“แกก็พูดมากเกินไปแล้ว นั่นๆ ๆ เพลงขึ้นพอดีเลย หนูปรางไปเต้นรำกับฉันดีกว่า”
คิ้วเข้มของคาฟาห์เลิกสูง เมื่อได้ยินบิดาเรียกชื่อของกานติมาว่าหนูปราง
“กานติมาน่ะชื่อจริง แต่ปรางน่ะคือชื่อเล่น”
เจ้าชายโมฮัมหมัดโกหกลูกชายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะหันไปพูดกับปรางสิตาที่หน้าซีดเผือดราวกับแผ่นกระดาษ
“หนูปรางประคองฉันหน่อยสิ ฉันอยากจะไปเต้นรำ”
“เอ่อ... คือว่า...”
“ไม่ต้องเกรงใจลูกชายของฉันหรอก เจ้าคาฟาห์มันไม่ได้หวงพ่อของมันขนาดนั้นหรอก” โมฮัมหมัดแกล้งเหน็บแหนมลูกชาย และก็ซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ตลอดเวลา
“เอ่อ... ค่ะ”
ปรางสิตากำลังจะพยุงให้โมฮัมหมัดลุกขึ้นจากรถเข็น แต่แขนเรียวของหล่อนถูกมือใหญ่อบอุ่นคว้าเอาไว้เสียก่อน แถมเขายังกดนิ้วลงบนเนื้อนุ่มของหล่อนแรงๆ จนเจ็บระบม
“ฉันก็อยากเต้นรำเหมือนกัน”
เขาจ้องหน้าหล่อนเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเป็นอริร้าย ก่อนจะปรายตาไปมองโมฮัมหมัด
“ท่านพ่อครับ ผมขอยืมตัวแม่หม้ายคนสวยไปเต้นรำสักสองสามเพลงก่อนนะครับ แล้วจะพามาคืน”
ทุกพยางค์ที่เล็ดลอดออกมาจากปากหยักสวยของคาฟาห์เต็มไปด้วยความเดือดดาล
โมฮัมหมัดแทบซ่อนรอยยิ้มพึงพอใจเอาไว้ไม่ผิด “นี่แกจะแย่งผู้หญิงของพ่อเชียวหรือ เจ้าคาฟาห์”
“ผมต้องทำครับ เพราะผมต้องปกป้องท่านพ่อ”
เขาตอบบิดาเสียงขุ่น ก่อนจะตวัดตามองดวงหน้าซีดเผือดของหล่อนด้วยสายตากระด้าง
“เชิญครับ คุณกานติมา!”
“เอ่อ ท่านคะ...”
ปรางสิตาพยายามขอความช่วยเหลือจากโมฮัมหมัด แต่ดูเหมือนว่าชายสูงวัยจะพึงพอใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นยิ่งนัก เพราะท่านยิ้มแฉ่งตลอดเวลา
หล่อนไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะแรงเพียงเล็กน้อยจากอุ้งมือใหญ่ สามารถลากหล่อนมาที่กลางฟลอร์เต้นรำได้อย่างง่ายดาย
“เอ่อ... ฉัน... อยากไปห้องน้ำค่ะ”
ปรางสิตาเอ่ยขึ้น และพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนกำยำที่เพิ่งค้นพบว่ามันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ ในวินาทีนี้เองอย่างอึดอัดไม่สบายใจ แต่เขาไม่ยอมปล่อย
“ฉันรู้ว่าไม่ใช่ผู้ชายตรงตามสเปกของเธอ แต่อย่าฝันว่าฉันจะให้เธอมีเวลาไปอ่อยพ่อของฉันได้อีก”
หล่อนหน้าแดงก่ำเมื่อถูกสบประมาท “คุณพูดจาไม่ให้เกียรติฉันเลยนะคะ”
“หึ...”
เขายิ้มหยันที่มุมปาก มองหล่อนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม มองหล่อนราวกับเศษขยะ จนความอับอายมากมายพุ่งเข้าใส่ร่างสาวอย่างไม่ปรานี
“ผู้หญิงอย่างเธอมีเกียรติด้วยหรือ”
“คุณ...”
“ผู้หญิงที่จ้องจะแต่งงานกับชายแก่ผู้โง่เขลาแต่ร่ำรวยเงินทองอย่างเธอ ไร้เกียรติ ไร้ค่ายิ่งกว่าขอทานตามข้างถนนเสียอีก อ้อ... รวมถึงอีตัวด้วย”
ความร้อนมากมายพวยพุ่งขึ้นมาจากลำคอมารวมกันอยู่ที่พวงแก้มนวล หล่อนทั้งโกรธ ทั้งอาย และอยากจะไปให้ไกลจากสายตาดูถูกของผู้ชายหล่อจัดแต่ปากร้ายคนนี้นัก แต่ก็ไม่ไหนไม่ได้ เพราะยิ่งดิ้นรน เขาก็ยิ่งกอดรัดแน่น จนหล่อนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งกำยำของเรือนกายบุรุษเป็นครั้งแรกในชีวิต
ตัวตนของผู้ชาย... แข็งแกร่ง และแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่านะ
หล่อนถามตัวเองอย่างวุ่นวายใจ พยายามที่จะควบคุมปฏิกิริยาของตนเองให้ได้มากที่สุด แต่กลับทำได้แย่มาก เพราะถึงเขาจะด่าทอ และแสดงความร้ายกาจกับหล่อนแค่ไหน แต่ในตายเถอะ หัวใจของหล่อนก็ยังหวั่นไหวกับความสมบูรณ์แบบของเขาไม่สร่างซา
ดวงตากลมโตอดไม่ได้ที่จะช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อจัดของผู้ชายตรงหน้า มองเขาราวกับหญิงเสียสติ ยิ่งเห็นความสมบูรณ์แบบของเขาเต็มๆ ตา หัวใจของหล่อนก็ยิ่งเต้นแรงราวกับถูกเขย่า
ผู้ชายคนนี้หล่อยิ่งกว่าเทพบุตร ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานอำนาจของเขาได้ แม้แต่หล่อน และหากเขามองหล่อนด้วยความปรารถนาและเอ่ยชวนขึ้นเตียง หล่อนยังไม่มั่นใจเลยว่าตนเองจะกล้าปฏิเสธคำชวนนั่นไหม
บ้า... เขาไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก ไม่มีทางอยากได้หล่อนไปอยู่บนเตียง เพราะเขาเข้าใจว่าหล่อนคือกานติมา แม่หม้ายชื่อกระฉ่อน ไม่สิ... ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหล่อนเป็นใคร เขาก็คงไม่มีทางต้องการหล่อนอยู่ดี
ทำไมหล่อนจะต้องรู้สึกผิดหวัง รู้สึกหดหู่แบบนี้ด้วยนะ
ปรางสิตาเต็มไปด้วยความสับสนและวุ่นวายใจ จนคาฟาห์ที่จับตามองหล่อนอยู่ตลอดเวลาต้องหัวเราะเยาะออกมา
“เธอมองฉันด้วยสายตาเหมือนอยากลากขึ้นเตียง แต่ฉันกำลังคิดว่าตัวเองมองผิดไป”
คำพูดที่ทั้งกระด้างทั้งเยาะหยันจากปากหยักสวยของคาฟาห์ทำให้ปรางสิตารู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะหยุดหายใจ หล่อนเบิกตากว้างโตจนลูกตาดำแทบถลน ก่อนจะเอามือขึ้นผลักหน้าอกกว้างแรงๆ แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยอยู่ดี
“ปล่อย... ปล่อยฉันค่ะ”
วูบหนึ่ง คาฟาห์รู้สึกได้ถึงความไร้เดียงสาของผู้หญิงตรงหน้าที่สะท้อนออกมาจากดวงตากลมโตและการกระทำของเจ้าหล่อน แต่มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ในเมื่อผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตอนนี้คือกานติมา แม่หม้ายสาวพราวเสน่ห์ที่ชื่นชอบแต่งงานกับผู้ชายแก่ใกล้เข้าโลงผู้ร่ำรวย
กรามกระด้างของคาฟาห์ขบกันแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง แต่ความใกล้ชิดแนบสนิทจนสัมผัสได้ถึงความนุ่มอวบหยุ่นของเรือนกายสาว และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผู้หญิงที่ทำตัวแข็งอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชีพจรของเขาเต้นแรงไม่เป็นระส่ำ สมองของเขาคล้ายกับถูกรบกวนด้วยอะไรบางอย่างที่ทรงอานุภาพ
“เต้นรำกับฉัน จนกว่าเธอจะล้มเลิกความคิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับพ่อของฉัน”
“ไม่ค่ะ”
เขายิ้มร้ายกาจ และบอกให้คนมองรู้ว่ายังไงเขาก็ชนะ
“อย่าล้อเล่นกับผู้ชายทะเลทรายเช่นฉัน จำเอาไว้”
แล้วมือใหญ่ที่โอบกอดรอบร่างกายของหล่อนเอาไว้ก็กระชับแนบแน่นมากยิ่งขึ้น และไม่ว่าหล่อนจะพยายามขืนตัวสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะพาตัวเองออกไปจากฟลอร์เต้นรำได้
“โอเค ฉันจะไม่เข้าไปคุยกับท่านอีก ปล่อยฉันได้หรือยังคะ”
เขาโน้มใบหน้าลงมาหา ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดนตรีเปลี่ยนเพลงเป็นเชื่องช้าเย้ายวนใจ หล่อนคล้ายกับตกอยู่ในห้วงของมนต์สะกด โลกทั้งใบหยุดหมุนโดยสิ้นเชิง มีเพียงแค่เขาตรงหน้าเท่านั้นที่หล่อนรู้สึกถึงได้
“เต้นรำกับฉัน...”
เจ้าของใบหน้าหล่อจัดกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหู เรือนกายทรงพลังที่เคลื่อนไหวเสียดสีไปกับร่างกายทำให้หล่อนคล้ายกับกำลังจะหยุดหายใจ
โอ้... นี่หล่อนจะขาดใจตายก่อนเพลงจบไหม
ปรางสิตากำลังจะเป็นลม จึงต้องเอาสองแขนที่ดันแผงอกกว้างเอาไว้ไต่ขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่ง จากนั้นก็พิงซบกับเรือนกายทรงพลังอย่างอ่อนแรง สัมผัสได้ถึงความแน่นหนั่นสมชายชาตรีทุกตารางนิ้ว เขากระชับร่างของหล่อนแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีส่วนใดของร่างกายไม่สัมผัสกันเลย
เนื้อตัวสาวคล้ายกับมีดอกไม้ไฟฝังเอาไว้ภายใน ร่างของหล่อนถูกบังคับให้โยกย้ายตามจังหวะเพลงช้าๆ แต่ปฏิกิริยาภายในของร่างกายกลับร้อนรุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อมือใหญ่ที่เกาะกุมเนินสะโพกอยู่นั้นเคลื่อนไหวลูบไล้ไปมากับบั้นท้ายงอนของหล่อน หัวใจก็ยิ่งสั่นสะท้านรุนแรง เนื้อตัวร้อนผะผ่าวราวกับกำลังจับไข้สูง
“ฉัน... อยากไปห้องน้ำค่ะ” หล่อนรู้สึกตัวอีกครั้ง และพยายามบอกเขา
“เพลงยังไม่จบ”
คาฟาห์เค้นเสียงกระด้างตอบ และรัดร่างอรชรแน่นขึ้น เนื้อตัวของเจ้าหล่อนที่เขาได้สัมผัสช่างนุ่มนิ่มชวนลูบไล้ยิ่งนัก แถมบั้นท้ายก็อวบงอนน่าขยำเป็นที่สุด
ใช่... เขาเผลอตัวขยำไปแรงๆ สองสามครั้ง
บ้าชะมัด!
บุรุษแดนทรายเกลียดชังตัวเองนักที่รู้สึกแบบนี้ มันคือความผิดพลาดมหันต์ที่เขายอมเอาตัวเองมาเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่จุดไฟร้อนๆ ในกายหนุ่มจนลุกโชน
“เธอพูดถูก เธอควรจะไปห้องน้ำซะ”
เขาผละออกห่างอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยความมืดดำมองเขม็งจ้องมา
“ไปซะ แล้วอย่าเข้าใกล้ท่านพ่อของฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”
ปรางสิตายังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หล่อนมองตามเรือนกายสูงสง่าของคาฟาห์ไปจนลับตา ก่อนจะพบว่าเขาเดินเข้าไปหาผู้หญิงสวยนางหนึ่ง
หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ เพื่อลดความตึงเครียดภายในร่างกาย ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยเร็วที่สุด
ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่หล่อนควรจะมาอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...
หยาดน้ำตาแห่งความอดสูไหลรินออกมาตามร่องแก้มโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถห้ามได้ หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายทิ้ง ขณะจ้องมองใบหน้าที่เครื่องสำอางเปื้อนเปรอะเพราะผ่านการร้องไห้มาหลายครั้งด้วยความสะท้อนใจ
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วละ ปรางสิตา กลับบ้านเถอะ”