“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อภูริดา หรือเรียกว่าใหม่ก็ได้ค่ะ” คนที่เอ่ยแนะนำตัวไม่มีอาการเคอะเขินกระดากทั้งสิ้น ยังคงจ้องมองหน้าทอดาวอย่างท้าทาย
ทอดาวยิ่งกว่าหัวใจสลาย เธออยากจะกลายเป็นอากาศธาตุและละลายหายไปเสียจากตรงนี้ หรือถ้าเธอดำดินได้ เธอก็คงจะดำดินหนีไปให้ห่างไกลทั้งสองคน ทอดาวปากคอสั่นที่คนเป็นเจ้าของพยายามบังคับให้มันสงบ
“ทอดาวมาขัดจังหวะความสุขของคุณสองคนหรือเปล่าคะ” แม้จะพยายามเพียงใด เสียงของทอดาวก็ยังสั่นอยู่ดี ทอดาวพยายามทำใจดีสู้เสือ
แม้ว่าภายในใจตอนนี้ ทอดาวอยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอผู้หญิงใจร้าย ที่บังอาจเข้ามาแย่งผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอถึงในบ้าน
‘อี๋อ๋อ ออเซาะ แล้วคนของเธออีก เขาไม่ปฏิเสธ เขาบ้าไปแล้วหรืออย่างไร คุณปริญควรจะให้เกียรติฉันบ้าง’
แต่ทั้งหมดทั้งมวล สรุปได้ง่าย ๆ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก
ทอดาวจ้องสบตากับปริญ เขายังใช้ความเงียบนิ่งเฉยสยบทุกอย่าง ทอดาวเสียอีกที่ทั้งโกรธและเกลียดปริญมาก ๆ ที่เขาไม่ให้เกียรติเธอ ความรู้สึกเสียใจและน้อยใจแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาของทอดาว
ทอดาวแสดงความโกรธเคืองและความน้อยใจออกมาทางสายตาส่งไปหาปริญ จะไม่ให้โกรธหรือ เป็นไปไม่ได้ ภาพมันตำตาตำใจขนาดนี้ เท่ากับทั้งสองคนร่วมมือกันทำร้ายเธอ
คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีและกำลังเป็นพ่อของลูกในท้องเธออีกด้วย เขากล้าทำร้ายหัวใจและย่ำยีในวันที่ได้รับข่าวดีที่สุดในชีวิต ‘ลูก’
การกระทำของทั้งสองทำให้ทอดาวคิด นี่คงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ปริญนอกกายนอกใจเธอ ปริญจับมือของผู้หญิงคนนั้นออก เขาเดินไปปิดเพลง จากนั้นปริญก็เดินมาหาทอดาว เขาจะก้มลงไปเก็บทุกอย่างที่กองอยู่กับพื้น
ทอดาวเห็นดังนั้น เธอจึงรีบก้มลงไป แล้วแย่งทุกอย่างออกมาจากมือของปริญ
“คุณทำแบบนี้ได้อย่างไรคะ” ถามเสียงเบาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมกับอากัปกิริยาแสดงให้ปริญรู้ว่าทอดาวไม่พอใจ
ทว่า...
“พี่ปริญคะ ทำไมไม่บอกภรรยาของพี่ไปล่ะคะว่าใหม่จะมาอยู่ที่บ้านนี้สักระยะหนึ่ง ไม่รู้ว่าพี่ปริญจะต้องขออนุญาตเธอหรือเปล่าคะ”
ทั้งใบหน้าและสายตาเต็มไปด้วยความถากถาง เหมือนกับหล่อนคนนั้นกำลังถือถ้วยชัยชนะเอาไว้ในมือ
‘นางผู้หญิงหน้าด้านทำไมผู้หญิงสมัยนี้หน้าด้านจัง’
แต่นั่นก็คือสิ่งที่ทอดาวพูดอยู่ในใจ เธอไม่ได้พูดออกมาสักคำ และตั้งใจมองหน้าของปริญเพื่อรอคำอธิบาย
“ว่ายังไงล่ะคะพี่ปริญ”
เธอคนนั้นไม่พูดเปล่า กลับเดินเข้ามาหาทั้งสองคน แล้วหล่อนก็สอดแขนคล้องแขนของปริญเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองแบบหาเรื่อง ไม่มีแววญาติดีอยู่ในสายตาของหล่อนเลยสักนิด หล่อนยังใช้มือขึ้นมาจับปลายคางของเขาให้หันมามองหน้าหล่อนอีกด้วย
ทอดาวกำหมัดแน่น เกิดมาไม่เคยรู้สึกเหมือนมีคนมาเหยียบหัวใจเธอถึงเพียงนี้
ทอดาวในตอนนี้มีแต่ความไม่เข้าใจ เกิดคำถามขึ้นมาในหัวมากมายร้อยแปดพันเก้า แต่เธอกลับคิดประโยคที่จะพูดต่อจากนี้ไม่ออก ทอดาวคิดแค่ว่า เธอไม่อยากจะคิดเลยว่า นี่คือเรื่องจริง ทอดาวอยากจะตบหน้าตัวเองดัง ๆ แล้วตื่นขึ้นมา บอกกับตัวเองว่ามันเป็นแค่ฝันไป
แต่... ไม่มีทางจะเป็นไปได้ ด้านนอกท้องฟ้ายังแสงสว่าง พระอาทิตย์ทอแสงและกำลังจะลับขอบฟ้า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง ทอดาวกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“บอกเธอไปสิคะพี่ปริญ บอกภรรยาของพี่ว่าใหม่จะมาอยู่ที่นี่สักระยะ” ปริญพ่นลมหายใจแรง ๆ กำลังจะอ้าปาก
ทอดาวพูดแทรกขึ้นอย่างกัดฟัน “ฉันได้ยินเต็มรูหูแล้วค่ะ คุณไม่ต้องบอกย้ำก็ได้ แล้วเอ่อคุณปริญจะให้คุณใหม่เธอนอนห้องไหนคะ”
นี่สินะ ที่เรียกว่าทำใจดีสู้เสือ แม้อยากจะอันตรธานหายไปจากตรงนี้เสีย
ภูริดาถึงกับยิ้มเยาะออกมา
“ฉันอยากนอนห้องที่ใหญ่ที่สุด” ทั้งคำพูดคำจาและกิริยาไม่เกรงใจภรรยาของเจ้าของบ้าน
“ถ้าเป็นห้องนั้น คงไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นห้องนอนของเราสองคน เอาเป็นว่า... เดี๋ยวฉันจะจัดห้องให้คุณใหม่ก็แล้วกัน จะให้สมน้ำสมเนื้อ แขกคนสำคัญของคุณปริญค่ะ” ทอดาวพูดประชดเขา พูดจบทอดาวก็พาทุกอย่างเข้าไปในห้องครัว
เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ไม่รอไม่ฟังอะไรจากปากของปริญทั้งนั้น แม้หญิงสาวจะสิ้นเรี่ยวแรง แต่เธอก็ต้องจำทนเดินไป
‘ทำไมฉันต้องมาเจออะไรที่แบบนี้ด้วย ไม่เข้าใจจริง ๆ แล้วฉันจะเอายังไงต่อไปกับชีวิต’
พอพ้นสายตาของทั้งสองคน ทอดาวก็เข่าทรุดนั่งลงไปที่พื้น เสียงฉอเลาะของคนที่ชื่อภูริดายังไหลเข้ามาในหู ทอดาวได้ยินคำพูดของเธอคนนั้นทั้งหมด แต่ไม่ได้ยินเสียงของปริญเลย เขาทำตัวเป็นคนบ้าคนใบ้
‘ปฏิเสธฉันก็ได้ ช่วยพูดอะไรสักคำ’
สิ่งที่ทอดาวคาดหวัง ทอดาวเอาแต่ส่ายหน้า
‘สิ่งที่ฉันเห็นเมื่อกี้ มันเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือความบังเอิญอะไรก็ได้ คุณไม่ได้จูบโชว์ และไม่ได้จูบกับเธอ’ ทอดาวปิดปากร้องไห้ ไม่ให้เสียงร้องไห้ของตัวเองเล็ดลอดออกมา
ทอดาวเกาะขอบโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ พยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เธอจะอ่อนแอไม่ได้ ทอดาวยังก้มลงไปหอบหิ้วของทุกอย่างขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ
ทว่าน้ำตาของเธอก็ยังคงไหลลงมาอาบสองแก้ม
ทอดาวยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องของตัวเองที่ตอนนี้มีลูกน้อยอยู่ในนั้น
‘แม่จะบอกกับลูกยังไงว่า ทำไมพ่อของลูกทำแบบนี้กับแม่ แล้วลูกรักของแม่ แม่จะทำอย่างไรดี แม่จะไม่ไหวแล้วนะ’
ปริญไม่รักเธอ ทอดาวทนได้ แต่เขามีคนอื่นในบ้านที่มีเธออยู่ร่วมชายคาด้วย ทอดาวทนไม่ได้ ปริญพาผู้หญิงคนนั้นมาบ้าน และจูบกอด ใจร้ายทั้งคู่
กริ๊ง... มือถือของเธอดังขึ้น
ทอดาวสะดุ้ง เธอรีบใช้มือควานหามือถือในกระเป๋า พอเห็นเป็นเบอร์ของปกป้อง ก็รีบกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
(“ถึงบ้านหรือยังครับคุณพี่สะใภ้”) เสียงปลายสายตอบมาอย่างกระดี๊กระด๊า
“ถึงแล้วค่ะ” ทอดาวพยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น แต่ปกป้องก็จับได้
(“คุณพี่สะใภ้เป็นอะไรไปครับ ไม่สบายหรือเปล่า”)
“ไม่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่ปอกหอมแล้วมันเข้าตาน่ะค่ะ”
(“อ้อ ต้องทำอะไรระวังนะครับ แล้ว... พี่ปริญกลับมาถึงบ้านหรือยังครับ พี่สะใภ้อย่าลืมบอกพี่ปริญด้วยนะว่าคุณแม่คิดถึง”)
“ค่ะ” แล้วเธอก็รีบกดวางสาย เพราะตอนนี้ทอดาวคอนโทรลเสียงสะอื้นในอกไม่ได้อีกแล้ว น้ำตาเธอไหลลงมาพรากๆ
---------------
ฝากกดใจ เขียนคอมเมนต์ด้วยนะคะ love