เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ อิงทัชถึงกับส่ายหัวไปมา แต่ก็ต้องกดรับสาย
“ฮัลโหล ว่าไงครับคุณพ่อ”
“กลับบ้านด่วน พ่อกับแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
พูดจบ แทนทอง เตชะวงศ์วรากุล ผู้เป็นพ่อก็กดวางสายทันที ไม่รอให้อิงทัชได้ตอบกลับอะไร เพราะรู้ดีว่าเจ้าลูกชายตัวแสบถ้าไม่มัดมือชก คงไม่มีทางยอมมาง่ายๆ
สิ้นบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค อิงทัชถึงกับทำหน้ายู่คิ้วผูกโบทันทีที่ถูกตามตัว เขากระดกบรั่นดีที่อยู่ในแก้วสีใสจนหมด แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพาตัวเองเดินแหวกฝ่าฝูงชนออกจากผับไปที่รถหรูทันที
รถหรูพุ่งทะยานออกจากผับและไม่นานนักก็เทียบจอดที่คฤหาสน์ใหญ่ของแทนทอง เขาเปิดประตูรถแล้วก้าวเท้าลงจากรถ รอบๆ ตัวบ้านมีบอดี้การ์ดรายล้อมเต็มไปหมด เหล่าบอดี้การ์ดโค้งคำนับเมื่อนายตัวเองเดินผ่านหน้าไปด้วยความยำเกรง
เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาด้านใน แทนทองหันไปมองแล้วกระตุกยิ้มมุมปากให้อิงทัช พลางส่ายหัวไปมา อย่างรู้สึกระอาในความเสเพลของลูกชายตัวแสบ ที่ไม่เอาไหนแม้แต่เรื่องเดียว ให้ทำงานก็ไม่ทำ เอาแต่ทำตัวไร้สาระอยู่กับบรรดาสาวๆ ของเขาไปวันๆ
“หึ ถ้าไม่โทรตามก็คงไม่มาสินะ”
แทนทองพูดจบเขาก็ก้มลงไปอ่านนิตยสารที่ถืออยู่ในมือต่อ ไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไรกับอิงทัชเลยแม้แต่คำเดียว จนอิงทัชอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“คุณพ่อเรียกผมมามีเรื่องอะไรครับ”
“ต้องมีเรื่องด้วยเหรอถึงจะมาหาพ่อกับแม่ได้”
อิงดาวสาวเท้าก้าวเดินเข้ามา แล้วหย่อนก้นนั่งข้างๆ แทนทอง ทำเอาอิงทัชหน้าเจื่อนขึ้นมาทันที ที่ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นมาแบบนี้ เพราะแม่เขาไม่เคยแม้แต่จะพูด จะว่า จะมาบงการชีวิตอะไรเขาสักอย่าง
“ไม่ครับคุณแม่ ผมแค่สงสัยเฉยๆ”
คนตัวสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อย แล้วค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาหลุยส์ตัวนิ่ม พลางส่งยิ้มให้แม่ตัวเองบางๆ
“วันอาทิตย์ พาแม่ไปกินข้าวข้างนอกหน่อยสิ ไม่ได้กินข้าวกับลูกนานแล้ว พาไปได้ไหม?”
อิงทัชเอียงคอมองอิงดาวอย่างรู้สึกแปลกใจ อยู่ๆ แม่ตัวเองชวนไปทานข้าวนอกบ้านมันต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่นอน
“มองแม่แบบนั้น หรือว่าไม่สะดวกใจไป”
“เปล่าๆ ครับแม่ผมไปได้” เขารีบตอบกลับทันทีทั้งๆ ที่อดแปลกใจไม่น้อย
“แล้ววันนี้แกจะนอนที่นี่ไหมล่ะ ไม่กลับบ้านกลับช่องบ้างเลย ไม่คิดถึงพ่อกับแม่เลยรึไง”
เสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น แทนทองชำเลืองตามองอิงทัชที่กำลังนั่งนิ่ง ทีท่าเหมือนว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“คิดถึงสิครับ ทำไมคุณพ่อชอบพูดแบบนี้ เฮ้อ”
อิงทัชส่ายหัวไปมากับคำพูดของแทนทองที่จ้องจะจับผิดตัวเอง ความแข็งกระด้าง น่าเกรงขามของพ่อทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยกล้าเข้าหาแทนทองมากเท่าอิงดาว แต่เขาก็รักทั้งคู่เท่าเทียมกัน
“อืมก็ดี” แทนทองพูดขึ้นสั้นๆ พลางเหลือบสายตาขึ้นมามองหน้าลูกชายตัวเอง
“ทุกอย่างในเตชะวงศ์วรากุลที่พ่อกับแม่สร้างขึ้นมาเพื่อแก่ ถ้าพ่อไม่อยู่แกก็ต้องดูแลแทนพ่อ แกทำได้ใช่มั๊ย?”
คำพูดของแทนทองทำเอาอิงดาวและอิงทัชหันมามอง
“คุณพ่อพูดอะไรแบบนั้น คุณพ่อต้องอยู่ไปจนแก่ คอยดูลูกผมสิ ฮ่าๆ ๆ”
“ดี...ฉันจะอยู่ยันเห็นหลาน แกพูดแล้วนะว่าจะมีหลานให้ฉัน”
อิงทัชพยักหน้ารับคำ แต่ยังนึกใจหายกับคำพูดของพ่อตัวเองไม่ได้
ณ ร้านอาหาร
มุมห้องอาหารที่อิงทัชพาอิงดาวและแทนทองมารับประทานอาหาร จัดตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นร้านอาหารไทยที่อร่อยถูกปากเขา ร้านที่อิงดาวและแทนทองชอบพาเขามาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ตอนนี้ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมแม้จะดูโทรมลงไปบ้าง ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแต่กับดูอบอุ่นเป็นกันเอง
ภายในห้องอาหารเป็นไม้สักทอง ฉลุลวดลายสวยงาม บนโต๊ะมีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ แต่ที่น่าแปลกใจจนอิงทัชสงสัย เขามากันแค่สามคนพ่อแม่ลูก แต่กับมีชุดจานถึงหกชุด
“คุณแม่ครับมีใครมาเพิ่มอีกหรือครับ”
คำถามของอิงทัชทำให้อิงดาวยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที สายตาคู่สวยเหลือบไปด้านหลังของอิงทัชแล้วส่งยิ้มกว้างออกมา
“นั่นไงมากันแล้ว”
อิงทัชรีบหันไปมองด้านหลัง เขาถึงกับตาค้างเมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นราวกับนางแบบ ใบหน้าสะสวย ดวงตากลมโต ขนตายาวเป็นแพรหนาชวนมอง เธอใส่ชุดเดรสแขนตุ๊กตาความยาวถึงหัวเข่า ราวกับคุณหนูที่แสนเรียบร้อย รอยยิ้มพิมพ์ใจของหญิงสาวทำเอาอิงทัชมองตาไม่กะพริบ เธอก็เช่นกัน เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาคมสันของอิงทัชก็ถึงกับหยุดชะงัก ก้มหน้าหลุบต่ำไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตามอง