.
..
...
....
ณ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
คฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรปบนพื้นที่หลายสิบไร่ตั้งอยู่ชานเมืองลาสเวกัส รายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดหลายสิบนายยืนเฝ้ายามตามจุดต่างๆ ตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองแห่งแสงสีนี้ เขาคือ ‘บาสเตียน ฮาร์ริสสัน’ หนุ่มหล่อวัยสามสิบห้ากะรัต ลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้ซึ่งสามารถพูดได้สองภาษานั่นคือไทยและอังกฤษ
ด้วยความเป็นคนมีชื่อเสียงของเมืองลาสเวกัส บวกกับความหล่อคมเข้มตามฉบับหนุ่มลูกครึ่ง ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็หมายปองอยากจะเป็นเจ้าสาวของเขา แต่ทว่าบาสเตียนกลับเห็นพวกเธอเป็นแค่เพียงที่ระบายความใคร่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
บาสเตียนมองผู้หญิงเป็นเพียงแค่ตุ๊กตายางระบายความใคร่มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่โดนแฟนสาวชาวไทยทิ้งไปแต่งงานกับเศรษฐีชาวอังกฤษอย่างไม่ไยดี ทำเอาชายหนุ่มผู้เคยมองโลกในแง่ดีต้องกลายเป็นคนเย็นชาเรื่องความรักนับตั้งแต่นั้นมา
การจ้างแม่อุ้มบุญมันเป็นเพียงแค่แผน เขาต้องการผู้หญิงไทยสักคนมาเป็นตัวแทนของอดีตแฟนสาว ทำให้เธอคนนั้นต้องเจ็บปวดเหมือนที่แฟนสาวเคยทำกับเขา เพราะเชื่อว่าจะช่วยคลายปมในใจที่มีมานานตลอดหลายปีได้
“คุณบาสเตียนเรียกป้ามีอะไรหรือเปล่าคะ”
‘ป้าสมัย’ แม่บ้านสัญชาติวัยหกสิบปี ทำงานอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่มารดาของบาสเตียนยังมีชีวิตอยู่ จนมาถึงบัดนี้ก็ยังคงดูแลเขาจนเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้
ชายหนุ่มที่ยืนเอามือขัดหลังจ้องมองไปยังนอกหน้าต่าง ชมความงดงามในยามค่ำคืนของเมืองลาสเวกัส หมุนตัวกลับมายิ้มน้อยๆ ให้แม่บ้านคนโปรด
“ผมอยากให้ป้าช่วยทำความสะอาดห้องนอนที่อยู่ข้างห้องผมให้หน่อยครับ”
“อ้าว! จะมีแขกมาค้างคืนเหรอคะ”
“ใช่ครับ อีกไม่นานจะมีแขกมาอยู่ที่นี่กับเรานานหลายเดือนเลยล่ะ”
“ใครกันคะ? ปกติคุณบาสเตียนไม่เคยให้ใครมาค้างแม้กระทั่งเพื่อนเลยนี่นา สงสัยจะเป็นคนสำคัญแน่ๆ อย่าบอกนะว่าเป็นว่าที่นายหญิงของบ้าน” ป้าสมัยยิ้มอย่างมีความหวัง เพราะเธออยากให้บาสเตียนมีครอบครัวเสียที เพราะก่อนที่มารดาของบาสเตียนจะเสียไป ได้สั่งเสียให้เธอช่วยดูแลลูกชายแทนทุกเรื่อง
“เดี๋ยวป้าก็รู้เองล่ะครับว่าเป็นใคร อีกไม่นานหรอกหึๆ” ว่าแล้วบาสเตียนก็ยิ้มมุมปากราวกับมัจจุราชร้ายซะอย่างนั้น ทำเอาป้าสมัยถึงกับกลืนน้ำลายลงด้วยความกลัว เธออยู่ดูแลรับใช้บาสเตียนมาตั้งแต่ยังเด็กๆ จึงรู้นิสัยอีกฝ่ายดี ใจจริงเธออยากให้บาสเตียนกลับมาเป็นคนเดิม คนที่เคยน่ารัก ขี้เล่นเป็นกันเอง บาสเตียนคนนั้นได้หายไปหลังจากโดนผู้หญิงที่ชื่อ ‘พลอยดาว’ ทิ้งอย่างไม่ไยดี
“คุณบาสเตียนคิดจะทำอะไรงั้นเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับป้า รีบไปจัดการตามที่สั่งเถอะ ผมขอคุยธุระกับปราลีก่อน”
“ฝากบอกคุณปราลีด้วยนะคะว่าป้าคิดถึง” ป้าสมัยรู้จักมักคุ้นกับปราลีเป็นอย่างดี นั่นเพราะช่วงที่ปราลีทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของบาสเตียน ได้แวะเวียนมาปาร์ตี้ส้มตำกันที่นี่อยู่บ่อยครั้ง
“เดี๋ยวผมบอกให้ครับ” บาสเตียนยิ้มน้อยๆ ให้
“ถ้างั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ”
ป้าสมัยยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เพื่อจัดการตามสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายต้องการ
เมื่ออยู่เพียงลำพังแล้วบาสเตียนก็เดินไปที่โต๊ะทำงาน หย่อนก้นลงบนเก้าอี้นั่งไขว้ขาเอนหลังอย่างสบายใจ หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาอดีตเลขาสาว
“ฮัลโหล จัดการไปถึงไหนแล้วปราลี” เสียงเข้มเอ่ยกับปลายสายอย่างใจเย็น
(เพิ่งเซ็นสัญญาไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ ส่วนเรื่องเงินก็ดิฉันจัดการโอนให้คุณอินเรียบร้อยแล้วค่ะ)
“แล้วผู้หญิงคนนั้นจะมาได้ตอนไหนล่ะ ถ้าเป็นไปได้ให้รีบมาพรุ่งนี้จะดีมาก” เขาสั่งเสียงเข้ม อยากให้เจ้าหล่อนมาที่นี่โดยเร็ว มันคงจะเป็นอะไรที่สะใจน่าดูเมื่อเห็นเธอคนนั้นเสียใจเพราะเขาเจียนจะเป็นบ้า มันอาจจะดูโหดร้ายเกินไป แต่นี่มันไม่ได้ครึ่งที่พลอยดาวเคยทำกับเขาไว้เลยสักนิด