.
..
...
....
การเซ็นสัญญาผ่านไปด้วยดีพร้อมๆ กับการผ่าตัดของมารดา นั่นทำให้อินทิราโล่งใจเป็นที่สุด แม้การผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดีแต่ทว่ายังคงต้องทำเคมีบำบัดต่อไปอีกจนกว่าจะหายขาด อีกไม่กี่วันเธอจะต้องเดินทางไปอเมริกาแล้วแต่ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับมารดาและน้องชายเลย วันนี้จึงตัดสินใจจะบอกเรื่องนี่ให้คนทั้งสองรับรู้
“แม่คะหนูมีเรื่องจะบอก” เจ้าหล่อนเอ่ยกับมารดาขณะนั่งอยู่ข้างเตียงในห้องพักผู้ป่วย ส่วนน้องชายนั่งอยู่อีกฝั่ง
“แม่ก็มีเรื่องจะถามแกเหมือนกัน” แม้จะเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัดแต่กันยาก็ยังไม่คลายความสงสัย ลูกสาวเอาเงินมากมายจากไหน จนสามารถจ่ายค่าผ่าตัดรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
“แม่มีอะไรเหรอจ๊ะ”
“แกเอาเงินที่ไหนมาเป็นค่ารักษาแม่ เงินมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ”
“ก็นี่ไงจ๊ะแม่ หนูกำลังจะบอกว่าอีกสองวันหนูจะไปทำงานที่อเมริกาแล้วนะ เงินที่ใช้จ่ายก็เป็นเงินของเจ้านายหนูเอง” อินทิรายิ้มแย้มเพื่อทำให้ผู้เป็นแม่สบายใจ
“แกได้งานตั้งแต่ตอนไหนทำไมแม่ไม่เคยรู้” กันยายังคงสงสัยกับสิ่งที่ลูกสาวบอก
“หนูสมัครไว้นานแล้วเขาเพิ่งจะตอบรับมา เจ้านายหนูรวยและใจดีมากๆ เลยนะแม่ ท่านยอมให้หนูยืมเงินมารักษาแม่ก่อนแล้วค่อยใช้คืนทีหลัง” อินทิรายังคงยิ้มให้ผู้เป็นแม่
“แกไม่ได้โกหกแม่นะ”
“จริงสิจ๊ะแม่ หนูจะโกหกทำไม แม่อย่าคิดมากนะรีบรักษาตัวให้หายไวๆ หนูจะได้มีกำลังใจไปทำงานยังไงละ”
“แล้วงี้ผมก็ต้องอยู่ดูแลแม่คนเดียวอ่ะดิ” อาณัฐผู้เป็นน้องชายเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้างองุ้ม
“แกดูแลแม่ไม่ได้รึไงอาร์ อย่ามาทำเป็นหน้างอ” อินทิราว่าให้น้องชาย
“ก็เปล่า...ดูแลได้แต่คงไม่มีเวลาเที่ยวอ่ะ”
“อย่ามาทำอิดออดนี่แม่เรานะ ถ้าฉันรู้ว่าแกหนีเที่ยวไม่ยอมดูแลแม่ฉันเอาแกตายแน่”
“รู้แล้วน่าใครจะปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวล่ะ”
“ลองทำดูสิฉันกลับมาฆ่าแกแน่ เอาเป็นว่าไปถึงที่นั่นแล้วฉันจะซื้อของส่งมาให้ละกัน”
“จริงๆ นะ!” อาณัฐเริ่มยิ้มออกเมื่อพี่สาวเอาของมาล่อ
“ก็จริงน่ะสิ แต่จะเป็นของอะไรนั้นฉันจะเป็นคนเลือกให้เอง”
“ไม่มีปัญหา”
เธอยิ้มให้น้องชายก่อนจะหันไปเอ่ยกับมารดาต่อทันที
“แม่จ๋า แม่ต้องสู้นะจ๊ะจะได้หายไวๆ หนูสัญญาว่าจะโทรมาหาแม่ทุกวัน” เธอเอื้อมไปจับมือมารดาไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ
“แกไม่ต้องห่วงแม่สู้อยู่แล้ว แกเองก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ อย่าให้ใครเขาหลอกได้ที่นั่นไม่ใช่บ้านเราระวังตัวให้มากๆ นะ”
“จ๊ะแม่หนูจะดูแลตัวเองดีๆ” ยิ่งใกล้วันเดินทางเจ้าหล่อนยิ่งใจหาย น้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว
“จะร้องทำไมเนี่ยฉันยังไม่ได้ตายซะหน่อย”
“แม่ก็...หนูคงจะคิดถึงแม่มากๆ เลยอ่ะ” อินทิราเอ่ยพลางยกหลังมือขึ้นปาดน้ำใสๆ ที่หางตาออก
“เป็นลูกแม่ต้องสู้รู้ไหม” กันยาเองก็อดน้ำตาซึมไม่ได้เมื่อรู้ว่าลูกสาวจะต้องห่างอกไปไกลถึงต่างประเทศ
“จ๊ะแม่” เจ้าหล่อนเริ่มยิ้มออกเมื่อได้กำลังใจจากมารดา
มารดาคงจะเสียใจมากถ้ารู้ว่างานที่เธอกำลังจะไปทำนั้นคืออะไร แต่มันคงไม่มีวันนั้นแน่นนเพราะเรื่องนี้จะถูกเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิต เธอจะไม่ปริปากบอกใครเลยแม้แต่คนเดียว
อินทิราใช้เวลาไม่กี่วันที่เหลือดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด ก่อนจะเตรียมตัวบินไปทำงานที่คงไม่มีใครกล้าทำเหมือนอย่างเธอเป็นแน่
*-*-*-*-*-*-*
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หลังจากร่ำลามารดาและน้องชายแล้ว อินทิราก็นั่งรถมากับปราลีที่ตั้งใจมารับไปส่งสนามบิน นี่คือครั้งแรกที่เธอได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้เจ้าหล่อนตื่นเต้นไม่น้อย
“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ปราลีเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากเดินมาส่งถึงในสนามบินแล้ว
“ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องนะคะ ฉันจะไม่มีวันลืมพระคุณคุณปราลีเลย”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ มันคืองานของฉันอยู่แล้ว” ได้ยินอย่างนั้นปราลีก็รู้สึกผิดในใจที่ส่งอินทิราเข้าปากเสือ เธอได้แต่หวังว่าบาสเตียนจะเมตตาอินทิราเหมือนอย่างที่เคยสัญญาไว้
“ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณอยู่ดี”
“ความดีจะช่วยคุ้มครองคุณจากทุกเรื่องค่ะ ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อไปถึงสนามบินแมคคาร์เรนจะมีคนถือป้ายรอรับคุณอยู่ที่นั่นนะคะ ฉันประสานงานไว้ให้แล้ว”