอจึงอุทานออกมาอย่างตกใจ
"แย่แล้ว ของลูกค้าคนไหนกันลืมไว้"
อชิเดินมาหยุดข้าง ๆ เธอแล้วบอกว่า
"ของฉันเอง"
กุ๊กไก่มองเขาด้วยความสงสัย
"นายจะไปไหน"
เขายิ้มยังไม่ตอบ หญิงสาวเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะไปถามแบบนั้น สองคนไม่สนิทกันแล้วนี่นา เธอจึงบอกเขาว่า
"เอาเถอะ จะไปไหนก็ไปเถอะเรื่องของนางโชคดีแล้วกัน ออกมาได้แล้วฉันจะล็อคร้าน"
อชิเดินลากกระเป๋าออกมาหน้าร้าน ยังช่วยกุ๊กไก่ดึงประตูเลื่อนลงแล้วล็อคอย่างแน่นหนา
"ขอบใจลาก่อน"
เธอเดินนำหน้าเขา อชิเดินตาม กุ๊กไก่กรอกตาเมื่อชายหนุ่มยังไม่ยอมไปไหน กระทั่งในที่สุดเธอก็เดินมาหยุดที่หน้าตึกรอเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน
"นายจะไปไหน ฉันเรียกรถให้ก่อนล่ะกัน"
อชิพยักหน้ากระทั่งมีรถแท็กซี่จอดรับ ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าที่กระโปรงท้ายรถเรียบร้อยก็เปิดประตู แล้วลากแขนกุ๊กไก่ให้ขึ้นมาด้วย
กุ๊กไก่ไม่ทันตั้งตัวจึงขึ้นรถมาพร้อมเขาด้วยความสับสน
"ไปที่คอนโดXครับ"
เขาบอกคนขับกุ๊กไก่ตาโต
"อ้าวนายพักคอนโดเดียวกันกับฉันเหรอ"
เขาไม่พูดอีกดีที่ยังพยักหน้า กุ๊กไก่บิดข้อมือของตัวเองที่ถูกเขากุมอยู่ บ่นเบา ๆ พอได้ยิน
"โลกกลมชะมัด ยังพักที่เดียวกันกับฉันอีก"
คนขับแท็กซี่มองดูพวกเขาสองคน คนหนึ่งท่าทางเป็นคุณหนูหน้าตาสวยมากและคงสำออย อีกคนหนึ่งเหมือนนายแบบสำเนียงยังติดฝรั่งนิด ๆ เขาจึงกระแอมพูดว่า
"ช่วงนี้แถวนั้นรถติดครับ คิดเหมานะครับเจ็ดร้อยบาท"
กุ๊กไก่ได้ยินแบบนั้นก็เลือดขึ้นหน้า
"คิดเลยสิฉันจะโทรฟ้องเดี๋ยวนี้ นี่มันหากินแบบนี้ทำให้คนที่เขาขับแท็กซี่ดี ๆ เสียหมด คุณนี่สมควรโดนจับจริง ๆ อ้อ ชื่อนายนพดล เหรอ ได้ฉันจะโทรแจ้งร้องเรียนเดี๋ยวนี้"
ว่าแล้วเธอก็ดึงโทรศัพท์ออกมาไม่ยอมลงจากแท็กซี่คันนี้ ใช่เพราะมันเรียกยากเหลือเกินจนกุ๊กไก่โมโหแล้ว
"เบอร์อะไรนะแล้วนะ เดี๋ยวก่อนฉันหาก่อน"
กุ๊กไก่ยังไม่ได้หาเบอร์อชิก็ตอบทันที
"1584 เบอร์ร้องเรียนแท็กซี่ 1584"
กุ๊กไก่ตบมือ "ใช่ 1584"
เธอยังไม่ได้กดลงไป คนขับรถก็หันมาบอกเธอพร้อมกับขอโทษทันที
"อย่าโทรเลยนะครับ ผมต้องโดนปรับและโดนงดขับด้วย เอาแบบนี้ผมกดมิเตอร์แล้วและจะไปส่งถึงที่เลยครับ ขอโทษนะครับ"
"แน่นะ"
กุ๊กไก่กำมือ เธอมองเห็นกล้ามอชิแล้ว กล้ามโตใช้ได้ต่อยคุณลุงคนผอมนั้นสักหมัดคงสลบ เอาล่ะในเมื่อเธอเป็นต่อเธอจึงกล้าข่มขู่คน
"ถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อีก หนูให้เพื่อนจัดการลุงแน่นอนเขาเป็นลูกชายอธิบดีกรมตำรวจ รู้จักหรือเปล่าท่านอธิบดีน่ะ สนิทกัน"
อชิมองกุ๊กไก่ด้วยความขบขัน เอาล่ะสิอยู่ ๆ ก็มีหน้ามีตามีพ่อเป็นคนใหญ่คนตัวเพราะยัยกุ๊กไก่นี่อวยยศให้ซะแล้ว
คนขับแท็กซี่ตกใจอยู่มาก เขาจึงลนลานขับรถไปโดยไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งพวกเขามาถึงคอนโด กุ๊กไก่ดึงกระเป๋าตังค์ออกมา เธอแอบหลบนิดหน่อยไม่ให้อชิเห็น เมื่อในกระเป๋าชาแนลตังค์ใบละหลายแสนของเธอมีเงินอยู่ในนั้นไม่ถึงพันบาท
อยากจะด่าตัวเองนักที่ลืมตัวไม่ยอมขึ้นรถไฟใต้ดินกลับยังจะประหยัดกว่านี้อีก แง แง
เธอไม่ได้บอกให้อชิจ่ายค่าแท็กซี่ เพราะตัวเองกลัวเสียหน้า แต่แกล้งดึงเงินออกมาช้า ๆ จนกระทั่งอชิพูดขึ้นว่า
"เท่าไหร่ครับ"
กุ๊กไก่ลอบยิ้ม เหอะ แผนนี้ได้ผลว่ะ
คิดแล้วก็เก็บกระเป๋าอย่างเงียบเชียบ
คนขับแท็กซี่จ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ประหนึ่งจะด่าว่า ไม่แหกตาดูมิเตอร์เหรอ ยังพูดห้วน ๆ อีก
"สี่ร้อยห้าสิบบาท"
ก่อนจะลงจากรถกุ๊กไก่ยังขู่คุณลุงคนนั้นอีกหน่อย ไม่ให้เขาทำนิสัยแบบนี้กลับใคร
"หนูจำชื่อลุงแล้วแจ้งไปที่อธิบดีแล้ว ต่อไปถ้าลุงทำอีกลุงหมดหนทางทำมาหากินแน่ กดมิเตอร์ทุกครั้งจำไว้ด้วย"
แท็กซี่รับคำแล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว
กุ๊กไก่ไม่สนใจอชิแล้วเธอเดินเข้าไปในคอนโดก่อนโดยมีอชิลากกระเป๋าตามมาติด ๆ กระทั่งกดลิฟต์อชิก็ปล่อยให้กุ๊กไก่กดคนเดียว เขายังตามมาเงียบ ๆ เธอมองเขาอย่างระแวงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อถึงหน้าห้องเธอกุ๊กไก่ก็รู้แล้วว่าเขาตามเธอมาจริง ๆ ห้องตรงข้ามเป็นห้องของเควิลและลูเซียโน่ที่ซื้อเอาไว้ ทั้งชั้นมีแค่สองห้อง เจ้าหมอนี่ถูกจับได้แล้ว
"ว่ายังไงจะบอกมาได้หรือยังว่าตามฉันมาทำไม"
อชิวางปล่อยกระเป๋าใบโตแล้วกอดอกมองเธอยิ้ม ๆ
"มาทำข้อตกลงกัน ฉันจะช่วยเธอทำร้านให้ได้กำไรและใช้หนี้ให้ทั้งหมดแต่เธอต้องให้ฉันอยู่กับเธอที่นี่ในฐานะสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธฮ"
กุ๊กไก่ได้ยินดังนั้นก็ร้องออกมา
"นายบ้าไปแล้วเหรอ ใครจะมาเป็นสามีของฉันกัน"