เจ้าของหัวใจ

1446 Words
อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องต่ำกว่าปกติที่ร่างบางเคยนอนจึงทำให้รู้สึกหนาวกว่าปกติจนต้องหาที่ซุกเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ตัวเอง เหนือน้ำรู้สึกคนข้างกายที่ดิ้นไปมาจึงลืมตาตื่นขึ้นมาดูด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นร่างบางที่นอนขดตัวซุกผ้าห่มอยู่ก็พอจะรู้ว่าอากาศน่าจะเย็นเกินไปสำหรับเธอ เขาจึงปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเล็กน้อย แล้วหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาห่มเพิ่มให้เธออีกชั้น ตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้ามืดอยู่แต่ทว่าพอตื่นมาแล้วเขาก็หลับตาไม่ลงจึงต้องลุกไปหาอะไรทำแทน ตังเมลืมตาตื่นมาในช่วงสายของวันเพร้อมกับอาการปวดหัวหนักมากเมื่อสังเกตเห็นลักษณะของห้องที่ไม่คุ้นเคยก็รีบเด้งตัวลุกพรวดขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปสะดุดกับรูปบริเวณหัวเตียงทำให้รู้ว่าที่นี่คือห้องของเหนือน้ำนั่นเองสภาพของเธอยังปกติดีทุกอย่างเลยรู้ว่าเขาไม่ได้ล่วงเกินเธออย่างที่ขู่เธอไว้แล้วยังมีผ้าห่มคลุ มตัวเธอไว้ถึงสองผืนอีกด้วย หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างลืมตัวกับสิ่งที่เขาทำให้เธอ พอรู้สึกตัวก็รีบหุบยิ้มทันที แล้วลุกขึ้นสำรวจห้องของชายหนุ่มแทน เหนือน้ำที่จะเข้ามาปลุกหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ในห้องแง้มประตูเข้ามาอย่างเบามือ ก่อนจะเห็นว่าร่างบางกำลังเดินสำรวจห้องของเขาอยู่ เขาจึงเดินเข้ามาอย่างเงียบๆโดยไม่ให้เธอรู้ตัว ตังเมมองวิวของเมืองจากกระจกห้องของชายหนุ่มซึ่งเป็นวิวที่สวยมากๆต่างจากห้องของเธอที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งจึงทำให้ไม่เห็นวิวของเมืองแบบนี้ “สวยจัง” “ชอบเหรอ มานอนด้วยกันก็ได้นะ”ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วจึงหันไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงที่เธอนอนอยู่ก่อนหน้านี้ “เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” “ก็นี่มันห้องของฉัน ฉันจะเข้าจะออกตอนไหนก็ได้” “งั้นฉันกลับห้องตัวเองดีกว่า”ทันทีที่ตังเมทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง มือหนาก็คว้าแขนของเธอไว้ทันที “ไม่ปวดหัวแล้วเหรอ” “ก็ยังปวดอยู่ แต่กลับไปนอนต่อที่ห้องดีกว่า” “นอนห้องฉันก็ได้เหมือนกันนี่”เหนือน้ำดึงร่างบางให้ล้มลงมานอนบนเตียงอย่างกะทันหันจนตังเมเองก็ไม่ทันตั้งตัว วงแขนแกร่งดึงหญิงสาวมากอดพร้อมกับเอาขามาเกยไว้ที่เอวของเธอทันที “ปล่อยฉันนะ จะกอดฉันทำไมนักหนาเนี่ย”ร่างบางพยายามจะดิ้นหนีออกจากอ้อมกอดของเหนือน้ำอย่างสุดกำลัง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสู้แรงเขาไม่ไหวอีกเช่นเคย เหนือน้ำพลิกตัวกลับมากอดร่างบางไว้ข้างใต้โดยที่เขาทับเธอไว้ข้างบน “อย่าดิ้นสิ ขอกอดแปปนึง”ตังเมเริ่มหยุดดิ้นเมื่อได้ยินชายหนุ่มร้องขอ เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไรเธอถึงได้ยอมให้เขาง่ายๆแบบนี้ แต่ถึงยังไงมันก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วเพราะอาทิตย์หน้าเธอก็ต้องแต่งงานกับเขาจริงๆแล้ว “นายเป็นบ้าหรือไง”เหนือน้ำซุกจมูกบริเวณซอกคอขาวพลางสูดดมกลิ่นหอมจากร่างบางอย่างคุ้นชิน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำด้วยซ้ำ ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขารู้สึกโหยหาเธอจนอดไม่ได้ที่จะแอบเข้ามาดูเธอในห้องนอนทุกวันบางวันก็แอบแกล้งเธอบ้างนิดหน่อย ส่วนตังเมเองก็เริ่มรู้สึกดีกับเขาอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอก็ไม่ค่อยกล้าที่จะแสดงออกไปนัก “ฉันไม่รู้ว่าเธอจะจำฉันได้มั้ย แต่ฉันจำได้ว่าเธอคือเจ้าของหัวใจของฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยนะ”เหนือน้ำพึมพำออกมาเบาๆ “นายว่าไงนะ”ตังเมที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดไม่ชัดจึงถามซ้ำอีกรอบ “ฉันบอกว่าพอเธอเมาแล้วตัวหนักมากเลยนะ” “ไอ้บ้า ไม่ต้องมากอดฉันเลยนะ ออกไปเลย”ร่างบางที่โดนกวนก็รีบผลักชายหนุ่มให้ออกห่างทันทีพลางทำหน้าบึ้งใส่ที่เขาว่าเธออ้วน “ลุกไปกินข้าวกัน ฉันทำอาหารเสร็จแล้ว”เหนือน้ำหัวเราะพลางยิ้มออกมาก่อนจะดึงร่างบางให้เดินตามออกมาจากห้องเพื่อทานมื้อเช้าที่เขาเตรียมไว้ให้ นับวันความสัมพันธ์ของเธอกับเขามันเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆอย่างบอกไม่ถูกทั้งเธอและเขาต่างก็ดูเต็มใจกับงานแต่งงานครั้งนี้ แม้จะเริ่มจากการที่ผู้ใหญ่บังคับมาก็ตาม... “แม่คะ สายฟ้ายังไม่อยากไปจากแม่เลยค่ะ”หญิงสาวผมสั้นเอ่ยพลางโผเข้ากอดจันทราผู้เป็นแม่บุญธรรม “โถ ไปอยู่โน้นก็อย่าดื้อกับป้าเขาล่ะ เดี๋ยวแม่จะไปเยี่ยมบ่อยๆ” “ค่ะ แม่ต้องสัญญานะคะว่าจะไปเยี่ยมบ่อยๆ สายฟ้าก็จะโทรหาแม่ทุกวันเลยค่ะ”ท่าทางออดอ้อนของลูกสาวคนเล็กทำให้จันทรารู้สึกหวั่นใจน้อยๆเมื่อต้องห่างจากลูกสาวอันเป็นที่รักทั้งสองคนอีกทั้งตอนนี้รอบๆตัวของลูกสาวก็มีแต่อันตรายและไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่น้อย “จ้า เดี๋ยวออกไปรับชุดที่ร้านกับแม่นะ” “ค่ะ”จันทราพาลูกสาวคนเล็กอย่างสายฟ้าออกไปรับชุดสำหรับไปงานแต่งของลูกสาวคนโตอย่างตังเม สีหน้าของจันทราเต็มไปด้วยความปีติยินดีกับการแต่งงานของลูกสาวและลูกเขยที่เธอมั่นใจว่าจะสามารถดูแลลูกสาวคนโตของเธอได้ดีไม่แพ้เธอเลยเช่นกัน “แม่คะ สายฟ้าขอเดินไปดูหนังสือที่ร้านตรงโน้นนะคะ” “งั้นเดี๋ยวแม่จัดการเสร็จจะตามไปหานะลูก” “ค่ะ”สายฟ้าแยกตัวออกมาจากแม่และตรงมาที่ร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนังสือหลากหลายแนวที่อัดแน่นเต็มทุกชั้น อีกทั้งด้านในยังมีห้องสมุดสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าหนังสือของร้านอีกด้วย เธอค่อนข้างสนใจหนังสือวรรณกรรมภาษาอังกฤษเป็นพิเศษและมักจะแวะร้านหนังสือทุกครั้งที่มีโอกาสได้มาที่นี่อีกด้วย อีกฝั่งของร้านหนังสือขนาดใหญ่มีชายชุดดำสองคนกำลังจ้องมองหญิงสาวผมมสั้นที่กำลังเลือกดูหนังสือภายในร้านนั้น ก่อนจะเดินออกไป โดยมีสายตาอีกคู่หนึ่งจับจ้องเหตุการณ์ทั้งสองฝั่งอยู่ทว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกลับเต็มไปความลึกลับจนยากเกินกว่าจะคาดเดาได้ “สายฟ้ากลับกันเถอะลูก”สายฟ้ารีบเดินออกมาตามเสียงเรียกก็พบว่าแม่ของเธอมารอที่หน้าร้านพร้อมกับชุดที่รับมาเรียบร้อยแล้ว “ค่ะแม่ สายฟ้าขอจ่ายเงินแปปนึงนะคะ” “ซื้อหนังสืออีกแล้วเหรอ”ผู้เป็นแม่เอ่ยถามอย่างเอ็นดูเพราะทุกครั้งที่พาลูกสาวคนเล็กออกมาข้างนอกก็มักจะลากเธอมาร้านหนังสือเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็ยังคงชอบอ่านหนังสือเหมือนเดิม “ค่ะ” “งั้นไปกลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวแม่จะทำอาหารอร่อยๆให้ทานเย็นนี้” “ดีจังเลยค่ะ”สองแม่ลูกเดินหยอกล้อคุยกันระหว่างทางอย่างร่าเริงโดยอยู่ภายในสายตาของคนคนนั้นที่ยังคงจ้องมองทั้งสองคนอยู่ ก่อนที่จะต้องละสายตาไปเมื่อมีชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง “แม่คะ ป้าเดือนใจดีมั้ยคะ” “ป้าเดือนใจดี แต่ว่าเป็นคนปากร้ายเท่านั้นเอง ถ้าป้าเขาพูดอะไรให้หนูต้องเสียใจก็อย่าถือสาป้าเดือนเลยนะ”สายฟ้าที่ได้ยินแม่ของเธอเล่าเกี่ยวกับป้าอย่างนั้นมันทำให้เธอรู้ว่าบางทีเธออาจจะต้องเจอศึกหนักเลยล่ะ เพราะจากที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก พ่อไม่ชอบพี่สาวของแม่มากและมักจะบอกว่าป้าทำให้ครอบครัวต้องเกิดความร้าวฉานจนไม่ยอมให้ป้ามาเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเลย แต่แม่เป็นคนใจดีจึงไม่ถือโทษโกรธใครมากนัก “ค่ะ ว่าแต่พรุ่งนี้หนูขอไปนอนกับพี่ตังเมนะคะ” “ได้สิ งั้นแม่จะไปส่งเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD