ภายนอก
ที่โต๊ะอาหาร ปริญนั่งหน้าเครียด
“พี่ปริญคะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ ไม่พอใจอะไร ก็ให้พูดกับใหม่มาตรง ๆ เถอะค่ะ มันทำให้บรรยากาศในตอนกินข้าวไม่ดีเอาเสียเลย”
ปริญได้ถอนหายใจ
“พี่ขอร้องล่ะใหม่ อย่าทำเหมือนเมื่อตอนกลางวันนี้อีก”
“เรื่องไหนล่ะคะ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอเห็นสายตาจริงจังของปริญก็พูดขึ้น
“อ๋อ เรื่องที่เราสองคนจูบกัน แหม... เมื่อก่อนเราก็จูบกันออกบ่อยไปค่ะ และที่ใหม่จูบพี่ก็เพราะใหม่คิดถึงพี่มาก ๆ” แล้วเธอก็ยิ้มระรื่น
“แต่นั่นมันเมื่อก่อน ถ้าใหม่ไม่อยากมีปัญหา ก็ต้องหัดเกรงใจทอดาว”
พอได้ยินชื่อภรรยาของปริญ สีหน้าของภูริดาก็เปลี่ยนไป
“ชิ... รักเมียหลงเมียหรือคะ”
“...” ปริญไม่พูด แต่ช้อนตามองหน้าภูริดานิ่ง ๆ
“ใหม่อยากให้พี่ปริญได้ยินตอนที่ทอดาวพูดนะคะ เธอบอกว่า เธออนุญาตพี่ให้กินอะไรของแปลกใหม่ได้ อาจจะอร่อย และทำให้รสชาติของชีวิตของพี่ปริญดีขึ้น ทอดาวใจกว้างเป็นแม่น้ำค่ะ”
ปริญเอาแต่ส่ายหัว “ใหม่อย่าพูดเล่นนะ”
“ใหม่เปล่าพูดเล่นค่ะ เป็นเรื่องจริงที่ทอดาวพูด พี่ปริญนั่นแหละค่ะที่ต้องยอมรับความจริงว่า พี่ยังรักใหม่อยู่”
เขาจ้องหน้าเธอ พร้อมกับรวบช้อน
เมื่อก่อนอาจจะเป็นความจริงที่เขารักและคลั่งไคล้ภูริดามาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันมีความรู้สึกบางอย่างเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายเธอ ปริญยอมรับเธอมาอยู่ด้วย เพราะเห็นคลิปวิดีโอที่สามีของภูริดาทำร้ายเธอ
“หยุดพูดเถอะ ไม่ใช่เวลา กินข้าวดีกว่า เรื่องไหนที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป” ปริญตั้งหน้าตั้งตากินข้าว
พอผ่านไปสักครู่ เขาก็ถามขึ้นอีก “แล้วใหม่คิดได้หรือยังว่าจะไปอยู่แถวไหน จะย้ายออกเมื่อไหร่ หรือว่าจะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนะ”
“ค่ะ แต่... แหม... ทำไมต้องออกปากขับไสไล่ส่งใหม่ล่ะคะ ขอเวลาใหม่สักพักเถอะค่ะ ใหม่ยังไม่ได้นอนที่บ้านของพี่ปริญสักคืนหนึ่งเลย” ว่าแล้วก็กระแทกช้อนกับส้อมลงไปในจาน
ในตอนนั้นเองมือถือของปริญก็มีข้อความเข้ามารัว ๆ เขาหยิบขึ้นมาดู ก็รู้ว่าเป็นเรื่องงานที่กำลังมีปัญหา ชายหนุ่มจึงตักข้าวกินอีกสองสามคำ
“ใหม่พี่จะขอตัวไปทำงานก่อนนะ งานด่วน”
“อ๊ะ พี่ปริญคะ” ภูริดาไม่ทันได้เอ่ยอะไร ปริญก็ลุกขึ้น ไปเสียแล้ว
“พี่ปริญนะพี่ปริญ เป็นอย่างนั้นไง ใหม่ถึงได้เบื่อ เชอะ พี่ปริญยังน่าเบื่อเหมือนเดิมนะคะ” มองตามเขายังไม่พอใจ
เช้าวันต่อมา
ทอดาวกำลังดูแลต้นไม้ที่เธอปลูกอยู่ ภูริดาเดินเข้ามาหา
“พี่ปริญไปไหนซะล่ะ” ทอดาวไม่ได้หันหน้ามาคุยด้วย ยังคงตัดแต่งกิ่งต้นไม้ของเธอต่อไป
“เขามีงานทำไหมคะ คุณตื่นสายก็คงไม่ได้เจอเขาหรอกค่ะ อยากคุยกับเขา คุณก็โทรไปสิคะ”
“โทรไปแล้ว แต่พี่ปริญไม่รับสาย”
“อ้อ สงสัยจะทำงานอยู่น่ะค่ะ คุณปริญคงไม่มีเวลามาป้อยอ หรือมัวมาคอยเอาใจคุณเหมือนเมื่อก่อน”
ภูริดาทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด
ทอดาวค่อย ๆ หันหน้ากลับมามอง
“แล้วเมื่อคืน คุณนอนสบายดีไหมคะ ผิดที่ผิดทาง แบบมานอนบ้านของคนอื่น”
“ก็ดีนี่ ไม่เห็นมีอะไร นอนสบายมาก ๆ แทบจะหลับเป็นตาย” คำตอบเหมือนไม่มีอะไร แต่ใบหน้านั้นดูเต็มไปด้วยสีหน้าที่น่ารังเกียจ
“เอ๊ะ! ทำไมวันนี้เธอดูหน้าซีดจัง ไม่สบายหรือจ๊ะ” และทำมองทอดาวแบบหัวจรดปลายเท้า
ทอดาวคิดถึงตอนเช้าตรู่ ที่เธอตื่นขึ้นมาแล้วอ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุงอาจจะเป็นเพราะแพ้ท้อง
“ฉันว่าเธอควรจะหัดแต่งหน้าแต่งตาให้ดูสวยงามเสียบ้างนะ เวลาที่สามีมองดูจะได้เจริญหูเจริญตา”
ทอดาวหันมามองภูริดาอย่างเต็มตา ชุดสีแดงเพลิงกับปากสีเดียวกัน นั่นสวยตรงไหน ดูจัดจ้านยิ่งกว่าอะไร ใครเตรียมชุดแบบนี้ให้ ทอดาวคงจะปฏิเสธ
“คุณใหม่คะ ฉันขอถามคุณนิดนึงเถอะค่ะ รสนิยมการแต่งตัวแบบนี้ คุณใหม่แต่งแบบนี้มานานแล้วหรือคะ”
“ทำไม”
“ถ้าเป็นมานานแล้ว ฉันก็คิดว่ารสนิยมของคุณปริญแย่มาก ๆ ค่ะ” ทอดาวยิ้มยั่ว
ภูริดาถึงกับร้อนวูบวาบ ใบหน้าของเธอแดงอย่างโกรธ
“เธอนี่มันร้ายไม่เบานะ แล้วยังปากดีอีก ฉันไม่ได้ขอความคิดเห็นอะไรจากหล่อน”
“ค่ะ” ยิ้มอ่อน แล้วรีบหมุนตัวหันไปสนใจงานของตัวเอง
ปริ้น ปริ้น...
เสียงแตรดังที่หน้าบ้าน ทำให้ทั้งสองคนหันไปดู ภูริดารีบก้าวขาไปทางประตูรั้ว
“คุณจะไปไหนหรือคะ” ทอดาวเอ่ยถาม
“ยุ่งอะไร ฉันกำลังจะออกไปข้างนอกย่ะ”
‘ไปไหน’ ทอดาวอยากรู้ แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป เพียงแต่เดินตาม และชะโงกหน้ามองตามหลังภูริดาไป ภูริดาเปิดประตูเล็กออก แล้วไปขึ้นรถ รถคันนั้นก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ทอดาวจึงเดินตามออกไปเพื่อไปดูป้ายทะเบียนรถ และเพ่งสายตามองตาม จึงได้เห็นว่าคนขับเป็นผู้ชาย
‘ไหนบอกว่าไม่มีใครที่นี่ แต่ทำไมถึงมีผู้ชายมารับถึงที่บ้าน’ ทอดาวฉงน แสดงว่ามีบางอย่างที่ภูริดาไม่ได้พูดความจริงออกมา คนอย่างปริญจะมาเสียรู้ภูริดาอย่างนั้นหรือ
‘คุณใหม่ต้องการอะไรกันแน่ หรือต้องการที่จะมาทวงคืนคุณปริญไปจากฉัน’
‘แต่ไม่มีวันเสียหรอก เพราะฉันกำลังจะมีลูกกับเขา’
‘ลูกจ๋า แม่จะไม่มีวันยอม’
บนรถของธีรวัฒน์
“ผมคิดถึงพี่จังครับ” ธีรวัฒน์ไม่พูดอย่างเดียว เขายังวางมือไปที่หน้าขาของภูริดาและเริ่มลูบคลำ
สีหน้าของภูริดาไม่ยิ้ม และทำไม่พอใจ
“พี่ก็บอกเธอแล้วไงว่าให้รถคันอื่นมารับพี่ หรือว่ารถรับจ้าง เดี๋ยวปริญก็จับได้”
“แหม... จะจ้างคนอื่นให้เปลืองเงินทำไมครับ พี่ก็รู้อยู่ว่าผมไม่มีเงินเยอะ” แปรเปลี่ยนจากเล้าโลมลูบคลำ แบมือไปตรงหน้าของภูริดา
เพียะ... ภูริดาตีเพียะไปที่ฝ่ามือของธีรวัฒน์
“พูดเรื่องเงินอีกนะ รออีกสักหน่อยเถอะ เธอกับพี่ก็จะสบาย แต่ขอร้องอย่างเดียว อยู่ลับ ๆ เงียบ ๆ ไม่เผยตัว เข้าใจ”
ภูริดาชี้หน้าของเขา